ตอนที่ 323. ฟื้นพระบรมราชโองการเลือด

 เล่าปี่รังเกียจรูปลักษณ์อันวิปริตของบังทองเพราะไม่แจ้งว่าแท้จริงแล้วบังทองก็คือฮองซู หนึ่งในสองของผู้เรืองปัญญาเป็นเลิศในแผ่นดินระดับเดียวกับฮกหลงหรือขงเบ้ง จึงให้บังทองไปครองเมืองเล็ก ครั้นได้ฟังความจากเตียวหุย ซุนเขียน และการสอบถามของขงเบ้งก็ได้คิดว่าได้ผิดพลั้งไปแล้ว

            แต่เล่าปี่ยังคงตอบขงเบ้งไปตามความจริงว่า บังทองได้มาหาและได้แต่งตั้งให้ไปเป็นเจ้าเมืองลอยเอี๋ยง แต่บังทองเอาแต่นอนและเสพสุรา ละทิ้งหน้าที่ราชการ จึงให้เตียวหุย และซุนเขียนไปสืบความ เพิ่งกลับมาบัดนี้

            ขงเบ้งได้ฟังดังนั้นก็หัวเราะแล้วว่า “บังทองคนนี้ได้เรียนวิชาการ มีสติปัญญาเป็นอันมาก ความรู้เขานั้นดีกว่าข้าพเจ้าสิบส่วนอีก ข้าพเจ้าได้ให้หนังสือมากับบังทองฉบับหนึ่ง ท่านได้เห็นแล้วหรือ”

            เล่าปี่จึงตอบว่าหนังสือของท่านข้าพเจ้ายังไม่ได้เห็น เห็นก็แต่หนังสือของโลซกซึ่งฝากฝังบังทอง และบังทองเพิ่งมอบแก่ซุนเขียนมาในวันนี้

            ขงเบ้งจึงว่าซึ่งท่านตั้งให้บังทองเป็นเจ้าเมืองลอยเอี๋ยงอันเป็นหัวเมืองเล็ก ไม่สมกับสติปัญญาของบังทอง ดังนั้นบังทองคงจะคิดว่าท่านมองไม่เห็นผู้มีสติปัญญา หรือแสร้งดูหมิ่นให้ได้อัปยศ จึงประชดประชันละราชการเสีย เอาแต่นอนและเสพสุราหวังให้ความปรากฏแก่ท่าน

            เล่าปี่ได้ฟังคำขงเบ้งดังนั้นก็เสียใจที่ปรามาสละเมิดต่อบังทอง จึงว่ายังโชคดีที่เตียวหุยออกไปสืบราชการแล้วประจักษ์ซึ่งสติปัญญาของบังทองจึงกลับมาบอกกล่าวให้ข้าพเจ้าทราบ มิฉะนั้นก็จะเสียคนดีผู้มีปัญญาไปคนหนึ่ง เล่าปี่กล่าวดังนั้นแล้วจึงสั่งเตียวหุยให้รีบไปเมืองลอยเอี๋ยงเชิญบังทองมาที่เมืองเกงจิ๋ว

            ครั้นทราบว่าเตียวหุยพาบังทองมาถึงเมืองเกงจิ๋ว เล่าปี่และขงเบ้งจึงออกไปต้อนรับบังทองถึงหน้าประตูเมือง คำนับทักทายกันตามธรรมเนียมแล้วเล่าปี่จึงกล่าวขออภัยแก่บังทองว่า “ข้าพเจ้าใจเบาไม่รู้เลยว่าท่านมีสติปัญญา ให้ท่านไปอยู่เมืองน้อยนั้นข้าพเจ้าขออภัยแก่ท่านเถิด”

            บังทองเห็นเล่าปี่อ่อนน้อมถ่อมตนและมีอัธยาศัยอันงามก็มีความเมตตารักเล่าปี่เป็นอันมาก จากนั้นเล่าปี่และขงเบ้งจึงพาบังทองมาที่ศาลาว่าราชการเมืองเกงจิ๋ว แล้วเชิญนั่งสนทนากัน

            บังทองจึงเอาหนังสือของขงเบ้งที่ฝากฝังมายังเล่าปี่ออกมามอบ เล่าปี่รับมาอ่านดูมีความว่า “ฮองซูผู้ชื่อว่าบังทองมาถึงวันไร ก็ให้เล่าปี่เลี้ยงรักษาไว้จะได้ช่วยราชการ”

            เล่าปี่พอรู้ว่าบังทองกับฮองซูคือคน ๆ เดียวกันก็มีความยินดียิ่งนัก ลุกขึ้นคำนับบังทองแล้วว่าขออภัยท่านเถิด ข้าพเจ้าไม่รู้ว่าฮองซูคือบังทองท่าน เมื่อทราบความดังนี้จึงหวนรำลึกถึงคำของสุมาเต๊กโชที่ได้บอกกล่าวไว้แต่กาลก่อนว่า ถ้าแม้นได้ฮกหลงหรือฮองซูแต่ผู้ใดผู้หนึ่งก็จะสามารถปราบปรามศัตรูแผ่นดินได้ราบคาบ และรวบรวมแผ่นดินเข้าเป็นหนึ่งได้สำเร็จดังปรารถนา เป็นบุญของข้าพเจ้านักแล้วที่บัดนี้ทั้งฮกหลงและฮองซูได้มาอยู่รับราชการด้วยข้าพเจ้าพร้อมหน้ากัน เห็นแผ่นดินของพระเจ้าเหี้ยนเต้จะสงบราบคาบเป็นสุขก็แต่ครั้งนี้ พระราชวงศ์ฮั่นก็จะมั่นคงสถาพรสืบไป

            ขงเบ้งเห็นเล่าปี่นอบน้อมต่อบังทองดังนั้นก็มีความยินดี ต่างคนต่างหัวเราะยิ้มแย้มแจ่มใส

            เจี้ยนอันศกปีที่สิบหก เดือนเจ็ด เล่าปี่มีคำสั่งแต่งตั้งให้บังทองเป็นรองเสนาธิการใหญ่ในตำแหน่งกุนซือ ร่วมว่าราชการบ้านเมืองทั้งฝ่ายบุ๋นและฝ่ายบู๊ร่วมกับขงเบ้ง

            ทางด้านเมืองหลวง ครั้นบังทองได้มารับราชการอยู่กับเล่าปี่ และเล่าปี่ตั้งให้เป็นเจ้าเมืองลอยเอี๋ยงแล้ว หน่วยสอดแนมจึงนำความไปรายงานให้โจโฉทราบ แล้วว่าบัดนี้เล่าปี่ได้ซ่องสุมผู้คนและเสบียงอาหารไว้เป็นอันมาก มีอาการส่อเค้าว่าจะร่วมมือกับซุนกวนยกกองทัพมาตีเมืองฮูโต๋

            โจโฉได้ฟังรายงานดังนั้นจึงเชิญที่ปรึกษาแม่ทัพนายกองและขุนนางข้าราชการทั้งปวงมาปรึกษาว่าจะยกกองทัพไปปราบปรามหัวเมืองทางภาคใต้อีกครั้งหนึ่ง

            ซุนฮิวที่ปรึกษาฟังปรารภของโจโฉแล้วจึงสนับสนุนว่า เมืองกังตั๋งบัดนี้จิวยี่เพิ่งตาย แม่ทัพนายกองยังไม่ปรองดองเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ชอบที่จะยกกองทัพไปตีเมืองกังตั๋งเห็นจะได้ชัยชนะโดยง่าย แม้นตีได้เมืองกังตั๋งแล้วจึงค่อยรวบรวมกำลังทหารยกกองทัพไปตีเล่าปี่ต่อไป

            โจโฉจึงปรารภต่อไปว่า การซึ่งจะยกกองทัพหลวงลงภาคใต้อีกครั้งหนึ่งนั้นยังคงหวั่นวิตกว่าม้าเท้งเจ้าเมืองเสเหลียงจะฉวยโอกาสยกกองทัพมาตีเมืองฮูโต๋ เพราะเมื่อครั้งที่เรายกกองทัพไปปราบหัวเมืองฝ่ายใต้ที่สมรภูมิเซ็กเพ็กนั้น ก็มีข่าวคราวปรากฏครั้งหนึ่งแล้วว่าม้าเท้งเจ้าเมืองเสเหลียงจะยกกองทัพมาตีเอาเมืองฮูโต๋ ดังนั้นก่อนจะยกกองทัพลงใต้จึงชอบที่จะจัดแจงป้องกันมิให้ม้าเท้งยกมารุกรานได้ จึงจะทำการปราบปรามหัวเมืองฝ่ายใต้ได้โดยสะดวก

            โจโฉปรารภความเกี่ยวกับข่าวลือในครั้งสงครามเซ็กเพ็กว่าม้าเท้งจะยกกองทัพมาตีเมืองหลวง แสดงให้เห็นว่าข้อมูลข่าวสารการทหารของโจโฉมิได้แม่นยำแต่ประการใด เพราะข่าวลือในครั้งนั้นเป็นเรื่องที่ชีซีกุข่าวขึ้นตามแผนการความคิดของบังทอง เพื่อช่วยเหลือชีซีให้ปลอดภัยจากการปราชัยในสงครามเซ็กเพ็ก ทำให้เกิดข่าวลือขึ้นในกองทัพโจโฉแล้วชีซีฉวยโอกาสนั้นอาสายกทหารกลับไปเมืองหลวงเพื่อป้องกันเมืองฮูโต๋

            ซุนฮิวได้ฟังคำปรารภของโจโฉดังนั้นจึงเสนอต่อไปว่า ข้าพเจ้าขอเสนอกลอุบายอย่างหนึ่งให้ท่านมีพระบรมราชโองการของพระเจ้าเหี้ยนเต้ แต่งตั้งให้ม้าเท้งเป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่ที่ตำแหน่งพระยาปราบหัวเมืองฝ่ายใต้ แล้วให้เรียกตัวม้าเท้งเข้ามาเมืองหลวงเพื่อมอบหมายให้เป็นแม่ทัพยกไปตีเมืองกังตั๋ง ครั้นม้าเท้งรับพระบรมราชโองการแล้วคงจะมาเมืองหลวงตามรับสั่ง ให้ท่านจับม้าเท้งฆ่าเสีย หลังจากนั้นจึงค่อยยกองทัพไปตีเมืองกังตั๋งก็จะสิ้นที่กังวล

            โจโฉได้ฟังข้อเสนอของซุนฮิวก็เห็นชอบ จึงให้แต่งเป็นพระบรมราชโองการของพระเจ้าเหี้ยนเต้ตามความคิดของซุนฮิวและให้ข้าหลวงเชิญพระบรมราชโองการปลอมนั้นไปมอบแก่ม้าเท้งที่เมืองเสเหลียง

            ม้าเท้งได้รับพระบรมราชโองการแล้วก็หวั่นใจว่าจะเป็นกลอุบาย จึงให้เรียกม้าเฉียว ม้าฮิว ม้าเทียด ผู้เป็นบุตร และม้าต้ายผู้เป็นหลานมาปรึกษาว่าจำเดิมมาตังสินได้รับพระบรมราชโองการเลือดของพระเจ้าเหี้ยนเต้ให้คิดอ่านกับขุนนางผู้ภักดีกำจัดโจโฉผู้เป็นศัตรูราชสมบัติเสีย เรากับเล่าปี่จึงได้เข้าร่วมขบวนการกับตังสิน แต่ต่อมาโจโฉจับความได้จึงประหารตังสินสิ้นทั้งครอบครัว เหลือแต่เราและเล่าปี่หนีรอดออกมาได้ บัดนี้เราได้ข่าวว่าเล่าปี่ได้ตั้งตัวเป็นใหญ่ที่เมืองเกงจิ๋ว เราก็คิดที่จะไปหาเพื่อสืบสานปณิธานแต่ครั้งนั้น แล้วร่วมกันกำจัดศัตรูราชสมบัติให้จงได้ แต่ครั้งนี้กลับมีพระบรมราชโองการของพระเจ้าเหี้ยนเต้เลื่อนตำแหน่งหน้าที่แก่เราแล้วเรียกตัวเข้าเมืองหลวงจะให้เป็นแม่ทัพไปตีเมืองกังตั๋ง จึงหวั่นเกรงว่าจะเป็นกลอุบายของโจโฉ พวกเจ้าจะมีความเห็นเป็นประการใด

            ม้าเฉียวผู้บุตรจึงว่า เมื่อมีพระบรมราชโองการของพระเจ้าเหี้ยนเต้เรียกบิดาเข้าเมืองหลวง แม้นไม่ไปตามรับสั่งก็จะถูกครหาว่าเป็นกบฏ ความผิดก็จะตกแก่บิดาในภายหลัง ดังนั้นชอบที่บิดาจะได้เดินทางไปเมืองหลวงตามรับสั่งแต่ให้ระมัดระวังตัวให้จงหนัก หากได้ช่องทำการก็ให้ประหารโจโฉเสียตามพระบรมราชโองการเลือดของพระเจ้าเหี้ยนเต้

            ม้าต้ายผู้หลานจึงท้วงว่าโจโฉเป็นคนเจ้าเล่ห์เพทุบาย การที่มีพระบรมราชโองการมาถึงท่านในครั้งนี้ก็อาจเป็นอุบายของโจโฉปลอมแปลงพระบรมราชโองการ พอท่านเข้าไปในเมืองหลวงโจโฉก็จะคิดอ่านทำร้ายท่าน ฉะนั้นท่านอย่าได้เดินทางเข้าเมืองหลวงเลย

            ม้าเฉียวจึงว่า คำม้าต้ายนั้นข้าพเจ้าไม่เห็นพ้องด้วย ชอบที่บิดาจะถือพระบรมราชโองการเป็นสำคัญ และอย่าได้ประหวั่นพรั่นใจ ข้าพเจ้าขออาสาคุมทหารเป็นกองทัพหน้าไปถึงเมืองฮูโต๋แล้ว จะยกเข้าตีเมืองโดยมิให้โจโฉทันตั้งตัวก็จะได้โดยง่าย จับโจโฉประหารเสียได้แล้วแผ่นดินของพระเจ้าเหี้ยนเต้ก็จะเป็นสุขสืบไป สมดังปณิธานที่บิดาและพรรคพวกได้กระทำสัตย์ไว้ต่อกัน

            ม้าเท้งได้ฟังดังนั้นจึงว่า การครั้งนี้อย่าได้คิดการดีและการร้ายจนเกินสมควร เราตัดสินใจที่จะไปเมืองหลวงตามรับสั่งแต่จะระมัดระวังตัวให้จงดี ทางด้านเมืองเสเหลียงนี้ให้ม้าเฉียวและหันซุยผู้เป็นสหายของเราอยู่ดูแลรักษาเมือง ตัวเรากับม้าฮิว ม้าเทียด และม้าต้ายจะคุมทหารยกไปเมืองหลวง หากมีรับสั่งจริงก็จะทำการตามพระบรมราชโองการ แต่ถ้าหากเป็นอุบายของโจโฉก็คงป้องกันรักษาตัวได้ แม้โจโฉจะคิดร้ายต่อเรา แต่เมื่อมีกำลังป้องกันรักษาเมืองเสเหลียงอยู่คงจะไม่กล้าทำอันตราย

            เจี้ยนอันศกปีที่สิบหก เดือนสี่ ม้าเท้งรับพระบรมราชโองการปลอมแล้ว จึงจัดทหารให้ม้าเฉียวและหันซุยอยู่รักษาเมือง ให้ม้าฮิว ม้าเทียดเป็นกองทัพหน้า ม้าต้ายเป็นกองทัพหลัง ตัวม้าเท้งเป็นกองทัพหลวงคุมทหารห้าพันยกออกจากเมืองเสเหลียงไปเมืองฮูโต๋ ครั้นยกไปใกล้เมืองฮูโต๋ระยะสองร้อยเส้น ม้าเท้งจึงให้ปลงทัพอยู่ที่นอกเมือง

            ฝ่ายโจโฉตั้งแต่ให้ข้าหลวงเชิญพระบรมราชโองการไปมอบแก่ม้าเท้งแล้ว ก็ให้ทหารสอดแนมคอยติดตามความเคลื่อนไหวทางการทหารด้านเมืองเสเหลียง ครั้นทราบว่าม้าเท้งยกกองทัพมาตั้งอยู่ที่นอกเมืองจึงสั่งอุยกุ๋ยขุนนางฝ่ายพิธีการทูตให้ออกไปหาม้าเท้ง ให้แจ้งแก่ม้าเท้งว่าซึ่งม้าเท้งยกกองทัพเป็นจำนวนมากมาเมืองหลวงครั้งนี้ จะเอากองทัพเข้ามาในพระนครนั้นมิได้เป็นการผิดกฎมณเฑียรบาล ให้ม้าเท้งปลงทัพไว้ที่นอกเมือง ให้เข้ามาก็แต่ตัวม้าเท้งและทหารผู้ใหญ่เพื่อเฝ้าพระเจ้าเหี้ยนเต้ตามประเพณี และแจ้งด้วยว่าซึ่งม้าเท้งยกทหารมาเป็นอันมาก แม้หากเสบียงอาหารขาดแคลนขัดสนก็อย่าได้กังวล ในวันพรุ่งนี้ทางเมืองหลวงจะจัดส่งเสบียงออกไปให้

            อุยกุ๋ยรับคำสั่งโจโฉแล้วจึงคำนับลาออกไปหาม้าเท้งที่ค่ายทหารนอกเมือง เมื่อได้คำนับกันตามธรรมเนียมแล้วอุยกุ๋ยจึงแจ้งความตามที่โจโฉสั่งมาแก่ม้าเท้งทุกประการ ม้าเท้งจึงให้แต่งโต๊ะเลี้ยงสุราอุยกุ๋ย ในขณะที่ชวนสนทนากันนั้นอุยกุ๋ยดื่มสุราเป็นอันมากจึงลำพองใจ เผลอตัวกล่าวกับม้าเท้งว่า “บิดาเราชื่ออุยอ๋วนตายเสียเมื่อครั้งลิฉุยกุยกียกเข้ามาทำร้ายถึงวังพระเจ้าเหี้ยนเต้ ครั้งนั้นใจข้าพเจ้ายังหาหายแค้นไม่ บัดนี้มาพบอ้ายศัตรูราชสมบัติอีกเล่า”

            ม้าเท้งได้ฟังดังนั้นจึงถามว่าผู้ใดคือศัตรูราชสมบัติ อุยกุ๋ยจึงว่าโจโฉนั่นแล้วคือศัตรูราชสมบัติของพระเจ้าเหี้ยนเต้ ตัวท่านไม่แจ้งหรือจึงแสร้งมาถามข้าพเจ้า

            ม้าเท้งได้ยินดังนั้นก็หวั่นว่าจะเป็นอุบายของอุยกุ๋ยมาล้วงเอาความลับจึงแกล้งทำเป็นตกใจ แล้วถามว่าไฉนท่านจึงกล่าวหาว่าโจโฉเป็นศัตรูราชสมบัติ ท่านกล่าวความทั้งนี้หากความรั่วไหลไปถึงหูของโจโฉแล้วท่านก็จะไม่พ้นจากความตาย

            อุยกุ๋ยฟังคำถามม้าเท้งแล้วจึงตวาดกลับไปว่า “ท่านลืมไปแล้วหรือเมื่อพระเจ้าเหี้ยนเต้เขียนพระอักษรออกมาด้วยพระโลหิตครั้งนั้น เราเป็นข้าพระเจ้าเหี้ยนเต้มิได้เป็นข้า  โจโฉ ท่านอย่ากินแหนงเราเลย การสิ่งใดเราจะช่วยท่านคิด”

            ม้าเท้งได้ฟังคำอุยกุ๋ยหนักแน่นก็เชื่อว่าเป็นความจริง ที่คลางแคลงใจอุยกุ๋ยอยู่ก็คลายลง จึงเล่าความหลังแต่ครั้งที่ได้ร่วมกับตังสินลงชื่อเข้าร่วมขบวนการกำจัดศัตรูราชสมบัติ พิทักษ์ราชวงศ์ฮั่น ให้อุยกุ๋ยฟังทุกประการ

            อุยกุ๋ยได้ฟังความดังนั้นก็มีความยินดี เอียงหน้ามากระซิบที่ข้างหูของม้าเท้งว่า “อันโจโฉจะให้หาท่านให้เข้าไปเฝ้าพระเจ้าเหี้ยนเต้นั้นไม่จริง ถ้าเข้าไปแล้วเขาจะจับฆ่าเสีย ท่านเร่งคิดแก้ไขจงดี”

            ม้าเท้งได้ฟังก็ตกใจ จึงถามอุยกุ๋ยว่าท่านอยู่ในเมืองหลวงโจโฉคิดอ่านประการใด ท่านคงพอทราบความ เมื่อเป็นดังนี้ท่านจะให้ข้าพเจ้าทำประการใด

            อุยกุ๋ยจึงว่าซึ่งโจโฉให้หาท่านเข้าไปเฝ้าพระเจ้าเหี้ยนเต้นั้น ท่านอย่าเพ่อเข้าไปเฝ้า จงตอบไปว่าท่านเดินทางมาแต่เมืองไกลแล้วไม่ค่อยสบาย จะขอผ่อนเวลาอยู่ที่นอกเมืองสักสองสามวันก่อน หายป่วยแล้วจึงจะเข้าไปเฝ้า ในวันพรุ่งนี้โจโฉคงเอาเสบียงมาส่งให้ตามสัญญา ดีร้ายก็จะออกมาเยือนท่านตามธรรมเนียม หากแม้นโจโฉออกมาเองท่านจงคิดอ่านจับตัวโจโฉแล้วฆ่าเสีย

            ม้าเท้งได้ฟังดังนั้นก็มีความยินดี เห็นเป็นโอกาสอันงามที่จะได้สืบสานปณิธานสนองพระบรมราชโองการโลหิต จึงว่าท่านจงเตรียมการข้างในเมืองให้พร้อมเถิด การข้างนอกเมืองนี้ข้าพเจ้าจะเตรียมการให้พร้อม แม้นโจโฉออกมาตามคำท่านคงจะไม่รอดชีวิตกลับไป.
  

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ตัวอย่างกระทู้ธรรม ธรรมศึกษาชั้นตรี 5

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันเสาร์ ที่ ๑๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘