ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม ธรรมศึกษาชั้นเอก สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๑ เวลา ๑๓.๐๐ น.

คำสั่ง :         จงเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว แล้วกากบาทลงในช่องของข้อ
         ที่ต้องการในกระดาษคำตอบ
ให้เวลา ๕๐ นาที (๑๐๐ คะแนน)
.  พระพุทธเจ้าตรัสเรียกให้มาดูโลก เพื่อประโยชน์อะไร ?
      . เพื่อคลายเครียด                            . เพื่อคลายทุกข์
      . เพื่อเพลิดเพลิน                              . เพื่อให้รู้ความจริง
        คำตอบ :
.  คำว่า พวกคนเขลา หมายถึงบุคคลข้อใด ?
        ก. คนอันธพาล                             ข. คนสมองไม่ดี
        ค. คนขาดสติ                              ง. คนผู้ไร้พิจารณ์
        คำตอบ :
.  ผู้รู้หาข้องอยู่ไม่ คำว่าผู้รู้ ตรงกับข้อใด ?
      . ผู้รู้โลกตามเป็นจริง                      . ผู้รู้สังคมโลก
      . ผู้รู้โลกธรรม                            . ผู้รู้คดีโลกคดีธรรม
        คำตอบ :
.  ทำอย่างไรจึงจะไม่หลงอยู่ในโลก ?
        ก. หนีออกจากโลก                         ข. หนีออกไปบวช
        ค. ไม่ยุ่งกับใคร                            ง. ไม่ติดในสิ่งล่อใจ
        คำตอบ :
.  ในเรื่องนิพพิทา อาการเช่นใดเรียกว่า สำรวมจิต ?
      . มนสิการกัมมัฏฐาน                     . ทำใจให้สบาย
      . ทำใจไม่รับรู้อารมณ์                     . ทำใจไม่ให้ยึดติด
        คำตอบ :
.  เบื่อหน่ายอะไร จัดเป็นนิพพิทา ?
        ก. เบื่อหน่ายสังขาร                         . เบื่อหน่ายสังคม
      . เบื่อหน่ายการงาน                       . เบื่อหน่ายการเรียน
        คำตอบ :
.  บ่วงแห่งมาร หมายถึงอะไร ?
      . อายตนะภายใน                         . อายตนะภายนอก
      . โลภ โกรธ หลง                         . สิ่งที่เกิดภายในใจ
        คำตอบ :
. ความไม่ดีในข้อใด จัดเป็นมาร ?
      . ความเห็นแก่ตัว                         . ความเกียจคร้าน
      . ความทะยานอยาก                      . ความโกรธทำลายล้าง
        คำตอบ :
. กิเลสกามได้ชื่อว่าเป็นมาร เพราะเหตุใด ?
        ก. เป็นเครื่องจูงใจ                          ข. ทำให้เศร้าหมอง
        ค. ทำให้ใจหลงระเริง                            ง. ล้างผลาญคุณความดี
        คำตอบ :
๑๐. วัตถุกาม เรียกว่าอะไร ?
      . ขันธมาร                                . บ่วงแห่งมาร
      . มัจจุมาร                                . กิเลสมาร
        คำตอบ :
๑๑. ปฏิบัติอย่างไร จึงจะตัดบ่วงแห่งมารได้เด็ดขาด ? 
      . สำรวมอินทรีย์                          . มนสิการกัมมัฏฐาน
      . เจริญวิปัสสนา                          . เข้าฌานสมาบัติ
        คำตอบ :
๑๒. คำว่า สังขาร ในปฏิปทาแห่งนิพพิทา หมายถึงอะไร ?
      . เบญจขันธ์                              . อายตนะ
      . อินทรีย์                                 . ธาตุ
        คำตอบ :
๑๓. ความเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปแห่งสังขาร เรียกว่าอะไร ?
      . อนัตตลักษณะ                          . อนิจจลักษณะ
      . ไตรลักษณะ                            . ทุกขลักษณะ
        คำตอบ :
๑๔. เกิด แก่ เจ็บ ตาย จัดเป็นทุกข์ชนิดใด ?
      . ทุกขเวทนา                             . สภาวทุกข์
      . พยาธิทุกข์                              . ทุกข์รวบยอด
        คำตอบ :
๑๕. ข้อใดจัดเป็นวิปากทุกข์ ?
      . กลัวไม่มีงานทำ                         . กลัวถูกยึดทรัพย์สิน
      . ร้อนใจเพราะทุจริต                      . เสียใจเพราะพลาดตำแหน่ง
        คำตอบ :
๑๖. ความหนาว ร้อน หิว กระหาย จัดเป็นทุกข์อะไร ? 
      . สภาวทุกข์                              . วิปากทุกข์
      . นิพัทธทุกข์                             . พยาธิทุกข์
        คำตอบ :
๑๗. ทุกข์เพราะหาเงินไม่พอใช้ จัดเป็นทุกข์อะไร ? 
      . สภาวทุกข์                              . นิพัทธทุกข์
      . วิปากทุกข์                              . อาหารปริเยฏฐิทุกข์
        คำตอบ :
๑๘. พูดโดยไม่คิด พ่นพิษใส่คนอื่น จัดเป็นทุกข์อะไร ?
      . ปกิณณกทุกข์                           . สภาวทุกข์
      . นิพัทธทุกข์                             . วิวาทมูลกทุกข์
        คำตอบ :
๑๙. อะไรปิดบังไว้ จึงไม่เห็นสังขารเป็นอนัตตา ?
      . อิริยาบถ                                . สันตติ
      . ฆนสัญญา                              . สุขเวทนา
        คำตอบ :
๒๐. ข้อใดเป็นลักษณะของอนิจจตา ?
      . ไม่มีเจ้าของ                             . ไม่อยู่ในอำนาจ
      . ทนได้ยาก                              . เกิดขึ้นแล้วดับไป
        คำตอบ :
๒๑. เมื่อรู้ว่า สังขารเป็นไปตามเหตุปัจจัย พึงปฏิบัติอย่างไร ?
      . ยินดีทุกเมื่อ                           . ปล่อยว่างทุกเมื่อ
      . มีสติทุกเมื่อ                           . มีสุขทุกเมื่อ
        คำตอบ :
๒๒. อะไรปิดบังไว้ จึงไม่เห็นสังขารเป็นอนัตตา ? 
      . อนิจจสัญญา                            . ทุกขสัญญา
      . สุขสัญญา                              . ฆนสัญญา
        คำตอบ :
๒๓. นั่นมิใช่เรา นั่นมิใช่ของเรา จัดเป็นอนัตตาข้อใด ?
      . หาเจ้าของมิได้                          . แย้งอนัตตา
      . เป็นสภาพสูญ                          . ไม่อยู่ในอำนาจ
        คำตอบ :
๒๔. เมื่อเบื่อหน่ายสังขาร ย่อมเกิดอะไรขึ้น ?
. ไม่หลง                                        . ไม่ฟุ้งซ่าน
. สิ้นกิเลส                                      . สิ้นกำหนัด
คำตอบ :
๒๕. ความติดพันห่วงใยในอารมณ์อันเป็นที่รัก เรียกว่าอะไร ?
       ก. ความเมา                                      . ความอยาก
. ความอาลัย                                   . ความหิวกระหาย
คำตอบ :
๒๖. ข้อใดไม่เกี่ยวข้องกับวิราคะ ?
      . ความเบื่อหน่าย                         . ความสุข
      . ความสิ้นทุกข์                           . ความดับ
        คำตอบ :
๒๗. มทนิมฺมทโน ธรรมยังความเมาให้สร่าง นั้น หมายถึงข้อใด ?
      . สุรา                                     . ยาบ้า
      . กัญชา                                  . ลาภยศ
        คำตอบ :
๒๘. ปิปาสวินโย ความนำเสียซึ่งความระหาย หมายถึงข้อใด ? 
      . กำจัดความหิว                          . กำจัดความทุกข์ร้อน
      . กำจัดตัณหา                            . กำจัดความยากจน
        คำตอบ :
๒๙. การเวียนเกิดด้วยอำนาจกิเลส กรรม วิบาก เรียกว่าอะไร ? 
      . วัฏฏะ                                  . อาลัย
      . วิบาก                                  . ตัณหา
        คำตอบ :
๓๐. ความหลุดพ้นด้วยข่มไว้นั้น หมายถึงข่มอะไร ?
        ก. ตัณหา                                  ข. ราคะ
        ค. นิวรณ์                                  ง. อนุสัย
        คำตอบ :
๓๑. พิจารณาเห็นสังขารอย่างไร จัดเป็นอุทยัพพยญาณ ?
        . เห็นว่าว่างเปล่า                          . เห็นว่าไม่เที่ยง
      . เห็นว่าเป็นทุกข์                         . เห็นว่าเป็นอนัตตา
        คำตอบ :
๓๒. หนทางนำสู่ความดับทุกข์ประเสริฐที่สุด คือข้อใด ?  
       ก. วิมุตติ ๕                                      ข. อริยทรัพย์ ๗
        ค. มรรค ๘                                       ง. บุญกิริยาวัตถุ ๑๐
        คำตอบ :
๓๓. กิจในอริยสัจ ๔ ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง ?
        ก. ทุกข์ควรละ                              ข. สมุทัยควรละ
       ค. นิโรธควรทำให้แจ้ง                       ง. มรรคควรเจริญ
       คำตอบ :
๓๔. ข้อใด ไม่ใช่สัมมาสังกัปปะ ?
      . คิดเลิกกาม                              . คิดเลิกพยาบาท
      . คิดฆ่าตัวตาย                           . คิดเลิกเบียดเบียน
       คำตอบ :
๓๕. ข้อใด ไม่ใช่สัมมากัมมันตะ ?
        ก. เว้นธุรกิจผิดกฎหมาย                       ข. เว้นลักฉ้อคอร์รัปชั่น
        ค. เว้นเจรจาหลอกลวง                          ง. เว้นธุรกิจค้าประเวณี
        คำตอบ :
๓๖. ข้อใด ไม่ใช่สัมมาวายามะ ?
      . พยายามระงับปัญหา                        . พยายามป้องกันปัญหา
      . พยายามหนีปัญหา                         . พยายามพัฒนาสิ่งดีงาม
        คำตอบ :
๓๗. ข้อใด ไม่นับเข้าในสัมมาสติ ?
      . เห็นว่าโลกเที่ยง                         . เห็นกายว่าไม่สวยงาม
       . เห็นจิตว่ามีความเกิดดับ                 . เห็นเวทนาว่าปรวนแปร
       คำตอบ :
๓๘. การเลี้ยงชีพโดยสุจริต งดเว้นทุจริต จัดเป็นวิสุทธิข้อใด ?
      . สีลวิสุทธิ                               . จิตตวิสุทธิ
      . ทิฏฐิวิสุทธิ                              . กังขาวิตรณวิสุทธิ
        คำตอบ :
๓๙. ข้อใด จัดเข้าในจิตตวิสุทธิ ? 
      . สัมมาวาจา                                 . สัมมากัมมันตะ
        . สัมมาอาชีวะ                           . สัมมาสติ
        คำตอบ :
๔๐. คนมักง่วงนอน ควรเจริญกัมมัฏฐานอะไร  ?
        ก. กสิณ                                    ข. มูลกัมมัฏฐาน
        ค. พรหมวิหาร                             ง. พุทธานุสสติ
        คำตอบ :
๔๑. ถ้ามีความคิดฟุ้งซ่านหรือคิดมาก ควรใช้กัมมัฏฐานข้อใด ?    
      . กสิณ                                   . อสุภะ
      . เมตตา                                 . พุทธานุสสติ
        คำตอบ :
๔๒. คนลักษณะเช่นไร เรียกว่าสัทธาจริต ? 
      . เชื่อเหตุผล                              . เชื่อง่าย
      . เชื่อตำรา                                . เชื่อมั่นตัวเอง
        คำตอบ :
๔๓. คนลักษณะเช่นไร เรียกว่ามีโทสจริต ?  
      . หงุดหงิด                               . สงสัย
      . เจ้าระเบียบ                             . ท้อแท้
        คำตอบ :
๔๔. ข้อใด ไม่จัดเข้าในวิตกจริต ?
      . คิดฟุ้งซ่าน                              . คิดกังวล
      . โกรธง่าย                                . นอนไม่หลับ
        คำตอบ :
๔๕. ข้อใด เป็นอานิสงส์ของการเจริญเมตตา ? 
      . ไม่มีเวรภัย                              . ไม่ประมาท
      . ไม่มีอคติ                               . ไม่กลัว
        คำตอบ :
๔๖. ข้อใด เป็นคำแผ่กรุณา ? 
ก. ขอสัตว์จงเป็นสุขเถิด                     ข. ขอสัตว์จงพ้นจากทุกข์เถิด
        ค. ขอสัตว์อย่าจองเวรกัน                   ง. ขอสัตว์จงอย่าเบียดเบียน
        คำตอบ :
๔๗. ข้อใด เป็นคำแผ่มุทิตา ?
      . ขอสัตว์จงเป็นสุขเถิด                    . ขอสัตว์จงมีสุขยิ่งขึ้นไป
      . ขอสัตว์มีทุกข์จงพ้นทุกข์                . ขอสัตว์จงอย่ามีเวรกัน
        คำตอบ :
๔๘. ขณะกราบพระพุทธรูป ได้ชื่อว่าเจริญอนุสสติใด ?
      . พระพุทธานุสสติ                             ข. ธัมมานุสสติ
        . สังฆานุสสติ                                  ง. สีลานุสสติ
        คำตอบ :
๔๙. วิปัสสนาคืออะไร ?  
        ก. ความสงบ                               ข. ความรู้ในอารมณ์
        ค. ความสุขใจ                              ง. ความไม่ฟุ้งซ่าน
        คำตอบ :
๕๐. อะไรเป็นผลสูงสุดของวิปัสสนา ?
        ก. เห็นสังขารตามเป็นจริง                  ข. เห็นสังขารเกิดดับ
        ค. เห็นสังขารน่ากลัว                        ง. เห็นสังขารเป็นทุกข์
        คำตอบ :

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘