พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๔ มหาวรรค ภาค ๑ หน้า 286-290

                                                            หน้าที่ ๒๘๖

                                                                ไม่ควรไปไหนในวันปวารณา
                [๒๔๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย  เมื่อถึงวันปวารณา ภิกษุไม่พึงไปจากอาวาสที่มีภิกษุครบ
จำนวน สู่อาวาสที่มีภิกษุไม่ครบจำนวน นอกจากไปเป็นคณะสงฆ์ นอกจากมีอันตราย.
                ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อถึงวันปวารณา ไม่พึงไปจากอาวาสที่มีภิกษุครบจำนวน สู่ถิ่นที่
มิใช่อาวาส ซึ่งมีภิกษุไม่ครบจำนวน  นอกจากไปเป็นคณะสงฆ์ นอกจากมีอันตราย.
                ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อถึงวันปวารณา ไม่พึงไปจากอาวาสที่มีภิกษุครบจำนวน สู่อาวาส
หรือถิ่นที่มิใช่อาวาส ซึ่งมีภิกษุไม่ครบจำนวน  นอกจากไปเป็นคณะสงฆ์  นอกจากมีอันตราย.
                ดูกรภิกษุทั้งหลาย  เมื่อถึงวันปวารณา ไม่พึงไปจากถิ่นที่มิใช่อาวาส ซึ่งมีภิกษุครบจำนวน
สู่อาวาสที่มีภิกษุไม่ครบจำนวน  นอกจากไปเป็นคณะสงฆ์ นอกจากมีอันตราย.
                ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อถึงวันปวารณา ไม่พึงไปจากถิ่นที่มิใช่อาวาส  ซึ่งมีภิกษุครบจำนวน
สู่ถิ่นที่มิใช่อาวาส  ซึ่งมีภิกษุไม่ครบจำนวน นอกจากไปเป็นคณะสงฆ์ นอกจากมีอันตราย.
                ดูกรภิกษุทั้งหลาย  เมื่อถึงวันปวารณา  ไม่พึงไปจากถิ่นที่มิใช่อาวาส ซึ่งมีภิกษุครบ
จำนวน สู่อาวาสหรือถิ่นมิใช่อาวาส ซึ่งมีภิกษุไม่ครบจำนวน  นอกจากไปเป็นคณะสงฆ์ นอก
จากมีอันตราย.
                ดูกรภิกษุทั้งหลาย  เมื่อถึงวันปวารณา  ไม่พึงไปจากอาวาส  หรือถิ่นมิใช่อาวาส ซึ่งมี
ภิกษุครบจำนวน สู่อาวาสซึ่งมีภิกษุไม่ครบจำนวน  นอกจากไปเป็นคณะสงฆ์ นอกจากมีอันตราย.
                ดูกรภิกษุทั้งหลาย  เมื่อถึงวันปวารณา  ไม่พึงไปจากอาวาส หรือถิ่นที่มิใช่อาวาส ซึ่งมี
ภิกษุครบจำนวน สู่อาวาสหรือถิ่นมิใช่อาวาส ซึ่งมีภิกษุไม่ครบจำนวน  นอกจากไปเป็นคณะสงฆ์
นอกจากมีอันตราย.
                ดูกรภิกษุทั้งหลาย  เมื่อถึงวันปวารณา  ไม่พึงไปจากอาวาส  หรือถิ่นที่มิใช่อาวาส ซึ่งมี
ภิกษุครบจำนวน สู่อาวาสหรือถิ่นมิใช่อาวาส ซึ่งมีภิกษุไม่ครบจำนวน  นอกจากไปเป็นคณะสงฆ์
นอกจากมีอันตราย.
                ดูกรภิกษุทั้งหลาย  เมื่อถึงวันปวารณา  ไม่พึงไปจากอาวาส ซึ่งมีภิกษุครบจำนวน สู่อาวาส
มีภิกษุซึ่งครบจำนวน  ซึ่งเป็นที่อยู่ของพวกภิกษุผู้เป็นนานาสังวาส  นอกจากไปเป็นคณะสงฆ์
นอกจากมีอันตราย.


                                                            หน้าที่ ๒๘๗

                ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อถึงวันปวารณา ไม่พึงไปจากอาวาส ซึ่งมีภิกษุครบจำนวน  สู่ถิ่น
ที่มิใช่อาวาส ซึ่งมีภิกษุครบจำนวน  ซึ่งเป็นที่อยู่ของพวกภิกษุผู้เป็นนานาสังวาส นอกจากไป
เป็นคณะสงฆ์ นอกจากมีอันตราย.
                ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อถึงวันปวารณา ไม่พึงไปจากอาวาส ซึ่งมีภิกษุครบจำนวน สู่อาวาส
หรือถิ่นที่มิใช่อาวาส ซึ่งมีภิกษุครบจำนวน  ซึ่งเป็นที่อยู่ของพวกภิกษุผู้เป็นนานาสังวาส นอก
จากไปเป็นคณะสงฆ์ นอกจากมีอันตราย.
                ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อถึงวันปวารณา ไม่พึงไปจากถิ่นที่มิใช่อาวาส ซึ่งมีภิกษุครบจำนวน
สู่อาวาสซึ่งมีภิกษุครบจำนวน ....
                ดูกรภิกษุทั้งหลาย  เมื่อถึงวันปวารณา ไม่พึงไปจากถิ่นที่มิใช่อาวาส ซึ่งมีภิกษุครบ
จำนวน ....
                ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อถึงวันปวารณา ไม่พึงไปจากถิ่นที่มิใช่อาวาส ซึ่งมีภิกษุครบจำนวน
สู่อาวาสหรือถิ่นที่มิใช่อาวาส ซึ่งมีภิกษุครบจำนวน ซึ่งเป็นที่อยู่ของพวกภิกษุผู้เป็นนานาสังวาส
นอกจากไปเป็นคณะสงฆ์ นอกจากมีอันตราย.
                ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อถึงวันปวารณา ไม่พึงไปจากอาวาส หรือถิ่นที่มิใช่อาวาส  ซึ่งมี
ภิกษุครบจำนวน  สู่อาวาสซึ่งมีภิกษุครบจำนวน ....
                ดูกรภิกษุทั้งหลาย  เมื่อถึงวันปวารณา ไม่พึงไปจากอาวาส หรือถิ่นที่มิใช่อาวาส  ซึ่งมี
ภิกษุครบจำนวน สู่ถิ่นที่มิใช่อาวาส  ซึ่งมีภิกษุครบจำนวน ....
                ดูกรภิกษุทั้งหลาย  เมื่อถึงวันปวารณา   ไม่พึงไปจากอาวาส หรือถิ่นที่มิใช่อาวาส ซึ่งมี
ภิกษุครบจำนวน  สู่อาวาสหรือถิ่นที่มิใช่อาวาส  ซึ่งมีภิกษุครบจำนวน  ซึ่งเป็นที่อยู่ของภิกษุผู้เป็น
นานาสังวาส  นอกจากไปเป็นคณะสงฆ์ นอกจากมีอันตราย.
                                                                สถานที่ควรไปในวันปวารณา
                ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อถึงวันปวารณา ภิกษุพึงไปจากอาวาสที่มีภิกษุครบจำนวน  สู่อาวาส
ที่มีภิกษุครบจำนวน ....
                .... สู่ถิ่นที่มิใช่อาวาส ....
                .... สู่อาวาสหรือถิ่นที่มิใช่อาวาส  ซึ่งเป็นที่อยู่ของพวกภิกษุผู้เป็นสมานสังวาส ที่รู้ว่า
เราสามารถจะไปถึงในวันนี้แหละ.


                                                            หน้าที่ ๒๘๘

                ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อถึงวันปวารณา พึงไปจากถิ่นที่มิใช่อาวาสที่มีภิกษุครบจำนวน
สู่อาวาสที่มีภิกษุครบจำนวน ....
                .... สู่ถิ่นที่มิใช่อาวาส ....
                .... สู่อาวาสหรือถิ่นที่มิใช่อาวาส  อันเป็นที่อยู่ของพวกภิกษุผู้เป็นสมานสังวาส ที่รู้ว่า
เราสามารถจะไปถึงในวันนี้แหละ.
                ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อถึงวันปวารณา พึงไปจากอาวาสหรือถิ่นที่มิใช่อาวาส ซึ่งมีภิกษุ
ครบจำนวน  สู่อาวาสที่มีภิกษุครบจำนวน ....
                .... สู่ถิ่นที่มิใช่อาวาส ....
                .... สู่อาวาสหรือถิ่นที่มิใช่อาวาส  อันเป็นที่อยู่ของพวกภิกษุผู้เป็นสมานสังวาส ที่รู้ว่า
จะสามารถไปถึงในวันนี้แหละ.
                                                                บุคคลที่ควรเว้นในปวารณา
                [๒๔๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงปวารณาในบริษัทที่มีภิกษุณีนั่งอยู่ด้วย  รูปใด
ปวารณา ต้องอาบัติทุกกฏ.
                ดูกรภิกษุทั้งหลาย  ภิกษุไม่พึงปวารณาในบริษัทที่มีสิกขมานานั่งอยู่ด้วย ....
                ไม่พึงปวารณาในบริษัทที่มีสามเณรนั่งอยู่ด้วย ....
                ไม่พึงปวารณาในบริษัทที่มีสามเณรีนั่งอยู่ด้วย ....
                ไม่พึงปวารณาในบริษัทที่มีภิกษุผู้บอกลาสิกขาแล้วนั่งอยู่ด้วย ....
                ไม่พึงปวารณาในบริษัทที่มีภิกษุผู้ต้องอันติมวัตถุนั่งอยู่ด้วย รูปใดปวารณา ต้องอาบัติทุกกฏ.
                ดูกรภิกษุทั้งหลาย  ภิกษุไม่พึงปวารณาในบริษัทที่มีภิกษุผู้ถูกสงฆ์ยกเสียฐานไม่เห็นอาบัติ
นั่งอยู่ด้วย  รูปใดปวารณา พึงปรับอาบัติตามธรรม.
                ไม่พึงปวารณาในบริษัทที่มีภิกษุผู้ถูกสงฆ์ยกเสียฐานไม่ทำคืนอาบัตินั่งอยู่ด้วย ....
                ไม่พึงปวารณาในบริษัทที่มีภิกษุผู้ถูกสงฆ์ยกเสียฐานไม่สละคืนทิฏฐิอันลามกนั่งอยู่ด้วย
รูปใดปวารณา พึงปรับอาบัติตามธรรม.
                ไม่พึงปวารณาในบริษัทที่มีบัณเฑาะก์นั่งอยู่ด้วย  รูปใดปวารณา ต้องอาบัติทุกกฏ.
                ไม่พึงปวารณาในบริษัทที่มีคนลักเพศนั่งอยู่ด้วย ....
                ไม่พึงปวารณาในบริษัทที่มีภิกษุผู้เข้ารีดเดียรถีย์นั่งอยู่ด้วย ....


                                                            หน้าที่ ๒๘๙

                ไม่พึงปวารณาในบริษัทที่มีคนคล้ายดิรัจฉานนั่งอยู่ด้วย ....
                ไม่พึงปวารณาในบริษัทที่มีคนฆ่ามารดานั่งอยู่ด้วย ....
                ไม่พึงปวารณาในบริษัทที่มีคนฆ่าบิดานั่งอยู่ด้วย ....
                ไม่พึงปวารณาในบริษัทที่มีคนฆ่าพระอรหันต์นั่งอยู่ด้วย ....
                ไม่พึงปวารณาในบริษัทที่มีคนประทุษร้ายภิกษุณีนั่งอยู่ด้วย ....
                ไม่พึงปวารณาในบริษัทที่มีภิกษุทำลายสงฆ์นั่งอยู่ด้วย ....
                ไม่พึงปวารณาในบริษัทที่มีคนทำร้ายพระศาสดาถึงห้อพระโลหิตนั่งอยู่ด้วย ....
                ไม่พึงปวารณาในบริษัทที่มีอุภโตพยัญชนกนั่งอยู่ด้วย  รูปใดปวารณา  ต้องอาบัติทุกกฏ.
                ดูกรภิกษุทั้งหลาย  ภิกษุไม่พึงปวารณา ด้วยการให้ปวารณาค้างคราว  นอกจากบริษัท
ยังไม่ลุกไป.
                ดูกรภิกษุทั้งหลาย  อนึ่ง  ภิกษุไม่พึงปวารณาในดิถีมิใช่วันปวารณา  นอกจากวัน
สังฆสามัคคี.
                                                                ภาณวารที่ ๒ จบ.
                                                                ______________
                                                พระพุทธานุญาตเตวาจิกาปวารณา
                                                                สัญจรภัยในปวารณา
                [๒๔๔] ก็โดยสมัยนั้นแล ณ อาวาสแห่งหนึ่งในโกศลชนบท คนชาวดงได้มาพลุกพล่าน
ในวันปวารณา.  ภิกษุทั้งหลายไม่อาจปวารณา ๓ หน  จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค.
พระผู้มีพระภาค ตรัสอนุญาตแก่ภิกษุทั้งหลายว่า  ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ปวารณา ๒ หน.
คนชาวดงได้มาพลุกพล่านมากขึ้น  ภิกษุทั้งหลายไม่อาจปวารณา ๒ หน  จึงกราบทูลเรื่องนั้น


                                                            หน้าที่ ๒๙๐

แด่พระผู้มีพระภาค. พระผู้มีพระภาคตรัสอนุญาตแก่ภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาต
ให้ปวารณาหนเดียว. ชนชาวดงได้มาพลุกพล่านหนักขึ้นอีก. ภิกษุทั้งหลายไม่อาจปวารณาหนเดียว
จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค.  พระผู้มีพระภาคตรัสอนุญาตแก่ภิกษุทั้งหลายว่า ดูกร
ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ปวารณามีพรรษาเท่ากัน.
                                                                ราตรีจวนสว่าง
                ก็โดยสมัยนั้นแล ในอาวาสแห่งหนึ่ง ถึงวันปวารณา  ชาวบ้านมัวให้ทานอยู่จนราตรี
จวนสว่าง จึงภิกษุเหล่านั้นได้ปรึกษากันว่า คนเหล่านี้มัวให้ทานอยู่จนราตรีจวนสว่าง ถ้าสงฆ์จัก
ปวารณา ๓ หน สงฆ์จักไม่ทันได้ปวารณาทั่วกัน ราตรีนี้ก็จักสว่างเสียก่อน พวกเราจะพึงปฏิบัติ
อย่างไรหนอ  แล้วกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค.  พระผู้มีพระภาคตรัสกะภิกษุทั้งหลายว่า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในอาวาสแห่งหนึ่งถึงวันปวารณา ชาวบ้านในตำบลนี้มัวให้ทานอยู่ จนราตรี
จวนสว่าง  หากภิกษุทั้งหลายในอาวาสนั้น มีความคิดเห็นอย่างนี้ว่า ชาวบ้านพากันให้ทานอยู่จน
ราตรีจวนสว่าง ถ้าสงฆ์จะปวารณา ๓ หน  สงฆ์จักไม่ทันได้ปวารณาทั่วกัน  ราตรีนี้ก็จักสว่าง
เสียก่อน ดังนี้. ภิกษุผู้ฉลาด ผู้สามารถ พึงประกาศให้สงฆ์ทราบ ด้วยญัตติกรรมวาจาว่าดังนี้:-
                ท่านเจ้าข้า  ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า  ชาวบ้านมัวให้ทานอยู่จนราตรีจวนสว่าง
ถ้าสงฆ์จักปวารณา ๓ หน  สงฆ์จักไม่ทันได้ปวารณาทั่วกัน  ราตรีจักสว่างเสียก่อน.
ถ้าความพร้อมพรั่งของสงฆ์ถึงที่แล้ว สงฆ์พึงปวารณา ๒ หน .... หนเดียว .... มีพรรษาเท่ากัน.
                ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในอาวาสแห่งหนึ่ง ถึงวันปวารณา ภิกษุทั้งหลายกล่าวธรรมกัน ....
ภิกษุที่เชี่ยวชาญในพระสูตร  สังคายนาพระสูตรกัน .... พระวินัยธรตัดสินพระวินัยกัน ....
พระธรรมกถึกสนทนาธรรมกัน .... ภิกษุทั้งหลายทะเลาะกันจนราตรีจวนสว่าง.  หากภิกษุทั้งหลาย
ในอาวาสนั้นมีความคิดเห็นอย่างนี้ว่า  ภิกษุทั้งหลายทะเลาะกันจนราตรีจวนสว่าง ถ้าสงฆ์จัก
ปวารณา ๓ หน  สงฆ์จักไม่ทันได้ปวารณาทั่วกัน ราตรีจักสว่างเสียก่อน ดังนี้.  ภิกษุผู้ฉลาด
สามารถ พึงประกาศให้สงฆ์ทราบด้วยญัตติกรรมวาจา ว่าดังนี้:-
                ท่านเจ้าข้า  ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า ภิกษุทั้งหลายมัวทะเลาะกันจนราตรีจวนสว่าง
ถ้าสงฆ์จักปวารณา ๓ หน สงฆ์จักไม่ทันปวารณาทั่วกัน  ราตรีจักสว่างเสียก่อน  ถ้าความ
พร้อมพรั่งของสงฆ์ถึงที่แล้ว  สงฆ์พึงปวารณา ๒ หน .... หนเดียว .... มีพรรษาเท่ากัน.

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘