สตีฟ จ๊อบส์ ตอนที่ 4 : บุพกรรมใดทำให้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตับอ่อน ตอนที่ 1

คำถามข้อที่ 3. บุพกรรมใดที่ทำให้คุณสตีฟ จ็อบส์ ต้องมาป่วยและเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตับอ่อนด้วยวัยเพียง 56 ปี

ชี้แจงเรื่อง การนำเสนอเนื้อหา สตีฟ จ็อบส์ ตายแล้วไปไหน ของเว็บไซต์ต่างๆ

     เนื่องจากทางสถานีโทรทัศน์ DMC ได้มีการนำเสนอเนื้อหาเรื่อง Where is Steve Jobs? และได้มีเว็บไซต์ต่างๆ สรุปเนื้อหา Where is Steve Jobs? ไปไว้ในเว็บไซต์ของตน ซึ่งการสรุปเนื้อหาดังกล่าวนั้น เป็นการสรุปโดยความเห็นส่วนตัว

     ทั้งนี้ทางผู้จัดทำเนื้อหาไม่ได้มีวัตถุประสงค์หรือเจตนาที่จะ ดูหมิ่น เหยียดหยาม หรือทำให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งเสียชื่อเสียง แต่เป็นไปเพื่อศึกษาเรื่องกฎแห่งกรรมเท่านั้น  จึงขอให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณ   

     Where is Steve Jobs? เป็นความรู้เรื่องกฎแห่งกรรม, การเวียนว่ายตายเกิดของสรรพสัตว์ทั้งหลาย ซึ่งได้นำมาถ่ายทอดให้เข้าใจได้ง่าย  เพื่อให้เข้าใจถึงเรื่องราวความจริงของชีวิตว่า เกิดมาทำไม ตายแล้วไปไหน อะไรเป็นเป้าหมายของชีวิต นำไปสู่ผลการปฏิบัติของผู้ฟัง ทำให้ผู้ฟังเกิดความเกรงกลัวต่อบาป รักในการทำบุญกุศล รักการปฏิบัติธรรมสืบไป

      เรื่องราว ปรโลกนิวส์ ตอน สตีฟ จ็อบส์ ตายแล้วไปไหน นี้เป็นเพียงทรรศนะหนึ่งเท่านั้น ผู้ฟังมีสิทธิ์ที่จะเชื่อหรือไม่ก็ได้

ทีมงาน www.dmc.tv  

ปรโลกนิวส์ สตีฟ จ๊อบส์ ตอนที่ 4

สตีฟ จ๊อบส์ ตอนที่ 4 บุพกรรมใดทำให้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตับอ่อน

  เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา 

ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที
แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรา  

คำถามข้อที่  3.  บุพกรรมใดที่ทำให้คุณสตีฟ  จ็อบส์ ต้องมาป่วยและเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตับอ่อนด้วยวัยเพียง 56 ปี

 

    คำตอบ......ก่อน ที่นักเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาทั่วโลก (โดยเฉพาะนักเรียนใหม่) จะได้ฟังคำตอบของคำถามข้อนี้เรามาศึกษาเรียนรู้และทำความเข้าใจกันก่อนสัก นิดนึงว่ามนุษย์ทุกๆ คนบนโลกไม่ว่าจะมีเชื้อชาติ, ศาสนาหรือเผ่าพันธุ์ใด แต่ละคนล้วนผ่านการเวียนว่ายตายเกิดมานับภพนับชาติไม่ถ้วนแล้ว และทุกๆ การกระทำของเราที่เราได้เคยกระทำเอาไว้ในอดีตชาติ ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี จะมีเจตนาหรือไม่มีเจตนาก็ตาม ล้วนมีผลต่อชีวิตของเราในภพชาติปัจจุบันนี้ทั้งสิ้น 

         เพราะฉะนั้น ทุกๆ อย่างที่เกิดขึ้นกับชีวิตของเรานั้น ไม่ว่าจะเป็นความสุข  ความทุกข์  ความยากดีมีจน  ความสมหวัง  หรือความผิดหวัง  เป็นต้น   สิ่งต่างๆ เหล่านี้ไม่มีคำว่าบังเอิญหรือเกิดขึ้นเอง   หรือมีใครมาดลบันดาลให้เกิดขึ้นเลย  

  

       แต่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้นล้วนเป็นผลที่เกิดมาจากกระทำของเราทั้งสิ้น   ซึ่งถ้าเราประกอบเหตุในอดีตชาติมาดี   ชีวิตในภพชาติปัจจุบันของเรานี้...ก็จะมีแต่ความสุข  ความสมหวัง  และความสำเร็จ แต่ถ้าหากเราประกอบเหตุในอดีตชาติเอาไว้ไม่ดี หรือเคยพลาดพลั้งทำผิดทำพลาดเอาไว้ในอดีตชาติ   ชีวิตในภพชาติปัจจุบันของเรานี้ก็อาจจะต้องประสบกับความทุกข์  ความผิดหวัง  หรือต้องประสบพบเจอกับสิ่งที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นในชีวิต  

 
 

  

         เหมือนอย่างคุณสตีฟ จ็อบส์ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตด้วยผลแห่งบุญและเหตุปัจจัยทั้ง 7 ประการ โดยสรุปที่เราได้รับฟังกันไปแล้ว ที่ตัวเขาได้เคยสั่งสมมาหลายภพหลายชาติ และในขณะที่ตัวเขากำลังประสบความสำเร็จนั้นจู่ๆ ตัวเขาก็ต้องมาป่วยและก็เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตับอ่อนด้วยวัยเพียง 56 ปี ซึ่งเป็นอายุที่น้อยกว่าอายุขัยเฉลี่ยของคนในยุคปัจจุบันนี้ที่มีอายุขัย เฉลี่ยอยู่ที่ 75 ปี ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่น่าศึกษาเรียนรู้มากๆ เลย ว่า “ทำไมถึงเป็นแบบนี้”   

 

       ส่วนว่าบุพกรรมใดที่ทำให้คุณสตีฟ จ็อบส์ต้องมาป่วยและเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตับอ่อนด้วยวัยเพียง 56 ปีนั้น  เราก็มาติดตามรับฟังกันตอนนี้เลย

 

     สำหรับบุพกรรมที่ทำให้คุณสตีฟ จ็อบส์ต้องมาป่วยและเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตับอ่อนด้วยวัยเพียง 56 ปีนั้น   ทั้งนี้ก็เป็นเพราะวิบากกรรมปาณาติบาตที่ตัวคุณสตีฟ จ็อบส์ได้เคยพลาดพลั้งทำผิดทำพลาดเอาไว้ในหลายๆ ภพหลายๆ ชาติก่อนๆ ได้ช่องตามมาส่งผล

     เรื่องก็มีอยู่ว่าในหลายๆ ภพหลายๆ ชาติก่อนๆ คุณสตีฟจ็อบส์ได้เกิดเป็น “กุลบุตรสุดหล่อ” อยู่ในครอบครัวที่มีฐานะปานกลาง และทำกิจการค้าขายสินค้าประเภทต่างๆ ทั้งที่เป็นสินค้ามือหนึ่ง  สินค้ามือสอง และสินค้าเกรดต่างๆ เป็นต้น

       ซึ่งในยุคสมัยนั้นจะเป็นยุคที่โลกมีความเจริญก้าวหน้าทางด้านวัตถุและเทคโนโลยีคล้ายๆ กับโลกในยุคปัจจุบันนี้  เช่น มีระบบสาธารณูปโภคที่ทันสมัย  เช่น มีรถยนต์,  มีรถไฟ,  มีเครื่องบิน,  มีเครื่องใช้ไฟฟ้า  และมีระบบการสื่อสารด้วยโทรศัพท์  เป็นต้น อีกทั้งโลกในยุคนั้นยังเป็นยุคที่มีคำสอนของพระพุทธศาสนาบังเกิดขึ้นอีกด้วย เพียงแต่พระพุทธศาสนาในยุคนั้น   จะอยู่ในช่วงปลายๆ ของพระพุทธศาสนา  หรือเป็นช่วงที่คำสอนดั้งเดิมของพระพุทธศาสนาเริ่มเลือนลางลงไปมากแล้ว   ซึ่งเป็นเหตุทำให้เกิดการแตกเป็นนิกายต่างๆ ที่หลากหลายมากมาย   ตามความคิดความเข้าใจและการตีความของตัวเอง  และที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือโลกในยุคนั้นยังเป็นช่วงที่อยู่ใกล้ๆ กับยุคที่เรียกว่า “ ยุคมิคสัญญี ”แต่ยังไม่ใช่ยุคมิคสัญญี

     ซึ่งยุคมิคสัญญีนี้จะเป็นยุคที่มนุษย์มีอายุขัยเฉลี่ยประมาณ 10 ปี และมนุษย์ในยุคนี้จะเสื่อมจากศีลธรรมอย่างสุดๆๆ คือมนุษย์จะเห็นผิดเป็นชอบ จะยกย่องคนพาลให้เป็นใหญ่ จะไม่เคารพบิดามารดาครูบาอาจารย์ จะมีแต่ความคิดอาฆาตพยาบาทและปองร้ายกันอยู่ตลอดเวลา เป็นต้น

  

        และเมื่อโลกในยุคนั้นเข้าใกล้กับยุคมิคสัญญีเช่นนี้ จึงทำให้สภาพของสังคมและความเป็นอยู่ของมนุษย์ในยุคนั้น เสื่อมจากศีลธรรมมากกว่าโลกในยุคปัจจุบันนี้มากๆคือโลกในยุคนั้นจะมีโจรผู้ร้ายชุกชุม ผู้คนจะขาดหิริโอตตัปปะ หรือขาดความละอายต่อการทำบาปและขาดการเกรงกลัวต่อผลของบาป คนรวยจะเอาเปรียบคนจนมากๆ คนจนก็จะยิ่งจนหนักลงไปเรื่อยๆ  ผู้คนจะปากกัดตีนถีบและคิดแต่จะเอาชีวิตของตัวเองให้รอดเท่านั้น   ผู้คนจะไม่เคารพกฎหมาย มิจฉาอาชีวะ หรืออาชีพที่ไม่สุจริต ไม่บริสุทธิ์และผิดต่อหลักของกฎแห่งกรรม หลักของศีลธรรม เกิดขึ้นไปทั่วทุกหัวระแหง เช่น มีการขายยาเสพติดเกลื่อนกลาดเปิดเผยเหมือนกับสินค้าทั่วๆ ไปในท้องตลาด ซึ่งยิ่งกว่าในยุคปัจจุบันนี้ที่มีแค่การลักลอบขายยาเสพติด และยาเสพติดก็ยังเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย เป็นต้น บ้านเมืองจะทรุดโทรมและได้รับความเดือดร้อนกันถ้วนหน้า สงครามระหว่างแคว้นจะเกิดขึ้นเรื่อยๆ สภาพเศรษฐกิจจะฝืดเคืองและมีแต่ความอดอยากยากแค้นเต็มไปหมด เป็นต้น

 

       และเมื่อสภาพสังคมความเป็นอยู่โดยรวมของคนในยุคนั้นเป็นเช่นนี้ พระภิกษุสงฆ์ที่ยังมีความมุ่งมั่นและยังมีความตั้งใจในการประพฤติปฏิบัติธรรม ในยุคนั้น ก็จะพากันหลีกเร้นเข้าไปในป่า เพื่อไปหาที่สงัดสำหรับบำเพ็ญสมณะธรรม ส่วนพระภิกษุที่เหลืออยู่ก็จะประพฤติปฏิบัติตนผิดเพี้ยนไปจากหลักธรรมคำสั่งสอนดั้งเดิมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงทำให้พระพุทธศาสนาถูกแยกย่อยแตกแขนงออกไปมากมาย ตามความคิดความเข้าใจและการตีความของตัวเอง

 

        สำหรับตัวคุณสตีฟ จ็อบส์นั้น แม้ว่าตัวเขาจะเกิดอยู่ในยุคสมัยที่มนุษย์เสื่อมจากศีลธรรม หรือมีความเสื่อมโทรมทางด้านจิตใจก็ตาม แต่ตัวคุณสตีฟ จ็อบส์กลับมีจิตใจที่ดีงาม รักครอบครัว นับถือพระพุทธศาสนาและมีความขยันอดทนเป็นอย่างมาก ซึ่งในเวลาต่อมาคุณพ่อของคุณสตีฟ จ็อบส์ ในภพชาตินั้นซึ่งเป็นเสาหลักที่สำคัญในการหารายได้มาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องและจุนเจือครอบครัวก็ได้มาเสียชีวิตลง เมื่อเป็นเช่นนี้จึงทำให้ครอบครัวของคุณสตีฟ จ็อบส์ (ในภพชาตินั้น) ได้รับความลำบากเป็นอย่างมาก   

  

       ซึ่งหลังจากที่คุณพ่อของคุณสตีฟ จ็อบส์ (ในภพชาตินั้น) ได้เสียชีวิตลงไปแล้ว พี่ชายของคุณสตีฟ จ็อบส์ (ในภพชาตินั้น) ก็ได้ทำหน้าที่เป็นคนหาเลี้ยงครอบครัวแทนคุณพ่อของเขา ด้วยการสืบทอดกิจการค้าขายของต่อจากคุณพ่อของเขา โดยที่ตัวคุณสตีฟ จ็อบส์ (ในภพชาตินั้น) ก็ได้ช่วยพี่ชายของเขาขายของด้วยความขยันขันแข็งซึ่งกิจการค้าขายของพี่ชายคุณสตีฟ จ็อบส์ (ในภพชาตินั้น) ก็มีรายได้ที่ขึ้นๆ ลงๆ คือขายได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ก็พออยู่ได้

 

       ในเวลาต่อมาพี่ชายของคุณสตีฟ  จ็อบส์ (ในภพชาตินั้น) ก็ได้เกิดอาการล้มป่วยลงด้วยโรคที่เกี่ยวกับตับ ซึ่งทันทีที่ตัวคุณสตีฟ จ็อบส์ (ในภพชาตินั้น) ได้ทราบว่าพี่ชายของเขาล้มป่วยลงเช่นนั้น  ด้วยความรักที่ตัวเขามีต่อพี่ชายที่แสนดีของเขา ผู้เป็นประดุจทั้งพ่อและพี่ชายที่คอยดูแลเอาใจใส่และปกป้องตัวเขามาโดยตลอดนี้เอง จึงทำให้ตัวเขาเกิดความรู้สึกขึ้นมาในใจว่า “ตัวเขาจะปล่อยให้พี่ชายที่แสนดีของเขาผู้เป็นที่รักยิ่งของเขานั้นตายไม่ได้” ดังนั้นตัวเขาจึงมีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่า “ตัวเขาจะต้องหาทางรักษาพี่ชายของตัวเขาให้หายป่วยให้ได้” 

         แต่ว่าด้วยความที่ตัวคุณสตีฟ จ็อบส์ (ในภพชาตินั้น) ก็ยังไม่ค่อยมีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องการใช้ชีวิตในสังคมมากนัก ซึ่งสังคมในยุคสมัยนั้นเต็มไปด้วยการเอารัดเอาเปรียบและก็มีแต่การเบียดเบียนซึ่งกันและกัน  กอปรกับตัวเขาเองก็มีเงินไม่มากนัก  ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้ตัวคุณสตีฟ จ็อบส์ (ในภพชาตินั้น) ได้ตัดสินใจเลือกที่จะไปหาหมอเถื่อน ซึ่งก็เป็นคนที่รู้จักคุ้นเคยกัน มากกว่าที่จะไปหาหมอที่ถูกกฎหมายซึ่งต้องใช้ค่าใช้จ่ายในการรักษาที่สูงมากๆ   

 

          แต่หลังจากที่ตัวคุณสตีฟ จ็อบส์ (ในภพชาตินั้น) ได้ไปหาหมอเถื่อนที่คุ้นเคยกันรู้จักกันคนนั้นแล้ว หมอเถื่อนคนนั้นกลับฉกฉวยโอกาสที่จะหาผลประโยชน์จากคุณสตีฟ จ็อบส์ ด้วยการขาย “ยาปลอม” ให้คุณสตีฟ  จ็อบส์ (ในภพชาตินั้น) ในราคาที่สูงมากด้วย ทั้งๆ ที่คุ้นเคยกัน แต่เพราะเห็นว่าคุณสตีฟ จ็อบส์ มีความต้องการที่จะหายามารักษาพี่ชายมากๆ หมอเถื่อนคนนี้จึงบรรยายสรรพคุณเกินความเป็นจริง แล้วก็เลยถือโอกาสโก่งราคายาขึ้นมาทันที เพราะในยุคนั้นเป็นยุคที่คนเสื่อมจากศีลธรรมมากๆ ดังนั้น เมื่อใครมีโอกาสที่จะฉกฉวยอะไรได้ก็จะฉกฉวยในทันที     

        ซึ่งในตอนนั้นด้วยความที่ตัวคุณสตีฟ จ็อบส์ (ในภพชาตินั้น) ก็ไว้วางใจหมอเถื่อนคนนั้นอย่างสุดๆ  และตัวเขาก็คิดเพียงแค่ว่า “เขาอยากที่จะช่วยให้พี่ชายที่แสนดีของเขาหายป่วยให้ได้”  ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ตัวคุณสตีฟ  จ็อบส์ (ในภพชาตินั้น) ไม่ได้มีความรู้สึกเอะใจ หรือสงสัยเกี่ยวกับยาของหมอเถื่อนคนนั้นเลย   ตรงกันข้ามตัวเขากลับรีบไปเอาเงินที่ตัวเขาเก็บสะสมจากการค้าขาย มาจ่ายเป็นค่ายา ให้กับหมอเถื่อนคนนั้นในทันที   

 

       แต่หลังจากที่คุณสตีฟ จ็อบส์ (ในภพชาตินั้น) ได้นำยา (ปลอม) จากหมอเถื่อนคนนั้นกลับมารักษาพี่ชายของตัวเขาแล้ว ผลกลับปรากฏว่า “แทนที่พี่ชายที่แสนดีของตัวเขาจะมีอาการที่ดีขึ้นตามคำโฆษณาที่หมอเถื่อนได้โม้เอาไว้ แต่พี่ชายของเขากลับมีอาการทรุดหนักลงไปเรื่อยๆจนกระทั่งพี่ชายของตัวเขาเกือบจะเสียชีวิต” และเมื่อตัวคุณสตีฟ จ็อบส์ (ในภพชาตินั้น) ได้สังเกตเห็นอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นกับพี่ชายของตัวเขาเช่นนั้นแล้ว ตัวเขาจึงเริ่มรู้สึกเอะใจ แล้วก็ได้คิดทบทวนถึงเหตุการณ์ต่างๆ  ตั้งแต่ที่ตัวเขาได้ไปหาหมอเถื่อนว่าหมอเถื่อนได้พูดอะไรไว้บ้าง และเมื่อตัวเขาได้คิดทบไปทวนมาด้วยเหตุและผลแล้ว ตัวเขาก็รู้ได้ว่า “โอ้..ตัวเขาได้ถูกหมอเถื่อนคนนั้นหลอกเข้าเสียแล้ว”   

ส่วนว่าเมื่อตัวเขารู้เช่นนั้นแล้ว ตัวเขาจะรู้สึกอย่างไร
เราก็ต้องมาติดตามกันในตอนต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

สตีฟ จ็อบส์ ตายแล้วไปไหน? Where is Steve Jobs?

ปรโลกนิวส์ ตอน สตีฟ จ็อบส์ ( Steve Jobs ) ตายแล้วไปไหน ตอนที่ 1

ปรโลกนิวส์ สตีฟ จ๊อบส์ ( Steve Jobs ) ตอนที่ 2 ทำไมสตีฟ จ็อบส์ ( Steve Jobs ) จึงเป็นคนฉลาด

ปรโลกนิวส์ สตีฟ จ๊อบส์ ( Steve Jobs ) ตอนที่ 3 ทำไมสตีฟ จ็อบส์ ( Steve Jobs ) จึงเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ

สตีฟ จ๊อบส์ ( Steve Jobs ) ตอนที่ 4 : บุพกรรมใดทำให้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตับอ่อน ตอนที่ 1

สตีฟ จ๊อบส์ ( Steve Jobs ) ตอนที่ 5 : บุพกรรมใดทำให้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตับอ่อน ตอนที่ 2

สตีฟ จ็อบส์ ( Steve Jobs ) ตายแล้วไปไหน ตอนจบ

กรณีศึกษา สตีฟ จ็อบส์ ( Steve Jobs ) ถูกต้องตามหลักสัมมาทิฏฐิและกฏแห่งกรรม

ศิษย์เก่าศิษย์ใหม่ยืนยัน เผย "สตีฟ จ็อบส์ ( Steve Jobs ) ตายแล้วไปไหน" ได้ประโยชน์ในการดำเนินชีวิต

ประวัติสตีฟ จอบส์ Steve Jobs ผู้ให้กำเนิด Apple

Steve jobs คําคม ข้อคิดในการดำเนินชีวิตให้ประสบความสำเร็จ

สตีฟ จ๊อบส์ ( Steve Jobs ) ผู้ก่อตั้งบริษัทแอปเปิล เสียชีวิตแล้วจากโรคมะเร็งตับอ่อน