101 ปฏิบัติการพลิกชีวิต ตอนที่ 21 "รถเก๋งป้ายแดง?"

ผมคงต้องยอมรับและไม่สามารถปฏิเสธความจริงได้ว่า ค่านิยมของสังคมไทยในปัจจุบันนั้นยึดติดกับคำว่า “ดูดี” จนยากที่จะสลัดออกจากความคิดของผู้คนส่วนใหญ่ในสังคมจริงๆ โดยเฉพาะเรื่องของการมีรถยนต์

“ขอไว้สักอย่างไม่ได้หรือ?”
“มันจำเป็นจริงๆ เพราะผมต้องออกไปพบลูกค้าทุกวัน”
“ถ้าไม่มีรถ ใครจะไปรับ-ส่งลูก?”

     เพราะเหตุนี้สิ่งหนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็น เรื่องยากลำบากที่สุดในการพาคุณไปในเส้นทางของการเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อ พลิกชีวิต คือ การบอกให้คุณตัดใจไม่ก่อหนี้จากการซื้อรถใหม่

     ผมยังคงยืนยันว่า การ “ดิ้นรน” เป็นหนี้เพียงเพราะต้องการซื้อรถป้ายแดงสักคัน ถึงแม้มันจะช่วยให้คุณรู้สึก “ดูดี” ขึ้นมา แต่มันก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่ทำให้คุณฉลาดขึ้นนัก และโอกาสที่จะทำให้คุณ “รวย” มีอิสรภาพทางการเงินก็ดูจะไม่ง่ายสักเท่าไร

     แต่เมื่อมันยากที่จะเปลี่ยนความคิดที่ฝังรากลึกอยู่ในตัวคุณ ขนาดนี้ ถ้ายังยืนกรานจะซื้อรถใหม่ สิ่งที่ดีที่สุดที่พอจะทำได้ คือ การเตือนสติให้ข้อคิดที่คุณควรตระหนักในบางประการ

     คุณเชื่อหรือไม่ว่า รถใหม่ป้ายแดงนั้นเป็นทรัพย์สินที่มีอัตราการเสื่อมราคาที่รวดเร็วจนน่า อัศจรรย์ใจจริงๆ เพราะ คือ ทันทีที่คุณถอยรถป้ายแดงออกมาจากศูนย์ฯ ภายใน 1 ปี ราคารถคันนั้นของคุณจะตกฮวบลง 15-20% และภายในเวลา 4 ปี ราคาจะตกฮวบลงถึง 1/3 ของราคาที่คุณซื้อมา

     ยกตัวอย่างหากคุณถอยรถป้ายแดงออกมาในราคา 1 ล้านบาท ภายใน 1 ปี ราคาของมันจะลดลงเหลือเพียงประมาณ 8-8.5 แสนบาทเท่านั้น และภายใน 4 ปี ราคาจะลดลงเหลือเพียงประมาณ 6.5-6.8 แสนบาทเท่านั้น 

     ยิ่งในยุคสมัยนี้ ที่ค่ายรถยนต์มีการแข่งขันกันค่อนข้างสูง ทำให้มีการปล่อยรถรุ่นใหม่ที่ดูโฉบเฉี่ยว ทันสมัย ออกมา “ยั่ว” กิเลสบรรดามนุษย์ที่อยากดูดีทั้งหลายกันเกือบทุกปี

     บางคนอาจจะเถียงว่า ที่ต้องการซื้อรถใหม่เพราะมีระยะเวลารับประกัน (Warranty) แต่ คำถามที่น่าคิดก็คือ มันคุ้มหรือไม่ ในเมื่อมูลค่าการรับประกันที่คุณได้มานั้น มันต้องแลกกับเม็ดเงินที่หดหายไปถึง 3-3.5 แสนบาท ใน4ปีเชียวนะครับ

     ลองเปลี่ยนทัศนคติใหม่เถอะครับ ยังไม่สายจนเกินไป หากคุณไม่ต้องการเป็นคนธรรมดาทั่วไป ที่ยึดติดกับค่านิยม “ดูดี” ลองนำข้อเสนอของผมไปพิจารณาใคร่ครวญดูให้ดีนะครับ

     เริ่มจากการประเมินศักยภาพทางการเงินของตัวเองว่ามีกำลังพอที่จะจ่ายเงิน เพื่อซื้อรถในราคาสักเท่าไร ซึ่งผมแนะนำว่า คุณไม่ควรซื้อรถที่มีราคาแพงกว่าครึ่งหนึ่งของรายได้ต่อปีของคุณ เพื่อไม่ให้ต้องแบกภาระเกินตัวมากจนเกินไป

     ยกตัวอย่างหากคุณมีรายได้ประมาณปีละ 1 ล้านบาท ก็หมายความว่า รถในฝันของคุณน่าจะมีสนนราคาไม่เกิน 5 แสนบาท 

     เมื่อคุณตัดสินใจแน่แล้วว่าจะยอมกู้เงินมาผ่อนซื้อรถคันใหม่ เพื่อให้ไม่ต้องเดือดร้อน หรือกระทบค่าใช้จ่ายมากจนเกินไปนัก หลักคิดง่ายๆคือ ควรมีเงินดาวน์อย่างน้อย 20% และค่างวดไม่ควรเกิน 10% ของรายได้ต่อเดือน ในระยะเวลาไม่เกิน 4 ปี

     คำแนะนำในเรื่องนี้ของผมอาจจะดู “โหดร้าย” ไปหน่อย แต่คิดให้ดีนะครับว่า คุณอยากจะดูดี ทำตัวเหมือน คนรวย แต่ในที่สุดมันอาจจะเป็นสาเหตุให้ชีวิตคุณ “ย่ำอยู่กับที่” หรือค่อยๆ “จม” กลับลงไปเรื่อยๆอีกหรือไม่  

     คิดทบทวนดูอีกสักครั้ง ถ้าคุณต้องการเพียงพาหนะคันใหม่ ที่จะใช้ในการรับ-ส่งคุณไปบ้านและที่ทำงาน ทำไมคุณไม่เลือกซื้อรถยนต์มือสองที่มีอายุสัก1-2 ปี ที่อาจจ “ดูไม่ดี” เท่ารถป้ายแดง แต่ราคาก็ถูกกว่ารถใหม่ถึง 30-40%

     ถ้าคุณทำได้ ราคาของการยอมให้คนอื่นใช้รถของคุณไปสักปีสองปี ไม่เพียงคุณจะได้ครอบครองรถในฝันของคุณ มันยังช่วยให้คุณประหยัดเงินไปได้ก้อนโตทีเดียวครับ 

“รถมือสองจะไว้ใจได้หรือ จะมีปัญหาจุกจิกตามมาหรือเปล่า”

     คำพูดนี้อาจจะจริงในอดีต แต่ปัจจุบันตลาดรถมือสองกำลังเติบโตอย่างมากในบ้านเรา บรรดาค่ายรถยนต์หรูๆส่วนใหญ่ ต่างมีการเปิดแผนกรถมือสองกันเกือบทั้งนั้น เพราะยังมีคนที่ทนกิเลสตัวเองไม่ไหว อยาก “ดูดี” เหมือนคุณจำนวนหนึ่งที่นิยมเปลี่ยนรถใหม่ เหมือนเปลี่ยนเสื้อผ้าตามแฟชั่น

     ที่น่าเศร้าไปกว่านั้น ยังมีผู้คนอีกจำนวนหนึ่งที่อยาก “ดูดี” จนเกินฐานะ และต้องชีวิตต้อง “อัปปาง” จบบทบาทของตัวเองลงเพราะถูก “ยึด”รถ เมื่อไม่สามารถผ่อนค่างวดได้

     สำหรับบางคนที่มีรถใช้อยู่แล้ว และกำลังคิดจะเปลี่ยนรถใหม่ แต่ยังรีๆรอๆไม่กล้าตัดสินใจ หลักคิดง่ายๆในเรื่องนี้ก็คือ ลองประเมินค่าซ่อมหรือค่าบำรุงรักษารถคันเก่าของคุณดูว่า มันมีจำนวนสูงกว่าครึ่งหนึ่งของราคาท้องตลาดของไอ้เจ้าเก๋งคันเก่าของคุณ หรือไม่  

     ถ้าคำตอบจากเต้นท์รถมืองสองใกล้บ้านคุณ ที่เขาตีราคารถของคุณสูงกว่าค่าซ่อมบำรุงในหนึ่งปีเกิน 1 เท่าตัว ใช้ต่อไปอีกสักพักก็พอไหวครับ

     ในเวลาเดียวกัน ลองคำนวณดูว่า ค่าผ่อนงวดรถในหนึ่งปีที่คุณจะต้องจ่ายออกไป หากคุณไปถอยรถเก๋งคันใหม่ที่หมายตาเอาไว้ออกมาจากศูนย์ฯ มีราคาต่ำกว่า ค่าซ่อมบำรุงรถคันเก่าในหนึ่งปีหรื่อไม่

     ถ้าคำตอบคือ ค่าซ่อมแพงกว่า การจ่ายค่างวดในหนึ่งปี ก็เดินหน้าหารถคันใหม่เถอะครับ เพราะแสดงว่า ไอ้เจ้ารถคันเก่าของคุณมันหมดสภาพ จึงคุ้มกว่าหากจะถอยรถใหม่ออกมา 

     แน่นอน! เมื่อคุณเริ่มเดินเข้าสู่เส้นทางการเปลี่ยนแปลงจนมาถึงจุดนี้ เมื่อมีเงินในกระเป๋าเหลือมากขึ้น หัวใจของคุณอาจสั่นรัวทุกครั้งเมื่อเห็นโฆษณารถยนต์หรูที่แสน “โดนใจ” ยิ่งเวลาเห็นมันโฉบเฉี่ยวอยู่บนถนน แต่มันก็ “ท้าทาย” ไปอีกแบบนะครับ หากคุณสามารถเอาชนะ ไอ้เจ้าเสียงเล็กๆที่คอยมากระซิบข้างหูคุณได้สำเร็จ

     ใช่! มันอาจไม่ดูเริด มีกลิ่นใหม่ และขับเคลื่อนดุจฝันเหมือนรถป้ายแดง แต่มันก็ยังคงเป็นพาหนะที่ยังคงสามารถทำหน้าที่ รับ-ส่ง คุณและคนที่คุณรักให้ไปถึงเป้าหมายได้เหมือนกันไม่ใช่หรือครับ!

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘