รวบรวม25กฎของอาจารย์บุญชัย 14
14. Verb Patternนิยาม Verb Pattern คือ กลุ่ม Verb แท้ที่ตามหลังด้วย Verb ไม่แท้
ความรู้เบื้องต้น
1. Verb แท้Verb = Verb แท้ ซึ่ง Verb แท้คือ Verb ที่ผันได้ตาม Tense (อยู่ในหัวข้อที่ 1 Tense)
2. Verb ไม่แท้
คือ Verb ที่ไม่มีการผันตาม Tense
มีอยู่ 4 ชนิด
1) Ving
2) V3
3) to-infinitive (to-inf) = to+V1
4) infinitive without to(inf w/o to) = V1
จากที่เรียนมาทั้งหมดจะมีทั้งสิ้น 12 สูตรซึ่งเพื่อให้ง่ายต่อการจำ
ทางผมจึงจัดกลุ่มใหม่ตาม Verb ไม่แท้จึงเหลือ 4 กลุ่มใหญ่
แล้วก็แตกย่อยเป็น 12 กลุ่มอีกทีหนึ่ง
รูป/สูตรสูตรทื่ 1) Verb+Ving หรือ Verb+to-inf แต่ความหมายเปลี่ยน
สูตรทื่ 2) Verb+Ving ได้อย่างเดียว และ Verb+(one's)+Ving
สูตรทื่ 3) Preposition+Ving หรือ Noun (อันนี้ผมแทรกเพิ่ม)
สูตรทื่ 4) Verb+to-inf
สูตรทื่ 5) Verb+(Obj)+to-inf
สูตรทื่ 6) Verb+to-inf
สูตรทื่ 7) Verb+Obj+inf w/o to หรือ Verb+Obj+V3
สูตรทื่ 8) Verb+Obj+inf w/o to อย่างเดียว และ Verb+Obj+Adj
สูตรทื่ 9) Helping Verb+ inf w/o to
สูตรทื่ 10) Adj+ (for s/n หรือ of s/n)+to-inf
สูตรทื่ 11) Wh-words+to-inf
สูตรทื่ 12) Verb+Obj+to be หรือ to have
หมายเหตุตัวย่อ
Verb = Verb แท้ที่มีการผัน tense
Ving = Verb ที่มีการใช้รูป ing มาต่อท้าย
V1 = Verb ช่องที่ 1 ที่ไม่มีการผัน คือ การเติม s หรือ es ต่อท้าย = do (เวลาเขียนเป็นโครงสร้างเช่น make s/n do sth --> do = V1)
V3 = Verb ช่องที่ 3 ส่วนมากจะเห็นพวก เติม ...ed
to-inf = to infinitive = to+V1
inf w/o to = infinitive without to = V1
Helping Verb = Verb ช่วย ได้แก่ can, could, will, would, shall, should, may, might เป็นต้น (ดูรายละเอียด helping verb อีกทีนะครับ)
s/n = someone = ใช้แทนคน หรือชื่อคน เช่น my, your, his, her เป็นต้น
one's = แสดงความเป็นเจ้าของ เช่น yours, his, hers, its เป็นต้น
Wh-word = พวกที่ขึ้นต้นด้วย Wh รวม how เช่น what, where, when, why, who, which, how, whose เป็นต้น
Obj = Object = กรรมของประโยค ส่วนมากเป็นคำนาม
to be = verb to be ได้แก่ is/am/are/be/was/were/been ---> รูปเชิงไวยกรณ์ใช้ be/were/been
to have = verb to have ได้แก่ has/have/had --> รูปเชิงไวยกรณ์ใช้ have/had
เทคนิคการจดจำของผมจะอิงจากการจัดกลุ่มแล้วก็อิงตามความรู้เดิมสรุปได้ดังนี้ครับ
กลุ่มที่ 1: กลุ่มที่ทราบกันอยู่แล้ว หรือใช้ได้กับทุก ๆ กรณี1) Preposition+N หรือ Ving เท่านั้น = สูตรที่ 3)กรณีเฉพาะที่ใช้กับ Ving เท่านั้น
- devote to+Ving (อุทิศให้กับ)
- object to+Ving (คัดค้าน)
- be opposed to+Ving (คัดค้าน)
- be no good+Ving (ไม่มีประโยชน์กับ)
- be no use+Ving (ไม่มีประโยชน์กับ)
- เคยชิน be/get/become+ used/accustomed + N หรือ Ving (ดูเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเรื่อง Use เพิ่มเติมท้ายหัวข้อครับ)
- do+[a lot of/a little/(not) much/some/the/Possessive adj(one's)]+Ving
(ไว้จะมาขยายความให้อีกทีครับในหัวข้อ do+....+Ving)
2) Helping Verb+inf w/o to = สูตรที่ 9)3) กลุ่ม Wh-words+ to-inf = สูตรที่ 11)4) กลุ่ม Adj+(for s/n หรือ of s/n)+to-inf ทั้งหมด
ยกเว้น adj ที่เป็น busy และ worth+Ving
5) กลุ่ม Mental Process Verb+Obj+(to be หรือ to have) = สูตรที่ 12)
ตัวอย่างกลุ่ม Mental Process = กระบวนการเชิงความคิด
จำหมวดหลักง่าย ๆ ดังนี้ --> เห็นว่า,เชื่อว่า,เดาว่า,ประมาณการ,รู้อยู่แก่ใจ
- เห็นว่า = see, find, consider
- เชื่อว่า = believe, maintain, take, reckon
- เดาว่า = rpesume, reckon, guess
- ประมาณการ = estimate(ประเมินว่า), calculate(คำนวณว่า)
- รู้อยู่แก่ใจ = know(รู้ว่า), acknowledge(รู้ว่า), understand(เข้าใจว่า)
กลุ่มที่ 2: มี inf w/o to ร่วมแบ่งเป็น 3 Sections
1) กล่มควบ 2 มี make, let, have + inf w/o to หรือ V3 = สูตรที่ 7) ข้อแตกต่างในการใช้งาน inf w/o to --> ใช้ในกรณี Active; V3 ---> ใช้ในกรณี Passive
โครงสร้าง
make s/n do sth --> บังคับใครให้ทำอะไร
make sth done --> เป็นที่รู้จัก (โครงสร้าง make ทั้งหมดจะแสดงไว้ในเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยท้ายบทครับ)
let s/n do sth --> ปล่อยใครให้ทำอะไร
let sth done ---> (ไม่มั่นใจความหมายไว้จะหามาเสริมให้อีกทีครับ)
have/get s/n do sth ---> ให้ใครทำอะไร
หรือ s/n to do sth
have/get sth done by s/n ---> ให้ใครทำอะไรโดยที่ตัวเองไม่ได้ทำ
2) กลุ่มควบ 3 คือ Verb+Obj+inf w/o to หรือ Ving หรือ V3 = สูตรที่ 8/1) ข้อแตกต่างการใช้งาน inf w/o to = เน้น result (Active)
Ving = เน้น Process (Active)
V3 = ถูกกระทำ (Passive)
มี 7 คำ แบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ
- กลุ่มประสาทรับรู้ see(เห็น), hear(ได้ยิน), feel(รู้สึก), smell(ได้กลิ่น)
- กลุ่มสังเกต watch, notice, observe
3) กลุ่ม Verb+Obj+Adj เป็นกลุ่มเพิ่มเติมของกลุ่มควบ 3 = สูตรที่ 8/2)สูตรนี้เราจะเห็นบ่อยและใช้เยอะ (ควรจำอย่างยิ่งครับ) มี 7 กลุ่มย่อย
นำมาจากกลุ่มควบ 3 (กระสาทรับรู้และสังเกต), ชอบ, ต้องการ, ลงมือทำ, กระทำบางอย่าง, นอกกลุ่ม
- นำมาจากกลุ่มควบ 3 --> see, hear, feel, smell, watch, notice, observe
- กลุ่มชอบ --> like, love
- กลุ่มต้องการ --> want, consider, wish
- กลุ่มลงมือทำ --> make, get, set
- กลุ่มการกระทำ (แปลตรงตัว) --> paint(ทาสี), wipe(เช็ดปัดกวาด), keep(รักษา), lick(เลีย)
- นอกกลุ่ม 2P --> perfer(ชอบมากกว่า), precive(รับรู้)
กลุ่ม 3: กลุ่ม Ving
1) ความหมายเปลี่ยนใช้ Ving หรือ to-inf = สูตรที่ 1 ข้อแตกต่างการใช้งาน to-inf ใช้ในกรณีต้องการเน้น และเป็นภาพนิ่ง
Ving ใช้ในกรณีที่เป็นการกระทำ ภาพเคลื่อนไหว
มี 6 กลุ่ม
- กลุ่มชอบ like, love, hate
- Ving แปลว่า ใช้ในกรณีทั่ว ๆ ไป
- to-inf แปลว่า เน้นย้ำ ชี้เฉพาะ [มี to เพิ่ม พยางค์เหมือนเน้น ๆ]
- หยุด Stop
- Ving = หยุดในการทำสิ่งนั้น ๆ [เป็นภาพขยับแล้วก็ต้องตัดฉากเป็นภาพนิ่ง]
- to-inf = หยุดเพื่อจะทำอะไรต่อ [ภาพนิ่งแล้วก็จะมีการทำต่อ]
- พยายาม/ลอง try
- Ving = ลอง [เช่น ลองเสื้อ จะเห็นว่าขณะลองจะต้องมีการขยับเนื้อขยับตัว]
- to-inf = พยายาม [ภาพนิ่ง ในการคิดว่าจะต้องทำอะไรต่อ]
- จำได้/เสียใจ/ลืม remember, regret, forget
- Ving = สิ่งที่เป็นอดีต ทำมาแล้ว [ภาพที่มีการทำบางสิ่งบางอย่างอยู่ผ่านมาแล้ว]
- to-inf = สิ่งที่เป็นอนาคต [ภาพนิ่งเป็นจุด ๆ คิดถึงอนาคต]
- เรียน/เรียนรู้ learn
- Ving = เรียน [สิ่งที่คนอื่นสอน]
- to-inf = เรียนรู้ [รู้ได้ด้วยตนเองจากประสบการณ์ส่วนตัว]
- จำเป็นต้อง need [อยู่ใน helping verb ให้จำสลับที่กันจะจำง่ายกว่า]
- to-inf = จำเป็นต้อง --> รูป active
- Ving = need to be+V3 --> รูป passive
- ตั้งใจ/หมายความว่า mean
- Ving = ตั้งใจที่จะ [ทำบางอย่าง จะดูเหมือนภาพขยับ]
- to-inf = หมายความว่า [การบรรยายเรื่อง]
2) กลุ่ม Verb+Ving อย่างเดียว = สูตรที่ 2/1)มี 5 กลุ่มย่อย --> ทนไม่ได้, จิตนาการ, พฤติกรรม, รังเกียจ, ขอโทษ
- ทนไม่ได้ที่จะ not bare, not help, not stand
- จินตนาการ imagine, fancy
- พฤติกรรม practise(ฝึกฝน), risk(เสี่ยง), enjoy(สนุก)
- ปิดกั้น/รังเกียจ mind#not mind(รังเกียจ#ไม่รังเกียจ), hinder(ขัดขวาง), excuse(ห้าม), prevent(ป้องกัน)
- อภัย/ขอโทษ drop(หล่น,ปล่อย), pardon(ขอโทษ), forgive(ให้อภัย), confess(สารภาพ), finish(จบ,เสร็จ)
3) กลุ่ม Verb+Possesive(one's)+Ving = สูตรที 2/2)แยกย่อยเป็น 4 หมวด
- มาจาก 2/1--> enjoy, mind, risk
- เลื่อน put off --> postpone(เลื่อนเวลา), defer(ขอเลื่อน), delay(ชักช้า,ช้าลง)
- หนี/ปฏิเสธ (เชิงลบ) --> avoid(หลีกเลี่ยง), deny(ปฏิเสธ)
- แนะนำ/พิจารณา --> suggest(แนะนำ), consider(พิจารณา)
กลุ่มที่ 4: กลุ่ม Verb+to-infเป็นกลุ่มสุดท้ายผมแยก เป็น 3 section ย่อยดังนี้ครับ
1) ตามหลัง to-inf อย่างเดียว = สูตรที่ 4) - ดูเหมือนว่า --> seem, appear
- ตั้งใจ/เอาใจใส่ --> ตั้งใจ(determine, decide, mean), เอาใจใส่(care)
- คาดหวัง/ได้โดยบังเอิญ --> คาดหวัง(hope, wish), บังเอิญ(happen)
- จัดให้ได้ = afford, manage
- กลุ่มเอกสาร
จัดเรียง(arrange), เสนอ(offer), รับรอง(undertake), สัญญา(promise), หลอกลวง(pertend), พิสูจน์(prove), ปฏิเสธ(refuse)
- อื่น ๆ แปลตามตัว
มา(come), กำหนด(be bound), รีบเร่ง(hurry), พลาดพลั้ง(fail), กล้า(dare), เปลี่ยนแปลง(change)
2) Verb+(Obj)+to-inf = สูตรที่ 5) - ตั้งใจ --> ask, intend, mean
- กลุ่มชอบ/รัก/เกลี่ยด --> like, love, hate
- กลุ่มคาดหวัง/หวังว่า --> expect(คาดหวัง), wish(ปรารถนา), want(ต้องการ), beg(อ้อนวอน), choose(เลือก)
3) Verb+s/n+to-inf = สูตรที่ 6)
แบ่งเป็น 5 ส่วนย่อย
- บังคับ/สั่ง/บอก/ขอร้อง
- บังคับ --> compel, force, oblige, press
- สั่ง = order, บอก = tell, ขอร้อง = request
- สอน/ตักเตือน --> teach(สอน), instruct(สอน), advise(แนะนำสั่งสอน), warn(ตักเตือน)
- เชื้อเชิญ/ยั่วยวน --> tempt(ยั่วยวน), persuade(เชื้อเชิญ), invite(เชิ้อเชิญ)
- ยอม/อนุญาต --> allow(ยอม), permit(อนุญาต)
- นอกเหนือ --> cause(สาเหตุ), encourage(ให้กำลังใจ)
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
1. เรื่อง Use (ดูใน หัวข้อ 31) Used to/be Used to ประกอบอีกทีครับ)
Use มี 4 ความหมาย
เคย = used to+V1
เคยชิน = be/get/become+ used/accustomed to+N/Ving
ใช้ = use+Obj
ถูกใช้ = be used (รูป passive voice)
2. เรื่อง Makeมี 5 โครงสร้างหลัก
- make s/n do sth --> บังคับใครให้ทำอะไร
Ex. He made me stay at school until 5 PM. (เขาบังคับให้ผมอยู่ที่โรงเรียนจนถึง 5 โมงเย็น)
- make+Obj+adj ---> ทำให้...
Ex. The teacher makes the lession interesting. (ครูคนนี้ทำให้ประเด็นการสอนดูน่าสนใจ)
- make it + adj + (for s/n) + to-inf --> ทำให้มัน... (เป็นการเน้น)
Ex. The teacher makes it easy to understand the lecture. (ครูคนนี้ทำให้มันง่ายต่อความเข้าใจใน lecture นี้)
- make+อาชีพ = V to be + อาชีพ --> ทำอาชีพ...
Ex. I am an engineer. = I make an engineer. (ผมทำอาชีพวิศวกร)
- make+s/n+ตำแหน่ง(w/o artical) = ทำในตำแหน่ง... (ไม่ต้องใส่ artical a/an/the)
Ex. We made him captain of the team. (พวกเราแต่งตั้งให้เขาเป็นกัปตันทีม)
make เสริมจาก verb pattern
- make sth done --> เป็นที่รู้จัก
สรุป
เนื้อหาของ verb pattern ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด แม้ว่าตอนแรกผมจะไม่คิดว่าสำคัญเลย
แต่พอเมื่อเราใช้พูด อ่าน เขียน เราก็เลยรู้เลยว่า หลาย ๆ ทีเราใช้ไวยกรณ์ผิด
และหลายครั้งความหมายมีการผิดเพี้ยนไปได้
รวมถึงหากเราสามารถจำ pattern ได้มันจะเป็นเหมือนกลุ่มคำในภาษาไทยที่เราสามารถหยิบ
เป็นจิ๊กซอต่อประโยค ต่อคำได้
ความรู้เบื้องต้น
1. Verb แท้Verb = Verb แท้ ซึ่ง Verb แท้คือ Verb ที่ผันได้ตาม Tense (อยู่ในหัวข้อที่ 1 Tense)
2. Verb ไม่แท้
คือ Verb ที่ไม่มีการผันตาม Tense
มีอยู่ 4 ชนิด
1) Ving
2) V3
3) to-infinitive (to-inf) = to+V1
4) infinitive without to(inf w/o to) = V1
จากที่เรียนมาทั้งหมดจะมีทั้งสิ้น 12 สูตรซึ่งเพื่อให้ง่ายต่อการจำ
ทางผมจึงจัดกลุ่มใหม่ตาม Verb ไม่แท้จึงเหลือ 4 กลุ่มใหญ่
แล้วก็แตกย่อยเป็น 12 กลุ่มอีกทีหนึ่ง
รูป/สูตรสูตรทื่ 1) Verb+Ving หรือ Verb+to-inf แต่ความหมายเปลี่ยน
สูตรทื่ 2) Verb+Ving ได้อย่างเดียว และ Verb+(one's)+Ving
สูตรทื่ 3) Preposition+Ving หรือ Noun (อันนี้ผมแทรกเพิ่ม)
สูตรทื่ 4) Verb+to-inf
สูตรทื่ 5) Verb+(Obj)+to-inf
สูตรทื่ 6) Verb+to-inf
สูตรทื่ 7) Verb+Obj+inf w/o to หรือ Verb+Obj+V3
สูตรทื่ 8) Verb+Obj+inf w/o to อย่างเดียว และ Verb+Obj+Adj
สูตรทื่ 9) Helping Verb+ inf w/o to
สูตรทื่ 10) Adj+ (for s/n หรือ of s/n)+to-inf
สูตรทื่ 11) Wh-words+to-inf
สูตรทื่ 12) Verb+Obj+to be หรือ to have
หมายเหตุตัวย่อ
Verb = Verb แท้ที่มีการผัน tense
Ving = Verb ที่มีการใช้รูป ing มาต่อท้าย
V1 = Verb ช่องที่ 1 ที่ไม่มีการผัน คือ การเติม s หรือ es ต่อท้าย = do (เวลาเขียนเป็นโครงสร้างเช่น make s/n do sth --> do = V1)
V3 = Verb ช่องที่ 3 ส่วนมากจะเห็นพวก เติม ...ed
to-inf = to infinitive = to+V1
inf w/o to = infinitive without to = V1
Helping Verb = Verb ช่วย ได้แก่ can, could, will, would, shall, should, may, might เป็นต้น (ดูรายละเอียด helping verb อีกทีนะครับ)
s/n = someone = ใช้แทนคน หรือชื่อคน เช่น my, your, his, her เป็นต้น
one's = แสดงความเป็นเจ้าของ เช่น yours, his, hers, its เป็นต้น
Wh-word = พวกที่ขึ้นต้นด้วย Wh รวม how เช่น what, where, when, why, who, which, how, whose เป็นต้น
Obj = Object = กรรมของประโยค ส่วนมากเป็นคำนาม
to be = verb to be ได้แก่ is/am/are/be/was/were/been ---> รูปเชิงไวยกรณ์ใช้ be/were/been
to have = verb to have ได้แก่ has/have/had --> รูปเชิงไวยกรณ์ใช้ have/had
เทคนิคการจดจำของผมจะอิงจากการจัดกลุ่มแล้วก็อิงตามความรู้เดิมสรุปได้ดังนี้ครับ
กลุ่มที่ 1: กลุ่มที่ทราบกันอยู่แล้ว หรือใช้ได้กับทุก ๆ กรณี1) Preposition+N หรือ Ving เท่านั้น = สูตรที่ 3)กรณีเฉพาะที่ใช้กับ Ving เท่านั้น
- devote to+Ving (อุทิศให้กับ)
- object to+Ving (คัดค้าน)
- be opposed to+Ving (คัดค้าน)
- be no good+Ving (ไม่มีประโยชน์กับ)
- be no use+Ving (ไม่มีประโยชน์กับ)
- เคยชิน be/get/become+ used/accustomed + N หรือ Ving (ดูเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเรื่อง Use เพิ่มเติมท้ายหัวข้อครับ)
- do+[a lot of/a little/(not) much/some/the/Possessive adj(one's)]+Ving
(ไว้จะมาขยายความให้อีกทีครับในหัวข้อ do+....+Ving)
2) Helping Verb+inf w/o to = สูตรที่ 9)3) กลุ่ม Wh-words+ to-inf = สูตรที่ 11)4) กลุ่ม Adj+(for s/n หรือ of s/n)+to-inf ทั้งหมด
ยกเว้น adj ที่เป็น busy และ worth+Ving
5) กลุ่ม Mental Process Verb+Obj+(to be หรือ to have) = สูตรที่ 12)
ตัวอย่างกลุ่ม Mental Process = กระบวนการเชิงความคิด
จำหมวดหลักง่าย ๆ ดังนี้ --> เห็นว่า,เชื่อว่า,เดาว่า,ประมาณการ,รู้อยู่แก่ใจ
- เห็นว่า = see, find, consider
- เชื่อว่า = believe, maintain, take, reckon
- เดาว่า = rpesume, reckon, guess
- ประมาณการ = estimate(ประเมินว่า), calculate(คำนวณว่า)
- รู้อยู่แก่ใจ = know(รู้ว่า), acknowledge(รู้ว่า), understand(เข้าใจว่า)
กลุ่มที่ 2: มี inf w/o to ร่วมแบ่งเป็น 3 Sections
1) กล่มควบ 2 มี make, let, have + inf w/o to หรือ V3 = สูตรที่ 7) ข้อแตกต่างในการใช้งาน inf w/o to --> ใช้ในกรณี Active; V3 ---> ใช้ในกรณี Passive
โครงสร้าง
make s/n do sth --> บังคับใครให้ทำอะไร
make sth done --> เป็นที่รู้จัก (โครงสร้าง make ทั้งหมดจะแสดงไว้ในเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยท้ายบทครับ)
let s/n do sth --> ปล่อยใครให้ทำอะไร
let sth done ---> (ไม่มั่นใจความหมายไว้จะหามาเสริมให้อีกทีครับ)
have/get s/n do sth ---> ให้ใครทำอะไร
หรือ s/n to do sth
have/get sth done by s/n ---> ให้ใครทำอะไรโดยที่ตัวเองไม่ได้ทำ
2) กลุ่มควบ 3 คือ Verb+Obj+inf w/o to หรือ Ving หรือ V3 = สูตรที่ 8/1) ข้อแตกต่างการใช้งาน inf w/o to = เน้น result (Active)
Ving = เน้น Process (Active)
V3 = ถูกกระทำ (Passive)
มี 7 คำ แบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ
- กลุ่มประสาทรับรู้ see(เห็น), hear(ได้ยิน), feel(รู้สึก), smell(ได้กลิ่น)
- กลุ่มสังเกต watch, notice, observe
3) กลุ่ม Verb+Obj+Adj เป็นกลุ่มเพิ่มเติมของกลุ่มควบ 3 = สูตรที่ 8/2)สูตรนี้เราจะเห็นบ่อยและใช้เยอะ (ควรจำอย่างยิ่งครับ) มี 7 กลุ่มย่อย
นำมาจากกลุ่มควบ 3 (กระสาทรับรู้และสังเกต), ชอบ, ต้องการ, ลงมือทำ, กระทำบางอย่าง, นอกกลุ่ม
- นำมาจากกลุ่มควบ 3 --> see, hear, feel, smell, watch, notice, observe
- กลุ่มชอบ --> like, love
- กลุ่มต้องการ --> want, consider, wish
- กลุ่มลงมือทำ --> make, get, set
- กลุ่มการกระทำ (แปลตรงตัว) --> paint(ทาสี), wipe(เช็ดปัดกวาด), keep(รักษา), lick(เลีย)
- นอกกลุ่ม 2P --> perfer(ชอบมากกว่า), precive(รับรู้)
กลุ่ม 3: กลุ่ม Ving
1) ความหมายเปลี่ยนใช้ Ving หรือ to-inf = สูตรที่ 1 ข้อแตกต่างการใช้งาน to-inf ใช้ในกรณีต้องการเน้น และเป็นภาพนิ่ง
Ving ใช้ในกรณีที่เป็นการกระทำ ภาพเคลื่อนไหว
มี 6 กลุ่ม
- กลุ่มชอบ like, love, hate
- Ving แปลว่า ใช้ในกรณีทั่ว ๆ ไป
- to-inf แปลว่า เน้นย้ำ ชี้เฉพาะ [มี to เพิ่ม พยางค์เหมือนเน้น ๆ]
- หยุด Stop
- Ving = หยุดในการทำสิ่งนั้น ๆ [เป็นภาพขยับแล้วก็ต้องตัดฉากเป็นภาพนิ่ง]
- to-inf = หยุดเพื่อจะทำอะไรต่อ [ภาพนิ่งแล้วก็จะมีการทำต่อ]
- พยายาม/ลอง try
- Ving = ลอง [เช่น ลองเสื้อ จะเห็นว่าขณะลองจะต้องมีการขยับเนื้อขยับตัว]
- to-inf = พยายาม [ภาพนิ่ง ในการคิดว่าจะต้องทำอะไรต่อ]
- จำได้/เสียใจ/ลืม remember, regret, forget
- Ving = สิ่งที่เป็นอดีต ทำมาแล้ว [ภาพที่มีการทำบางสิ่งบางอย่างอยู่ผ่านมาแล้ว]
- to-inf = สิ่งที่เป็นอนาคต [ภาพนิ่งเป็นจุด ๆ คิดถึงอนาคต]
- เรียน/เรียนรู้ learn
- Ving = เรียน [สิ่งที่คนอื่นสอน]
- to-inf = เรียนรู้ [รู้ได้ด้วยตนเองจากประสบการณ์ส่วนตัว]
- จำเป็นต้อง need [อยู่ใน helping verb ให้จำสลับที่กันจะจำง่ายกว่า]
- to-inf = จำเป็นต้อง --> รูป active
- Ving = need to be+V3 --> รูป passive
- ตั้งใจ/หมายความว่า mean
- Ving = ตั้งใจที่จะ [ทำบางอย่าง จะดูเหมือนภาพขยับ]
- to-inf = หมายความว่า [การบรรยายเรื่อง]
2) กลุ่ม Verb+Ving อย่างเดียว = สูตรที่ 2/1)มี 5 กลุ่มย่อย --> ทนไม่ได้, จิตนาการ, พฤติกรรม, รังเกียจ, ขอโทษ
- ทนไม่ได้ที่จะ not bare, not help, not stand
- จินตนาการ imagine, fancy
- พฤติกรรม practise(ฝึกฝน), risk(เสี่ยง), enjoy(สนุก)
- ปิดกั้น/รังเกียจ mind#not mind(รังเกียจ#ไม่รังเกียจ), hinder(ขัดขวาง), excuse(ห้าม), prevent(ป้องกัน)
- อภัย/ขอโทษ drop(หล่น,ปล่อย), pardon(ขอโทษ), forgive(ให้อภัย), confess(สารภาพ), finish(จบ,เสร็จ)
3) กลุ่ม Verb+Possesive(one's)+Ving = สูตรที 2/2)แยกย่อยเป็น 4 หมวด
- มาจาก 2/1--> enjoy, mind, risk
- เลื่อน put off --> postpone(เลื่อนเวลา), defer(ขอเลื่อน), delay(ชักช้า,ช้าลง)
- หนี/ปฏิเสธ (เชิงลบ) --> avoid(หลีกเลี่ยง), deny(ปฏิเสธ)
- แนะนำ/พิจารณา --> suggest(แนะนำ), consider(พิจารณา)
กลุ่มที่ 4: กลุ่ม Verb+to-infเป็นกลุ่มสุดท้ายผมแยก เป็น 3 section ย่อยดังนี้ครับ
1) ตามหลัง to-inf อย่างเดียว = สูตรที่ 4) - ดูเหมือนว่า --> seem, appear
- ตั้งใจ/เอาใจใส่ --> ตั้งใจ(determine, decide, mean), เอาใจใส่(care)
- คาดหวัง/ได้โดยบังเอิญ --> คาดหวัง(hope, wish), บังเอิญ(happen)
- จัดให้ได้ = afford, manage
- กลุ่มเอกสาร
จัดเรียง(arrange), เสนอ(offer), รับรอง(undertake), สัญญา(promise), หลอกลวง(pertend), พิสูจน์(prove), ปฏิเสธ(refuse)
- อื่น ๆ แปลตามตัว
มา(come), กำหนด(be bound), รีบเร่ง(hurry), พลาดพลั้ง(fail), กล้า(dare), เปลี่ยนแปลง(change)
2) Verb+(Obj)+to-inf = สูตรที่ 5) - ตั้งใจ --> ask, intend, mean
- กลุ่มชอบ/รัก/เกลี่ยด --> like, love, hate
- กลุ่มคาดหวัง/หวังว่า --> expect(คาดหวัง), wish(ปรารถนา), want(ต้องการ), beg(อ้อนวอน), choose(เลือก)
3) Verb+s/n+to-inf = สูตรที่ 6)
แบ่งเป็น 5 ส่วนย่อย
- บังคับ/สั่ง/บอก/ขอร้อง
- บังคับ --> compel, force, oblige, press
- สั่ง = order, บอก = tell, ขอร้อง = request
- สอน/ตักเตือน --> teach(สอน), instruct(สอน), advise(แนะนำสั่งสอน), warn(ตักเตือน)
- เชื้อเชิญ/ยั่วยวน --> tempt(ยั่วยวน), persuade(เชื้อเชิญ), invite(เชิ้อเชิญ)
- ยอม/อนุญาต --> allow(ยอม), permit(อนุญาต)
- นอกเหนือ --> cause(สาเหตุ), encourage(ให้กำลังใจ)
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
1. เรื่อง Use (ดูใน หัวข้อ 31) Used to/be Used to ประกอบอีกทีครับ)
Use มี 4 ความหมาย
เคย = used to+V1
เคยชิน = be/get/become+ used/accustomed to+N/Ving
ใช้ = use+Obj
ถูกใช้ = be used (รูป passive voice)
2. เรื่อง Makeมี 5 โครงสร้างหลัก
- make s/n do sth --> บังคับใครให้ทำอะไร
Ex. He made me stay at school until 5 PM. (เขาบังคับให้ผมอยู่ที่โรงเรียนจนถึง 5 โมงเย็น)
- make+Obj+adj ---> ทำให้...
Ex. The teacher makes the lession interesting. (ครูคนนี้ทำให้ประเด็นการสอนดูน่าสนใจ)
- make it + adj + (for s/n) + to-inf --> ทำให้มัน... (เป็นการเน้น)
Ex. The teacher makes it easy to understand the lecture. (ครูคนนี้ทำให้มันง่ายต่อความเข้าใจใน lecture นี้)
- make+อาชีพ = V to be + อาชีพ --> ทำอาชีพ...
Ex. I am an engineer. = I make an engineer. (ผมทำอาชีพวิศวกร)
- make+s/n+ตำแหน่ง(w/o artical) = ทำในตำแหน่ง... (ไม่ต้องใส่ artical a/an/the)
Ex. We made him captain of the team. (พวกเราแต่งตั้งให้เขาเป็นกัปตันทีม)
make เสริมจาก verb pattern
- make sth done --> เป็นที่รู้จัก
สรุป
เนื้อหาของ verb pattern ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด แม้ว่าตอนแรกผมจะไม่คิดว่าสำคัญเลย
แต่พอเมื่อเราใช้พูด อ่าน เขียน เราก็เลยรู้เลยว่า หลาย ๆ ทีเราใช้ไวยกรณ์ผิด
และหลายครั้งความหมายมีการผิดเพี้ยนไปได้
รวมถึงหากเราสามารถจำ pattern ได้มันจะเป็นเหมือนกลุ่มคำในภาษาไทยที่เราสามารถหยิบ
เป็นจิ๊กซอต่อประโยค ต่อคำได้