รักอย่างไร...ไม่ให้เครียด

รักอย่างไร...ไม่ให้เครียด


คนเราในยุคปัจจุบันนี้เป็นคนที่เครียดง่าย ทั้งจากการดำเนินชีวิตที่เร่งรีบ การทำงานหนักที่เคร่งเครียดรีบรัดและร้อนรน ไม่มีเวลาพักผ่อนสันทนาการและออกกำลังกาย แถมมลภาวะที่เป็นพิษที่อยู่รอบกายก็ทำให้สุขภาพเลวลงจนกลายเป็นคนที่เครียดง่าย อะไรนิดอะไรหน่อยก็เครียดแล้ว แต่ก็มีคำพูดที่กล่าวกันเสมอๆ ว่า ...ความรักเป็นพลังอำนาจที่มองไม่เห็น แต่มีพลังเหลือล้นที่จะบันดาลทุกสิ่งที่ดีงามให้เกิดกับคนที่มีความรัก พลังอำนาจแห่งความรักนั้นมีมากกว่าที่คนเราคิดมากนัก โดยเฉพาะพลังอำนาจของความรักแท้... คนเราจึงเกิดมาเพื่อแสวงหาความรัก อยากจะให้ความรักแก่ใครสักคนที่รักตอบ แต่ยากเหลือเกินที่จะประสบบทรักแบบนั้นได้ เจอกันก็แต่รักลวง รักไม่จริง รักแล้วทิ้ง รักเพราะเงินตรา ฯลฯ จนหลายคนเข็ดขยาดในความรัก และที่แปลกแต่จริงก็คือ ใครที่เจ็บปวดเพราะความรักหลอกลวงจากคนที่หลอกลวง ก็มักจะเกิดประวัติศาสตร์ที่ซ้ำรอยแบบนั้นเสมอๆ ทั้งหญิงและชาย ผู้หญิงที่เลือกผู้ชายผิดประเภท ฟันแล้วทิ้ง ก็ยังคงเจอผู้ชายคนใหม่ที่มาฟันแล้วทิ้งเหมือนเดิม ผู้ชายที่โดนผู้หญิงหลอกใช้งาน ก็ยังคงโดนผู้หญิงแบบเดิมคนใหม่หลอกใช้งานเหมือนเดิม...และเป็นปัญหาที่แก้ไม่ตก!!! เพราะผู้ที่ตกอยู่ในปัญหาดังกล่าวเวลาไปปรึกษาที่ปรึกษาทั้งหลายได้คำแนะนำมาก็มักจะไม่เชื่อ เนื่องจากเชื่อตัวเองในแบบเดิมๆ ก็คงจะต้องโดนหลอกต่อไปโดยคนที่มีนิสัยแบบเดิมๆ
เราคงต้องหยุดสนใจปัญหาที่ทำให้เมื่อมีความรักแล้วเกิดความเครียดดังกล่าว หันมาสนใจว่า จะมีรักอย่างไร...ไม่ให้เครียด จะดีกว่า

1. รักคนที่เขารักเราดีกว่า
"รักคนที่เขารักเราดีกว่า สุขอุราดีกว่าเป็นไหนๆ
คนที่เรารักมักทำให้ช้ำดวงใจ ...................."
เนื้อเพลงท่อนหนึ่งได้กล่าวถึง เรื่องของความรักไว้น่าฟังดังกล่าวว่า ถ้าจะเปรียบเทียบระหว่างคนที่เรารักกับคนที่รักเราแล้วละก็ อยากจะมีชีวิตคู่อย่างมีความสุข และไม่เครียดให้เลือกรักคนที่รักเราจะดีกว่า เพราะคนที่รักเราจะห่วงใยดูแลทุกข์สุขของเราด้วยความรัก และแค่เราให้ความรักตอบไปเขาก็จะเกิดความพอใจและให้ความรักที่เพิ่มพูนกับเราเสมอ ต่างจากคนที่เรารัก มักจะเล่นตัว ไม่สนใจ เพราะความรักที่ได้มานั้นไม่ได้แสวงหา เลยมองไม่ค่อยเห็นคุณค่า และมักจะทิ้งขว้างโดยไม่สนใจ จากสถิตินั้น คนที่ใช้ชีวิตคู่กับคนที่มารักนั้นมีชีวิตคู่ที่สุขสม และยืนยาวกว่า ถ้ารู้จักให้ความรักตอบแทนไปบ้าง ปัญหาจึงมีอยู่ว่า คนเรานั้นชอบความท้าทาย เขาไม่รักก็พยายามทำให้เขารักเหมือนคนที่กำลังตาบอดและหูหนวก ไม่ยอมรับฟังเหตุผลของคนรอบข้าง แบบนี้ก็ไม่รู้ว่าจะแนะนำอะไร นอกจากบอกว่า กำลังจะมีคู่กรรม และไม่ใช่คู่บุญเด็ดขาด

2. รักที่เข้าใจในรัก
การรักคนที่เข้าใจในความรู้สึกนึกคิดของกันและกัน ยินยอม ยืดหยุ่นในความคิดอ่านของกันและกัน พยายามประสานผลประโยชน์และความสุขความทุกข์ร่วมกันในทุกเรื่องราวด้วยความรักความเข้าใจนั้น เป็นรากฐานของการมีความรักที่สุขสมและไม่เครียด การเข้าใจกันนั้น ต้องเข้าใจในรูปแบบที่เห็นและเป็นอยู่ ไม่ใช่ในรูปแบบที่อยากให้เป็น เพราะไม่มีทางเป็นไปได้ที่เมื่อรักกันแล้วจะต้องเปลี่ยนแปลงนิสัยอย่างปัจจุบันทันด่วน ให้มาเป็นในรูปแบบที่คนรักต้องการ
เนื่องจากเป็นเรื่องของความฝันที่ไม่มีทางเป็นจริง คนที่อยู่กับความรักในรูปแบบของความฝันจะเกิดความเครียด ...ในขณะที่คนที่อยู่กับความรักในรูปแบบของความจริงจะเกิดความสุขผ่อนคลาย หายเครียด เพราะมองทุกอย่างเป็นจริง รวมทั้งยอมรับในความจริงดังกล่าวแน่นอนว่า คนที่อยู่กับความจริงและยอมรับความจริงได้นั้นจะไม่เครียด

3. รักกันวันละสามเวลา
...ที่ไม่ใช่การทำรักกันวันละสามเวลา แต่คำกล่าวนี้คล้ายๆ กับคำที่ว่า รักวันเติมวันนั่นแหละ จำไว้เสมอๆ ว่า ความรักเมื่อเกิดขึ้นได้ก็ดับได้ ดังนั้นเมื่อคิดจะปลูกต้นรักแล้วจะต้องหมั่นรดน้ำพรวนดินใส่ปุ๋ยแห่งความรัก ต้นรักที่ร่วมกันปลูกจึงจะเจริญงอกงาม แผ่กิ่งก้านสาขามาปกคลุมให้ชีวิตคู่เกิดความร่มเย็น ในหน้าร้อนก็เป็นร่มเงาให้แก่กัน ในหน้าฝนก็ช่วยบังสายฝนไม่ให้ตกลงมากระทบ ในหน้าหนาวก็ช่วยป้องกันไม่ให้ลมหนาวมากระทบกับร่างกาย การเรียนรู้วิธีการและรูปแบบของการบอกรักกันใหม่ๆ ไม่ซ้ำแบบเดิม ย่อมจะทำให้คู่ของเราเกิดความสุขชื่นชมยินดีปรีดาที่ได้มีคนรักและก็จะตอบแทนความรักที่ได้รับกลับมาเป็นร้อยเท่าพันทวี ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็แค่กอดกันเข้านอนแล้วกระซิบเบาๆ บอกกันว่า รักคุณจ้ะที่รัก...ฉันก็รักคุณมากที่สุดเหมือนกัน เท่านี้ก็นอนหลับไปอย่างมีความสุขแล้ว

4. รักที่ไม่เห็นแก่ตัว
การมีความรักที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เมตตากรุณาและเอ็นดูคนรอบข้างของคนที่รักนั้นจัดเป็นศาสตร์และศิลปะ ที่สำคัญที่สุดในการที่จะมีความรักแล้วไม่ให้เกิดความเครียดเลยทีเดียว เพราะเมื่อให้ความรักต่อคนรอบข้างแล้ว คนเหล่านั้นแหละที่จะเป็นเกราะคุ้มครองป้องกันภัยให้ ความรักของเราด้วยความชื่นชมยินดี
รักใครก็ให้ความรักเผื่อแผ่ไปถึงญาติพี่น้อง พ่อแม่ของคนที่รักด้วยโดยไม่รังเกียจเดียดฉันท์ แล้วทุกคนเหล่านั้นก็จะรักตอบและมองเราในทางที่ดี
รักใครก็รักเพื่อนๆ ของคนที่รักด้วย ให้พวกเพื่อนๆ ทั้งหลายได้รู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของความรักที่แสนจะมั่นคงและหวานชื่น จนยินดีและเป็นสุขร่วมกัน
ความรักแบบนี้เป็นความรักที่มั่นคงและไม่เคร่งเครียดแน่นอน!

5. รักนวลสงวนตัว
คำว่ารักนวลสงวนตัวนี้ไม่ได้หมายถึง ผู้หญิงแต่ฝ่ายเดียวแต่หมายถึงฝ่ายชายด้วย และไม่ใช่เป็นการเขียนเรื่องย้อนยุคให้อ่าน เพราะมักจะมีคนเถียงเสมอๆ ว่า ในยุคนี้ไม่มีใครเขาถือกันแล้วเรื่องนี้ ก็จริงอยู่... แต่ถ้าอยากจะมีชีวิตคู่ที่ยืนยาวด้วยความรักแล้วไม่เครียด ก็คงจะต้องพิจารณาผลการสำรวจในประเทศทางตะวันตกซึ่งคนทางประเทศเราเชื่อนักเชื่อหนาว่า "คู่สมรสที่ไม่เคยมีประสบการณ์ในการร่วมรักมาก่อน และไม่ได้มีสัมพันธ์ทางเพศก่อนสมรสนั้น มีอุบัติการณ์ในการหย่าร้างน้อยกว่าคนที่มีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน และคนที่มีประสบการณ์ทางเพศประเภทผ่านผู้ชายและผู้หญิงมามาก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ" ซึ่งถ้าบอกแบบคนธรรมดาก็คือ เป็นข้อมูลที่อ้างอิงได้ และเป็นข้อมูลให้อ่าน... โดยไม่มีความเห็นเพิ่มท้าย

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘