พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๓ ภิกขุนีวิภังค์ หน้า 061-065

                                                            หน้าที่ ๖๑

                ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็แลภิกษุณีทั้งหลายจงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดงอย่างนี้ ว่าดังนี้:
                                พระบัญญัติ
                ๒๗. ๒. อนึ่ง ภิกษุณีใด อธิษฐานผ้าอกาลจีวร ว่าเป็นกาลจีวร แล้วแจกกัน เป็น
นิสสัคคิยปาจิตตีย์.
                                เรื่องภิกษุณีถุลลนันทา จบ.
                                สิกขาบทวิภังค์
                [๑๐๓] บทว่า อนึ่ง ... ใด ความว่า ผู้ใด คือ ผู้เช่นใด ...
                บทว่า ภิกษุณี ความว่า ที่ชื่อว่า ภิกษุณี เพราะอรรถว่าเป็นผู้ขอ ... นี้ชื่อว่า ภิกษุณี
ที่ทรงประสงค์ในอรรถนี้.
                ที่ชื่อว่า อกาลจีวร คือ เมื่อไม่ได้กรานกฐิน จีวรเกิดได้ถึง ๑๑ เดือน เมื่อได้กรานกฐิน
แล้ว จีวรเกิดได้ตลอด ๗ เดือน จีวรที่เขาเจาะจงถวายแม้ในกาล นี้ก็ชื่อว่าอกาลจีวร.
                ภิกษุณีอธิษฐานว่าเป็นกาลจีวร แล้วให้แจกกัน เป็นทุกกฏในประโยค เป็นนิสสัคคีย์ด้วยได้
จีวรมา ต้องเสียสละแก่สงฆ์ คณะ หรือภิกษุณีรูปหนึ่ง.
                ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็แลจีวรเป็นนิสสัคคีย์นั้น ภิกษุณีพึงเสียสละอย่างนี้.
                                วิธีเสียสละ
                                เสียสละแก่สงฆ์
                ภิกษุณีรูปนั้นพึงเข้าไปหาสงฆ์ ... แม่เจ้า เจ้าข้า อกาลจีวรผืนนี้ของข้าพเจ้าอธิษฐานว่าเป็น
กาลจีวร แล้วแจกกัน เป็นของจำจะสละ ข้าพเจ้าสละอกาลจีวรผืนนี้แก่สงฆ์ ... สงฆ์พึงให้อกาล
จีวรผืนนี้แก่ภิกษุณีมีชื่อนี้ ดังนี้.
                                เสียสละแก่คณะ
                ภิกษุณีรูปนั้นพึงเข้าไปหาภิกษุณีหลายรูป ... แม่เจ้าทั้งหลายพึงให้อกาลจีวรผืนนี้แก่ภิกษุณีมี
ชื่อนี้ ดังนี้.
                                เสียสละแก่ภิกษุณีรูปหนึ่ง
                ภิกษุณีรูปนั้นพึงเข้าไปหาภิกษุณีรูปหนึ่ง ... ข้าพเจ้าให้อกาลจีวรผืนนี้แก่แม่เจ้า ดังนี้.


                                                            หน้าที่ ๖๒

                                บทภาชนีย์
                                ติกะนิสสัคคิยปาจิตตีย์
                [๑๐๔] อกาลจีวร ภิกษุณีสำคัญว่าเป็นอกาลจีวร อธิษฐานเป็นกาลจีวรแล้วแจกกัน เป็น
นิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
                อกาลจีวร ภิกษุณีสงสัย อธิฐานเป็นกาลจีวร แล้วแจกกัน เป็นนิสสัคคีย์ ต้องอาบัติ
ปาจิตตีย์.
                อกาลจีวร ภิกษุณีสำคัญว่ากาลจีวร อธิฐานว่าเป็นกาลจีวร แล้วแจกกัน เป็นนิสสัคคีย์
ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
                                ทุกะทุกกฏ
                กาลจีวร ภิกษุณีสำคัญว่า เป็นอกาลจีวร ต้องอาบัติทุกกฏ.
                กาลจีวร ภิกษุณีสงสัย ต้องอาบัติทุกกฏ.
                                ไม่ต้องอาบัติ
                กาลจีวร ภิกษุณีสำคัญว่าเป็นกาลจีวร ไม่ต้องอาบัติ.
                                อนาปัตติวาร
                [๑๐๕] สำคัญอกาลจีวรว่าเป็นอกาลจีวร ให้แจกกัน ๑ สำคัญกาลจีวรว่าเป็นกาลจีวร ให้
แจกกัน ๑ วิกลจริต ๑ อาทิกัมมิกา ๑ ไม่ต้องอาบัติแล.
                                ปัตตวรรค สิกขาบทที่ ๒ จบ.
                                _______________________


                                                            หน้าที่ ๖๓

                                ปัตตวรรค สิกขาบทที่ ๓
                                เรื่องภิกษุณีถุลลนันทา
                [๑๐๖] โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของอนาถ
บิณฑิกคหบดี เขตพระนครสาวัตถี. ครั้งนั้น ภิกษุณีถุลลนันทากับภิกษุณีรูปหนึ่ง ได้เปลี่ยนจีวรกัน
ห่ม ส่วนภิกษุณีรูปนั้นพับจีวรที่เปลี่ยนกันนั้นแล้วเก็บไว้ ภิกษุณีถุลลนันทาได้ถามภิกษุณีรูปนั้นดัง
นี้ว่า แม่เจ้า จีวรที่เธอเปลี่ยนกันกับดิฉันนั้นอยู่ที่ไหน? จึงภิกษุณีรูปนั้นนำจีวรผืนนั้นออกมาแสดง
แก่ภิกษุณีถุลลนันทาๆ จึงพูดกะภิกษุณีรูปนั้นดังนี้ว่า แม่เจ้า เธอจงรับจีวรของเธอไป จงนำจีวร
ของดิฉันผืนนั้นมา นี่จีวรของเธอ ก็ต้องเป็นของเธอ นั่นจีวรของดิฉัน ก็ต้องเป็นของดิฉัน เธอ
จงนำจีวรผืนนั้นของดิฉันมา จงนำจีวรของเธอกลับไป ดังนี้ แล้วได้ชิงเอาคืนมา จึงภิกษุณีรูปนั้น
ได้แจ้งเรื่องนั้นแก่ภิกษุณีทั้งหลาย.
                บรรดาภิกษุณีที่เป็นผู้มักน้อย ... ต่างก็เพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉนแม่เจ้าถุลลนันทา
เปลี่ยนจีวรกันกับภิกษุณีแล้ว จึงได้ชิงเอาคืนมาเล่า ครั้นแล้วได้แจ้งเรื่องนั้นแก่ภิกษุทั้งหลาย.
ภิกษุทั้งหลายได้กราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค.
                                ทรงสอบถาม
                พระผู้มีพระภาคทรงสอบถามภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ข่าวว่าภิกษุณีถุลลนันทา
เปลี่ยนจีวรกันกับภิกษุณีแล้วชิงเอาคืนมา จริงหรือ?
                ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า.
                                ทรงติเตียนแล้วบัญญัติสิกขาบท
                พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีถุลลนันทาเปลี่ยนจีวรกัน
กับภิกษุณีแล้ว ไฉนจึงได้ชิงเอาคืนมาเล่า การกระทำของนางนั่น ไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของ
ชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส ...
                ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็แลภิกษุณีทั้งหลายจงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดงอย่างนี้ ว่าดังนี้:
                                พระบัญญัติ
                ๒๘.๓. อนึ่ง ภิกษุณีใด เปลี่ยนจีวรกันกับภิกษุณีแล้ว นางพูดขึ้นในภายหลังอย่าง
นี้ว่า แม่เจ้า เธอจงรับจีวรของเธอไป จงนำจีวรของดิฉันผืนนั้นมา นี่จีวรของเธอก็ต้องเป็น


                                                            หน้าที่ ๖๔

ของเธอ นั่นจีวรของดิฉันก็ต้องเป็นของดิฉัน เธอจงนำจีวรผืนนั้นของดิฉันมา จงนำจีวรของ
เธอกลับไป ดังนี้ ชิงเอามาก็ดี ให้ชิงเอามาก็ดี เป็นนิสสัคคิยปาจิตตีย์.
                                เรื่องภิกษุณีถุลลนันทา จบ.
                                สิกขาบทวิภังค์
                [๑๐๗] บทว่า อนึ่ง ... ใด ความว่า ผู้ใด คือ ผู้เช่นใด ...
                บทว่า ภิกษุณี ความว่า ที่ชื่อว่า ภิกษุณี เพราะอรรถว่าเป็นผู้ขอ ... นี้ชื่อว่า ภิกษุณี ที่
ทรงประสงค์ในอรรถนี้.
                บทว่า กับภิกษุณี คือ กับภิกษุณีรูปอื่น.
                ที่ชื่อว่า จีวร ได้แก่ผ้า ๖ ชนิด ชนิดใดชนิดหนึ่ง ซึ่งเข้าองค์กำหนดแห่งผ้าต้องวิกัป
เป็นอย่างต่ำ.
                บทว่า เปลี่ยน คือ เปลี่ยนจีวรเนื้อไม่ดีกับจีวรเนื้อดี หรือจีวรเนื้อดีกับจีวรเนื้อไม่ดี.
                บทว่า ชิงเอามา คือ ชิงเอามาเอง เป็นนิสสัคคีย์.
                บทว่า ให้ชิงเอามา คือ ใช้คนอื่น ต้องอาบัติทุกกฏ สั่งครั้งเดียวชิงเอามาแม้มากครั้ง
ก็เป็นนิสสัคคีย์ ต้องเสียสละแก่สงฆ์ คณะ หรือภิกษุณีรูปหนึ่ง.
                ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็แลจีวรนั้น ภิกษุณีพึงเสียสละอย่างนี้.
                                วิธีเสียสละ
                                เสียสละแก่สงฆ์
                ภิกษุณีรูปนั้นพึงเข้าไปหาสงฆ์ ... แม่เจ้า จีวรผืนนี้ของข้าพเจ้าเปลี่ยนกันกับภิกษุณีแล้วชิงเอา
คืนมา เป็นของจำจะสละ ข้าพเจ้าสละจีวรผืนนี้แก่สงฆ์ ... สงฆ์พึงให้จีวรผืนนี้ แก่ภิกษุณีมีชื่อนี้ ดังนี้.
                                เสียสละแก่คณะ
                ภิกษุณีรูปนั้นพึงเข้าไปหาภิกษุณีหลายรูป ... แม่เจ้าทั้งหลาย พึงให้จีวรผืนนี้แก่ภิกษุณีมีชื่อนี้
ดังนี้.
                                เสียสละแก่ภิกษุณีรูปหนึ่ง
                ภิกษุณีรูปนั้นพึงเข้าไปหาภิกษุณีรูปหนึ่ง ... ข้าพเจ้าให้จีวรผืนนี้แก่แม่เจ้า ดังนี้.


                                                            หน้าที่ ๖๕

                                บทภาชนีย์
                                ติกะนิสสัคคิยปาจิตตีย์
                [๑๐๘] อุปสัมบัน ภิกษุณีสำคัญว่า อุปสัมบัน เปลี่ยนจีวรกันแล้วชิงเอามาก็ดี ให้ชิง
เอามาก็ดี เป็นนิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
                อุปสัมบัน ภิกษุณีสงสัย เปลี่ยนจีวรกันแล้ว ชิงเอามาก็ดี ให้ชิงเอามาก็ดี เป็นนิสสัคคีย์
ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
                อุปสัมบัน ภิกษุณีสำคัญว่า อนุปสัมบัน เปลี่ยนจีวรกันแล้ว ชิงเอามาก็ดี ให้ชิงเอามา
ก็ดี เป็นนิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
                                ปัญจกะทุกกฏ
                ภิกษุณีเปลี่ยนบริขารอย่างอื่น แล้วชิงเอามาก็ดี ให้ชิงเอามาก็ดี ต้องอาบัติทุกกฏ.
                ภิกษุณีเปลี่ยนจีวรก็ดี บริขารอย่างอื่นก็ดี กับอนุปสัมบัน แล้วชิงเอามาก็ดี ให้ชิงเอามา
ก็ดี ต้องอาบัติทุกกฏ.
                อนุปสัมบัน ภิกษุณีสำคัญว่า อุปสัมบัน ต้องอาบัติทุกกฏ.
                อนุปสัมบัน ภิกษุณีสงสัย ต้องอาบัติทุกกฏ.
                อนุปสัมบัน ภิกษุณีสำคัญว่า อนุปสัมบัน ต้องอาบัติทุกกฏ.
                                อนาปัตติวาร
                [๑๐๙] ภิกษุณีผู้รับเปลี่ยนนั้นคืนให้เอง หรือถือวิสาสะต่อภิกษุณีผู้นั้นเปลี่ยนรับ ๑
วิกลจริต ๑ อาทิกัมมิกา ๑ ไม่ต้องอาบัติแล.
                                ปัตตวรรค สิกขาบทที่ ๓ จบ.
                                ______________________

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘