สามก๊ก ฉบับนักบริหาร:บทที่ 35 เตียวหุยแค้นกวนอู

ครั้นพ้นแดนฮูโต๋เข้าสู่เขตอำนาจอ้วนเสี้ยวแล้ว ภายใต้จิตสำนึกของกวนอูให้กังวลเกิดวิตกจิตต้องทอดใจใหญ่เมื่อหวนนึกขึ้นมาว่า ตนได้หักด่านกับฆ่านายทหารรักษาด่านของโจโฉหลายตำบลถึง 6 คน ถ้าโจโฉมิได้พิจารณาเห็นถึงความจำเป็นแล้วก็จะมองว่า ตนเป็นคนอกตัญญูหารู้คุณคน ลึก ๆ ในใจกวนอูได้เห็นความมีน้ำใจของโจโฉที่มีต่อตนไม่น้อย หากมิได้ติดที่สาบานไว้กับเล่าปี่ในสวนท้อมาก่อน กวนอูก็คงจะมีใจอยากอยู่ด้วยกับโจโฉบนเส้นทางเดียวกับเตียวเลี้ยว

ในขณะที่กวนอูกำลังผ่านวิบากกรรมหักด่าน โจโฉนั้นก็ว้าวุ่นใจอยู่ไม่น้อย แอบตั้งความหวังไว้ว่ากวนอูจะไปไม่ตลอด เพราะแต่ละด่านมีทางอยู่หลายชั้น เครือข่ายซับซ้อน ไม่ใช่จะหักด่านข้ามไปได้ง่าย ๆ ครั้นข่าวที่กวนอูฆ่าขงสิ้วมาถึงเมืองหลวง

โจโฉคิดจะยกทัพไปตามจับกวนอู แต่ก็เกรงคนทั้งปวงจะครหาว่าตนเป็นคนไม่มีสัจจะ ถ้าตามไปได้ทันจับกวนอูได้ เจ้าเมืองนายด่านทั้งปวงที่ถูกกวนอูฆ่าตายก็ใช่ว่าจะฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้ ไหน ๆ กวนอูก็ล่วงพ้นแดนฮูโต๋ไปแล้ว น่าจะทำบุญคุณรองรับกันไว้ให้ตลอดจะดีกว่า สืบไปเบื้องหน้ากวนอูยังจะมีเยื่อใยคิดถึงบุญคุณบ้าง

คิดได้ดังนี้โจโฉให้ม้าใช้ถือหนังสือกับเตียวเลี้ยว ทำทีไปห้ามนายทหารอื่น ๆ อย่าได้ทำร้ายกวนอู ให้เห็นน้ำใจโจโฉว่ารักกวนอูแค่ไหน ถึงทำผิดก็ยังมิได้คิดเอาโทษ เมื่อเตียวเลี้ยวพบกวนอูจึงถามว่า ถ้ายังไม่พบเล่าปี่ก็น่าจะกลับไปอยู่กับมหาอุปราชก่อนน่าจะดีกว่า กวนอูหัวเราะแล้วว่า อย่าเลยให้ท่านกลับไปช่วยกล่าวแก่มหาอุปราชว่า อย่าได้โกรธเคือง ทำคุณแล้วทำให้ตลอดไปเถิด ภายหน้าเราจะหาทางตอบแทนคุณท่านมหาอุปราชเอง

เล่าปี่เมื่อพบซุนเขียนได้ทราบความทั้งหมดก็ดีใจ เตรียมแผนการหนีตีจากอ้วนเสี้ยว รุ่งเช้าเข้าไปหาอ้วนเสี้ยวแล้วว่า เมืองเกงจิ๋วที่เล่าเปียวปกครองอยู่นั้น ข้าวปลาอาหารบริบูรณ์ มีเมืองขึ้น 9 เมือง ข้าพเจ้าจะขออาสาไปเกลี้ยกล่อมให้มาสวามิภักดิ์ต่อท่านจะได้ช่วยกันกำจัดโจโฉ อ้วนเสี้ยวจึงว่าเคยส่งทูตไปเจรจาขอผูกมิตรกับเล่าเปียวหลายครั้ง แต่เล่าเปียวตีกลับอย่างไม่ใยดีทุกครั้ง

เล่าปี่จึงว่าเล่าเปียวนั้นเป็นคนแซ่เดียวกับข้าพเจ้า ถ้าข้าพเจ้าไปเองเห็นทีจะไม่ปฏิเสธ อ้วนเสี้ยวมิทันเฉลียวใจว่าเป็นแผนตีจากของเล่าปี่ จึงยอมให้เล่าปี่ไป แต่ยังมิวายดักคอแสดงอำนาจบอกแก่เล่าปี่ว่า ได้ยินข่าวกวนอูออกจากโจโฉแล้วกำลังตามมาหาท่าน ถ้ามันมาถึง ข้าพเจ้าจะจับมันฆ่าเสีย เพื่อล้างแค้นให้งันเหลียงกับบุนทิว เล่าปี่ได้ฟังดังนั้นก็โกรธจึงว่า ท่านอยากได้กวนอูไว้ใช้ ข้าพเจ้าจึงมีจดหมายไปเรียกตัวมาให้ บัดนี้ท่านคิดจะฆ่ากวนอูเสียข้าพเจ้าไม่เห็นด้วย เราจะเสียผู้ใหญ่ทั้งคู่ อ้วนเสี้ยวจึงทำเป็นพูดทีเล่นทีจริงว่า ข้าพเจ้าหวังล้อท่านเล่น การได้กวนอูเป็นที่ยินดีแก่ข้าพเจ้ายิ่งนัก ขอให้ท่านเร่งไปรับตัวกวนอูมาเถิด จะเลี้ยงดูกวนอูอย่างดี เล่าปี่จึงนึกระแวงความจริงใจของอ้วนเสี้ยวที่มีต่อตนกับกวนอูตลอดมา

เล่าปี่อำลาอ้วนเสี้ยว แล้วคุมกำลังออกจากเมืองกิจิ๋ว ฝ่ายเล่าเพ็กเจ้าเมืองยีหลำทราบข่าวว่าเล่าปี่หนีอ้วนเสี้ยวมาอยู่เมืองเก๋าเซียซึ่งเป็นเมืองจัตวา รู้ตัวเองว่าด้อยปัญญาบารมี ใคร่อยากฝากตัวพึ่งพาอาศัยสติปัญญาบารมีเล่าปี่คนแซ่เดียวกัน จึงแต่งทูตเชิญเล่าปีให้ไปครองเมืองยีหลำเมืองใหญ่ อุดมสมบูรณ์ เหมาะที่จะตั้งเป็นที่มั่น เล่าปี่เห็นด้วย จึงพากันอพยพไปซ่องสุมกำลังอยู่ที่นั่น

กวนอูพาภรรยาเล่าปี่ล่วงมาใกล้เมืองเก๋าเซีย พบซุนเขียนที่มาดักรอกลางทางด้วยเกรงว่ากวนอูจะตรงไปหาอ้วนเสี้ยว แจ้งให้กวนอูทราบว่าบัดนี้เล่าปี่ได้หาทางลาอ้วนเสี้ยวไปอยู่เมืองยี่หลำ เล่าเรื่องที่อ้วนเสี้ยวสั่งประหารเล่าปี่ถึง 2 ครั้งด้วยเหตุที่กวนอูฆ่างันเหลียงกับบุนทิวตาย หากกวนอูไปพบอ้วนเสี้ยว อาจจะถูกหาเรื่องจนถูกฆ่าตายได้ เพราะอ้วนเสี้ยวเป็นผู้นำที่จิตใจเรรวนไม่แน่นอน กวนอูได้ยินดังนั้นก็ยินดียิ่งนัก เร่งให้เตียวหุยออกมารับพี่สะไภ้ทั้งสอง

แต่เตียวหุยทราบข่าวมาก่อนด้วยความขุ่นเคืองใจว่า กวนอูยอมสวามิภักดิ์ต่อโจโฉ จึงครุ่นแค้นแค้นกวนอูอยู่ กวนอูเห็นเตียวหุยออกมาก็ส่งง้าวให้จิวฉองลูกน้องใหม่ขับม้าไปหา แต่เตียวหุยกลับตวาดกวอูด้วยเสียงอันดัง ขับม้าเอาทวนไล่แทงกวนอูพลางด่าว่า กวนอูเป็นข้าสองเจ้าบ่าวสองนาย กว่าจะทำความเข้าใจกับเตียวหุยได้ ก็ต้องอาศัยพี่สะไภ้ทั้งสอง กับซุนเขียนอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้เตียวหุยฟัง

แต่เตียวหุยก็ยังไม่หายข้องใจกวนอู ยิ่งเห็นทัพซัวหยงทหารโจโฉที่ต้องการล้างแค้นกวนอูเป็นการส่วนตัวที่ไปฆ่าจินกี๋หลานชายตาย เตียวหุยยิ่งเข้าใจผิด คิดว่าเป็นทัพโจโฉที่กวนอูนำมา หลังจากที่กวนอูไปตัดศีรษะซัวหยงได้ถึงได้หายโกรธ แลเข้าใจในความสัตย์ซื่อภักดีของกวนอูที่ยอมโจโฉอย่างมีเงื่อนไขเพื่อพิทักษ์อาซ้อทั้งสองอย่างเต็มที่

บุคลิกภาพอย่างเตียวหุย มีหลายคนที่ไม่ชอบ แต่ความจริงถ้าพิจารณาให้ละเอียดถ่องแท้แล้ว เตียวหุยเป็นคนน่ารัก มีน้ำใจใสซื่อ รักก็รัก เกลียดก็เกลียด ไม่สามารถทำตัวเป็นนักการเมืองโลเลไร้อุดม การณ์ ตีหลายหน้ากลับกลอก ย้ายพรรคเหมือนโสเภณีย้ายซ่อง ท่านยาขอบจึงขนานนามเตียวหุยว่าเป็นคนชั่วช้าที่น่ารัก เมื่อพลัดพรากกับเล่าปี่ กวนอู เตียวหุยก็ยังรักษาตัวรอดตั้งตัวมั่นคงได้ดีกว่าพี่ ๆ

เมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว กวนอูจึงออกเดินทางกับซุนเขียนไปหาเล่าปี่ที่เมืองกิจิ๋ว พอใกล้จะถึงตัวเมือง ซุนเขียนแนะให้กวนอูซ่อนตัวไว้ก่อน ส่วนตนจะแอบเล็ดลอดไปพบเล่าปี่เพื่อสืบข่าวในกิจิ๋วให้แน่ชัดแล้วค่อยคิดอ่านกันใหม่ กวนอูเห็นชอบด้วยจึงพักอยู่ที่บ้านกวนเต๋งคนแซ่เดียวกัน ด้วยความสัมพันธ์ช่วยเหลือกันในยามยาก กวนเต๋งจึงยกกวนเป๋งลูกชายให้เป็นบุตรบุญธรรมของกวนอู

หลังจากที่สามพี่น้องกับบรรดากุนซือได้กลับมาอยู่รวมกันแล้ว เล่าปี่ก็ได้เตียวจูล่งยอดขุนศึกอีกคนหนึ่งมาเป็นพวก จูล่งเดิมทีเป็นนายทหารของกองซุนจ้านที่เล่าปี่ไปพึ่งพิงด้วย ต่อมากองซุนจ้านทำศึกโดยไม่ฟังคำแนะนำของที่ปรึกษา เสียทีแก่อ้วนเสี้ยวจนตัวตาย อ้วนเสี้ยวพยายามส่งคนมาเกลี้ยกล่อมจูล่งหลายครั้ง แต่จูล่งไม่ปลงใจไปอยู่กับอ้วนเสี้ยว ด้วยเห็นธาตุแท้ความไม่เป็นผู้นำที่ดีของอ้วนเสี้ยว

จูล่งทราบข่าวมาตลอดว่า เล่าปี่อยู่เมืองกิจิ๋วและเสียเมืองแก่โจโฉจนต้องหนีไปพึ่งอ้วนเสี้ยว กวนอูพลัดไปอยู่กับโจโฉ เตียวหุยหลังแตกทัพหนีโจโฉ ได้ไปปราบโจรจนได้เป็นเจ้าเมืองเก๋าเซียตั้งหลักรอฟังข่าวเล่าปี่อยู่ที่นั่น เมื่อทุกฝ่ายต่างเล่าเนื้อความจนละเอียดแล้ว จูล่งจึงยอมเข้าด้วยกับเล่าปี่ บอกว่า เป็นบุญที่ได้ที่พึ่งคนซึ่งมีน้ำใจโอบอ้อมอารีมีความถูกต้องเที่ยงธรรม ขออาสาจนกว่าชีวิตจะหาไม่ แล้วจูล่งจึงพาพลพรรคตามเล่าปี่ไปถึงเมืองยี่หลำ เกลี้ยกล่อมซ่องสุมผู้คนตั้งมั่นอยู่ที่นั่น

ฝ่ายอ้วนเสี้ยวพอรู้ว่าถูกเล่าปี่หลอกหนีไปแล้วก็โกรธ เตรียมจะยกทัพไปจับเล่าปี่ กัวเต๋าที่ปรึก ษาท้วงว่า จะจับเล่าปี่เมื่อใดก็จับได้ เพราะมีกำลังทหารน้อย ถึงแม้เล่าเปียวก็มิใช่ศัตรูที่น่ากลัว ทุกวัน นี้ต้องถือว่าการทำศึกกับโจโฉเป็นเรื่องใหญ่ แล้วยังมีซุนเซ็กที่ตั้งตัวเป็นใหญ่อยู่ที่เมืองกังตั๋งก็ดูเบามิได้เพราะมีทหารเป็นจำนวนมาก อีกทั้งข้าวปลาอุดมสมบูรณ์ มีเมืองขึ้นมากถึง 6 หัวเมือง ไม่กินเส้นกับโจโฉคิดอ่านจะยกทัพไปตีฮูโต๋ เราน่าจะหาทางเจรจาดึงมาเป็นพันธมิตรสู้ศึกโจโฉได้ ขอให้ท่านส่งคนมีสติปัญญาคิดอ่านไปเกลี้ยกล่อมซุนเซ็กจึงจะควร อ้วนเสี้ยงเห็นด้วยในความคิดนี้ จึงแต่งหนังสือส่งตันจิ๋นเป็นมฃทูตไปเกลี้ยกล่อมซุนเซ็ก

ซุนเซ็กดีใจที่อ้วนเสี้ยวแสดงไมตรีมาร่วมเป็นพันธมิตรเพื่อปราบโจโฉ ด้วยซุนเซ็กเจ็บแค้นโจโฉ
เมื่อตีได้เมืองโลกั๋งกับเมืองอิเจี๋ยงได้แล้ว ได้ทำหนังสือให้เตียวเหียนไปกราบทูลพระเจ้าเหี้ยนเต้ หวังจะได้รับพระราชทานความดีความชอบยศฐาบรรดาศักดิ์ แต่โจโฉกันท่าเก็บหนังสือซุนเซ็กไว้มิได้นำความกราบบังคมทูลตามหน้าที่ อีกทั้งยังดึงเอาตัวเตียนเหียนไว้ทำราชการในฮูโต๋ โดยโจโฉไม่ไว้ใจการขยายอำนาจของซุนเซ็ก คิดเตือนตัวเองถึงภัยที่จะมีจากซุนเซ็กว่า ธรรมดาชาติลูกเสือย่อมร้ายกาจ ผู้ใดจะทำอันตรายแก่ลูกเสือนั้นไม่ใช่เป็นของง่าย ซุนเซ็กจึงผูกใจแค้นโจโฉตั้งแต่นั้นมา

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ตัวอย่างกระทู้ธรรม ธรรมศึกษาชั้นตรี 5

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันเสาร์ ที่ ๑๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร