101 ปฏิบัติการพลิกชีวิต (ตอนที่ 14 ลด ละ เลิก)

คุณเคยสังเกตไหมครับว่า ทุกวันนี้ไม่ว่าคุณจะอยู่ในตำแหน่งใดขององค์กรที่คุณทำงานอยู่ ตั้งแต่เสมียนไปจนถึงผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานนั้นๆ สิ่งที่ทุกองค์กรพยายามจะปลูกฝังให้เป็นค่านิยม หรือ วัฒนธรรมในองค์กรอย่างหนึ่ง คือ การประหยัด
  
     หลายหน่วยงานมีการรณรงค์กันอย่างเอิกเกริกให้ประหยัดน้ำ ดับไฟ ปิดแอร์ เวลาพักเที่ยง ประหยัดกระดาษ และอีกจิปาถะ เพื่อควบคุมค่าใช้จ่าย โดยมีเป้าหมายสูงสุด คือ การทำกำไรให้กับองค์กร

     ไม่เพียงแค่คุณทุกคนในองค์กรก็ปฎิบัติตามกฏเหล็กเหล่านั้นอย่าง เคร่งครัด แต่เคยย้อนคิดไหมครับว่า จะมีสักกี่คนที่สามารถจัดการกับเรื่องเงินๆทองๆของตัวเอง หรือครอบครัวได้เหมือนกับที่ปฎิบัติกับหน่วยงาน หรือองค์กรที่ตัวเองทำงานอยู่
  
     ที่ผ่านมาผมพยายามชี้ให้เห็นถึงพิษภัยของการเป็นหนี้สิน และแนวทางในการบริหารหนี้สินที่คุณมีอยู่ โดยใช้หลักการของการจัดลำดับความสำคัญในการล้างหนี้ จากหนี้ก้อนเล็ก ไล่ไปจนถึงหนี้ก้อนใหญ่ ภายใต้การหลักการ “กลิ้ง”ของ ลูกบอลหิมะ (Snow ball) เพื่อสร้างแรงผลักให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผมเชื่อว่าหลายคนก็เริ่มวางแผนเพื่อปฎิบัติการพลิกชีวิตกันแล้ว

     อย่างไรก็ตามมีสิ่งหนึ่งที่ผมอาจจะเห็นต่างจากตำราเกี่ยว กับการบริหารเงินส่วนบุคคลส่วนใหญ่ ที่มักจะไม่สนับสนุนการก่อหนี้ทุกประเภท แต่ผมเห็นว่า หนี้อาจไม่ใช่สิ่งต้องห้ามเสมอไป หากมันทำให้เรามีโอกาสในการสร้างประโยชน์หรือรายได้เพิ่มมากขึ้นในอนาคต

     เพราะอย่างนั้นการเป็นหนี้ที่เกิดจากการกู้เงินเพื่อมาซื้อบ้าน จึงเป็นสิ่งที่ไม่เลวร้าย และยอมรับได้ เนื่องจากมันคือการลงทุนที่ดีอย่างหนึ่ง อย่างน้อยก็ดีกว่าที่คุณจะเสียค่าเช่าบ้านไปฟรีๆทุกเดือน และคุณยังจะมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นจากราคาบ้านในอนาคต
   
     สำหรับหนี้ที่เกิดจากการกู้เงินเพื่อซื้อรถยนต์นั้น หลายคนอาจจะแก้ตัวอ้างว่า มันมีประโยชน์ในเรื่องของการเป็นพาหนะในการเดินทาง แต่ผมคิดว่าไม่ใช่ทางเลือกที่ควรทำสักเท่าไร เพราะหากลองพิจารณาจากรายจ่ายของชนชั้นกลางส่วนใหญ่ จะพบว่าต้องหมดไปกับภาระที่ตามมาจากไอ้เจ้าปัจจัยที่ 5 นี้ถึงกว่าครึ่ง

     ลองไล่มาตั้งแต่ ค่างวดผ่อนรถทุกเดือน ค่าน้ำมันในแต่ละสัปดาห์ ไปจนถึงค่าล้างรถ ซ่อมรถ หรือแม้แต่ค่าจอดรถ มันคือ พาหนะ หรือ ภาระ กันแน่  
  
     ทำไมไม่ลองทบทวนดูให้ดีว่าคุณใช้ประโยชน์มันอย่างคุ้มค่าหรือไม่ หรือลึกๆแล้วก็เพียงเพราะไอ้เจ้าเสียเล็กๆ มันมากระซิบที่ข้างหูคุณว่า มันทำให้คุณ“ดูดี”ในสายตาคนอื่นเท่านั้น

     ถ้ามันมีประโยชน์เพียงแค่การเป็นพาหนะรับส่งคุณไปบ้านและที่ทำงาน ทำไมคุณไม่เลือกซื้อรถยนต์มือสองที่มีอายุสัก1-2 ปี ที่อาจจ “ดูไม่ดี” เท่ารถป้ายแดง แต่ราคาก็ถูกกว่ารถใหม่ถึงเกือบครึ่ง

     หากคุณไม่ปฏิเสธความจริง ก็คงต้องยอมรับว่า เพียงเพราะพวกเราอยู่ในสังคม ”ป้ายแดง” ทำให้จะมีสักกี่คนเมื่อตัดสินใจซื้อรถจะถามเซลล์แมน เซลล์เกิร์ล ในโชว์รูมที่ตัวเองเดินเฉิดฉายเข้าไปว่า หากซื้อเงินสดราคาเท่าไร แต่คำถามแรกที่คุณจะถามก็คือ “คันนี้ดาวน์เท่าไร” “ผ่อนเดือนละเท่าไร”

     กลับมาเรื่องการล้างหนี้ เชื่อผมเถอะครับยังไม่สายเกินไป จงรีบจัดการกับหนี้ที่คุณมีอยู่ให้เร็วที่สุด เพราะเมื่อคุณสามารถจัดการหนี้สินให้หมดไปได้ คุณก็จะเริ่มรู้สึก “หลุดพ้น” มีอิสระที่จะคิดเรื่องการเพิ่มเงินในกระเป๋าของคุณให้งอกเงยมากขึ้น
  
     ในเวลาเดียวกัน การบังคับตัวเองให้ล้างหนี้สินให้หมดเร็วเท่าไร ยังเท่ากับเป็นการช่วยเพิ่มทรัพย์สินให้กับคุณเร็วขึ้นเท่านั้น
  
     ตรงกันข้าม คนที่มีภาระหนี้สินมักจะอยู่ในฐานะที่ไม่ “กล้า” แม้แต่จะคิดเปลี่ยนงานได้ตามใจต้องการ ซึ่งบางครั้งมันอาจจะกลายเป็นโซ่ตรวนที่ล่ามคุณไว้ ไม่ให้มีโอกาสจะได้งานดีๆ เพราะถูกพันธนาการเอาไว้ด้วยพันธะทางการเงินที่สร้างเอาไว้

     ที่สำคัญ ตราบใดที่มีหนี้สินพระรุงพะรังอยู่เต็มไปหมด ไม่มีประโยชน์อะไรหรอกครับที่คุณจะคิดจะหาเงินจากการลงทุนทั้งๆ เพราะคงเป็นเรื่อง “เสี่ยง” อย่างมากหากผิดพลาด เนื่องจากหายนะครั้งใหญ่อาจจะตามมาแบบไม่ทันตั้งตัว

     คำถามต่อไปก็คือ จะเริ่มล้างหนี้อย่างไร แผนตัดค่าใช้จ่ายส่วนตัวของคุณ คือจุดเริ่มต้น หากคุณไม่ต้องการเป็นเพียงคนธรรมดาที่มีชีวิตผูกติดอยู่กับคำว่า “ดูดี”

     เพียงแค่ ลด-ละ-เลิก พฤติกรรมที่เคยผลาญเงินของคุณในอดีตลง แล้วนำเงินที่เคยใช้ในส่วนนั้นไปล้างหนี้ก้อนแรกให้สำเร็จ

ตัวอย่างพฤติกรรม ลด-ละ-เลิก
ลด    
-  สังสรรค์ทุกเย็นหลังงานกับพรรคพวก เหลือเพียง เดือนละ 1 ครั้ง
-  ดูภาพยนต์ทุกสัปดาห์ เหลือเพียง เดือนละ 1-2 เรื่อง
-  ทานอาหารหรูๆตามภัตตาคาร โรงแรม เหลือเพียงเดือนละ 1 ครั้ง
ละ
-  จิบกาแฟที่สตาร์บัคยามเช้า -บ่ายทุกวัน
เลิก
-  การช็อปปิ้งซื้อ สินค้า “แบรนด์เนม” และ“สมบัติบ้า” ที่ไร้ค่า
-  วิ่งตามเทคโนโลยี โดยเฉพาะ โทรศัพท์มือถือ และ Note Book รุ่นใหม่
-  สมาชิกฟิตเนส นิตยสารผู้หญิง กอสซิบดารา

     ทำได้เพียงเท่านี้ รับรองว่าความรู้สึกของการไม่ได้เป็นคนธรรมดาอีกต่อไปของคุณมันจะช่วยสร้าง แรงกระตุ้นชดเชยสิ่งที่คุณเสียไปให้คุณได้อย่างมหาศาล  

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘