ตามรอยสามก๊ก (๑) : พบหงส์ดรุณ
[บทความนี้เขียนขึ้นเพื่อรีวิวทริปปฐมฤกษ์ "ตาม
รอยสามก๊ก" ระหว่างวันที่่ 6-11 มี.ค. จัดโดยบริษัท SBA Travel ซึ่งตัวผม
ในฐานะ แฟนพันธุ์แท้สามก๊ก
ได้เดินทางไปร่วมเป็นวิทยากรให้ความรู้กับลูกทัวร์ทุกท่านด้วย ]
ตามรอยสามก๊ก วันที่ ๑
คณะ ของเราเดินทางด้วยเครื่องบินการบินไทย เที่ยวบินที่ TG618 จากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิถึงสนามบินเฉิงตูเวลาประมาณบ่ายสอง ก่อนจะออกจากเมืองหลวงเฉิงตู มุ่งตรงไปยังเมืองเต๋อหยาง (德阳) เมืองอุตสาหกรรมสำคัญแห่งมณฑลเสฉวน ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณชั่วโมงกว่าๆ
ความสำคัญของเมืองนี้ คือเป็นจุดที่ตั้งของ "ลกห้องโห" (落凤坡) หรือ "เนินหงส์ร่วง" จุดที่เจ้า "หงส์ดรุณ" บังทอง ยอดกุนซือของเล่าปี่โดนเกาทัณฑ์เสียชีวิตระหว่างนำทัพเข้าตีเสฉวนนั่นเอง
[ด้านหน้าของศาลเจ้าบังทอง]
เรา เดินทางไปยัง "ศาลเจ้าบังทอง" สร้างขึ้นเพื่อสักการะแด่เจ้าหงส์ดรุณ ภายในมีรูปปั้นขนาดใหญ่ของบังทอง เดินเข้าไปด้านใน ซ้ายมือมีห้องแสดงเรื่องราวในวรรณกรรมสามก๊ก ห้องด้านหน้ามีรูปปั้น ฮกหลง-ฮองซู ขนาดใหญ่ นั่งคู่กันอยู่ในตู้กระจก
และเมื่อเดินตรงเข้าไปข้างหลังสุด จึงพบกับฮวงซุ้ยที่ฝังศพของบังทอง...
[หลุมฝังศพบังทอง]
หัน หน้าเข้าหาฮวงซุ้ย ฝั่งซ้ายคือ "ม้าสีน้ำตาล" เป็นม้าของบังทองเอง โดยมันได้ดีดกุนซือผู้นี้ตกจากหลัง ก่อนออกเดินทางไปตีเมืองเซงโต๋ตามทางเล็ก เสมือนเป็นลางบอกเหตุว่ายอดกุนซือหน้าตาอัปลักษณ์ผู้นี้ กำลังเยื้องย่างไปสู่ความตาย
ครั้นเห็นบังทองถูกม้าดีดจนร่วง เล่าปี่ผู้เป็นนายซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ จึงยอมสละม้าเต๊กเลาให้บังทองขี่แทน
เล่า ปี่เองก็คิดไม่ถึงว่า การให้บังทองขี่เต๊กเลานั้น จักกลายเป็นการ "ล็อคเป้า" ให้เตียวหยิม นายทหารเสฉวนที่นำกำลังมาซุ่มอยู่ในหุบเขา สั่งทหารระดมยิงเกาทัณฑ์ใส่เจ้าหงส์ดรุณจนร่างร่วงหล่นสู่พื้นพสุธา ด้วยเข้าใจผิดว่าผู้ที่ขี่ "อาชาสีขาวโพลน" คือขุนศึกแซ่เล่า
ดังนั้น ฝั่งขวาของฮวงซุ้ยจึงเป็น "ม้าสีขาว" ซึ่งก็คือ "เต๊กเลา" (的盧) พาหนะที่นำบังทองไปสู่จุดมรณะ
[เต๊กเลา ม้าที่เล่าปี่ยกให้บังทองขี่]
(อันที่จริง แม้นจะไม่ได้ขี่ม้าขาว บังทองก็น่าจะตายจากการถูกซุ่มโจมตีครั้งนี้อยู่ดี หากแต่คงโดนเกาทัณฑ์จำนวนน้อยดอกกว่าเท่านั้น)
คง เป็นเพราะเหตุนี้ ฮวงซุ้ยแห่งนี้จึงมีทั้ง "ม้าขาว" และ "ม้าน้ำตาล" อยู่เคียงข้างหลุม อันเป็นสิ่งที่ผิดแผกแตกต่างจากฮวงซุ้ยของบุคคลสำคัญอื่นๆ (หากใครเคยไปศาลเจ้ากวนอู ไม่ว่าในเมืองไทยหรือต่างประเทศ จะเห็นม้าเซ็กเธาว์สีน้ำตาล ต่างจากศาลเจ้าบังทองซึ่งมีม้าทั้งสีน้ำตาลและสีขาว)
โดยจุดที่ตั้งของศาลเจ้าบังทอง อยู่ห่างจากจุดเสียชีวิตของบังทอง หรือที่วรรณกรรมเรียกว่า ลกห้องโห เพียง 2 กิโลเมตร เท่านั้น
[ถนนวัวทองอายุหลายพันปี ตรงกลางคือรอยที่บากไว้ให้ล้อเกวียนลากผ่าน]
นอก จากศาลเจ้าบังทองแล้ว ภายในอาณาบริเวณเดียวกัน ยังมี "ถนนวัวทอง" หรือ "จินนิวกู่ต้าว" (金牛古道) เส้นทางที่เชื่อมก๊กสู่ (จ๊ก) กับก๊กฉิน สร้างขึ้นในสมัยชุนชิว ถือเป็นถนนประวัติศาสตร์สายหนึ่งในประวัติศาสตร์ชาติจีนด้วย