เลือกหุ้นอย่างไรดี
การลงทุน เปรียบเหมือนการปลูกต้นไม้
ต้องดูแลเอาใจใส่
พอโตขึ้นมาหน่อย จะปล่อยทิ้งปล่อยขว้างมันก็ยังโตต่อไปได้
จึงไม่มีสูตรสำเร็จในการเลือกหุ้นตัวไหนดี
เพราะทุกตัวก็เสี่ยงในแบบของมัน
ดังนั้น จึงต้องมีการติดตามดูแลอย่างดี
หากหุ้นตัวนี้กำลังไปได้ดี ก็อาจจะเพิ่มการลงทุน
หากหุ้นตัวนี้กำลังย่ำแย่ ก็อาจจะลดการลงทุนลงได้ ไม่มีอะไรตายตัว
แต่เพื่อให้การลงทุนแล้วได้ผลดี ได้ผลตอบแทนมากเพียงพอ
ต้องพิจารณาว่า
กิจการที่เราลงทุนไปนั้น
ช่วยให้ผู้คน มีชีวิตที่ดีขึ้นไหม
มีคนที่ได้ประโยชน์จากสิ่งที่เราลงทุนไปนั้นมากไหม
คือ
ถ้ามีคนได้ประโยชน์จำนวนมาก
กิจการนั้นก็จะได้รับผลตอบแทนมามากเป็นธรรมดา
หรือสิ่งที่เราลงทุนไปนั้น ทำลายคนอื่นไหม
หากทำลายชีวิตความเป็นอยู่ของคนอื่น
ก็แสดงว่ากิจการนั้นไม่ใช่กิจการที่น่าลงทุน
เราอย่ามองเพียงตัวเลขทางบัญชีที่เพิ่มขึ้นมา
เพราะบางอย่างที่เราลงทุนไปนั้น
ก่อให้เกิดผลร้ายต่อคนอื่นในจำนวนมาก
กิจการนี้ก็คงจะล้มหายตายจากไปไม่ช้าก็เร็ว
ยกตัวอย่าง
กิจการน้ำเมาทั้งหลาย
แม้ว่ามันจะสามารถทำเงินได้มหาศาล
ผมก็จะไม่เลือกหุ้นตัวนี้เข้าพอร์ตเด็ดขาด
(ส่วนคนอื่นๆ จะคิดอย่างไร ก็ตามแต่ใจของคุณ)
หรืออย่างตอนนี้ เรื่องหวยบนดิน
จะมีบางบริษัทที่ได้ประโยชน์จากโอกาสตรงนี้
แต่ถ้ามองโดยภาพรวมแล้ว
คนได้ประโยชน์น้อย
เพราะนอกจากไม่ได้แก้ปัญหา (เรื่องหวยใต้ดิน เรื่องนิสัยนักพนันของคนไทย)
กลับไปส่งเสริมปัญหาให้มากขึ้น
สิ่งใดที่เห็นว่าเป็นปัญหา ต้องเริ่มต้นที่จะแก้ไข อีกร้อยปีสำเร็จก็ยังมีวันเริ่ม
แต่การหมกปัญหาไว้ เปรียบเหมือนกับการกวาดบ้าน แล้วเห็นขยะหยากเหยื่อกองอยู่
ก็เอาไม้กวาด ปัดเข้าไปไว้ใต้เตียง
เมื่อไหร่ห้องจะสะอาด
อย่างในตัวอย่างนี้ ผมก็จะไม่เลือกหุ้นตัวนี้เข้ามาในพอร์ต
(ถ้าเคยมีอยู่ก็จะเอาออกจากพอร์ตด้วยเช่นกัน แม้ว่าราคามันจะไปได้อีกไกลโข)
ผมเชื่ออยู่อย่างหนึ่งคือ
คนที่ได้เงินเดือนสูงๆ
มักมาจากความสามารถที่เขาทำประโยชน์ต่อผู้คนได้มาก (หรือต่อองค์กรได้มาก)
ธุรกิจต่างๆ ก็เช่นกัน
ธุรกิจที่เติบโตสูง ก็มาจากประโยชน์ที่ลูกค้าได้รับนั่นเอง
ยิ่งลูกค้าได้รับประโยชน์ฺมากเท่าใด ผลตอบแทนสู่ผู้ลงทุนก็มากเท่่านั้น
นี่เป็นหลักธรรมชาติง่ายๆ
คุณจึงต้องเป็นผู้พิจารณากันเอาเองว่า
หุ้นตัวไหน เป็นหุ้นที่น่าจะมีประโยชน์ต่อผู้คนมากๆ
เพราะสิ่งทึ่คุณมอง อาจจะตรงข้ามกับที่ผมมองก็ได้ครับ
ต้องดูแลเอาใจใส่
พอโตขึ้นมาหน่อย จะปล่อยทิ้งปล่อยขว้างมันก็ยังโตต่อไปได้
จึงไม่มีสูตรสำเร็จในการเลือกหุ้นตัวไหนดี
เพราะทุกตัวก็เสี่ยงในแบบของมัน
ดังนั้น จึงต้องมีการติดตามดูแลอย่างดี
หากหุ้นตัวนี้กำลังไปได้ดี ก็อาจจะเพิ่มการลงทุน
หากหุ้นตัวนี้กำลังย่ำแย่ ก็อาจจะลดการลงทุนลงได้ ไม่มีอะไรตายตัว
แต่เพื่อให้การลงทุนแล้วได้ผลดี ได้ผลตอบแทนมากเพียงพอ
ต้องพิจารณาว่า
กิจการที่เราลงทุนไปนั้น
ช่วยให้ผู้คน มีชีวิตที่ดีขึ้นไหม
มีคนที่ได้ประโยชน์จากสิ่งที่เราลงทุนไปนั้นมากไหม
คือ
ถ้ามีคนได้ประโยชน์จำนวนมาก
กิจการนั้นก็จะได้รับผลตอบแทนมามากเป็นธรรมดา
หรือสิ่งที่เราลงทุนไปนั้น ทำลายคนอื่นไหม
หากทำลายชีวิตความเป็นอยู่ของคนอื่น
ก็แสดงว่ากิจการนั้นไม่ใช่กิจการที่น่าลงทุน
เราอย่ามองเพียงตัวเลขทางบัญชีที่เพิ่มขึ้นมา
เพราะบางอย่างที่เราลงทุนไปนั้น
ก่อให้เกิดผลร้ายต่อคนอื่นในจำนวนมาก
กิจการนี้ก็คงจะล้มหายตายจากไปไม่ช้าก็เร็ว
ยกตัวอย่าง
กิจการน้ำเมาทั้งหลาย
แม้ว่ามันจะสามารถทำเงินได้มหาศาล
ผมก็จะไม่เลือกหุ้นตัวนี้เข้าพอร์ตเด็ดขาด
(ส่วนคนอื่นๆ จะคิดอย่างไร ก็ตามแต่ใจของคุณ)
หรืออย่างตอนนี้ เรื่องหวยบนดิน
จะมีบางบริษัทที่ได้ประโยชน์จากโอกาสตรงนี้
แต่ถ้ามองโดยภาพรวมแล้ว
คนได้ประโยชน์น้อย
เพราะนอกจากไม่ได้แก้ปัญหา (เรื่องหวยใต้ดิน เรื่องนิสัยนักพนันของคนไทย)
กลับไปส่งเสริมปัญหาให้มากขึ้น
สิ่งใดที่เห็นว่าเป็นปัญหา ต้องเริ่มต้นที่จะแก้ไข อีกร้อยปีสำเร็จก็ยังมีวันเริ่ม
แต่การหมกปัญหาไว้ เปรียบเหมือนกับการกวาดบ้าน แล้วเห็นขยะหยากเหยื่อกองอยู่
ก็เอาไม้กวาด ปัดเข้าไปไว้ใต้เตียง
เมื่อไหร่ห้องจะสะอาด
อย่างในตัวอย่างนี้ ผมก็จะไม่เลือกหุ้นตัวนี้เข้ามาในพอร์ต
(ถ้าเคยมีอยู่ก็จะเอาออกจากพอร์ตด้วยเช่นกัน แม้ว่าราคามันจะไปได้อีกไกลโข)
ผมเชื่ออยู่อย่างหนึ่งคือ
คนที่ได้เงินเดือนสูงๆ
มักมาจากความสามารถที่เขาทำประโยชน์ต่อผู้คนได้มาก (หรือต่อองค์กรได้มาก)
ธุรกิจต่างๆ ก็เช่นกัน
ธุรกิจที่เติบโตสูง ก็มาจากประโยชน์ที่ลูกค้าได้รับนั่นเอง
ยิ่งลูกค้าได้รับประโยชน์ฺมากเท่าใด ผลตอบแทนสู่ผู้ลงทุนก็มากเท่่านั้น
นี่เป็นหลักธรรมชาติง่ายๆ
คุณจึงต้องเป็นผู้พิจารณากันเอาเองว่า
หุ้นตัวไหน เป็นหุ้นที่น่าจะมีประโยชน์ต่อผู้คนมากๆ
เพราะสิ่งทึ่คุณมอง อาจจะตรงข้ามกับที่ผมมองก็ได้ครับ