ความรัก…ฐานรากของชีวิตคู่

ความรักฐานรากของชีวิตคู่


คนเรานั้นเกิดมาเพื่อที่จะแสวงหาใครสักคนมาเป็นคู่ครอง คู่คิด และคู่ชีวิต หลายต่อหลายคู่ประสบความสำเร็จในการนำพาเอานาวารักฝ่าคลื่นลมและมรสุมต่างๆ ที่ถาโถมเข้ามาในชีวิตคู่จนบรรลุฝั่งฝันที่ปรารถนา เหมือนดังคำที่ผู้ใหญ่อวยพรว่า …ขอให้อยู่ด้วยกันไปจนถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชร แต่หลายต่อหลายคู่นาวารักก็อับปางลงกลางมหานทีท่ามกลางพายุร้ายที่ถาโถมเข้ามาในชีวิตคู่ และไม่สามารถที่จะประสานสัมพันธ์กันจนฝ่าอุปสรรคต่างๆ ไปได้ จากกันไปด้วยคำอธิบายง่ายๆ ว่า …เราไปด้วยกันไม่ได้
ชีวิตคู่ที่เปี่ยมไปด้วยความรัก ความผูกพัน และความเข้าใจกันเท่านั้นที่จะทำให้ชีวิตสุขสมราบรื่น คนสองคนที่มาใช้ชีวิตคู่ด้วยกันจะต้องพยายามเข้าใจกัน ไว้ใจกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เคารพนับถือซึ่งกันและกัน รวมทั้งให้อภัยกันในยามที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำอะไรที่ผิดพลาดลงไป การคำนึงถึงประโยชน์ของคนที่ตนรักเป็นลำดับแรกจึงเป็นความรักที่สามารถมอบให้แก่กันตลอดเวลา ต่างจากการต้องการให้คนรักทำอะไรให้ ซึ่งเป็นความรักในรูปแบบที่ไม่มีวุฒิภาวะ ไม่เป็นผู้ใหญ่ คิดถึงตนเองก่อน โดยแบบนี้เมื่อไม่ได้ดังที่หวังก็จะเกิดการผิดหวังและขาดรัก อันนำไปสู่พฤติกรรมตามมาซึ่งจะทำให้ชีวิตคู่ต้องอับปาง เพราะการมีรักแท้นั้น เมื่อมีแล้วจะบังเกิดความสุขที่ได้ทำอะไรบางสิ่งบางอย่างให้คนที่ตนรัก โดยไม่ได้หวังว่าจะได้อะไรกลับคืนมานอกจากความรัก
ในรักแท้นั้น เมื่อให้ความรักไป…ก็จะได้ความรักมา แต่ในความหลงนั้น จะเป็นความหลงที่อยากได้แต่ความรักจากคนรัก แต่ไม่ได้ให้ความรักตอบแทนกลับไป เมื่อความหลงหมดไปและยังไม่มีความรักกลับมา สัมพันธ์ที่เปราะบางซึ่งอยู่บนฐานรากของความหลงก็ย่อมจะสิ้นสุดลงไป ความรักนั้นแสดงออกได้ในหลายรูปแบบ และคนที่มีชีวิตคู่ร่วมกันนั้น จะต้องพยายามที่จะแสดงความรักออกมาในรูปแบบที่คนรักอยากได้ อย่างน้อยก็ต้องแสดงความพยายามที่จะแสดงความรักออกมา!! ลองมาพิจารณาวิธีการแสดงความรักในแบบต่างๆ กันดูไหมว่า ควรจะแสดงความรักที่มีต่อกันแบบไหนดี
1. ความรักในรูปแบบที่ต้องการการสัมผัส
เป็นความรักของหนุ่มสาวที่โหยหาการสัมผัสทางกายต่อกัน สานสร้างสัมพันธ์จากการมีสัมพันธ์สวาททางกาย เพื่อที่จะสุขสมร่วมกัน อยากที่จะอยู่ด้วยกันตลอดเวลา อยากจะสัมผัสร่างกายของกันและกัน ด้วยความคิดว่าจะสามารถ่ายทอดความรักให้แก่กันได้จากการร่วมรักกามารมณ์จึงเป็นฐานรากของชีวิตคู่ในระยะแรกของความสัมพันธ์ กามารมณ์เป็นสัมผัสรักที่จับต้องได้ เป็นสีสันแห่งความรักของหนุ่มสาวที่แรกรักกัน แต่ชีวิตคู่ที่ยืนยาวนั้น จะต้องมีการพัฒนาความรักไปให้มากกว่านั้น
2. ความรักแบบโรแมนติก
กล่าวกันว่า ความรักของผู้หญิงนั้นเป็นแบบ "โรแมนติก" แต่ความรักของผู้ชายเป็นแบบ "อีโรติก" ในการมีความสัมพันธ์กันนั้น ผู้หญิงจะคิดถึงการแสดงความรักด้วยกันเป็นส่วนใหญ่ ในขณะที่ผู้ชายจะคิดถึงบทพิศวาสในรูปแบบของอีโรติกมากกว่า ผู้หญิงจึงต้องมีความรักเป็นรากฐานก่อนที่จะมีอารมณ์พิศวาสและสุขสมจากบทพิศวาสที่มอบให้แก่กัน ส่วนผู้ชายนั้น จะอยากระบายความรักออกไปผ่านการร่วมรักที่อบอุ่นและสุขสม ด้วยความอยากที่จะระบายความรักออกไปนี่แหละที่ทำให้ท่วงท่าลีลารักของพวกเขาเร่าร้อน ดุดัน และหลั่งเร็ว หลั่งเร็ว…จึงเป็นปัญหาของผู้ชายเกือบทุกคน ไปไม่ถึงจุดสุดยอด… จึงเป็นปัญหาของผู้หญิงเกือบทุกคนเช่นกัน เมื่อผ่านความรักแบบโรแมนติค และอีโรติกไปแล้ว ความรักในแบบต้องการใช้ชีวิตร่วมกันก็มาเยือน
3. ความรักแบบต้องการครองคู่
การอยู่ร่วมกันเป็นความปรารถนาอย่างยิ่งยวดของชายและหญิงที่รักกันและอยากสร้างครอบครัวร่วมกัน อยากใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ทำอะไรร่วมกัน มีพันธะผูกพันกัน อยากเห็นกันตลอดเวลาที่มีโอกาส แต่หลายต่อหลายคู่ กลายเป็นความรักที่พึ่งพาไป และรู้สึกเหมือนจะขาดกันไปไม่ได้ ซึ่งก็จำเป็นต้องปรับปรุงเพราะในการดำเนินชีวิตในปัจจุบันนั้น ความต้องการที่จะอยู่ร่วมกันตลอดเวลานั้นเป็นไปไม่ได้ จึงต้องมีการพัฒนาความรักต่อไปเป็นความรักในรูปแบบที่ผูกพันแต่ไม่พึ่งพา
4. ความรักแบบสัญญาใจ
เป็นความรักแบบเข้าใจกัน ไว้ใจกัน ผูกพันกัน โดยไม่ต้องพึ่งพา แม้ว่าจะไม่มีคนรักอยู่ข้างกายก็เหมือนมี ไม่มีความรู้สึกอ้างว้าง ว้าเหว่เดียวดายหรือถูกทอดทิ้ง เพราะมีอีกคนอยู่เสมอในใจที่แสนจะเป็นสุขเพราะมีคู่ชีวิตที่มีสัญญาใจต่อกัน สัญญาว่าเราจะครองคู่กันไปตราบจนลมหายใจสุดท้ายแห่งกาลเวลา
คู่ครองในฝัน…ที่เป็นจริง
ชายหญิงใดที่สามารถแสดงความรักออกได้ด้วยวิธีการต่างๆ ตามความเหมาะสม โดยสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปและวัยที่เปลี่ยนแปลงย่อมจะมีชีวิตคู่ที่เป็นสุข เพราะตามธรรมชาติแล้วถ้าจะเปรียบชีวิตคู่เหมือนดอกกุหลาบ… ชีวิตคู่ในระยะแรก ก็ร้อนแรงเช่นเดียวกับกุหลาบแดง…ที่แจ้งรักนั่นเอง ต่อเมื่อได้ใช้ชีวิตคู่ร่วมกันไปสักระยะหนึ่งแล้ว ความรักในรูปแบบของความสัมพันธ์ฉันเพื่อนคู่คิด มิตรคู่ใจก็จะเกิดขึ้น ชีวิตคู่ในระยะกลางๆ จึงเหมือนดอกกุหลาบสีชมพู ที่งามสดใส มองแล้วมีความสุข ซึ่งถ้าอยากให้ชีวิตคู่ราบรื่นต่อไปแล้วก็จะต้องพัฒนาต่อไปให้เป็นดอกกุหลาบสีขาว… ตัวแทนของความบริสุทธิ์ มีแต่ความบริสุทธิ์ใจมอบให้แก่กัน และจำไว้เสมอว่า
สำหรับผู้หญิงนั้น…ชายในฝันของเธอน่าจะมีคุณสมบัติดังนี้
·       เป็นพ่อของลูก เป็นความภาคภูมิใจของครอบครัว เป็นแฟมิลีแมนที่ดูแลครอบครัว และทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อครอบครัวของเขา
·       เป็นคนที่มอบความรัก ความอบอุ่น ความมั่นคงอย่างจริงใจต่อเธออย่างสม่ำเสมอไม่เปลี่ยนแปลง แม้กาลเวลาจะเปลี่ยนไป
·       เลี้ยงดูอุปการะเธอ ดูแลเธอยามเจ็บไข้ได้ป่วย ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเธอ
ส่วนผู้หญิงในฝันที่ผู้ชายอยากจะได้มาเป็นคู่ชีวิตนั้น คุณสมบัติต่อไปนี้น่าจะเป็นที่ผู้ชายทั่วไปอยากจะได้และอยากจะมี
·       เป็นแม่ของลูก เป็นผู้หญิงที่เขาสามารถพาไปไหนต่อไหนได้ สามารถยืนเคียงข้างกับเขาทั้งในยามสุขและยามทุกข์
·       เป็นคนที่คอยปลอบอกปลอบใจเขายามผิดหวัง ให้กำลังใจเขาในการที่จะลุกขึ้นมาต่อสู้ เพื่อที่จะฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ในชีวิตต่อไป
·       เป็นคนที่สามารถร่วมรักกับเขาได้อย่างสุขสม เพราะเขาบอกรักผ่านการมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งทางกายนั้น กับผู้หญิงคนที่เขารักและรักเขาเสมอ และเมื่อเกิดความสุขสมแล้ว ความรักของเขาก็จะเพิ่มพูนขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ
ลองพิจารณาดูการแสดงความรักต่อกันและพยายามเป็นคู่ครองในฝันของกันและกันให้ได้ เพราะชีวิตคู่สุขสมนั้นมักจะ…ยืนยาวและสุขภาพดี!

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘