พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๒ มหาวิภังค์ ภาค ๒ หน้า 621-625

                                                            หน้าที่ ๖๒๑

                ก็สิกขาบทนี้ ย่อมเป็นอันพระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติแล้วแก่ภิกษุทั้งหลาย ด้วยประการ
ฉะนี้.
                                                เรื่องภิกษุหลายรูป จบ.
                                                เรื่องภิกษุรูปหนึ่ง
                [๗๔๖] สมัยต่อมา ภิกษุรูปหนึ่งเดินทางไปสู่พระนครสาวัตถีในโกศลชนบท ได้เข้าถึง
หมู่บ้านตำบลหนึ่งในเวลาเย็น. พวกชาวบ้านเห็นภิกษุนั้นแล้วได้กล่าวอาราธนาว่า นิมนต์เข้าไป
เถิด ขอรับ ภิกษุนั้นรังเกียจอยู่ว่า การไม่อำลาแล้วเข้าไปสู่บ้านในเวลาวิกาล พระผู้มีพระภาคทรง
ห้ามแล้ว ดังนี้ จึงไม่ได้เข้าไป พวกโจรได้แย่งชิงภิกษุนั้น ครั้นภิกษุนั้นไปถึงพระนครสาวัตถี
แล้ว ได้เล่าเรื่องนั้นแก่ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุทั้งหลายได้กราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค.
                                                พระพุทธานุญาตพิเศษ
                ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคทรงทำธรรมีกถาในเพราะเหตุเป็นเค้ามูลนั้น ในเพราะเหตุ
แรกเกิดนั้น แล้วรับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้อำลาภิกษุที่มีอยู่
แล้วเข้าไปสู่บ้านในเวลาวิกาลได้.
                ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็แลพวกเธอพึงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดงอย่างนี้ ว่าดังนี้:-
                                                พระอนุบัญญัติ ๒
                ๑๓๔. ๓. ข. อนึ่ง ภิกษุใด ไม่อำลาภิกษุที่มีอยู่แล้วเข้าไปสู่บ้านในเวลาวิกาล
เป็นปาจิตตีย์.
                ก็สิกขาบทนี้ ย่อมเป็นอันพระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติแล้วแก่ภิกษุทั้งหลาย ด้วยประการ
ฉะนี้.
                                                เรื่องภิกษุรูปหนึ่ง จบ.
                                                เรื่องภิกษุถูกงูกัด
                [๗๔๗] ต่อจากสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งถูกงูกัด ภิกษุอีกรูปหนึ่งจะเข้าไปสู่บ้านหาไฟ
มา แต่เธอรังเกียจอยู่ว่า การไม่อำลาภิกษุที่มีอยู่แล้วเข้าไปสู่บ้านในเวลาวิกาล พระผู้มีพระภาค
ทรงห้ามแล้ว ดังนี้ จึงไม่ได้เข้าไป แล้วกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค.


                                                            หน้าที่ ๖๒๒

                                                พระพุทธานุญาตพิเศษ
                ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคทรงทำธรรมีกถา ในเพราะเหตุเป็นเค้ามูลนั้น ในเพราะ
เหตุแรกเกิดนั้น แล้วรับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตไว้ ในเมื่อมีกรณียะ
รีบด่วนเห็นปานนั้น ไม่ต้องอำลาภิกษุที่มีอยู่ เข้าไปสู่บ้านในเวลาวิกาลได้.
                ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็แลพวกเธอพึงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดงอย่างนี้ ว่าดังนี้:-
                                                พระอนุบัญญัติ ๓
                ๑๓๔. ๓. ค. อนึ่ง ภิกษุใด ไม่อำลาภิกษุที่มีอยู่แล้วเข้าไปสู่บ้านในเวลา
วิกาล เว้นไว้แต่กิจรีบด่วนมีอย่างนั้นเป็นรูป เป็นปาจิตตีย์.
                                                เรื่องภิกษุถูกงูกัด จบ.
                                                                สิกขาบทวิภังค์
                [๗๔๘] บทว่า อนึ่ง ... ใด ความว่า ผู้ใด คือ ผู้เช่นใด ...
                บทว่า ภิกษุ ความว่า ที่ชื่อว่า ภิกษุ เพราะอรรถว่าเป็นผู้ขอ ... นี้ ชื่อว่า ภิกษุ
ที่ทรงประสงค์ในอรรถนี้.
                ภิกษุที่ชื่อว่า มีอยู่ คือ มีภิกษุที่ตนสามารถจะอำลาแล้วเข้าไปสู่บ้านได้.
                ภิกษุที่ชื่อว่า ไม่มีอยู่ คือ ไม่มีภิกษุที่ตนสามารถจะอำลาแล้ว เข้าไปสู่บ้านได้.
                ที่ชื่อว่า เวลาวิกาล ได้แก่เวลาเที่ยงวันแล้วไป ตราบเท่าถึงอรุณขึ้นมาใหม่.
                คำว่า เข้าไปสู่บ้าน ความว่า เมื่อเดินล่วงเครื่องล้อมของบ้านที่มีเครื่องล้อม ต้อง
อาบัติปาจิตตีย์ เดินล่วงอุปจารบ้านที่ไม่มีเครื่องล้อม ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
                คำว่า เว้นไว้แต่กิจรีบด่วนมีอย่างนั้นเป็นรูป คือ เว้นไว้แต่มีกิจจำเป็นที่รีบด่วน
เห็นปานนั้น.
                                                                บทภาชนีย์
                                                                ติกะปาจิตตีย์
                [๗๔๙] เวลาวิกาล ภิกษุสำคัญว่าเวลาวิกาล ไม่อำลาภิกษุที่มีอยู่แล้วเข้าไปสู่บ้าน
เว้นไว้แต่มีกิจรีบด่วนเห็นปานนั้น ต้องอาบัติปาจิตตีย์.


                                                            หน้าที่ ๖๒๓

                เวลาวิกาล ภิกษุสงสัยอยู่ ไม่อำลาภิกษุที่มีอยู่แล้วเข้าไปสู่บ้าน เว้นไว้แต่มีกิจรีบด่วน
เห็นปานนั้น ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
                เวลาวิกาล ภิกษุสำคัญว่าในกาล ไม่อำลาภิกษุที่มีอยู่แล้วเข้าไปสู่บ้าน เว้นไว้แต่มีกิจ
รีบด่วนเห็นปานนั้น ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
                                                                ทุกะทุกกฏ
                ในกาล ภิกษุสำคัญว่าเวลาวิกาล ... ต้องอาบัติทุกกฏ.
                ในกาล ภิกษุสงสัย ... ต้องอาบัติทุกกฏ.
                                                                ไม่ต้องอาบัติ
                ในกาล ภิกษุสำคัญว่าในกาล ... ไม่ต้องอาบัติ.
                                                                อนาปัตติวาร
                [๗๕๐] เข้าไปสู่บ้านเพราะมีกิจรีบด่วนเห็นปานนั้น ๑ อำลาภิกษุที่มีอยู่แล้วเข้าไป ๑
ภิกษุไม่มี ไม่อำลา เข้าไป ๑ ไปสู่อารามอื่น ๑ ภิกษุไปสู่สำนักภิกษุณี ๑ ภิกษุไปสู่สำนัก
เดียรถีย์ ๑ ไปสู่โรงฉัน ๑ เดินไปตามทางอันผ่านบ้าน ๑ มีอันตราย ๑ ภิกษุวิกลจริต ๑ ภิกษุ
อาทิกัมมิกะ ๑ ไม่ต้องอาบัติแล.
                                                รตนวรรค สิกขาบทที่ ๓ จบ.
                                                ______________


                                                            หน้าที่ ๖๒๔

                                                ๙. รตนวรรค สิกขาบทที่ ๔
                                                เรื่องภิกษุหลายรูป
                [๗๕๑] โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ นิโครธาราม เขตพระนคร
กบิลพัสดุ์ สักกชนบท. ครั้งนั้น ช่างงาคนหนึ่งปวารณาต่อภิกษุทั้งหลายไว้ว่า พระคุณเจ้าเหล่าใด
ต้องการกล่องเข็ม กระผมจะจัดกล่องเข็มมาถวาย จึงภิกษุทั้งหลายขอกล่องเข็มเขาเป็นจำนวน
มาก ภิกษุมีกล่องเข็มขนาดย่อม ก็ยังขอกล่องเข็มขนาดเขื่อง ภิกษุมีกล่องเข็มขนาดเขื่อง ก็ยัง
ขอกล่องเข็มขนาดย่อม ช่างงามัวทำกล่องเข็มเป็นจำนวนมากมาถวายภิกษุทั้งหลายอยู่ ไม่สามารถ
ทำของอย่างอื่นไว้สำหรับขายได้ แม้ตนเองจะประกอบอาชีพก็ไม่สะดวก แม้บุตรภรรยาของเขาก็
ลำบาก.
                ชาวบ้านพากันเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉน พระสมณะเชื้อสายพระศากยบุตร
ทั้งหลายจึงได้ไม่รู้จักประมาณ พากันขอกล่องเข็มมาเป็นจำนวนมาก ช่างงานี้มัวทำกล่องเข็มเป็น
จำนวนมากมาถวายพระเหล่านี้อยู่ จึงไม่เป็นอันทำของอย่างอื่นขายได้ แม้ตนเองจะประกอบ
อาชีพก็ไม่สะดวก แม้บุตรภรรยาของเขาก็ลำบาก ภิกษุทั้งหลายได้ยินชาวบ้านเหล่านั้นเพ่งโทษ
ติเตียน โพนทะนาอยู่ บรรดาภิกษุที่เป็นผู้มักน้อย ... ต่างก็เพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า
ไฉน ภิกษุทั้งหลายจึงได้ไม่รู้จักประมาณ พากันขอกล่องเข็มเขามาเป็นจำนวนมากเล่า แล้ว
กราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค.
                                                                ทรงสอบถาม
                พระผู้มีพระภาคทรงสอบถามภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ข่าวว่า พวกเธอไม่รู้
จักประมาณ พากันขอกล่องเข็มเขามากมาย จริงหรือ?
                ภิกษุทั้งหลายทูลรับว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า.
                                                ทรงติเตียนแล้วบัญญัติสิกขาบท
                พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ไฉนภิกษุโมฆบุรุษเหล่านั้นจึง
ได้ไม่รู้จักประมาณ พากันขอกล่องเข็มเขามามากมายเล่า การกระทำของภิกษุโมฆบุรุษเหล่านั้นนั่น


                                                            หน้าที่ ๖๒๕

ไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส หรือเพื่อความเลื่อมใสยิ่งของชุมชนที่
เลื่อมใสแล้ว ...
                ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็แลพวกเธอพึงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดงอย่างนี้ ว่าดังนี้:-
                                                                พระบัญญัติ
                ๑๓๕. ๔. อนึ่ง ภิกษุใด ให้ทำกล่องเข็ม แล้วด้วยกระดูกก็ดี แล้วด้วยงาก็ดี
แล้วด้วยเขาก็ดี เป็นปาจิตตีย์ ที่ให้ต่อยเสีย.
                                                เรื่องภิกษุหลายรูป จบ.
                                                                สิกขาบทวิภังค์
                [๗๕๒] บทว่า อนึ่ง ... ใด ความว่า ผู้ใด คือ ผู้เช่นใด ...
                บทว่า ภิกษุ ความว่า ที่ชื่อว่า ภิกษุ เพราะอรรถว่าเป็นผู้ขอ ... นี้ ชื่อว่า ภิกษุ
ที่ทรงประสงค์ในอรรถนี้.
                ที่ชื่อว่า กระดูก ได้แก่ กระดูกสัตว์ชนิดใดชนิดหนึ่ง.
                ที่ชื่อว่า งา ได้แก่สิ่งที่เรียกกันว่างาช้าง.
                ที่ชื่อว่า เขา ได้แก่เขาสัตว์ชนิดใดชนิดหนึ่ง.
                บทว่า ให้ทำ คือ ทำเองก็ดี ใช้ผู้อื่นทำก็ดี เป็นทุกกฏในประโยค เป็นปาจิตตีย์ด้วย
ได้กล่องเข็มมา ต้องต่อยให้แตกก่อน จึงแสดงอาบัติตก.
                                                                บทภาชนีย์
                                                จตุกกะปาจิตตีย์
                [๗๕๓] กล่องเข็ม ตนทำค้างไว้ แล้วทำต่อจนสำเร็จ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
                กล่องเข็ม ตนทำค้างไว้ แล้วใช้ผู้อื่นทำต่อจนสำเร็จ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
                กล่องเข็ม ผู้อื่นทำค้างไว้ ตนทำต่อจนสำเร็จ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
                กล่องเข็ม ผู้อื่นทำค้างไว้ ใช้ผู้อื่นให้ทำต่อจนสำเร็จ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘