การฝึกมโนมยิทธิ โดย พระอาจินต์ ธมมจิตโต


การฝึกมโนมยิทธิ
พระอาจินต์ ธมมจิตโต - ครูฝึก
คุณปรีชา เศวตประสาธน์ - ผู้รับการฝึก

ครู : "อันดับดับแรก ขอให้ทำใจสบาย ๆ อย่าเกร็งเกินไป ไม่ต้องกำหนดลมหายใจเข้าออก ไม่ต้องภาวนาแล้ว ทำใจสบาย ๆ มาก ๆ และขอให้ตัดสินใจให้ดีว่าเราเกิดมาชาตินี้ มีร่างกายอย่างนี้ ขอให้พิจารณาดูซิว่า การเกิดมามีร่างกายอย่างนี้มันมีความสุขหรือมันมีความทุกข์ สุขมากหรือว่าทุกข์ ขอให้คิดดูให้ดีสักนิดหนึ่ง เราจะได้รู้ตามความเป็นจริงว่าร่างกายของเรานี้เป็นทุกข์ ร่างกายของบุคคลอื่นก็เป็นทุกข์เช่นเดียวกัน และเราไม่ปรารถนาที่จะมีร่างกายนี้อีกต่อไป ตัดสินใจอย่างนี้เพื่อช่วยกำลังใจของเราให้มีความปลอดโปร่ง ให้มีความแจ่มใส
และ ขอให้ตั้งใจอุทิศส่วนกุศลความดีที่ได้เคยทำมาแล้วตั้งแต่ต้นจนบัดนี้ ว่า ขออุทิศส่วนกุศลนี้ให้แก่ท่านผู้มีพระคุณทั้งหมด อันได้แก่ บิดา มารดา ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย และสรรพสัตว์ทั้งหลายที่มีความทุกข์ ขอให้ทุก ๆ ท่าน ทุก ๆ พระองค์ จงโมทนาในกุศลเจตนาของข้าพเจ้าในวันนี้ด้วย และขอให้ทุก ๆ ท่าน ได้ช่วยเป็นกำลังใจแก่ข้าพเจ้าในวันนี้ ให้มีกำลังใจแจ่มใส ขอให้รู้สึกเห็นได้ตามความเป็นจริง เมื่อตั้งใจแผ่เมตตาไปเช่นนี้แล้ว อารมณ์ใจค่อยสบายดีกว่าเมื่อสักครู่นี้ไหม...?"
ศิษย์ : "สบายครับ"
ครู : "เมื่อจิตใจสบายดีแล้ว ไม่ห่วงใยสิ่งใดแล้ว ก็ขอตั้งใจนึกถึงองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าอีกวาระหนึ่ง ขอให้พระองค์ท่านได้ทรงโปรดเมตตาปรานีแก่ข้าพระพุทธเจ้า ช่วยโปรดแผ่พระบารมีของพระองค์ ปกคลุมอทิสสมานกาย และจิตใจของข้าพระพุทธเจ้า ให้มีอารมณ์ใจแจ่มใสรู้สึกสว่างขึ้นไหมตอนนี้...?"
ศิษย์ : "สว่างครับ"
ครู : "โปร่งใจขึ้นไหม...?"
ศิษย์ : "โปร่งครับ"
ครู : "นี่แหละแสดงถึงว่าด้วยพระบารมีของพระองค์ท่านทรงโปรดเมตตามายังเราแล้ว เมื่อเรานึกถึงสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าเช่นนี้แล้ว ลองใช้ความรู้สึกของใจซิว่า พระองค์นั้นอยู่ใกล้หรืออยู่ไกลหรืออยู่สูง ขอให้ใช้ความรู้สึกของใจในขณะนี้ ใจบอกว่าอย่างไร...?"
ศิษย์ : "อยู่ข้างหน้าครับ"
ครู : "ถูกต้อง ท่านนั่งหรือท่านยืนล่ะ...?"
ศิษย์ : "นั่ง"
ครู : "รู้สึกเป็นพระสงฆ์หรือพระพุทธรูป...?"
ศิษย์ : "พระพุทธรูปครับ"
ครู : "ดีมากเลยนะ เมื่อเห็นองค์ท่านเช่นนี้ ขอขอบคุณพระองค์ท่านที่ทรงโปรดเมตตานำจิตข้าพระพุทธเจ้าให้มีจิตใจแจ่มใส และขอให้พระองค์ท่าน ได้ทรงโปรดเมตตานำไปที่พระจุฬามณีเจดียสถานเลยนะ พอจะเห็นไหมพระจุฬามณีเจดียสถาน ถ้ารู้สึกว่าเห็นไกลขอให้น้อมใจเข้าไปใกล้ ๆ นะ ขอให้พระองค์ท่านได้ทรงโปรดเมตตานำไปให้ถึงด้วยนะใกล้หรือยัง...?"
ศิษย์ : "ใกล้แล้วครับ"
ครู : "ดูซิ ลักษณะของพระจุฬามณีที่เห็นอยู่ข้างหน้านี้เป็นเช่นไร ดูซิตามความรู้สึกของใจบอกว่าอย่างไร...?"
ศิษย์  :  (อึ้ง)
ครู : "มีอะไรล้อมรอบไหม...?"
ศิษย์ : "มี"
ครู : "รู้สึกว่ามีอะไรล้อมรอบ...?"
ศิษย์ : "รู้สึกว่าเป็นกำแพงล้อมรอบครับ"
ครู : "ถูกต้อง ยาวไหม...?"
ศิษย์ : "ยาวครับ"
ครู : "เห็นซุ้มประตูไหม...?"
ศิษย์ : "เห็นครับ"
ครู : "ดูซิซุ้มประตูที่เห็นน่ะ สวยงามไหม...?"
ศิษย์ : "สวยครับ"
ครู : "เป็นแก้วหรือเป็นทองล่ะ...?"
ศิษย์ : "เป็นแก้วครับ"
ครู : "เอาละ เข้าไปในซุ้มเลยนะ ขออนุญาตผู้ที่รักษาประตูเข้าไป ขอเข้าไปในเขตภายในพระจุฬามณีเจดียสถาน มีประตูตรงฐานพระจุฬามณีไหม...?"
ศิษย์ : "มีครับ"
ครู : "ใหญ่ไหม...?"
ศิษย์ : "ใหญ่ครับ"
ครู : "สูงไหม...?"
ศิษย์ : "สูงครับ"
ครู : "เอาละขอเข้าไปเลยนะ อย่าลังเลใจนะ ตัดสินใจว่าลูกขอตั้งใจ ขอเข้าไปกราบองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ภายในเขตจุฬามณีเจดียสถาน ขอพระองค์ท่านช่วยโปรดสงเคราะห์เป็นกำลังใจแก่ข้าพระพุทธเจ้าด้วยนะ พระองค์ประทับที่ใดในเขตพระจุฬามณีแห่งนี้ ขอได้โปรดเมตตา ปรากฏพระรูปพระโฉมของพระองค์ให้ข้าพระพุทธเจ้าเห็นด้วยนะ เห็นหรือยังตอนนี้...?"
ศิษย์ : "เห็นครับ"
ครู : "อยู่สูงไหม...?"
ศิษย์ : "สูงครับ"
ครู : "สว่างขึ้นไหมเมื่อเข้ามาภายในพระจุฬามณีแห่งนี้...?"
ศิษย์ : "สว่างครับ"
ครู : "สบายใจขึ้นไหม...?"
ศิษย์ : "สบายใจครับ"
ครู : "เห็นตัวเราไหมเมื่ออยู่ข้างบนนี้...?"
ศิษย์ : "เห็นครับ"
ครู : "เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมไหม...?"
ศิษย์ : "เปลี่ยนครับ"
ครู : "ตัวเล็กหรือตัวใหญ่...?"
ศิษย์ :  "เล็ก"
ครู : "มีเครื่องทรงบ้างไหม...?"
ศิษย์ : "มี"
ครู : "เป็นแก้วหรือเป็นทอง...?"
ศิษย์ : "เป็นแก้ว"
ครู : "ดีมากนะ เพราะฉะนั้นขอกราบพระพุทธองค์ซึ่งอยู่ในเขตภายในพระจุฬามณีเจดียสถานแห่งนี้ ขอขอบพระคุณ และขอแสดงคารวะทุกท่าน มีใครยืนอยู่ใกล้ ๆ เราไหม...?"
ศิษย์ : "หลวงพ่อ"
ครู : "ดีมากนะ กราบขอบพระคุณหลวงพ่อ ที่โปรดเมตตานำลูกขึ้นมา และขอให้หลวงพ่อนำไปกราบทุก ๆ ท่าน ซึ่งอยู่ในเขตนี้ เห็นเยอะไหม...?"
ศิษย์ : "เยอะครับ"
ครู : "ไปกราบท่านทุก ๆ พระองค์นะ เราจะได้มีความเคยชิน เมื่อเราได้ขึ้นมาบนนี้แล้วไปกราบท่าน กราบให้ทั่วเลยนะ ท่านนั่งอยู่ตรงไหนเราก็สามารถกราบท่านได้ ไม่ต้องเกรงกลัวท่านนะ ท่านมีความใจดี สว่างไหม แต่ละองค์ ๆ น่ะ...?"
ศิษย์ : "สว่างครับ"
ครู : "มีผู้หญิงบ้างไหม...?"
ศิษย์ : "มีครับ"
ครู : "แต่งตัวกันสวย ๆ ไหม...?"
ศิษย์ : "สวยครับ"
ครู : "ตอนนี้ขอให้เข้าไปในหมู่ที่ท่านนั่งเยอะเลยนะ ไม่ต้องกลัวท่านนะ เข้าไป จะได้กราบท่านมาก ๆ ท่านนั่งตั้งแถวยาวเพียงใดเราพยายามกราบให้หมดเลยนะ จะได้ทั่วถึงทุก ๆ องค์ องค์ไหนสว่างที่สุดพยายามเข้าไปหาองค์นั้นนะ มีไหม...?"
ศิษย์ : "มี"
ครู : "นั่งมองท่านสักครู่หนึ่งนะ เพื่อเป็นกำลังใจของเราให้ผ่องใส องค์นั้นสว่างมากไหม เป็นแก้วหรือยังตอนนี้...?"
ศิษย์ : "เป็นแล้ว"
ครู : "ทั้งองค์ไหม...?"
ศิษย์ : "ทั้งองค์"
ครู : "ดูไว้นะ อย่าใช้กำลังใจหนักนะ อย่าเกาะร่างกายปล่อยมันเสีย เราขึ้นมาได้แล้วด้วยกำลังใจของเรา อย่าเกาะร่างกายอีก ห่วงไหมร่างกาย...?"
ศิษย์ : "ไม่ห่วง"
ครู : "ดีมาก กำลังใจดีนะ ต่อไปก็จะขอพาไปดูภายในพระจุฬามณีสถานอีกจุดหนึ่ง ขอให้ข้าพระพุทธเจ้าได้มีโอกาสเห็นพระเขี้ยวแก้ว และพระเมาฬีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ประดิษฐานอยู่ภายในพระ จุฬามณีสถานนี้ด้วยนะ ขอให้มีโอกาสได้เห็นตามความเป็นจริงพระพุทธเจ้าข้า เห็นไหมครับ...?"
ศิษย์ : "เห็นครับ"
ครู : "เป็นไง ลักษณะที่เห็นข้างหน้า ดูซิว่ามีสิ่งใดใส่พระเขี้ยวแก้ว"
ศิษย์ : "เห็นอยู่ในพาน"
ครู : "พระพุทธองค์ประทับอยู่ตรงนั้นด้วยไหม...?"
ศิษย์ : "อยู่ครับ"
ครู : "กราบท่านเลยนะ กราบใกล้ ๆ พาน กราบใกล้ ๆ พระพุทธองค์นะ เห็นท่านชัดขึ้นไหมตอนนี้...?"
ศิษย์ : "ชัดครับ"
ครู : "เห็นใบหน้าท่านไหม...?"
ศิษย์ : "เห็นครับ"
ครู :  "ดูไว้นะ พระเมาฬีที่อยู่บนพานมีความสวยสว่างเพียงใด เห็นแล้วชื่นใจเพียงใด เรามีโอกาสจะเห็นได้ยากน่ะ ขออาราธนาบารมีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และด้วยอานุภาพของพระเมาฬี ได้โปรดแผ่พระบารมีครอบคลุมจิตใจ และอทิสมานกานของลูกด้วย เพื่อช่วยให้แจ่มใสยิ่ง ๆ ขึ้นไปนะ ลูกไม่ปรารถนาสิ่งใดอีกแล้ว นอกจากพระนิพพานเท่านั้น ต่อไปขอไปพระนิพพานเลยนะ ขอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้โปรดพาไปที่นิพพานตามพระองค์ท่านไปนะ เห็นวิมานสักหลังไหม...?"
ศิษย์ :  "เห็นครับ"
ครู : "เข้าไปใกล้ ๆ นะ เข้าไปที่วิมานที่เห็นอยู่ไม่ไกลนักเข้าไปให้ถึง เข้าไปตรงนั้น ตัดสินใจให้เด็ดขาดนะ ว่าชาตินี้ขอเป็นชาติสุดท้ายสำหรับข้าพระพุทธเจ้า ไม่ปรารถนาในการที่จะมีร่างกายอีกต่อไป ร่างกายอันแสนสกปรก ไม่ต้องการ เข้าไปหาองค์สมเด็จฯ นะ ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ เรานี่แล้ว เข้าไปหาท่านนะ น้อมใจเข้าไปทำได้ไหม...?"
ศิษย์ : "ได้ครับ"
ครู : "กราบท่านหรือยัง...?"
ศิษย์ : "กราบแล้ว ท่านนั่ง"
ครู : "นั่งแบบไหน...?"
ศิษย์ : "ห้อยพระบาท"
ครู : "ถูกต้อง ดีมากนะ เข้าไปแล้วสว่างดีไหม เข้าไปให้ถึง ตั้งใจเข้าไปอีกหน่อย อย่าห่วงร่างกายนะ ถ้าความรู้สึกยังห่วงลมหายใจอยู่จงปล่อยมันเสีย มันหนัก เราเอาใจไป เห็นตัวเราเองชัดขึ้นไหม...?"
ศิษย์ : "เห็นครับ"
ครู : "มีเครื่องทรงไหม...?"
ศิษย์ : "มี"
ครู : "ดูซิ มีชฎาใส่ไหม...?"
ศิษย์ : "มี"
ครู : "นั่นแหละตัวเราจริง ๆ ตัวนั้นเขาเรียก อทิสสมานกาย ขอให้ยอมรับความเป็นจริงว่ากายนั้นเป็นกายจริง ๆ ของเรา ไม่ใช่กายเนื้อ เมื่อกายเนื้อตายไปแล้ว ไม่มีอะไรเหลือให้ทรงสภาพเป็นร่างกายอีกต่อไป แต่กายนี้แหละ คือกายจริง ๆ ของเรา ยังทรงอยู่ไม่สูญหายไปไหน กายเราเป็นแก้วอย่างนี้ ตัดความห่วงใยในร่างกายเสียให้หมดนะ ตัดสินใจให้แน่นอนว่า เราขอปรารถนาพระนิพพาน ขอบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าขอได้โปรดเมตตาแผ่พระบารมี ครอบคลุมจิตใจ และอทิสสมานกายของข้าพระพุทธเจ้า เพื่อความผ่องใสด้วยนะ ลูกตั้งใจแน่นอนขอมาพระนิพพานในชาตินี้
ต่อไปขออาราธนาบารมีของ พระองค์ท่าน ขอได้โปรดนำไปที่วิมานของข้าพระพุทธเจ้าบนพระนิพพานแห่งนี้ ขึ้นไปให้ถึงที่วิมานของเรานะ ขึ้นไหวไหม...?"
ศิษย์ : "ไหวครับ"
ครู : "สว่างขึ้นไหม...?"
ศิษย์ : "สว่างครับ"
ครู : "เป็นไง วิมานหลังใหญ่ไหม กว้างขวางไหม...?"
ศิษย์ :  "ใหญ่ครับ สูงครับ"
ครู : "เข้าไปข้างในเลยนะ เข้าไปในวิมานของเราพยายามเข้าไปให้ได้ เมื่อเข้าไปในวิมาน ก็หาที่นั่งของเราเองซึ่งอยู่ในเขตวิมานของเรา ตั้งใจแน่นอนว่าเราขอตัดสินใจมานิพพาน ไม่ขอห่วงใยร่างกายอีก ร่างกายเป็นทุกข์ข้าพเจ้าไม่ขอห่วงใย ร่างกายที่มีภาระอันหนัก ข้าพเจ้าไม่ขอห่วงใย ตายเป็นตาย ตายเมื่อใดขอมาพระนิพพาน กราบองค์สมเด็จท่านอีกครั้งหนึ่งซึ่งท่านอยู่ใกล้ ๆ เราแล้วขณะนี้ เห็นท่านชัดขึ้นไหม...?"
ศิษย์ : "ชัดครับ"
ครู : "สว่างไหมครับ รัศมีกายของพระองค์ท่าน...?"
ศิษย์ : "สว่าง"
ครู : "และขออาราธนาบารมีท่านอีกครั้งหนึ่งนะ ขอฉัพพรรณรังสีของพระองค์ท่านได้แผ่ปกคลุมอทิสสมานกายของข้าพระพุทธเจ้า ให้มีความแจ่มใสยิ่งขึ้น ดูใหม่ซิ ตอนนี้ร่างกายเราผ่องใสขึ้นไหม...?"
ศิษย์ : "ผ่องใสครับ"
ครู : "ดีนะ แสดงว่าเรารักนิพพานจริง ๆ มีความไม่อาลัยในชีวิตจริง ๆ เรามีความสุขฉันใดขอตั้งใจแผ่เมตตาให้บุคคลอื่นบ้าง ขอให้ทุก ๆ ท่านที่มีความทุกข์ขอจงมีความสุขเช่นเดียวกับข้าพเจ้า ตลอดจนผู้มีพระคุณก็ขอตั้งใจอุทิศให้ทั้งหมด จะเป็นบิดา มารดา เทวดา และพรหมทั้งหมด ก็ขอตั้งใจให้เช่นเดียวกัน และขอตั้งใจมาพระนิพพานเช่นเดียวกับทุกท่านมาถึงพระนิพพานแล้ว เป็นไง เห็นตัวเองชัดขึ้นไหม...?"
ศิษย์ : "เห็นครับ"
ครู : "เห็นสว่างขึ้นไหม...?"
ศิษย์ :  "สว่างครับ"
ครู : "ดูให้ทั่วสรรพางค์นะ นั่งให้สบายนะ บนที่นั่งของเรา จะดูด้านไหนก็ได้ นั่งไปก็ดูไป รอบ ๆ วิมานของเรา มีความสวยงามประการใด ทั่วบริเวณทั้งภายนอกและภายใน มีเสา เห็นเสาไหม...?"
ศิษย์ : "เห็น"
ครู : "เป็นไงสูงไหม...?"
ศิษย์ :  "สูง"
ครู : "มีลวดลายไหม...?"
ศิษย์ : "มี"
ครู : "เห็นเพดานไหม มีเครื่องประดับบนเพดานไหม...?"
ศิษย์ :  "เห็น"
ครู : "เห็นแท่นที่ประทับขององค์สมเด็จไหม...?"
ศิษย์ : "เห็น"
ครู : "เป็นไงสวยดีไหม...?"
ศิษย์ : "สวย"
ครู : "เป็นแก้วหรือเป็นทอง...?"
ศิษย์ : "เป็นแก้ว"
ครู : "เอาละ ดูไว้นะ ดูให้ทั่ว ๆ เลยนะ ดูตัวเราบ้าง ดูตัวองค์สมเด็จบ้าง จิตใจก็ตั้งใจแน่นอนว่า พระนิพพานมีความสุขอย่างนี้เราไม่ขอไปที่ไหนอีกแล้ว นอกจากพระนิพพานเท่านั้นไม่ปรารถนาความเป็นเทวดา ไม่ปรารถนาแห่งการเป็นพรหมอีกต่อไป มนุษย์เราก็ไม่ต้องการอีกแล้ว มีพระนิพพานเท่านั้น พยายามตัดสินใจอีกนิดหนึ่ง พิจารณาดูให้ดี ตัดความห่วงใยในร่างกายเสียให้ดี ร่างกายนั้นเป็นเพียงธาตุ ๔ เท่านั้น เกาะกุมคุมเป็นร่างกายอยู่ ไม่ช้าไม่นานร่างกายจะต้องตาย เมื่อตายแล้วก็เน่าเปื่อยไปผุพังไป สลายตัวไปในที่สุด ไม่ยืนยงคงอยู่ตลอดกาลตลอดสมัย ให้เป็นรูปร่างที่เราเคยเห็นอีก ไม่มีสิ่งใดเหลือเลย แม้แต่นิดเดียวนะ สลายไปกับกองไฟทั้งหมดทั้งสิ้น
ความ จริงเป็นเช่นนี้ เพราะฉะนั้นตัดสินใจให้ดีว่าเราปรารถนาอย่างเดียวคือพระนิพพานนะ เข้าไปกราบขอพรองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จิตใจของข้าพระพุทธเจ้ามีความรักมีความยึดมั่นในพระรัตนตรัย ถ้าปรารถนาพระนิพพานก็ขอให้จงได้สมปรารถนา เห็นพระองค์ท่านไหม...?"
ศิษย์ : "เห็นครับ"
ครู : "ท่านแย้มพระโอษฐ์สักนิดไหม...?"
ศิษย์ : "แย้มครับ"
ครู : "ดีมากอยู่ใกล้ ๆ ท่านมีความสุขดีไหม...?"
ศิษย์ : "ดีครับ"
ครู : "ดูเครื่องทรงของพระองค์ให้ถ้วนถี่ และชื่นชมพระบารมีของพระองค์ให้ทั่วถึง ท่านนั่งห้อยพระบาทสองข้างหรือข้างเดียว...?"
ศิษย์ : "ข้างเดียว"
ครู : "ดีมาก ถูกต้องแล้วนะ ข้างขวาหรือข้างซ้าย...?"
ศิษย์ : "ห้อยข้างขวา"
ครู : "ดูซินิพพานกว้างขวางไหม...?"
ศิษย์ :  "กว้างขวาง"
ครู : "วิมานของเราใหญ่ไหม...?"
ศิษย์ : "ใหญ่ครับ"
ครู : "นี่ แหละวิมานของเรา ซึ่งเราเห็นแล้วจะได้มีความสุขใจ ต่อไปนี้ก็จะพาไปยังวิมานขององค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าองค์ปัจจุบันอีก ครั้งหนึ่ง ขอพระองค์ท่านได้ทรงโปรดเมตตาปรานีนำไปด้วยเถิดพระพุทธเจ้าข้า เห็นหรือยัง...?"
ศิษย์ : "เห็นครับ"
ครู : "เห็นพระองค์ท่านนั่งสูงกว่าเดิมหรือต่ำกว่าเดิม...?"
ศิษย์ : "สูงครับ"
ครู : "องค์เล็กหรือองค์ใหญ่"
ศิษย์ : "องค์ใหญ่"
ครู : "สว่างไสวขึ้นไหม...?"
ศิษย์ : "สว่าง"
ครู : "ดูซิฉัพพรรณรังสีของพระองค์ท่านที่เปล่งออกมาล้อมรอบพระองค์ท่านนั้น สว่างไสวเพียงใด ดูให้ชื่นใจ ณ บัดนี้ เพราะว่าเป็นโอกาสที่เห็นยากทีเดียวนะ ฉัพพรรณรังสีของพระองค์ท่านซึ่งเปล่งเป็นประกายใสสว่างขณะนี้ ดูให้ชื่นใจนะตรงไหนมีดวงกลม ๆ มีบ้างไหม...?
ศิษย์ : "มีที่เศียรครับ"
ครู : "ดูให้ชื่นใจ ดูไปก็ตั้งใจอธิษฐานไว้เลยนะว่า พระนิพพาน ข้าพระพุทธเจ้ามีความปรารถนาแน่นอน ตอนนี้ก็ไม่ขอห่วงใยอะไรอีกแล้ว ร่างกายเราก็ไม่ขอห่วงใยใคร ๆ ก็ไม่ขอห่วงใย จิตใจสบายดีไหม...?
ศิษย์ : "สบายดีครับ"
ครู : "โปร่งดีนะ พระนิพพานมีความโปร่งอย่างนี้นะ ต่อไปจะพาไปที่วิมานขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงพระนามว่า พระพุทธกัสสป ขอกราบลาท่านนะ กราบขอบพระคุณท่านที่โปรดเมตตานำมาภายในเขตวิมานของพระองค์ท่าน ขอพระองค์ท่านได้โปรดนำไปยังวิมานขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพระ นามว่าพระพุทธกัสสปด้วยเถิดพระพุทธเจ้าข้า ไปไหวไหม...?"
ศิษย์ : "ไหวครับ"
ครู : "วิมานพระองค์ท่านใหญ่ไหม...?"
ศิษย์ : "ใหญ่ครับ"
ครู : "ใหญ่นะ เข้าไปกราบท่านนะ ขออาราธนาบารมีท่าน ขอได้ช่วยโปรดเมตตาปรากฏพระรูปพระโฉมของพระองค์ท่านให้ผ่องใสชัดเจนด้วยนะ เห็นท่านหรือยัง...?"
ศิษย์ : "เห็นครับ"
ครู : "เป็นไง สวยไหม...?"
ศิษย์ : "สวยครับ"
ครู : "เก่งมาก กราบพระคุณท่านนะ ขอชมพระบารมีท่านสักครู่หนึ่งให้อิ่มใจ สบายใจ ที่ได้มีโอกาสมากราบพระพุทธองค์ท่าน สว่างไหม รอบ ๆ พระองค์ท่าน...?"
ศิษย์ : "สว่างไสวมาก"
ครู : "เข้าไปนั่งตรงข้างหน้าข้างใดซิครับ เข้าไปได้ ไม่ต้องกลัวนะ ไปอยู่ข้างหลังท่านก็ได้ มีใครแวดล้อมพระองค์ท่านบ้างไหม...?"
ศิษย์ : "มี"
ครู : "กราบท่านทุกองค์นะ ท่านมีความสุขแล้ว เราถือโอกาสนี้ไปกราบท่านทุก ๆ พระองค์นะ เป็นไงเห็นใครบ้างไหม...?"
ศิษย์ : "เห็นครับ"
ครู : "ไปกราบท่านอีกนะ ไม่ต้องกลัวท่านนะ เข้าไปหาท่าน เป็นไงสบายใจขึ้นอีกไหม...?"
ศิษย์ : "สบายใจครับ"
ครู : "ก็เป็นที่มั่นใจแล้วนะว่า เราสามารถมาพระนิพพานได้ เราจึงสบายใจเช่นนี้ มั่นใจไหม...?"
ศิษย์ : "มั่นใจครับ"
ครู : "เอาละตอนนี้ก็อยู่ใกล้ ๆ พระพุทธองค์อย่างนี้นะอยู่ใกล้ ๆ ท่าน และทุก ๆ พระองค์ที่แวดล้อมพระองค์ท่านอยู่นะ เห็นตัวเราชัดขึ้นหรือยัง...?"
ศิษย์ : "ชัดครับ"
ครู : "เห็นด้านหนังของตัวเราไหม...?"
ศิษย์ : "เห็นครับ"
ครู : "มีเครื่องทรงใส่สวยงามใช่ไหม...?"
ศิษย์ : "ครับ"
ครู : "เอาละอยู่กับพระองค์ท่านก่อนนะ"

(จบคำแนะนำการฝึกมโนมยิทธิ)

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘