ทำไมต้องมีบริกรรมนิมิต และบริกรรมภาวนา

นิมิตคือเครื่องหมายในเวลาทำกรรมฐาน ให้จิตกำหนดจับเป็นอารมณ์ แล้วพิจารณาจนติดตาติดใจ เหตุที่ต้องมีนิมิต ก็เพราะจิตของคนนั้น มีธรรมชาติเคลื่อนไหวแวบไปแวบมาอยู่ตลอดเวลา นักวิทยาศาสตร์บอกว่า “แสงเดินทางเร็วที่สุด แต่ในพระพุทธศาสนาแล้ว จิตของคนเราเดินทางเร็วไวที่สุด” ท่านบอกว่า “ไวเหมือนลิง” มิฉะนั้นพระพุทธองค์คงไม่สอนให้ควบคุมจิตให้หยุด ให้นิ่งโดยการปฏิบัติธรรมเมื่อปฏิบัติธรรมได้รู้เห็นเป็นแล้ว จิตก็จะสอดไปถึงได้ทุกที่ 

          หลวงพ่อมีอุบายที่จะทำให้จิตหยุดนิ่ง คือเบื้องต้น จะต้องหาที่ให้จิตเกาะเกี่ยวเสียก่อน คือเพ่งดูอุคหนิมิต เป็นดวงแก้วกลมใส มีลักษณะเหมือนดวงปฐมมรรค จะได้ไม่ต้องไปเห็นภาพอื่น ที่ทำให้จิตสับส่าย ไม่เป็นสมาธิยิ่งขึ้น สำหรับบางคนใจมองดู อุคหนิมิตยังไม่พอ ยังหยุดยังนิ่งไม่ได้ ก็ต้องมีบริกรรมภาวนาควบคู่ไปด้วย บริกรรมภาวนาคือ การท่องคาถา คำบริกรรมภาวนาของหลวงพ่อวัดปากน้ำท่านให้ท่องว่า “สัมมาอะระหัง” 

          การที่หลวงพ่อสอนให้มีบริกรรมนิมิต คือให้นึกถึงดวงแก้วกลมใสนั้น มีบางคนไม่เข้าใจแล้วกล่าวติเตียนหลวงพ่อว่า สอนให้ติดรูป สอนให้ติดนาม สอนให้ติดนิมิต เมื่อหลวงพ่อทราบ ท่านก็ย้อนถามว่าเมื่อไม่ติด ทำไมจึงจะรู้ว่าหลุด ท่านเปรียบเทียบให้เห็นภาพว่า “เหมือนกับการขึ้นบันได ถ้าเราเหยียบบันไดขั้นที่ ๑ ไม่มั่นแล้ว เราจะก้าวต่อไปให้มั่นได้อย่างไร ถ้าเราจะเหยียบบันไดขั้นที่ ๒ เราก็ต้องเหยียบบันไดขั้นที่ ๑ ให้มั่นเสียก่อน แล้วจึงก้าวต่อไปถึงขั้นที่ ๒ เมื่อจะก้าวต่อไปขั้นที่ ๓ ก็ตองเหยียบขั้นที่ ๒ ให้มั่น แล้วจึงทิ้งขั้นที่ ๒ ก้าวขึ้นขั้นที่ ๓ และเราก็ไม่ได้ติดอยู่ที่ขั้นเดียว 

          เรื่องการกำหนดบริกรรมนิมิตหรืออุคหนิมิตเป็นดวงแก้วกลมใสนี้ มีบางท่านสงสัยว่า ทำไมต้องเป็นดวงแก้วกลมใส ถ้านึกดวงแก้วไม่ได้ จะนึกเป็นอย่างอื่นได้หรือไม่ นึกเห็นเป็นพระพุทธรูปได้ไหม 

          ความจริงนิมิตนี้ จะนึกเห็นเป็นอะไรก็ได้ เพราะเป็นอุบายจิตเพ่งพินิจนิมิตนั้นนิ่ง จนเกิดอารมณ์กรรมฐาน ชำนาญ จนอารมณ์นั้นติดตาติดใจถึงแม้จะหลับตา อารมณ์นั้นก็ยังปรากฏชัดเจนอยู่ในใจ นึกเหนี่ยวบ่อย ๆ จนทำให้นึกตรึกเอามาได้ 

          หลวงพ่อท่านได้ทดลองแล้วว่า จะสร้างนิมิตอย่างใดจึงจะสะดวกและเหมาะสม ท่านพบว่าการสร้างอุคหนิมิตเป็นดวงแก้วกลมใสนั้น ง่ายและสะดวกที่สุด เพราะดวงธรรมประจำกายของทุกคนจะมีลักษณะอย่างนั้น กล่าวคือถ้าเห็นของจริงก็ต้องเห็นอย่างนั้น ท่านก็เลยให้กำหนดเป็นนิมิตเสียเลย ถ้าหากจะให้กำหนดเป็นองค์พระพุทธรูป ก็ยังมีปางต่าง ๆ หลายปาง มีวัสดุที่ทำแตกต่างกันและมีขนาดเล็กใหญ่แตกต่างกัน 

    

          บางท่านที่ไม่สามารถจะกำหนดเป็นดวงแก้วกลมใสได้ จะกำหนดเป็นพระพุทธรูปปางใดปางหนึ่ง กำหนดเป็นภาพหลวงพ่อวัดปากน้ำ เห็นเป็นกายของท่านเอง หรือเห็นเป็นดอกไม้ ใบไม้ กำหนดเป็นอะไรได้ทั้งสิ้น สำคัญว่าจะมีอุบายอย่างไรให้ใจของเราที่มีธรรมชาติดิ้นรน ว่องไวปานวานร นั้นหยุดนิ่ง ไม่นึก ไม่คิดเรื่องใด ๆ ทั้งสิ้นได้สักชั่วขณะ ไม่ใช่หยุดหายใจ อย่างที่บางคนกลัวกัน

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘