การฝึกมโนมยิทธิ โดย หลวงพ่อพระมหาวีระ ถาวโร (ต่อ)


หลวงพ่อ : "เออ...กราบท่านนะ ลาท่านไปหาท่านลุงพญายมนะ ให้แม่ทั้ง ๓ พาไปด้วยนะ ตั้งใจไป ถึงหรือยัง...?"
เปี๊ยก : "เหมือนลงมานะคะ"
หลวงพ่อ : "ถึงหรือยังลูก...?"
เปี๊ยก : "ถึงแล้วค่ะ"
หลวงพ่อ : "ต้องถึงลูก แป๊บเดียวก็ถึง ที่นี่เขานึกแป๊บเดียวมันถึงเลยใช่ไหม...?"
เปี๊ยก : "เห็นมีองค์หนึ่งยืนอยู่"
หลวงพ่อ : "เข้าไปไหว้ท่าน ถามท่านว่าท่านคือลุงพุฒใช่ไหม...?"
เปี๊ยก : "ท่านยิ้มค่ะ"
หลวงพ่อ : "ท่านยิ้มเหรอ ท่านแต่งตัวยังไง...?"
เปี๊ยก : "ท่านอ้วนนะคะ"
หลวงพ่อ : "ลุงแกปล่อยพุงอีกแล้ว กราบท่านบอกไอ้พุงโต ๆ นี่สมัยเป็นมนุษย์ไม่ต้องการ ต้องการในสมัยที่อยู่ที่นี่ ถ้าภาพเป็นพรหม ท่านทำไงสวยหรือยัง...?"
เปี๊ยก : "สวยค่ะ แต่ยังไม่ชัดค่ะ"
หลวงพ่อ : "เราต้องเชื่อจิต ถ้าไม่ชัดนะ ขอบารมีท่านลุงว่าหลานได้มีโอกาสมานมัสการท่านลุงเพราะโอกาสน้อยที่จะมาได้ ยาก ขอท่านลุงให้หลานเห็นชัด ๆ หลานอยากจะชมความงาม และบารมีของท่านลุง"
เปี๊ยก : "หนูกราบเท้าท่าน ท่านก้มลงมาค่ะ"
หลวงพ่อ : "เห็นชัดขึ้นไหม...?"
เปี๊ยก : "ค่ะ รู้สึกชัดขึ้น ท่านยิ้มค่ะ"
หลวงพ่อ : "แล้วต้องการอะไรจากท่านลุงอีกไหม เดี๋ยวก่อน มีปู่อีกคนหนึ่งที่เป็นนายบัญชี ว่าขอพบท่านด้วยนั่นน่ะควรจะเป็นทวดแล้ว"
เปี๊ยก : "ท่านยืนต่อไปอีกค่ะ"
หลวงพ่อ : "แต่งตัวคล้ายกันไหม...?"
เปี๊ยก : "คล้าย ๆ กันค่ะ"
หลวงพ่อ : "ดูแต่งตัวสีเดียวกันใช่ไหม...?"
เปี๊ยก : "ค่ะ"
หลวงพ่อ :  "ชมบารมีดูซิ ถามท่านลุง ความจริงลุงพุฒนี่เป็นพี่ชายหลวงพ่อ อีกองค์ท่านเป็นลุงของหลวงพ่อ ต้องเป็นปู่นะ อยากจะดูเวลาที่ท่านชำระความ บริเวณห้องโถงที่ชำระความมีอะไรบ้าง ตอนนั้นท่านลุงกับท่านปู่แต่งตัวแบบไหนนั่งแบบไหนขอเห็น ท่านทำให้เห็นหรือยัง...?"
เปี๊ยก : "เห็นเป็นที่สูงข้างบน ข้างล่างเตี้ยลงมามีเตียงค่ะ"
หลวงพ่อ : "มีเตียงเดียวหรือ ๓ เตียง ห้องโถงสวยไหม...?"
เปี๊ยก : "รู้สึกว่าห้องกว้างค่ะ"
หลวงพ่อ : "ขอให้ท่านปู่กับท่านลุงแล้วก็ท่านแม่ทั้ง ๓ ขอได้โปรดประทานให้เห็นให้ชัดขอความกรุณาท่านนะ เห็นชัดขึ้นไหม...มีความแพรวพราวสวยเหมือนบนสวรรค์ไหม...?"
เปี๊ยก : "ไม่เหมือนค่ะ"
หลวงพ่อ : "อับ ๆ กว่าหน่อยใช่ไหม แต่ก็สวยเหมือนกัน"
เปี๊ยก :  "ค่ะ ใช่"
หลวงพ่อ : "แสงน้อยกว่าใช่ไหม...?"
เปี๊ยก : "ใช่ค่ะ"
หลวงพ่อ : "แสงน้อยกว่าเพราะอันนี้เป็นชั้นของจาตุมหาราชลูก ต้องแสงน้อยกว่าหน่อยนะ และก็ดูบริเวณที่ท่านปู่กับท่านลุงยืนอยู่เห็นคนที่กำลังมีทุกข์มานั่งหรือ หมอบอยู่ไหม...?"
เปี๊ยก : "ความรู้สึกมีคนก้มหน้าฟุบอยู่ที่แท่นคนหนึ่ง"
หลวงพ่อ :  "ถามเขาเป็นอะไรตาย...?"
เปี๊ยก : "เขาไม่ตอบค่ะ"
หลวงพ่อ : "ถามเขาไม่ตอบ ถ้างั้นก็อุทิศส่วนกุศลเลยนะ ว่าบุญใดที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมาแล้วเริ่มต้นมาจนบัดนี้ถึง ๑๖ อสงไขยกับแสนกัป บุญนี้จะพึงมีประโยชน์แก่ข้าพเจ้าเพียงใด ขอท่านจงโมทนาบุญนี้ รับผลความสุขเช่นเดียวกับข้าพเจ้าตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป"
เปี๊ยก : "ความรู้สึกเหมือนเขาเงยหน้าลุกขึ้นค่ะ"
หลวงพ่อ : "เอ้อ ดูซิ เขาเปลี่ยนแปลงไปไหม...?"
เปี๊ยก : "ก็สว่างขึ้นค่ะ"
หลวงพ่อ : "สว่างขึ้นดูเขาแต่งตัวเป็นยังไง...?"
เปี๊ยก : "แต่งตัวเหมือนเทวดา แต่องค์ไม่ค่อยใหญ่มากค่ะ"
หลวงพ่อ : "แต่งตัวเหมือนเทวดา แต่สวยน้อยกว่าเทวดาที่เราเห็นใช่ไหม...?"
เปี๊ยก : "ใช่ค่ะ"
หลวงพ่อ :  "นั่นเพราะอาศัยบารมีเขาน้อยใช่ไหม เขาอาศัยบุญจากเราให้ อันนี้เราควรภูมิใจนะ ว่าบุญที่เรามีอยู่ว่าผีที่ตายแล้วมีโอกาสได้โมทนาบุญ แค่โมทนาบุญเขาก็สามารถเป็นเทวดาได้นะ"
เปี๊ยก :  "ค่ะ"
หลวงพ่อ : "แล้วก็ดีใจ เวลาใกล้จะหมดลาท่านลุง ท่านปู่นะ แล้วก็กราบท่านแม่ทั้ง ๓ กราบท่านปู่ด้วยนะ ลาท่านกลับที่นะ แล้วขอพรท่านปู่ว่า โอกาสหน้าถ้ามาขอให้พาไปเที่ยวดูนรกด้วย ท่านว่าไง...?"
เปี๊ยก : "ท่านยิ้มยกมือขึ้นจับหัวหนูค่ะ"
หลวงพ่อ : "เอ้อ วันนี้ดีใจไหม เที่ยวได้...?"
เปี๊ยก : "ดีใจมาก เพราะเป็นความหวังที่ต้องการไว้ค่ะ"
หลวงพ่อ :  "วันนี้ถ้าไม่เกงานก็ไม่ได้สินะ เป็นอันว่าเวลาหมดละนะ"

(จบคำแนะนำการฝึกมโนมยิทธิ)

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘