ออยล์พูลลิ่ง ภาค2 : ความเสียหายของเหงือกและฟัน
นอก
จากแบคทีเรียในช่องปากจะทำให้ร่างกายเกิดโรคร้ายต่างๆแล้ว
ยังส่งผลเสียต่อสุขอนามัยในช่องปากโดยตรง ส่วนใหญ่กับฟันและเหงือก
ผลโดยตรงของแบ็คทีเรียต่อสุขอนามัยในช่องปากมีดังนี้
กลิ่นปาก
คนประมาณ 20% มีกลิ่นปาก
กลิ่นปากต่างจากกลิ่นเหม็นของอาหารที่รับประทานเข้าไปตรงที่คงอยู่อย่างถาวร
เกิดจากแบคทีเรียหลายชนิดที่อาศัยอยู่บริเวณโคนลิ้นด้านบน
ซึ่งจะตรวจไม่พบในคนที่ไม่มีกลิ่นปาก
การทำออยล์พูลลิ่งเป็นประจำช่วยลดปริมาณแบคทีเรียเหล่านี้ได้และช่วยกำจัด
กลิ่นปากอย่างได้ผล (กลิ่นปากอาจเป็นสัญญาณของโรคฟันผุหรือโรคเหงือก)
ฟันผุ
เกิดจากกรดที่ผลิตโดยแบคทีเรียชนิดที่กินน้ำตาลเป็นอาหาร
การรับประทานอาหารจำพวกขนมหวานหรืออาหารจำพวกแป้ง
(สามารถเปลี่ยนเป็นน้ำตาลเมื่อถูกกับเอนไซม์ในน้ำลาย)
ช่วยเพิ่มอาหารให้กับแบคทีเรียชนิดนี้ ซึ่งช่วยเพิ่มความเป็นกรด และแน่นอน
ช่วยเพิ่มฟันผุ
ฟันผุ
เริ่มต้นที่ชั้นแข็งรอบนอกผิวฟันที่เรียกว่าอีนาเมล
หากลุกลามไปถึงชั้นในซึ่งอ่อนกว่าที่เรียกว่าเดนติน
จะทำให้เกิดอาการเสียวฟัน
และถ้าปล่อยไว้ไม่รักษาจนลุกลามเข้าไปถึงชั้นประสาทฟัน จะทำให้ปวดทรมาน
ถึงขั้นนี้แพทย์ได้แต่ทำการรักษารากฟันหรือถอนฟันออกเท่านั้น
การทำออยล์พูลลิ่งเป็นประจำจะช่วยลดปริมาณแบคที่เรียที่ทำให้เกิดกรดเหล่า
นี้ ซึ่งสามารถยับยั้งและช่วยป้องกันฟันผุได้
พลั๊ค
เกิดจากเมือก เศษอาหาร แบคทีเรียและจุลินทรีย์อื่นๆรวมทั้งผลิตผลของมัน
ทั้งหมดรวมตัวกันเป็นครีมเหนียวสีเหลือง เกาะอยู่รอบๆฟัน
พลั๊คต่างจากหินปูนตรงที่มีความนิ่ม สามารถนำออกได้ง่ายด้วยการแปรงฟัน
หากปล่อยไว้จะทำให้เกิดคราบหินปูนและโรคเหงือก
การทำออยล์พูลลิ่งช่วยลดสาเหตุที่ทำให้เกิดพลั๊ค
และช่วยกำจัดพลั๊คในส่วนที่การแปรงฟันทำได้ไม่ทั่วถึงเช่นบริเวณซอกฟันและ
ด้านหลังของฟัน
คราบหินปูน
เป็นแร่ที่สะสมอยู่ที่ฟัน
ต้นกำเนิดของคราบหินปูนคือพลั๊คที่แข็งตัวเป็นแร่เมื่อเวลาผ่านไปนานๆ
คราบหินปูนนี้จะแข็งตัวติดแน่นกับฟัน ซึ่งไม่สามารถนำออกได้ด้วยการแปรงฟัน
ต้องใช้เครื่องมือของแพทย์ทำการขูดออก
คราบหินปูนสามารถเกิดกับฟันได้ทั้งบริเวณที่อยู่สูงกว่าหรืออยู่ภายใต้
เหงือก แบคทีเรียที่เป็นสาเหตุให้เกิดพลั๊คและที่เกาะอยู่ตามคราบหินปูน
สามารถทำให้เหงือกเกิดการอักเสบหรือทำให้เกิดโรคปริทนต์
การทำออยล์พูลลิ่งเป็นประจำจะช่วยลดสาเหตุของการเกิดคราบหินปูน
เหงือกอักเสบ
เป็นอาการเริ่มต้นของโรคเหงือก
ทำให้เหงือกมีอาการบวมแดงและมีเลือดออกขณะแปรงฟัน
เกิดจากแบคทีเรียที่ทำให้เกิดพลั๊กและสารพิษที่เกิดจากแบคทีเรียไปรบกวน
เหงือก ปกติจะไม่เจ็บปวดแม้จะมองเห็นได้ง่าย
คนส่วนมากจึงไม่รู้ว่าตัวเองเป็นโรคเหงือกอักเสบ
หากปล่อยไว้จะนำไปสู่การเป็นโรคปริทนต์
โรคปริทนต์
หรือเหงือกอักเสบเรื้อรัง
เป็นอาการที่รุนแรงเกินกว่าขั้นของโรคเหงือกอักเสบ
แบ็คทีเรียและสารพิษจากแบคทีเรียทำให้เหงือกเกิดการติดเชื้อ บวม นิ่ม
และอ้าออกจากฟัน
แบคทีเรียและพลั๊กจึงขยายไปเติบโตอยู่ในส่วนที่อยู่ภายใต้เหงือก
สารพิษจากแบคทีเรียและเอนไซม์ที่ร่างกายสร้างขึ้นเพื่อต่อต้านเริ่มทำ
อันตรายต่อกระดูกและเนื้อเยื่อที่รองรับฟัน ทำให้ฟันโยกและอาจต้องถอนออก
อาการของ
โรคปริทนต์คือ เหงือกบวม แดง นิ่ม หรือมีเลือดออก เหงือกร่น ฟันโยก
ปวดเมื่อเคี้ยวอาหาร หรือมีอาการเสียวฟัน มีกลิ่นปากแบบถาวร
ส่วนใหญ่มีฟันผุร่วมด้วย
การทำออยล์พูลลิ่งเป็นประจำนอกจากจะป้องกันการเกิดโรคปริทนต์แล้ว
ประโยชน์ของการทำออยล์พูลลิ่งในระยะนี้คือ
ช่วยลดแบคทีเรียและพลั๊กที่เป็นสาเหตุของเหงือกอักเสบ ลดการอักเสบของเหงือก
ช่วยทำให้ร่างกายมีโอกาสได้ทำการฟื้นฟู
รากฟันเป็นหนอง
เกิดจากการคั่งของหนองจากการสลายของเนื้อเยื่ออันมีสาเหตุมาจากฟันผุ
โดยการโจมตีของแบคทีเรียและจุลินทรีย์ในส่วนของเนื้อเยื่อชั้นประสาทฟัน
ส่วนใหญ่เกิดจากฟันผุที่ไม่ได้รับการรักษา ฟันที่แตก
การลุกลามของโรคปริทนต์
หรือแม้แต่การรักษารากฟันที่ไม่ถูกต้องก็สามารถทำให้รากฟันเป็นหนองได้
ราก
ฟันเป็นหนองสามารถเกิดได้ทั้งแบบเรื้อรังและแบบเฉียบพลัน
ขึ้นอยู่กับความเร็วที่โรคก่อตัวและการป้องกันของร่างกายว่าได้ผลเพียงไร
แบบเฉียบพลันสามารถทำให้มีอาการปวด บวม และมีไข้
แบบเรื้อรังอาจไม่มีอาการปวด
ทำให้ผู้ที่เป็นไม่รู้ตัวแม้จะลุกลามไปถึงกระดูกขากรรไกร การ
ละเลยหรือการรักษาที่ล้มเหลวอาจทำให้เกิดการติดเชื้ออย่างรุนแรง
ซึ่งสามารลุกลามไปยังเนื้อเยื่อที่อยู่รอบๆ
และอาจลุกลามไปถึงกระดูกขากรรไกร
การติดเชื้ออย่างรุนแรงอาจทำให้แบคทีเรียจำนวนมากเข้าสู่กระแสเลือด
ทำให้เกิดการติดเชื้อในกระแสโลหิต
คำอธิบายภาพ
แบคทีเรีย
ในช่องปากสามารถเข้าสู่กระแสโลหิตได้ 3
ทางคือทางปอดจากกการติดเชื้อของถุงลม ทางลำไส้จากการเกิดปัญหาของลำไส้
และทางแผลจากฟันที่ผุ
เมื่อเม็ดเลือดขาวจับกินผู้บุกรุกในกระแสเลือดและเซลล์ที่ติดเชื้อมากเข้าๆ
จะทำให้เกิดพลั้คขึ้นในหลอดเลือดทำให้เส้นเลือดเกิดการตีบตัน
และเมื่อพลั้คนี้สามารถหลุดรอดเข้าสู่กระแสโลหิตจะทำให้เกิดลิ่มเลือด
ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการหัวใจวาย
|
ตารางเปรียบเทียบการลดลงของคราบหินปูนและการอักเสบของเหงือกจากการรักษาด้วยวิธีต่างๆ
|
วิธีรักษา
|
คราบหินปูน
|
เหงือกอักเสบ
|
การแปรงฟัน
|
11-27%
|
8-23%
|
ใช้น้ำยาบ้วนปาก
|
20-26%
|
13%
|
ออยล์พูลลิ่ง
|
18-30%
|
52-60%
|
ข้อเท็จจริงที่ควรรู้
-
|
โรคเหงือกมีความสำคัญเพราะสามารถส่งผลกระทบได้ทั่วทุกส่วนของร่างกาย
|
-
|
ผู้ที่เป็นโรคเหงือกอักเสบมีโอกาสตายจากโรคหัวใจมากกว่าคนที่ไม่เป็นถึง 2 เท่า
|
-
|
มีโอกาสตายจากโรคเส้นเลือดในสมองอุดตันได้มากกว่าถึง 3 เท่า
|
-
|
ในหญิงมีครรภ์ โอกาสที่ทารกจะคลอดก่อนกำหนดมีมากกว่าถึง 4 เท่า
|
-
|
และมีโอกาสเป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ (โรคปอดเรื้อรัง) ได้มากกว่าถึง 1.5 เท่า
|
-
|
ผู้ที่เป็นโรคเหงือกอักเสบรุนแรงแม้จะ
มีคอเลสเตอรอลต่ำ
มีโอกาสตายได้มากกว่าผู้มีการอักเสบไม่รุนแรงที่มีคอเลสเตอรอลสูง
งานวิจัยบางชิ้นถึงกับชี้ว่าการมีฟันผุ โรคเหงือก และการสูญเสียฟัน
เป็นตัวชี้ถึงปัญหาของการเป็นโรคหัวใจได้มากกว่าการมีคอเลสเตอรอลและไตรกลี
เซอไรด์สูงเสียอีก
|
-
|
การตรวจเลือดหา CPR สามารถบอกถึงระดับของความอักเสบ
|
-
|
การอักเสบเป็นกระบวนการป้องกันตนเอง
ของร่างกาย แต่ถ้าหากเกินความควบคุมจะนำไปสู่การเป็นโรคหัวใจ มะเร็งลำไส้
อัลไซเมอร์ และโรคอื่นๆ แบคทีเรียกว่า 200-300
ชนิดที่อาศัยอยู่ที่พลั๊กจะทำลายสมดุลของสภาวะแวดล้อมซึ่งจะกระจายไปได้ทั่ว
ร่างกาย
|
สิ่งที่ควรกระทำ
-
|
พบทันตแพทย์เป็นประจำเพื่อขูดหินปูนและตรวจสอบสุขอนามัยในช่องปาก
|
-
|
เมื่ออยู่ที่บ้านทำความสะอาดช่องปากเป็นประจำนอกเหนือจากการแปรงฟันด้วยการบ้วนปากด้วยสมุนไพรหรืออมน้ำมัน (ออยล์พูลลิ่ง)
|
-
|
เลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสม
ลดของหวาน กาแฟ น้ำอัดลม แอลกอฮอล์ เพิ่มอาหารจำพวกออร์แกนนิคเช่น โยเกิร์ต
(ไม่ใส่น้ำตาล) น้ำมะนาว ผักสดหรือผักที่ปรุงด้วยอุณหภูมิต่ำ
|
-
|
อาจเสริมด้วยวิตะมิน แร่ธาตุ
สารแอนตีออกซิแดนท์โดยเฉพาะ coQ10 (100 มก./วัน)
หรืออย่างอื่นเช่นกลูตาไทโอนโปรไบโอติค และเอนไซม์ช่วยย่อย ฯลฯ
|