มิจฉาทิฏฐิ
เจตนาเป็นเหตุให้เห็นผิด เพราะไม่มีการถือเอาตามความเป็นจริง คัดค้านข้อประพฤติปฏิบัติของสัตบุรุษทั้งหมด โดยนัยเป็นต้นว่า ทานที่ให้แล้วไม่มีผล ชื่อว่า มิจฉาทิฏฐิ
นิยตมิจฉาทิฏฐิ ๓ อย่าง
๑. นัตถิกทิฏฐิ ความเห็นว่าผลกรรมไม่มี เช่นเห็นว่า ผลของกรรมดีกรรมชั่วไม่มี โลกนี้ไม่มี โลกหน้าไม่มี บิดามารดาไม่มีบุญคุณต่อบุตรธิดา เป็นต้น
๒. อเหตุกทิฏฐิ ความเห็นว่าไม่มีเหตุ คือ เหตุแห่งความเศร้าหมอง ความบริสุทธิ์ของสัตว์ทั้งหลายไม่มี สัตว์ทั้งหลายเศร้าหมองเอง บริสุทธิ์เอง ทุกข์เอง สุขเอง ไม่มีอำนาจ ไม่มีกำลัง ไม่มีความเพียรอะไร ที่จะสามารถทำให้สัตว์ทั้งหลายเศร้าหมองและบริสุทธิ์ได้ ดังนั้น อเหตุกทิฏฐิ ก็คือ ความเห็นว่ากรรมไม่มีนั่นเอง
๓. อกิริยทิฏฐิ ความเห็นว่าไม่เป็นอันทำ หมายความว่า เมื่อคนทำบาป มีการฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ เป็นต้น ก็ไม่จัดว่าเป็นการทำบาป เมื่อคนให้ทาน รักษาศีล เป็นต้น ก็ไม่จัดว่า เป็นการทำบุญ ดังนั้น อกิริยทิฏฐิ ก็คือความเห็นว่ากรรมและผลของกรรมไม่มี นั่นเอง
มิจฉาทิฏฐิ ๓ อย่างนี้ อย่างใดอย่างหนึ่ง ล้วนปฏิเสธกรรมและผลของกรรมอย่างสิ้นเชิง จัดเป็นกรรมบถ ส่วนมิจฉาทิฏฐินอกจากนี้ มีสักกายทิฏฐิ ๒๐ หรือทิฏฐิ ๖๒ เป็นต้น เป็นเพียงกรรมเท่านั้น
มิจฉาทิฏฐิ จะสำเร็จเป็นกรรมบถได้ ต้องประกอบด้วยองค์ ๒ คือ
๑. เรื่องไม่จริง
๒. เรื่องไม่จริงนั้น ไม่เป็นไปตามที่มิจฉาทิฏฐิยึดถือ
มิจฉาทิฏฐินั้น มีโทษมาก เพราะเหตุ ๒ ประการ คือ
๑. เพราะมีอาเสวนะ (ความเสพคุ้น) มาก
๒. เพราะเป็นนิยตมิจฉาทิฏฐิ