ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม ธรรมศึกษาชั้นเอก สอบในสนามหลวง วันพฤหัสบดี ที่ ๒๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๐ เวลา ๑๓.๐๐ น.

คำสั่ง :         จงเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว แล้วกากบาทลงในช่องของข้อ
         ที่ต้องการในกระดาษคำตอบ
ให้เวลา ๕๐ นาที (๑๐๐ คะแนน)
.  พระพุทธเจ้าทรงเชิญชวนให้มาดูโลก เพื่อประโยชน์อะไร ?
      . เพื่อคลายเครียด                            . เพื่อคลายทุกข์
      . เพื่อให้รู้ความจริง                           . เพื่อเพลิดเพลิน
        คำตอบ :
.  คำว่า โลก ในส่วนปรมัตถปฏิปทา หมายถึงอะไร ?
        ก. แผ่นดินน้ำอากาศ                       ข. แผ่นดินและหมู่สัตว์
        ค. แผ่นดินที่อยู่อาศัย                      ง. หมู่สัตว์ผู้อยู่อาศัย
        คำตอบ :
.  คำว่า คนเขลา หมายถึงคนเช่นไร ?
      . คนดื้อรั้น                               . คนมีความเห็นผิด
      . คนขาดสติ                              . คนไม่มีการศึกษา
        คำตอบ :
.  คำว่า ผู้รู้ หมายถึงใคร ?
        ก. ผู้รู้ทันโลก                               ข. ผู้รู้โลกตามเป็นจริง
        ค. ผู้รู้โลกธรรม                             ง. ผู้รู้คดีโลกคดีธรรม
        คำตอบ :
.  คำว่า ข้องอยู่ในโลก ได้แก่อาการเช่นไร ?
      . พัวพันอยู่ในสิ่งอันล่อใจ                 . มัวเมาในสิ่งที่อำนวยสุข
      . เพลิดเพลินในสิ่งให้โทษ                 . ถูกทุกข้อ
        คำตอบ :
.  โทษล้างผลาญคุณความดีและทำให้เสียคน เรียกว่าอะไร ?
        ก. มาร                                     . บ่วงมาร
      . เสนามาร                               . มัจจุมาร
        คำตอบ :
.  คนเช่นไร สงเคราะห์เข้าในคำว่า มาร ?
      . คนเป็นศัตรูกัน                         . คนอันธพาล
      . คนขัดขวางการทำดี                     . คนหลอกลวง
        คำตอบ :
. คำว่า บ่วงแห่งมาร หมายถึงข้อใด ?
      . กิเลสกาม                               . วัตถุกาม
      . กามฉันท์                               . กามตัณหา
        คำตอบ :
. ทำอย่างไร จึงจะพ้นจากบ่วงแห่งมาร ?
        ก. สำรวมอินทรีย์                           ข. มนสิการกัมมัฏฐาน
        ค. เจริญวิปัสสนา                                ง. ถูกทุกข้อ
        คำตอบ :
๑๐. เบื่อหน่ายอะไร จัดเป็นนิพพิทา ?
      . เบื่อหน่ายสังขาร                        . เบื่อหน่ายการงาน
      . เบื่อหน่ายการเรียน                      . เบื่อหน่ายสังคม
        คำตอบ :

๑๑. คนและสัตว์ จัดเป็นสังขารประเภทใด ? 
      . วิสังขาร                                 . ปุญญาภิสังขาร
      . อุปาทินนกสังขาร                       . อนุปาทินนกสังขาร
        คำตอบ :
๑๒. ความขาดแห่งสันตติ ทำให้เห็นอะไร ?
      . ความไม่เที่ยง                           . ความทุกข์
      . ความแก่                               . ความตาย
        คำตอบ :
๑๓. อนิจจลักษณะ ไม่ปรากฏในข้อใด ?
      . ร่างกาย                                 . จิตใจ
      . ต้นไม้                                  . นิพพาน
        คำตอบ :
๑๔. อนิจจตา มีลักษณะเช่นไร ?
      . เกิดแล้วเสื่อมไป                        . ทนอยู่ไม่ได้
      . ไม่อยู่ในอำนาจ                         . หาเจ้าของมิได้
        คำตอบ :
๑๕. เกิด แก่ ตาย จัดเป็นทุกข์ประเภทใด ?
      . สภาวทุกข์                              . ปกิณณกทุกข์
      . นิพัทธทุกข์                             . พยาธิทุกข์
        คำตอบ :



๑๖. มองไม่เห็นทุกข์ เพราะมีอะไรปิดบังไว้ ? 
      . สันตติ                                  . อิริยาบถ
      . ฆนสัญญา                              . สุขเวทนา
        คำตอบ :
๑๗. ปกิณณกทุกข์ ได้แก่ข้อใด ? 
      . เศร้าโศกเสียใจ                          . หนาวร้อน
      . เจ็บไข้ได้ป่วย                           . หิวกระหาย
        คำตอบ :
๑๘. ข้อใด จัดเป็นนิพัทธทุกข์ ?
      . เสียใจ                                  . เจ็บป่วย
      . เกิด แก่ ตาย                           . หนาวร้อน
        คำตอบ :
๑๙. ลาภ ยศ สรรเสริญ จัดเป็นทุกข์ประเภทใด ?
      . สภาวทุกข์                              . ปกิณณกทุกข์
      . นิพัทธทุกข์                             . สหคตทุกข์
        คำตอบ :
๒๐. ความไม่อยู่ในอำนาจ จัดเป็นอาการของอะไร ?
      . อนิจจตา                                . ทุกขตา
      . อนัตตตา                               . สามัญญตา
        คำตอบ :
๒๑. ทุกสิ่งมีสภาพสูญ หมายถึงข้อใด ?
      . ควบคุมไม่ได้                         . ค้นหาไม่พบ
      . ไม่เที่ยงแท้                            . มีความแปรปรวน
        คำตอบ :
๒๒. ข้อใด เป็นความหมายของวิราคะ ? 
      . สิ้นอาลัย                                . สิ้นกำหนัด
      . สิ้นวัฏฏะ                               . สิ้นตัณหา
        คำตอบ :
๒๓. วิกขัมภนวิมุตติ ความหลุดพ้นด้วยข่มไว้นั้น คือข่มอะไร ?
      . โลภะ                                   . โทสะ
      . นิวรณ์                                  . ตัณหา
        คำตอบ :
๒๔. การหลุดพ้นด้วยวิธีใด เรียกว่าปัญญาวิมุตติ ?
. เจริญสมถะอย่างเดียว                       . เจริญวิปัสสนาอย่างเดียว
. เจริญทั้งสมถะและวิปัสสนา                . ถูกทุกข้อ
คำตอบ :
๒๕. วิสุทธิ ความหมดจดแห่งสัตว์ทั้งหลาย ในพระพุทธศาสนากล่าวเรื่องนี้ไว้อย่างไร ?
ก.     สัตว์บริสุทธิ์ได้ด้วยลอยบาป   
. สัตว์บริสุทธิ์ได้ด้วยชำระบาป
. สัตว์บริสุทธิ์ได้ด้วยปัญญา     
. สัตว์บริสุทธิ์ได้ด้วยเทพเจ้า
คำตอบ :
๒๖. ข้อใด ไม่จัดเข้าในสีลวิสุทธิ ความหมดจดแห่งศีล ?
      . สัมมาวาจา                              . สัมมากัมมันตะ
      . สัมมาอาชีวะ                            . สัมมาสมาธิ
        คำตอบ :

๒๗. วิสุทธิ เป็นจุดหมายปลายทางของอะไร ?
      . นิพพิทา                                . วิราคะ
      . นิพพาน                                . วิมุตติ
        คำตอบ :
๒๘. ข้อใด เป็นทางแห่งสันติภาพแท้ ? 
      . ทำตามกฎหมาย                        . เชื่อฟังผู้ใหญ่
      . เคารพสิทธิผู้อื่น                        . มีกายวาจาใจสงบ
        คำตอบ :
๒๙. ผู้เพ่งความสงบพึงละโลกามิส คำว่า โลกามิส คืออะไร ? 
      . กามคุณ                                . กามฉันท์
      . กามกิเลส                              . กามราคะ
        คำตอบ :
๓๐. ปฏิบัติอย่างไร จึงจะเข้าใกล้พระนิพพาน ?
        ก. ฝึกสมาธิเป็นนิตย์                       ข. เห็นภัยในความประมาท
        ค. ฟังธรรมสม่ำเสมอ                       ง. รักษาศีลเป็นประจำ
        คำตอบ :
๓๑. อุปมาว่า ไฟสิ้นเชื้อแล้วย่อมดับไปเอง กล่าวถึงเรื่องใด ?
        . ฌาน                                   . สมาบัติ
      . อภิญญา                                . นิพพาน
        คำตอบ :
๓๒.  ข้อใด กล่าวถึงสอุปาทิเสสนิพพานได้ถูกต้อง ?  
       ก. ปฏิบัติเพื่อละกิเลส                           ข. สิ้นกิเลส มีชีวิตอยู่
        ค. สิ้นกิเลส สิ้นชีวิต                            ง. สิ้นชีวิต มีกิเลสอยู่
        คำตอบ :
๓๓. จิตที่เป็นสมาธิ มีลักษณะอย่างไร ?
        ก. มีอารมณ์เดียว                           ข. ปราศจากนิวรณ์
       ค. มีสมาธิตั้งมั่น                            ง. ถูกทุกข้อ
       คำตอบ :
๓๔. กายคตาสติกัมมัฏฐาน กำหนดอะไรเป็นอารมณ์ ?
      . ผมขนเล็บฟันหนัง                       . ซากศพ
      . ลมหายใจ                               . ความตาย
       คำตอบ :
๓๕. ผู้เจริญกายคตาสติ ย่อมได้รับอานิสงส์อย่างไร ?
        ก. ไม่กลัวความตาย                        ข. มีผิวพรรณผ่องใส
        ค. มีจิตใจเบิกบาน                            ง. ไม่ยึดติดกายตนคนอื่น
        คำตอบ :
๓๖. กายคตาสติ เป็นคู่ปรับนิวรณ์ใด ?
      . กามฉันท์                                   . พยาบาท
      . ถีนมิทธะ                                   . วิจิกิจฉา
        คำตอบ :
๓๗. ผู้เจริญเมตตา พึงแผ่ไปในใครก่อน ?
      . ตนเอง                                  . บิดามารดา
       . คนทั่วไป                               . คนเป็นศัตรู
       คำตอบ :
๓๘. ผู้เจริญพุทธานุสสติ ควรระลึกถึงอะไร ?
      . พุทธประวัติ                            . พุทธโอวาท
      . พระพุทธรูป                            . พระพุทธคุณ
        คำตอบ :
๓๙. การเจริญกสิณ เพื่อข่มนิวรณ์ใด ? 
      . พยาบาท                                   . วิจิกิจฉา
        . อุทธัจจกุกกุจจะ                        . ถีนมิทธะ
        คำตอบ :
๔๐. การกำหนดรูปกายโดยความเป็นธาตุ หมายถึงข้อใด  ?
        ก. จตุธาตุววัตถาน                         ข. อสุภกัมมัฏฐาน
        ค. กายคตาสติ                             ง. อาหาเรปฏิกูลสัญญา
        คำตอบ :
๔๑. ประโยชน์ของการเจริญอสุภกัมมัฏฐาน คือข้อใด ?    
      . คลายสงสัย                             . คลายกำหนัด
      . ตัดกิเลส                               . ให้เกิดเมตตา
        คำตอบ :
๔๒. การเจริญมรณสติ มีประโยชน์อย่างไร ? 
      . ทำให้ไม่ประมาท                        . ทำให้กล้าหาญ
      . ทำให้อดทน                            . ทำให้วางเฉย
        คำตอบ :
๔๓. คนโทสจริต มีลักษณะเช่นไร ?  
      . เจ้าระเบียบ                             . โกรธง่าย
      . เชื่อคนง่าย                              . ลืมง่าย
        คำตอบ :
๔๔. คนโทสจริต ควรเจริญกัมมัฏฐานอะไร ?
      . เมตตา                                 . จาคานุสสติ
      . อสุภะ                                  . มรณานุสสติ
        คำตอบ :
๔๕. คนมีสติไม่มั่นคง หลงๆ ลืมๆ ตรงกับจริตใด ? 
      . วิตักกจริต                              . พุทธิจริต
      . โมหจริต                                . สัทธาจริต
        คำตอบ :
๔๖. คนมีสติไม่มั่นคง ควรแก้ด้วยวิธีใด ? 
ก. พิจารณาความตาย                       ข. กำหนดลมหายใจ
        ค. พิจารณาอสุภะ                          ง. กำหนดธาตุ
        คำตอบ :
๔๗. การแสดงธรรมโปรดสัตว์ จัดเป็นพุทธคุณข้อใด ?
      . พระปัญญาคุณ                         . พระวิสุทธิคุณ
      . พระกรุณาคุณ                          . ถูกทุกข้อ
        คำตอบ :
๔๘. จตุธาตุววัตถาน ท่านให้กำหนดพิจารณากายให้เห็นว่า... ?
      . เป็นเพียงสมมติว่าธาตุ
        . เป็นเพียงธาตุ ประชุมกัน
      . ธาตุ เป็นนิพพานบัญญัติ           
      . ธาตุ ๔  เป็นปรมัตถบัญญัติ
        คำตอบ :
๔๙. บุคคลเช่นไร เจริญวิปัสสนากัมมัฏฐานไม่ได้ผล ?  
        ก. มีจิตฟุ้งซ่าน                             ข. มีศีลไม่บริสุทธิ์
        ค. ไม่รู้วิปัสสนาภูมิ                         ง. ถูกทุกข้อ
        คำตอบ :


๕๐. ประโยชน์สูงสุดของการเจริญวิปัสสนากัมมัฏฐาน คืออะไร ?
        ก. พ้นจากสังสารทุกข์                      ข. ระงับนิวรณ์
        ค. กำจัดความสงสัย                        ง. พ้นจากอบาย
        คำตอบ :

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘