ศิลปะในการทำให้หลงรัก

ศิลปะในการทำให้หลงรัก


หัวข้อเรื่องที่ผมจะคุยให้ฟังในตอนนี้ ผมแปลมาจาก ภาษาอังกฤษว่า THE ART OF SEDUCTION ซึ่งถ้าแปลตรงๆ แล้วก็คงจะต้องเป็น ศิลปะในการทำให้หลงรัก นั่นเอง ทำไมหนอ การที่จะให้ใคร มารักเราสักคน นี่ต้องใช้กลยุทธ์ อะไรด้วยหรือ? บางครั้งรักแท้ ก็ต้องการเวลานะครับ!!
กลยุทธ์ในการพิชิตรักนี่ ไม่ใช่กลยุทธ์ในการนำพาสาวขึ้นเตียงนอนนะครับ แต่ผมจะเขียนถึงกลยุทธ์ที่คุณผู้ชายจะหาผู้หญิงที่จะมาเป็นคู่ชีวิตครับ คนที่จะเป็นแม่ของลูก และคนที่จะไหว้หลุมฝังศพคุณ ถ้าบังเอิญคุณ มีอันเป็นไปเสียก่อน ประเภทเจอกัน ชั่วค่ำคืนเดียวแล้วก็เป็นของกันและกันนั้น เขาไม่ได้เรียกว่า เนื้อคู่หรอกครับ จะเป็นก็แค่คู่นอนเท่านั้น.. และรับรองว่า ไม่ปลอดภัยอย่างเด็ดขาด
รักแท้ต้องการเวลา ในการพิสูจน์ใช่ไหมครับเพราะฉะนั้น กลยุทธ์แรกในการมัดใจสาว ก็คือ ความอดทน ความมานะพยายามเท่านั้น ที่จะทำให้คุณมัดใจสาวคนรักไว้ได้ ความมานะพยายามจะทำให้คุณ สามารถเอาชนะอุปสรรคต่างๆ ได้ไม่ว่าจะ พ่อตา แม่ยาย สุนัขเฝ้าบ้าน คนใช้ ฯลฯ แต่ถ้าพยายามอดทนแล้วความรักก็ไม่คืบหน้าไปสักที ลองพิจารณาให้ถ่องแท้ดูว่าเธอคนนั้นที่คุณหมายปอง มีคนรักอยู่หรือเปล่า, มีชายหนุ่มอีกคนที่อาจจะหล่อกว่า รวยกว่า หรือหนุ่มกว่าคุณมาจีบอยู่ จนกระทั่งเธอไม่มีคุณอยู่ในสายตาของเธอ, เธอสวยงามมากจนหลงตัวเอง ว่าไม่รู้จะเลือกใครดี เนื่องจากตอนนี้มีหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ และพ่อม่าย มารุมตอมอยู่เป็นสิบๆ คน, เพิ่งจะโดนผู้ชายคนหนึ่งทิ้งไปหมาดๆ และบาดแผลยังคงค้างคาอยู่ในดวงใจเธอ ฯลฯ ถ้าแบบนี้ รอหาใหม่ดีกว่าครับ กลยุทธ์ข้อที่ 2 ก็คือ ความกล้าหาญ อดทนอย่างเดียวไม่พอครับ ต้องมีความกล้าหาญที่จะแสดงให้เธอและใครๆ รอบๆ ข้างเธอรู้ด้วยว่าคุณรักเธอ และรักเธอชนิดที่ต้องการได้เธอมาเป็นคู่ชีวิต ไม่ใช่คู่นอน หรือทางผ่าน เรื่องนี้ต้องประกาศให้ศัตรูทั้งหลายที่จะมาขวางทางรักให้เข้าใจ แต่ต้องกล้าหาญให้ ถูกที่ ถูกเวลา และเหมาะสมกับสถานการณ์ ไม่ใช่เดินเข้าไปในบ้านเธอ โดยไม่ดูตาม้าตาเรือว่าตอนนั้น คุณพ่อและคุณแม่เธอกำลังเถียงกันอยู่ แล้วดันไปบอกว่า คุณรักลูกสาว แบบนี้ถ้าไม่โดนกระโถนปาศีรษะ ก็อาจจะโดนสั่งให้สุนัขเฝ้าบ้านกัดเอา จนหนีกระเจิงออกจากบ้านไม่ทัน ปัญหาอยู่ที่ว่า คุณจะกล้าหาญพอที่จะบอกเธอว่า ผมรักคุณหรือไม่ และจะบอกที่ไหนเท่านั้น เรื่องนี้ควรจะต้องหาทางสร้างบรรยากาศให้โรแมนติก เป็นส่วนตัว ในเวลาที่เธออารมณ์ดี และแน่นอน ไม่ใช่เวลาใกล้ช่วงนั้น ของรอบเดือนของเธอ ซึ่งผู้หญิงส่วนใหญ่จะหงุดหงิดมาก แสดงให้เธอเห็นว่า คุณรักเธอเต็มร้อย รักเธอด้วยหัวใจ และแน่นอนว่าห้ามคิดเด็ดขาดเรื่องที่เธอจะรู้ว่าคุณรักเธอหรือไม่ ไม่ว่าคุณจะตามเฝ้ารับส่ง รับทำงานแทน ซื้อของขวัญให้เป็นประจำ แต่ถ้าคุณไม่มีความกล้าพอที่จะบอกว่า ผมรักคุณแล้ว ระวังสุนัขเถื่อนมาคาบไปรับประทานเสียนะครับ รักแล้วต้องบอกว่ารัก... ห้ามอ้ำอึ้งหรืออมพะนำไว้เด็ดขาด บอกเธอว่า รัก แล้ว เธอไม่รับรัก นั่นมันเรื่องของเธอแล้ว ไม่ใช่เรื่องของเราสักหน่อย... เพราะอกหักดีกว่ารักไม่เป็น คิดเสียว่า เธอไม่รับรักเรา อีกหน่อยเธอไปหลงเสน่ห์จิ้งจอกหนุ่มตัวอื่นแล้วโดนหลอก ก็จะคิดถึงเราเอง ...เพียงแต่เมื่อเธอหวนกลับมา คุณจะรับของใช้แล้วหรือเปล่าเท่านั้นเอง ถ้าคิดว่า บริสุทธิ์ใจ ดีกว่า บริสุทธิ์กาย ก็รับเอาไว้เถิดครับ ถ้าทำไม่ได้ ก็รับไว้เป็นเพื่อนต่อไป ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร เรื่องนี้ใครๆ ก็พลาดกันได้จริงไหมครับ กลยุทธ์ที่สาม ความรักคือการให้ และยินดีที่จะได้รับตอบ จริงอยู่ ความรักคือการให้ แต่คุณผู้ชายทั้งหลายจะต้องเข้าใจไว้นะครับว่า ให้อย่างเดียวไม่ได้ โลกนี้ทุกอย่างจะต้องพอดี มี ให้ ก็ต้องมี รับ ถ้าขืนคุณมัวแต่หน้ามืดตามัว ให้เธออยู่ข้างเดียว เธอก็จะคิดว่าคุณน่ะเป็นหมูในอวยแล้วเธอก็ไป "ให้" คนอื่นแทน เห็นมาหลายรายแล้วนะครับ คุณให้เธอไป ถ้าเธอให้ตอบกลับมาบ้างนั้นแหละครับ แสดงว่ามีความก้าวหน้าแล้ว แต่ถ้าให้ของขวัญแล้ว ให้ความรักแล้ว ให้ทุกอย่างแล้ว แต่เธอก็เฉย ผมว่าค่อยๆ ถอนตัวกลับมาก่อนดีกว่า ที่จะเสียใจในภายหลัง
และถ้าเธอให้อะไรคุณกลับคืนมาบ้าง ต้องแสดงความชื่นชม และยินดีที่ได้รับตอบนะครับ เพราะเมื่อมีมิตรจิตก็ต้องมีมิตรใจ คงไม่ต้องถึงขั้นที่ว่า ดีดีตอบ ชอบชอบแทน ร้ายร้ายแสน หรอกนะครับ และถ้าคุณเห็นว่า เธอคนนั้นที่คุณคิดจะรักหรือกำลังรักอยู่นั้น ด้อยคุณค่าเกินกว่าที่คุณจะเสียเวลาต่อไปแล้วละก็ วิธีการสลัดรักที่ดีที่สุดก็คือ ทำให้เสมือนว่าเธอเป็นคนทิ้งคุณไปหาคนใหม่โดยไม่ได้สนใจ กับความรักที่แสนจะบริสุทธิ์ของคุณเลยครับ ไปหลงเสน่ห์ความปากหวานของหนุ่มคนใหม่ โดยทิ้งคุณที่แสนจะเป็นคนดีในสายตาของคนรอบข้างไป กลยุทธ์ข้อที่สี่ คือ เปิดเผย ซื่อสัตย์ และจริงใจ ความเปิดเผย เป็นคนตรงไปตรงมา เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ผู้หญิงดีๆ ทั้งหลายพึงพอใจ มากกว่าความปากหวานแต่ลึกซึ้งซ่อนอะไรไว้ใต้รอยยิ้ม
นอกจากนี้ ความซื่อสัตย์อาจจะจริงที่ว่า รับประทานไม่ได้แต่เท่ นั้นเป็นสิ่งที่คนเราทุกคนควรจะมี แต่เชื่อเถิดครับว่าเมื่อถึงเวลาที่ผู้หญิง เขาจะตัดสินใจเลือกชาย 2 คนที่มารักเธอแล้ว เธอจะเลือกคนที่ซื่อสัตย์ก่อนเสมอ คุณจะจีบสาวให้สำเร็จ คุณต้องมีความจริงใจครับ ความจริงใจจะปรากฏอยู่บนสายตาของคุณทุกครั้งที่เจอะเจอกับเธอ แล้วเธอก็จะสัมผัสได้และรับทราบความรักที่จริงใจของคุณนั้น อาจารย์ที่ผมเคารพมากท่านหนึ่ง เคยสอนผมว่า จะทำอะไรให้สำเร็จอย่าลืมว่าต้องกระทำด้วยความ "จริงจัง จริงใจ ต่อเนื่อง เป็นระบบ และครบวงจร" ครับ พระคุณของท่านที่สอนผมในสูตรสำเร็จดังกล่าว ผมยังจำได้มาจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ ท่าน ศ.น.พ.วิฑูร โอสถานนท์ เป็นคนสอนผมด้วยหลักการดังกล่าว และผมก็คิดว่าในการจะแสดงให้ใครสักคนหนึ่ง เห็นความจริงว่าเรารักเธอนั้น ต้องกระทำด้วยความจริงจังและจริงใจ ทั้งยังต้องกระทำอย่างสม่ำเสมอ เป็นระเบียบระบบมีแบบแผนอย่างชัดเจน รวมทั้งต้องครบวงจรด้วย คุณผู้อ่านทั้งหลายเป็นเหมือนผมไหมครับ กลยุทธ์ที่ 5 คือ มีความเชื่อมั่นและมองโลกในแง่ดี ความเชื่อมั่น ในวิถีทางดำรงชีวิตในภายภาคหน้านั้น จะแสดงออกจากการพูดจา ท่วงท่าเดินเหิน การวางตัว น้ำเสียงที่มั่นใจ ฯลฯ คุณต้องฝึกแสดงให้เธอเห็นครับว่า คุณเป็นคนที่มีความเชื่อมั่นในตนเองในการที่จะนำพาชีวิตคู่ของคุณ และเธอไปให้ตลอดรอดฝั่ง อย่าลืมเสียนะครับว่า ผู้หญิงเกิดมาแสวงหา ความรัก ความอบอุ่น และความมั่นคง คุณให้เธอได้ทั้งสามอย่าง ถ้าเธอไม่เลือกคุณ ผมว่าก็คงจะตาบอดตาใส หรือไม่ก็กรรมยังบังตาอยู่แล้วละครับ การมองโลกในแง่ดี จะช่วยให้คุณเป็นคนมีความสุข และการเป็นคนมีความสุขของคุณ จะทำให้เธอเกิดความอบอุ่นเมื่อใกล้ชิด กลยุทธ์ข้อที่ 6 เอาชนะอุปสรรคด้วยใจสู้ การพิชิตรักมีมากมาย ล้วนแล้วแต่ทำให้คนเราคิดจะเอาชนะอุปสรรคแทบทั้งสิ้น... คุณไม่คิดจะเอาชนะบ้างหรืออย่างไร การเข็นครกขึ้นภูเขานั้น แม้ว่าจะเป็นงานที่ยากแสนเข็ญ แต่ถ้าคุณทำได้ วันที่คุณขึ้นไปยืนบนยอดเขา เพื่อประกาศถึงชัยชนะแห่งความพยายามของคุณ ก็คือวันที่คุณและเธอเข้าสู่ประตูวิวาห์นั่นเอง

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘