พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๔ มหาวรรค ภาค ๑ หน้า 236-240

                                                            หน้าที่ ๒๓๖

                                                                สัตตาหกรณียะเนื่องด้วยภิกษุ
                ๑. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในศาสนานี้อาพาธ ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุ
ทั้งหลายว่า กระผมเองอาพาธ ขออาราธนาภิกษุทั้งหลายมา กระผมปรารถนาการมาของภิกษุ.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา  ก็พึงไปด้วยสัตตาหกรณียะได้ จะต้องกล่าวไปไย
เมื่อเธอส่งทูตมา  พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักแสวงหาคิลานภัต คิลานุปัฐากภัต  คิลานเภสัช
จักถามอาการ หรือจักพยาบาล แต่ต้องกลับใน ๗ วัน.
                ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ความกระสันบังเกิดแก่ภิกษุในศาสนานี้.  ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไป
ในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า ความกระสันบังเกิดแก่กระผมแล้ว ขออาราธนาภิกษุทั้งหลายมา
กระผมปรารถนาการมาของภิกษุทั้งหลาย. ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไป
ด้วยสัตตาหกรณียะได้ จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา  พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักระงับความ
กระสัน หรือจักวานภิกษุอื่นให้ช่วยระงับ หรือจักทำธรรมกถาแก่ภิกษุนั้น แต่ต้องกลับใน ๗ วัน.
                ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ความรำคาญบังเกิดขึ้นแก่ภิกษุในศาสนานี้.  ถ้าเธอจะพึงส่งทูต
ไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า ความรำคาญบังเกิดแก่กระผม ขออาราธนาภิกษุทั้งหลายมา กระผม
ปรารถนาการมาของภิกษุทั้งหลาย. ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย
สัตตาหกรณียะได้ จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา  พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักบรรเทาความรำคาญ
หรือจักวานภิกษุอื่นให้ช่วยบรรเทา หรือจักทำธรรมกถาแก่ภิกษุนั้น แต่ต้องกลับใน ๗ วัน.
                ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ความเห็นผิดบังเกิดแก่ภิกษุในศาสนานี้.  ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไป
ในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า ความเห็นผิดบังเกิดแก่กระผม ขออาราธนาภิกษุทั้งหลายมา กระผม
ปรารถนาการมาของภิกษุทั้งหลาย. ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย
สัตตาหกรณียะได้ จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา  พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักเปลื้องความเห็นผิด
จักวานภิกษุอื่นให้ช่วยเปลื้อง หรือจักทำธรรมกถาแก่ภิกษุนั้น แต่ต้องกลับใน ๗ วัน.
                ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในศาสนานี้เป็นผู้ต้องครุกาบัติควรอยู่ปริวาส.  ถ้าเธอพึง
ส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า กระผมเองต้องคารุกาบัติควรอยู่ปริวาส  ขออาราธนาภิกษุ
ทั้งหลายมา กระผมปรารถนาการมาของภิกษุทั้งหลาย. ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา
ก็พึงไปด้วยสัตตาหกรณียะได้ จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักทำการ
ขวนขวายให้ปาริวาส จักช่วยสวดหรือจักเป็นคณะปูรกะ แต่ต้องกลับใน ๗ วัน.


                                                            หน้าที่ ๒๓๗

                ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในศาสนานี้เป็นผู้ควรชักเข้าหาอาบัติเดิม.  ถ้าเธอจะพึง
ส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า กระผมเองเป็นผู้ควรชักเข้าหาอาบัติเดิม  ขออาราธนาภิกษุ
ทั้งหลายมา กระผมปรารถนาการมาของภิกษุทั้งหลาย. ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา
ก็พึงไปด้วยสัตตาหกรณียะได้ จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักทำการ
ขวนขวายชักเข้าหาอาบัติเดิม จักช่วยสวด หรือจักเป็นคณะปูรกะ แต่ต้องกลับใน ๗ วัน.
                ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในศาสนานี้เป็นผู้ควรมานัต.  ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปใน
สำนักภิกษุทั้งหลายว่า กระผมเองเป็นผู้ควรมานัต  ขออาราธนาภิกษุทั้งหลายมา กระผมปรารถนา
การมาของภิกษุทั้งหลาย. ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วยสัตตาหกรณียะได้
จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักทำการขวนขวายให้มานัต จักช่วยสวด
หรือจักเป็นคณะปูรกะ แต่ต้องกลับใน ๗ วัน.
                ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในศาสนานี้เป็นผู้ควรอัพภาน.  ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปใน
สำนักภิกษุทั้งหลายว่า กระผมเองเป็นผู้ควรอัพภาน  ขออาราธนาภิกษุทั้งหลายมา กระผมปรารถนา
การมาของภิกษุทั้งหลาย. ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วยสัตตาหกรณียะได้
จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักทำการขวนขวายให้อัพภาน จักช่วยสวด
หรือจักเป็นคณะปูรกะ แต่ต้องกลับใน ๗ วัน.
                ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง สงฆ์เป็นผู้ใคร่เพื่อทำกรรม  คือ ตัชชนียกรรม นิยสกรรม
ปัพพาชนียกรรม  ปฏิสารณียกรรม  หรืออุกเขปนียกรรม แก่ภิกษุในศาสนานี้.  ถ้าเธอจะพึง
ส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า สงฆ์เป็นผู้ใคร่เพื่อทำกรรมแก่กระผม ขออาราธนาภิกษุทั้งหลาย
มา กระผมปรารถนาการมาของภิกษุทั้งหลาย.  ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา
ก็พึงไปด้วยสัตตาหกรณียะได้ จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา  พึงไปด้วยตั้งใจว่า ด้วยวิธี
อย่างไรหนอ สงฆ์จึงจะไม่ทำกรรม หรือพึงน้อมไปเพื่อกรรมสถานเบา แต่ต้องกลับใน ๗ วัน.
อนึ่ง ภิกษุนั้นได้ถูกสงฆ์ทำกรรม คือ ตัชชนียกรรม นิยสกรรม ปัพพาชนียกรรม ปฏิสารณียกรรม
หรืออุกเขปนียกรรมแล้ว.  ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า สงฆ์ได้ทำกรรมแก่
กระผมแล้ว ขออาราธนาภิกษุทั้งหลายมา กระผมปรารถนาการมาของภิกษุทั้งหลาย. ดูกรภิกษุทั้งหลาย
แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วยสัตตาหกรณียะได้  จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา
พึงไปด้วยตั้งใจว่า  ด้วยวิธีอย่างไรหนอ ภิกษุนั้นพึงประพฤติชอบ หายเย่อหยิ่ง ประพฤติแก้ตัวได้
สงฆ์จะได้ระงับกรรมนั้นเสีย แต่ต้องกลับใน ๗ วัน.


                                                            หน้าที่ ๒๓๘

                                                                สัตตาหกรณียะเนื่องด้วยภิกษุณี
                ๒. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุณีในศาสนานี้อาพาธ. ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุ
ทั้งหลายว่า ดิฉันเองอาพาธ ขออาราธนาพระคุณเจ้าทั้งหลายมา ดิฉันปรารถนาการมาของพระคุณเจ้า.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา พึงไปด้วยสัตตาหกรณียะได้ จะต้องกล่าวไปไย
เมื่อเธอส่งทูตมา  พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักแสวงหาคิลานภัต คิลานุปัฐากภัต  คิลานเภสัช
จักถามอาการ หรือจักพยาบาล แต่ต้องกลับใน ๗ วัน.
                ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ความกระสันบังเกิดแก่ภิกษุณีในศาสนานี้.  ถ้าเธอจะพึงส่งทูต
ไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า ความกระสันบังเกิดแก่ดิฉันแล้ว ขออาราธนาพระคุณเจ้าทั้งหลายมา
ดิฉันปรารถนาการมาของพระคุณเจ้า. ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย
สัตตาหกรณียะได้ จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา  พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักระงับความกระสัน
หรือจักวานภิกษุอื่นให้ช่วยระงับ หรือจักทำธรรมกถา แก่ภิกษุณีนั้น แต่ต้องกลับใน ๗ วัน.
                ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ความรำคาญบังเกิดแก่ภิกษุณีในศาสนานี้.  ถ้าเธอจะพึงส่งทูต
ไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า ความรำคาญบังเกิดแก่ดิฉันแล้ว ขออาราธนาพระคุณเจ้าทั้งหลายมา
ดิฉันปรารถนาการมาของพระคุณเจ้า. ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย
สัตตาหกรณียะได้ จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา  พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักบรรเทาความรำคาญ
หรือจักวานภิกษุอื่นให้ช่วยบรรเทา หรือจักทำธรรมกถาแก่ภิกษุณีนั้น แต่ต้องกลับใน ๗ วัน.
                ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ความเห็นผิดบังเกิดแก่ภิกษุณีในศาสนานี้.  ถ้าเธอจะพึงส่งทูต
ไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า ความเห็นผิดบังเกิดแก่ดิฉัน ขออาราธนาพระคุณเจ้าทั้งหลายมา
ดิฉันปรารถนาการมาของพระคุณเจ้า. ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย
สัตตาหกรณียะได้ จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา  พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักเปลื้องความเห็นผิด
จักวานภิกษุอื่นให้ช่วยเปลื้อง หรือจักทำธรรมกถาแก่ภิกษุนั้น แต่ต้องกลับใน ๗ วัน.
                ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุณีในศาสนานี้เป็นผู้ต้องครุกาบัติ  ควรมานัต.  ถ้าเธอ
จะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า ดิฉันเองต้องครุกาบัติ ควรมานัต  ขออาราธนาพระคุณเจ้า
ทั้งหลายมา ดิฉันปรารถนาการมาของพระคุณเจ้า. ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา
ก็พึงไปด้วยสัตตาหกรณียะได้ จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักทำการ
ขวนขวายให้มานัต  แต่ต้องกลับใน ๗ วัน.


                                                            หน้าที่ ๒๓๙

                ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุณีในศาสนานี้เป็นผู้ควรชักเข้าหาอาบัติเดิม. ถ้าเธอจะพึง
ส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า ดิฉันเองเป็นผู้ควรชักเข้าหาอาบัติเดิม  ขออาราธนาพระคุณเจ้า
ทั้งหลายมา ดิฉันปรารถนาการมาของพระคุณเจ้า. ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา
ก็พึงไปด้วยสัตตาหกรณียะได้ จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักทำการ
ขวนขวายชักเข้าหาอาบัติเดิม  แต่ต้องกลับใน ๗ วัน.
                ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุณีในศาสนานี้เป็นผู้ควรอัพภาน. ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปใน
สำนักภิกษุทั้งหลายว่า ดิฉันเองเป็นผู้ควรอัพภาน  ขออาราธนาพระคุณเจ้าทั้งหลายมา ดิฉัน
ปรารถนาการมาของพระคุณเจ้า. ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมาก็พึงไปด้วยสัตตาห-
กรณียะได้ จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักทำการขวนขวายให้อัพภาน
แต่ต้องกลับใน ๗ วัน.
                ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง สงฆ์เป็นผู้ใคร่เพื่อทำกรรม  คือ ตัชชนียกรรม นิยสกรรม
ปัพพาชนียกรรม  ปฏิสารณียกรรม  หรืออุกเขปนียกรรม แก่ภิกษุณีในศาสนานี้.  ถ้าเธอจะพึงส่ง
ทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า สงฆ์เป็นผู้ใคร่เพื่อทำกรรมแก่ดิฉัน ขออาราธนาพระคุณเจ้า
ทั้งหลายมา ดิฉันปรารถนาการมาของพระคุณเจ้า.  ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา
ก็พึงไปด้วยสัตตาหกรณียะได้ จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา  พึงไปด้วยตั้งใจว่า ด้วยวิธีอย่าง
ไรหนอ สงฆ์จึงจะไม่ทำกรรม หรือพึงน้อมไปเพื่อกรรมสถานเบา แต่ต้องกลับใน ๗ วัน. อนึ่ง
ภิกษุณีนั้นได้ถูกสงฆ์ทำกรรม คือ ตัชชนียกรรม นิยสกรรม ปัพพาชนียกรรม ปฏิสารณียกรรม  หรือ
อุกเขปนียกรรมแล้ว.  ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า สงฆ์ได้ทำกรรมแก่ดิฉันแล้ว
ขออาราธนาพระคุณเจ้าทั้งหลายมา ดิฉันปรารถนาการมาของพระคุณเจ้า. ดูกรภิกษุทั้งหลาย
แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วยสัตตาหกรณียะได้  จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา
พึงไปด้วยตั้งใจว่า  ด้วยวิธีอย่างไรหนอ ภิกษุณีนั้นพึงประพฤติชอบ หายเย่อหยิ่ง ประพฤติ
แก้ตัวได้ สงฆ์จะได้ระงับกรรมนั้นเสีย แต่ต้องกลับใน ๗ วัน.
                                                สัตตาหกรณียะเนื่องด้วยสิกขมานา
                ๓. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็สิกขมานาในศาสนานี้อาพาธ. ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนัก
ภิกษุทั้งหลายว่า ดิฉันเองอาพาธ ขออาราธนาพระคุณเจ้าทั้งหลายมา ดิฉันปรารถนาการมาของ
พระคุณเจ้า. ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา  ก็พึงไปด้วยสัตตาหกรณียะได้ จะต้อง


                                                            หน้าที่ ๒๔๐

กล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา  พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักแสวงหาคิลานภัต คิลานุปัฐากภัต
คิลานเภสัช  จักถามอาการ หรือจักพยาบาล แต่ต้องกลับใน ๗ วัน.
                ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ความกระสันบังเกิดแก่สิกขมานาในศาสนานี้ ....
                .... ความรำคาญบังเกิด ....
                .... ความเห็นผิดบังเกิด ....
                .... สิกขาของสิกขมานาในศาสนานี้กำเริบ. ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า
สิกขาของดิฉันกำเริบแล้ว  ขออาราธนาพระคุณเจ้าทั้งหลายมา  ดิฉันปรารถนาการมาของ
พระคุณเจ้า.  ดูกรภิกษุทั้งหลาย  แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วยสัตตาหกรณียะได้
จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา  พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักทำการขวนขวายให้สมาทานสิกขา
แต่ต้องกลับใน ๗ วัน.
                ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง สิกขมานาในศาสนานี้เป็นผู้ใคร่จะอุปสมบท.  ถ้าเธอจะพึง
ส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า ดิฉันเองใคร่จะอุปสมบท ขออาราธนาพระคุณเจ้าทั้งหลายมา
ดิฉันปรารถนาการมาของพระคุณเจ้า.  ดูกรภิกษุทั้งหลาย  แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา ก็พึงไปด้วย
สัตตาหกรณียะได้  จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา  พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักทำการขวนขวาย
ให้อุปสมบท  จักช่วยสวดหรือจักเป็นคณะปูรกะ แต่ต้องกลับใน ๗ วัน.
                                                สัตตาหกรณียะเนื่องด้วยสามเณร
                ๔. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็สามเณรในศาสนานี้อาพาธ. ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปใน
สำนักภิกษุทั้งหลายว่า กระผมเองอาพาธ ขออาราธนาภิกษุทั้งหลายมา กระผมปรารถนาการมา
ของภิกษุทั้งหลาย.  ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เมื่อเธอมิได้ส่งทูตมา  ก็พึงไปด้วยสัตตาหกรณียะได้
จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเธอส่งทูตมา  พึงไปด้วยตั้งใจว่า จักแสวงหาคิลานภัต คิลานุปัฐากภัต
คิลานเภสัช จักถามอาการ หรือจักพยาบาล แต่ต้องกลับใน ๗ วัน.
                ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ความกระสันบังเกิดแก่สามเณรในศาสนานี้ ....
                .... ความรำคาญบังเกิด ....
                .... ความเห็นผิดบังเกิด ....
                สามเณรเป็นผู้ใคร่จะถามปี. ถ้าเธอจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า กระผมเอง
ใคร่จะถามปี ขออาราธนาภิกษุทั้งหลายมา  กระผมปรารถนาการมาของภิกษุทั้งหลาย  ดูกรภิกษุทั้งหลาย

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘