พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๒ มหาวิภังค์ ภาค ๒ หน้า 426-430

                                                            หน้าที่ ๔๒๖

                                                                สิกขาบทวิภังค์
                [๔๗๒] ที่ชื่อว่า มิใช่ผู้อาพาธ คือ สามารถจะหลีกไปจากโรงทานนั้นได้.
                ที่ชื่อว่า ผู้อาพาธ คือ ไม่สามารถจะหลีกไปจากโรงทานนั้นได้.
                ที่ชื่อว่า อาหารในโรงทาน ได้แก่ โภชนะ ๕ อย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งเขาจัดตั้งไว้
ณ ศาลา ปะรำ โคนไม้  หรือที่กลางแจ้งมิได้จำเพาะใคร มีพอแก่ความต้องการ.
                ภิกษุมิใช่ผู้อาพาธฉันได้ครั้งหนึ่ง หากฉันเกินกว่านั้น รับประเคนด้วยตั้งใจว่าจักฉัน
ต้องอาบัติทุกกฏ กลืนกิน ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ทุกๆ คำกลืน.
                                                                บทภาชนีย์
                                                                ติกปาจิตตีย์
                [๔๗๓] มิใช่ผู้อาพาธ ภิกษุสำคัญว่ามิใช่ผู้อาพาธ ฉันอาหารในโรงทาน ยิ่งกว่านั้น ต้อง
อาบัติปาจิตตีย์.
                มิใช่ผู้อาพาธ ภิกษุสงสัย ฉันอาหารในโรงทาน ยิ่งกว่านั้น ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
                มิใช่ผู้อาพาธ ภิกษุสำคัญว่าผู้อาพาธ ฉันอาหารในโรงทาน ยิ่งกว่านั้น ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
                                                                ทุกะทุกกฏ
                ผู้อาพาธ ภิกษุสำคัญว่ามิใช่ผู้อาพาธ ... ต้องอาบัติทุกกฏ.
                ผู้อาพาธ ภิกษุสงสัย ... ต้องอาบัติทุกกฏ.
                                                                ไม่ต้องอาบัติ
                ผู้อาพาธ ภิกษุสำคัญว่าผู้อาพาธ ... ไม่ต้องอาบัติ.
                                                                อนาปัตติวาร
                [๔๗๔] ภิกษุอาพาธ ๑ ภิกษุไม่อาพาธฉันครั้งเดียว ๑ ภิกษุเดินทางไป หรือเดินทาง
กลับมาแวะฉัน ๑ เจ้าของนิมนต์ให้ฉัน ๑ ภิกษุฉันอาหารที่เขาจัดไว้จำเพาะ ๑ ภิกษุฉันอาหาร
ที่เขามิได้จัดไว้มากมาย ๑ ภิกษุฉันอาหารทุกชนิดเว้นโภชนะห้า ๑ ภิกษุวิกลจริต ๑ ภิกษุ
อาทิกัมมิกะ ๑ ไม่ต้องอาบัติแล.
                                                โภชนวรรค สิกขาบทที่ ๑ จบ.
                                                                ___________


                                                            หน้าที่ ๔๒๗

                                                ๔. โภชนวรรค สิกขาบทที่ ๒
                                                เรื่องพระเทวทัต
                [๔๗๕] โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระเวฬุวันวิหาร อันเป็น
สถานที่พระราชทานเหยื่อแก่กระแต เขตพระนครราชคฤห์. ครั้งนั้น พระเทวทัตเสื่อมจากลาภและ
สักการะ พร้อมด้วยบริษัทเที่ยวขออาหารในตระกูลทั้งหลายมาฉัน ประชาชนเพ่งโทษ ติเตียน
โพนทะนาว่า ไฉนพระสมณะเชื้อสายพระศากยบุตรจึงได้เที่ยวขออาหารในตระกูลทั้งหลายมาฉัน
เล่า โภชนะที่ดีใครจะไม่พอใจ อาหารที่อร่อยใครจะไม่ชอบใจ.
                ภิกษุทั้งหลายได้ยินประชาชนพวกนั้นเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาอยู่ บรรดาที่เป็นผู้
มักน้อย ... ต่างก็เพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉนพระเทวทัตจึงได้พร้อมด้วยบริษัทเที่ยวขอ
อาหารในตระกูลทั้งหลายมาฉันเล่า แล้วกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค ...
                                                                ทรงสอบถาม
                พระผู้มีพระภาคทรงสอบถามพระเทวทัตว่า ดูกรเทวทัต ข่าวว่า เธอพร้อมด้วยบริษัท
เที่ยวขออาหารในตระกูลทั้งหลายมาฉัน จริงหรือ?
                พระเทวทัตทูลรับว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า.
                                                ทรงติเตียนแล้วบัญญัติสิกขาบท
                พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า ดูกรโมฆบุรุษ ไฉนเธอจึงได้พร้อมด้วยบริษัทเที่ยว
ขออาหารในตระกูลทั้งหลายมาฉันเล่า
                การกระทำของเธอนั่น ไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส หรือเพื่อ
ความเลื่อมใสยิ่งของชุมชนที่เลื่อมใสแล้ว ... .
                ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็แลพวกเธอพึงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดงอย่างนี้ ว่าดังนี้:-
                                                                พระบัญญัติ

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘