สตีฟ จ็อบส์ ตายแล้วไปไหน ตอนจบ

คำถามข้อที่ 4. นวัตกรรมต่างๆ ที่คุณสตีฟ จ็อบส์ ได้คิดค้นขึ้นให้คนนำมาใช้เป็นจำนวนมากนั้น ถือว่าเป็นความดีตามหลักความเชื่อในพระพุทธศาสนาหรือไม่ และคุณสตีฟ จ็อบส์ ได้รับผลจากสิ่งเหล่านี้ในชีวิตหลังความตายหรือไม่อย่างไรนั้น

* ชี้แจงเรื่อง การนำเสนอเนื้อหา สตีฟ จ็อบส์ ตายแล้วไปไหน ของเว็บไซต์ต่างๆ

     เนื่องจากทางสถานีโทรทัศน์ DMC ได้มีการนำเสนอเนื้อหาเรื่อง Where is Steve Jobs? และได้มีเว็บไซต์ต่างๆ สรุปเนื้อหา Where is Steve Jobs? ไปไว้ในเว็บไซต์ของตน ซึ่งการสรุปเนื้อหาดังกล่าวนั้น เป็นการสรุปโดยความเห็นส่วนตัว

     ทั้งนี้ทางผู้จัดทำเนื้อหาไม่ได้มีวัตถุประสงค์หรือเจตนาที่จะ ดูหมิ่น เหยียดหยาม หรือทำให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งเสียชื่อเสียง แต่เป็นไปเพื่อศึกษาเรื่องกฎแห่งกรรมเท่านั้น  จึงขอให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณ    

     Where is Steve Jobs? เป็นความรู้เรื่องกฎแห่งกรรม, การเวียนว่ายตายเกิดของสรรพสัตว์ทั้งหลาย ซึ่งได้นำมาถ่ายทอดให้เข้าใจได้ง่าย  เพื่อให้เข้าใจถึงเรื่องราวความจริงของชีวิตว่า เกิดมาทำไม ตายแล้วไปไหน อะไรเป็นเป้าหมายของชีวิต นำไปสู่ผลการปฏิบัติของผู้ฟัง ทำให้ผู้ฟังเกิดความเกรงกลัวต่อบาป รักในการทำบุญกุศล รักการปฏิบัติธรรมสืบไป

      เรื่องราว ปรโลกนิวส์ ตอน สตีฟ จอบส์ ตายแล้วไปไหน นี้เป็นเพียงทรรศนะหนึ่งเท่านั้น ผู้ฟังมีสิทธิ์ที่จะเชื่อหรือไม่ก็ได้

ทีมงาน www.dmc.tv 

ปรโลกนิวส์ สตีฟ จ๊อบส์ ตอนจบ

  เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา 

ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที
แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรา

สตีฟ จ็อบส์ ตายแล้วไปไหน ตอนจบ 

คำถามข้อที่ 4. นวัตกรรมต่างๆ ที่คุณสตีฟ จ็อบส์ ได้คิดค้นขึ้นให้คนนำมาใช้เป็นจำนวนมากนั้น ถือว่าเป็นความดีตามหลักความเชื่อในพระพุทธศาสนาหรือไม่ และคุณสตีฟ จ็อบส์ ได้รับผลจากสิ่งเหล่านี้ในชีวิตหลังความตายหรือไม่อย่างไรนั้น 

       สำหรับอาชีพที่คุณสตีฟ จ็อบส์ได้ทำในสมัยที่ตัวเขายังมีชีวิตอยู่ คือการเป็นประธานกรรมการบริหารและประธานบริษัทแอปเปิลนั้น ก็ถือว่าเป็นการประกอบอาชีพที่เป็นสัมมาอาชีวะ หรือการเลี้ยงชีพที่ไม่ผิดต่อหลักของกฎแห่งกรรม ซึ่งตรงกันข้ามกับมิจฉาอาชีวะ หรือการเลี้ยงชีพที่ผิดต่อหลักของกฎแห่งกรรม มิจฉาอาชีวะ ที่มีอย่างน้อยก็  5 ประการใหญ่ๆ ได้แก่ 1. การค้าอาวุธ 2. การค้ามนุษย์ 3. การค้าสัตว์ที่มีชีวิตเพื่อนำไปฆ่า 4. การค้ายาเสพติดและสิ่งมึนเมาต่างๆ เช่น เหล้า,  เบียร์,  บุหรี่  เป็นต้น  5. การค้ายาพิษ  เป็นต้น เพราะฉะนั้น อาชีพที่คุณสตีฟ จ็อบส์ได้ทำในสมัยที่ตัวเขายังมีชีวิตอยู่นั้น จึงถือว่าเป็นความดีขั้นพื้นฐานตามความเข้าใจของชาวโลก คือไม่ได้ไปคดโกงใคร หรือไม่ได้ทำผิดกฎหมาย แต่ใช้ความรู้ความสามารถของตนเองในการเลี้ยงชีพโดยชอบธรรม

 

       สำหรับในส่วนของนวัตกรรมต่างๆ ที่คุณสตีฟ จ็อบส์  ได้คิดค้นขึ้นมาด้วยสติปัญญานั้น ก็ถือว่าเป็นผลพวงที่เกิดจากการประกอบสัมมาชีวะหรือการเลี้ยงชีพที่ไม่ผิดต่อหลักของกฎแห่งกรรมซึ่งนวัตกรรมต่างๆ ของคุณสตีฟ จ็อบส์ก็เป็นนวัตกรรมที่ไม่ขัดต่อหลักธรรมคำสั่งสอนในพระพุทธศาสนาและหลักของกฎแห่งกรรม   

 

       นอกจากคุณสตีฟ จ็อบส์ จะประกอบสัมมาอาชีวะและผลิตนวัตกรรมต่างๆ ออกมาโดยไม่ขัดต่อหลักของกฎแห่งกรรมแล้ว   ตัวเขายังมีเจตนารมณ์ หรือมีความตั้งใจ ที่ดีในการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ขึ้นมา เพื่อสร้างความสะดวกสบายและสนองความต้องการให้เกิดขึ้นกับมวลมนุษยชาติในยุคนี้ในด้านต่างๆ อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีทางด้านการติดต่อสื่อสาร, เทคโนโลยีที่ส่งเสริมการศึกษาและการเรียนรู้ หรือเทคโนโลยีที่ส่งเสริมการทำงานที่มีประสิทธิภาพ, ฉับไวและแม่นยำ เป็นต้น และด้วยความตั้งใจที่ดีงามของคุณสตีฟ จ็อบส์นี้เอง   จึงทำให้ตัวเขามีความมุ่งมั่นและขวนขวายที่จะสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ดีที่สุดออกมาเพื่อมวลมนุษยชาติ ซึ่งการขวนขวายในกิจที่ชอบและมุ่งประโยชน์สุขให้เกิดขึ้นกับผู้อื่นนี้ ก็ถือว่าเป็นความดีสากลอย่างหนึ่ง

   

 

       ส่วนหลังจากที่คุณสตีฟ จ็อบส์ได้ผลิตนวัตกรรมดังกล่าวออกมาแล้ว ตัวเขาจะได้รับผลจากสิ่งที่ตัวเขาผลิตออกมาหรือไม่นั้น ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าตัวเขารู้หรือไม่ว่า “ ผลิตภัณฑ์ของเขาถูกนำไปใช้ในทางใด ”   และเมื่อตัวเขารู้แล้วตัวเขาเกิดความรู้สึกเช่นไร เช่น ปลื้มหรือไม่ปลื้ม, ชอบหรือไม่ชอบ, ยินดีหรือไม่ยินดี   เป็นต้น

 

ซึ่งเราก็อาจจะแบ่งเป็นกรณีใหญ่ๆ ได้ 3 กรณี ดังต่อไปนี้คือ

        กรณีที่ 1. หากว่าคุณสตีฟ จ็อบส์รู้ว่ามีคนนำผลิตภัณฑ์ของเขาไปใช้ในทางที่ดีหรือไม่ดีแล้ว ตัวเขามีความรู้สึกยินดี หรือรู้สึกมีส่วนร่วม กับบุคคลเหล่านั้นด้วย หรือที่นักเรียนอนุบาลฯ มักจะคุ้นหูกันอยู่บ่อยๆ ว่า การอนุโมทนาบุญ  หรือการอนุโมทนาบาปนั่นเอง สำหรับในกรณีนี้ตัวเขาก็จะมีส่วนในบุญและบาปกับบุคคลเหล่านั้น
   

      ยกตัวอย่างเช่น เมื่อตัวเขารู้ว่ามีคนเอาผลิตภัณฑ์ของเขาไปใช้เป็นอุปกรณ์ส่งเสริมการเรียนรู้ เช่น อ่านหนังสือเรียนหรือหนังสือที่มีประโยชน์ผ่านไอแพด หรือนำแม็คบุ๊คไปเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการนำเสนอและถ่ายทอดความรู้เรื่องศีลธรรมและเรื่องราวของกฎแห่งกรรม หรือธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้แก่นิสิตนักศึกษา หรือใช้ไอพ็อดฟังธรรมะหรือเรื่องราวที่ดีมีประโยชน์ เป็นต้น  

         เมื่อตัวเขาได้รู้เช่นนั้นแล้ว ตัวเขาเกิดความรู้สึกยินดีหรือปลื้มใจกับสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้น ผลแห่งบุญจากการยินดีกับคนทำความดีนี้ก็จะเกิดขึ้นกับตัวเขาด้วย หรือพูดง่ายๆ ตามหลักของกฎแห่งกรรมว่าตัวเขาจะมีส่วนร่วมในบุญกับคนเหล่านั้นไปด้วย เป็นต้น 

 

       ในทางตรงกันข้ามถ้าหากคุณสตีฟ จ็อบส์รู้ว่ามีคนเอาผลิตภัณฑ์ของเขาไปใช้ในทางที่ไม่ดี เช่น ใช้ไปเป็นอุปกรณ์ในการจุดระเบิดฆ่าคนตาย เมื่อตัวเขาได้รู้เช่นนั้น แล้วตัวเขาเกิดความรู้สึกยินดีหรือสะใจกับการกระทำของคนเหล่านั้น ผลแห่งบาปจากการยินดีกับคนทำบาปนี้ก็จะเกิดขึ้นกับตัวเขา หรือพูดง่ายๆ ตามหลักของกฎแห่งกรรมว่าตัวเขาจะมีส่วนร่วมในบาปกับคนเหล่านั้นไปด้วยนั่นเอง 

 

        กรณีที่ 2.  หากว่าคุณสตีฟ จ็อบส์รู้ว่ามีคนนำผลิตภัณฑ์ของเขาไปใช้ในทางที่ดีหรือไม่ดีแล้ว ตัวเขาก็ไม่ได้มีความรู้สึกยินดี หรือไม่ได้รู้สึกมีส่วนร่วม กับบุคคลเหล่านั้นเลย หรือพูดง่ายๆ ว่าซื้อไปแล้ว จะเอาไปใช้ทำอะไรก็แล้วแต่คุณจะเอาไปทำอะไรนั่นเอง สำหรับในกรณีนี้ตัวเขาก็จะไม่มีส่วนในบุญและบาปกับบุคคลเหล่านั้นเลยตามหลักของกฎแห่งกรรม 

        กรณีที่ 3. หากว่าคุณสตีฟ  จ็อบส์ไม่รู้เลยว่าผลิตภัณฑ์ของเขาถูกนำไปใช้ในทางใดบ้าง ตัวเขาก็จะไม่มีส่วนในบุญและบาปกับคนที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของเขาเลยตามหลักของกฎแห่งกรรม อุปมาก็เหมือนกับเชือกปอที่ผู้ผลิตเขาตั้งใจทำออกมาเพื่อมัดของ แต่ถ้าหากมีใครเอามาใช้ผิดวัตถุประสงค์ คือเอาไปมัดคอ ผู้ผลิตนั้นก็จะไม่มีส่วนในบาปของคนๆ นั้นเลยนั่นเอง   

         ดังนั้น เมื่อเราได้ทราบแล้วว่า “ นวัตกรรมต่างๆ ที่ตัวคุณสตีฟ จ็อบส์คิดขึ้นมานั้น มีผลต่อตัวเขาหรือไม่อย่างไร”  ลูกๆ ก็คงอยากจะรู้ว่า “แล้วผลจากนวัตกรรมต่างๆ นั้นจะมีผลต่อชีวิตหลังความตายของเขาอย่างไร ” 

      สำหรับผลจากนวัตกรรมต่างๆ ที่ตัวเขาคิดขึ้นมานั้น สิ่งเหล่านี้ก็ยังไม่ได้มีผลต่อชีวิตหลังความตายของเขาเลย ที่เป็นเช่นนี้ก็เป็นเพราะเหตุ 2 ประการใหญ่ๆ ดังต่อไปนี้คือ

      ประการที่ 1. แม้ว่าตัวเขาจะตั้งใจคิดค้นนวัตกรรมต่างๆ เพื่อสร้างความสะดวกสบายและตอบสนองความต้องการให้เกิดขึ้นกับมวลมนุษยชาติในยุคนี้ก็ตาม แต่การกระทำดังกล่าวก็ยังไม่ถึงกับว่าจัดเป็นบุญกุศลตามหลักของกฎแห่งกรรม ที่เป็นเช่นนี้ก็เป็นเพราะการคิดค้นนวัตกรรมต่างๆ เพื่อสร้างความสะดวกสบายให้เกิดขึ้นกับมวลมนุษยชาติ ยังเป็นเพียงความดีขั้นพื้นฐานที่มุ่งประโยชน์ เพื่อการเลี้ยงชีพของตัวเขาเอง อีกทั้ง ยังเป็นไปเพื่อการตอบสนองความต้องการของตัวของเขาเอง คืออยากทำสิ่งที่ตัวเองคิดออกมาให้ดีที่สุด และยังเป็นไปเพื่อการแข่งขันทางธุรกิจเป็นหลัก ตามความรู้ความเข้าใจพื้นฐานแบบชาวโลกทั่วๆ ไป

  

 

      ประการที่ 2. ณ ช่วงเวลานี้คุณสตีฟ จ็อบส์ ได้มีชีวิตใหม่หลังจากเสียชีวิตไปแล้ว โดยไปเป็นเทพบุตรภุมมะเทวาระดับกลางสายวิทยาธรกึ่งยักษ์ ซึ่งตัวเขาก็กำลังเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ในสังคมใหม่ๆ ที่แตกต่างจากสังคมเดิมที่ตัวเขาเคยมีชีวิตอยู่

     ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้คุณสตีฟ จ็อบส์ ยังไม่มีเวลาและอารมณ์ที่จะติดตามดูเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ ในโลกมนุษย์ ซึ่งก็เป็นผลทำให้ตัวเขายังไม่รู้ว่า “ ผลิตภัณฑ์ของเขาถูกนำไปใช้ในทางใดบ้าง ”  ดังนั้น คุณสตีฟ จ็อบส์ จึงยังไม่ได้ยินดีหรือมีส่วนร่วมในบุญและบาปของผู้ที่นำผลิตภัณฑ์ของเขาไปใช้เลย

   

     ด้วยเหตุทั้ง 2 ประการดังกล่าวนี้เอง จึงทำให้ผลจากนวัตกรรมต่างๆ ที่ตัวเขาคิดขึ้นมานั้น ยังไม่ได้มีผลต่อชีวิตหลังความตายของเขาเลยนั่นเอง

     คำถามข้อที่  5.  ทำไมคุณสตีฟ จ็อบส์จึงเลือกที่จะนับถือพระพุทธศาสนา ทั้งๆ ที่ตัวเขาก็เกิดอยู่ในสังคมและครอบครัวที่มีความแตกต่างทางความเชื่อ 

      คำตอบ.......สำหรับสาเหตุที่ทำให้คุณสตีฟ จ็อบส์เลือกที่จะนับถือพระพุทธศาสนานั้น ทั้งนี้ก็เป็นเพราะตัวเขาเป็นคนมีดวงปัญญามาข้ามชาติ ด้วยผลแห่งบุญที่ตัวเขาได้เคยศึกษาความรู้ในทางพระพุทธศาสนาและสั่งสมความรู้ในทางพระพุทธศาสนามาหลายภพหลายชาติ จึงทำให้ตัวเขารู้ว่า “ คำสอนนี้จะดับทุกข์และตอบคำถามที่ค้างคาใจตัวเขาได้ด้วยเหตุและผล ” เป็นต้น และบุญนี้ก็ได้ช่องตามมาส่งผล
   

       ด้วยเหตุประการทั้งปวงดังกล่าวนี้เอง จึงเป็นผังติดตัวและเป็นผลทำให้ตัวเขา (ในภพชาติปัจจุบันนี้) ได้มีโอกาสมาพบและฟังธรรมะจากพระภิกษุสงฆ์หรือผู้ที่มีความรู้ทางพระพุทธศาสนา (ด้วยบุญเก่าบันดาลนี้เอง)
   

 

         และเมื่อคุณสตีฟ จ็อบส์ได้ฟังธรรมแล้ว ตัวเขาก็เกิดความรู้สึกชอบใจ ถูกใจ โดนใจ เพราะว่าธรรมะที่ตัวเขาได้ฟังนั้น เป็นสิ่งที่มีเหตุมีผลและสามารถตรองตามได้ อีกทั้งตัวเขายังรู้สึกคุ้นเคยกับธรรมะหรือคำสอน ในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก เมื่อเป็นเช่นนี้จึงทำให้ตัวเขาเกิดความเลื่อมใสศรัทธา   แล้วก็ขอเลือกเพียงอย่างเดียวที่จะนับถือพุทธศาสนาเหมือนอย่างที่เป็นอยู่นี้นั่นเอง   

      จากเรื่องราว Case Study  ของคุณสตีฟ  จ็อบส์  ที่เราได้ศึกษาเรียนรู้กันมานี้ก็สอนให้เราได้รู้ว่า “ ทุกๆ ชีวิตล้วนตกอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรม   และทุกๆ การกระทำของเรา ไม่ว่าจะเป็นการกระทำทางกาย ทางวาจา หรือทางใจจะดีหรือชั่วมากน้อยเพียงใดก็ตาม ล้วนมีผลของการกระทำมารองรับทั้งสิ้น ซึ่งผลของการกระทำบางอย่างก็ปรากฏอย่างชัดเจนในปัจจุบันทันตาเห็นบ้าง แต่ผลของการกระทำบางอย่างเราก็อาจจะยังไม่ทันได้เห็นเพราะตัวเราดันตายไปเสียก่อน แต่อย่างไรก็ตามผลของการกระทำเหล่านั้นก็ไม่ได้สูญสลายหายไปไหน   เพราะมันจะติดตามตัวเราไปเหมือนเงาตามตัวและพร้อมที่จะส่งผลต่อไปอีกหลายภพหลายชาติ เมื่อได้ช่องส่งผล   

 

          ดังนั้น เราทุกคนในโลกจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษาเรียนรู้เรื่องกฎแห่งกรรม ซึ่งเป็นหลักสากลที่มีสอนอยู่ในพระพุทธศาสนาเท่านั้น เพื่อที่เราจะได้ดำเนินชีวิตได้อย่างถูกต้องและดีงามด้วยความไม่ประมาท อีกทั้งตัวเราจะได้ตั้งใจสั่งสมบุญสร้างบารมี และประพฤติดีปฏิบัติชอบตามหลักธรรมคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เช่น ทำทาน รักษาศีล และเจริญสมาธิ(Meditation)ภาวนา เป็นต้น ซึ่งถ้าหากเราทำได้เช่นนี้ ชีวิตการสร้างบารมีของเราก็จะได้อยู่รอดปลอดภัยและมีชัยชนะในเส้นทางการสร้างบารมีไปตราบกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรม ” 

        สำหรับเรื่องราว Case Study  ของคุณสตีฟ จ็อบส์ เราจำเป็นจะต้องจบลงพอสังเขปเพียงเท่านี้  

เพราะเขาถามมาเพียงแค่นี้  เอวํ ก็มีด้วยประการละฉะนี้  

บทความที่เกี่ยวข้อง

สตีฟ จ็อบส์ ตายแล้วไปไหน? Where is Steve Jobs?

ปรโลกนิวส์ ตอน สตีฟ จ็อบส์ ( Steve Jobs ) ตายแล้วไปไหน ตอนที่ 1

ปรโลกนิวส์ สตีฟ จ๊อบส์ ( Steve Jobs ) ตอนที่ 2 ทำไมสตีฟ จ็อบส์ ( Steve Jobs ) จึงเป็นคนฉลาด

ปรโลกนิวส์ สตีฟ จ๊อบส์ ( Steve Jobs ) ตอนที่ 3 ทำไมสตีฟ จ็อบส์ ( Steve Jobs ) จึงเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ

สตีฟ จ๊อบส์ ( Steve Jobs ) ตอนที่ 4 : บุพกรรมใดทำให้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตับอ่อน ตอนที่ 1

สตีฟ จ๊อบส์ ( Steve Jobs ) ตอนที่ 5 : บุพกรรมใดทำให้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตับอ่อน ตอนที่ 2

สตีฟ จ็อบส์ ( Steve Jobs ) ตายแล้วไปไหน ตอนจบ

กรณีศึกษา สตีฟ จ็อบส์ ( Steve Jobs ) ถูกต้องตามหลักสัมมาทิฏฐิและกฏแห่งกรรม

ศิษย์เก่าศิษย์ใหม่ยืนยัน เผย "สตีฟ จ็อบส์ ( Steve Jobs ) ตายแล้วไปไหน" ได้ประโยชน์ในการดำเนินชีวิต

ประวัติสตีฟ จอบส์ Steve Jobs ผู้ให้กำเนิด Apple

Steve jobs คําคม ข้อคิดในการดำเนินชีวิตให้ประสบความสำเร็จ

สตีฟ จ๊อบส์ ( Steve Jobs ) ผู้ก่อตั้งบริษัทแอปเปิล เสียชีวิตแล้วจากโรคมะเร็งตับอ่อน