๒๒. ประวัติ พระโสณกุฎิกัณณเถระ
๑. สถานะเดิม
พระโสณกุฎิกัณณเถระ นามเดิม โสณะ แต่เพราะเขาประดับเครื่องประดับหูมีราคาถึงหนึ่งโกฏิ จึงมีคำต่อท้ายว่า กุฏิกัณณะ
มารดาเป็นอุบาสิกาชื่อ กาฬี เป็นพระโสดาบัน ผู้ถวายความอุปภัมภ์บำรุงพระมหากัจจายนเถระ
เกิดในตระกูลคหบดีในเมืองกุรุรฆระ แคว้นอวันตี เป็นคนวรรณะแพศย์
๒. มูลเหตุแห่งการบวชในพระพุทธศาสนา
เพราะมารดาท่านเป็นผู้อุปัฏฐากพระมหากัจจายนะ เวลาที่พระเถระมาจำพรรษาที่ภูเขาปวัตตะ จึงได้นำเด็กชายโสณะไปวัดด้วย จึงทำให้มีความรู้จักและคุ้นเคย
กับพระเถระมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ต่อมาครั้นเจริญวัยมีศรัทธาใคร่จะบวชในพระพุทธศาสนาจึงขอบรรพชาอุปสมบทกับพระเถระ ๆ อธิบายให้ฟังว่า การบวชนั้นมีความทุกข์ยากลำบากอย่างไร แต่เขาก็ยืนยันจะบวชให้ได้ พระเถระจึงบวชให้ได้แค่เป็นสามเณร เพราะในอวันตีชนบทหาพระครบองค์สงฆ์ ๑๐ องค์ไม่ได้ ท่านบวชเป็นสามเณรอยู่ ๓ ปี จึงได้พระครบ ๑๐ องค์ แล้วได้อุปสมบทเป็นภิกษุ ครั้นบวชแล้ว ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนในสำนักพระอุปัชฌาย์พากเพียรบำเพ็ญภาวนาในไม่ช้าก็สำเร็จพระอรหัตผล
๓. งานประกาศพระศาสนา
ครั้งหนึ่ง โยมมารดาของท่านทราบว่าท่านแสดงธรรมให้พระพุทธเจ้าสดับได้ปลื้มปิติใจ จึงนิมนต์ให้แสดงธรรมให้ฟังบ้าง ท่านก็ได้แสดงให้ฟังตามอาราธนา โยมมารดาเลื่อมใสตั้งใจฟังอย่างดี แต่ในขณะฟังธรรมอยู่นั้น พวกโจรเข้าไปปล้นทรัพย์ในบ้าน คนใช้มารายงาน ท่านก็ไม่มีความเสียดาย บอกว่าโจรต้องการอะไร ก็ให้ขนเอาไปตามปรารถนาเถิด ส่วนเราจะฟังธรรมของพระลูกชาย พวกท่านอย่าทำอันตรายต่อการฟังธรรมเลย
พวกโจรทราบความนั้นจากคนใช้ รู้สึกสลดใจว่าเราได้ทำร้ายผู้มีคุณธรรมสูงส่งถึงเพียงนี้ เป็นความไม่ดีเลย จึงพากันไปยังวัด เมื่อการฟังธรรมสิ้นสุดลง ได้เข้าไปหาโยมมารดาของท่านขอขมาโทษแล้วขอบวชในสำนักของพระเถระ ๆ ก็บวชให้พวกเขาตามประสงค์
๔. เอตทัคคะ
พระโสณกุฏิกัณณเถระนี้มีความสามารถในการแสดงธรรมแบบสรภัญญะ ด้วยเสียงอันไพเราะต่อพระพักตร์ของพระศาสดา ดังนั้น ท่านจึงได้รับการยกย่องว่าเป็นเลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้แสดงธรรมด้วยถ้อยคำอันไพเราะ
๕. บุญญาธิการ
แม้พระโสณกุฏิกัณณเถระนี้ ก็ได้บำเพ็ญบารมีอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพานมานานแสนนาน ในกาลแห่งพระปทุมุตตรศาสดาได้เห็นพระพุทธองค์ทรงตั้งภิกษุรูปหนึ่งไว้ในเอตทัคคะว่าเลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้แสดงธรรมด้วยถ้อยคำอันไพเราะ จึงปรารถนาฐานันดรเช่นนั้นบ้าง แล้วได้ก่อสร้างความดีที่สามารถสนับสนุนค้ำจุนความปรารถนานั้น อันพระปทุมุตตรศาสดาทรงพยากรณ์ว่าจะสำเร็จสมดังใจสมัยแห่งพระพุทธโคดม จึงสร้างสมบารมีอีกหลายพุทธันดร จนถึงชาติสุดท้ายมาได้สมปรารถนาในสมัยพระศาสดาของเราทั้งหลาย สมดังพุทธพยากรณ์ทุกประการ
๖. ปรินิพพาน
พระโสณกุฏิกัณณเถระนี้ก็เหมือนกับพระอสีติมหาสาวกทั้งหลาย เมื่ออยู่จบพรหมจรรย์แล้ว ก็ได้ช่วยพระศาสดาประกาศพระพุทธศาสนาจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิตในที่สุดก็ปรินิพพานดับเบญจขันธ์หยุดการหมุนเวียนแห่งกิเลสกรรมและวิบากอย่างสิ้นเชิง