อธิบายกุศลกรรมบถ ๑๐ โดยอาการ ๕

              .  โดยธรรม  คือ  โดยสภาวธรรม
                  กุศลกรรมบถ    คือ
                        .  ปาณาติปาตา  เวรมณี
                       .  อทินฺนาทานา  เวรมณี
                       .  กาเมสุมิจฺฉาจารา  เวรมณี
                        .  มุสาวาทา  เวรมณี
                   .  ปิสุณาย  วาจาย  เวรมณี
                   .  ผรุสาย  วาจาย  เวรมณี
                   .  สมฺผปฺปลาปา  เวรมณี
              แม้มีชื่อต่างกันก็จริง  แต่เมื่อว่าโดยสภาวธรรม  ได้แก่  เจตนา  หรือวิรัติ  หมายความว่า  ถ้าไม่ตั้งใจจะงดเว้น  หรือไม่มีการงดเว้น  กรรมบถทั้ง    นี้  ย่อมสำเร็จไม่ได้เลย
              มโนกรรม    คือ  อนภิชฌา  โดยสภาวธรรม  ได้แก่อโลภะ  อพยาบาท  โดยสภาวธรรม  ได้แก่อโทสะ  สัมมาทิฏฐิ  โดยสภาวธรรม  ได้แก่  อโมหะ  ที่วประกอบด้วยเจตนา
              .  โดยโกฏฐาสะ  คือ  โดยส่วนแห่งธรรมต่าง ๆ
                  กุศลกรรมบถ    คือ  กายกรรม    วจีกรรม    เป็นกรรมบถอย่างเดียว  ไม่เป็นรากเหง้าของกุศลเหล่าอื่น  ส่วนมโนกรรม    อย่าง  คืออนภิชฌา  อพยาบาท  และสัมมาทิฏฐิ  เป็นทั้งกรรมบถ  เป็นทั้งรากเหง้าของกุศลเหล่าอื่น  เพราะทั้ง    นี้  ก็คือ  อโลภะ  อโทสะ  อโมหะ  ที่เป็นกุศลมูลนั่นเอง
              .  โดยอารมณ์  คือ  สิ่งที่ใจเข้าไปยึดแล้ว  เป็นเหตุให้งดเว้นจากอกุศลกรรมบถ  ๑๐  ประการ  พระอรรถกถาจารย์  อธิบายว่า  อารมณ์แห่งอกุศลกรรมบถ  ๑๐  นั่นแหละ   เป็นอารมณ์แห่งกุศลกรรมบถทั้ง  ๑๐  ประการ  เปรียบเหมือนน้ำที่สามารถทำให้เรือลอยก็ได้  ทำให้จมลงก็ได้
              .  โดยเวทนา  คือ  ความรู้สึกเป็นสุข  เป็นทุกข์  และเฉย ๆ  พระอรรถกถาจารย์  อธิบายว่า  ในขณะทำกุศล  ทุกขเวทนา  คือความเสียใจ  ความไม่สบายใจ  ย่อมไม่มี  เพราะฉะนั้น  ในขณะประพฤติกุศลกรรมบถ  จึงมีเพียงเวทนา    คือ  สุขเวทนา  และอุเบกขาเวทนา
              .  โดยมูล  คือ  โดยกุศลมูล    อย่าง  ได้แก่  อโลภมูล    อโทสมูล    อโมหมูล   
              กุศลกรรมบถ    คือ  กายกรรม    วจีกรรม    ที่บุคคลประพฤติด้วยปัญญามีมูล    คือ  อโลภมูล  อโทสมูล  อโมหมูล  ที่ประพฤติโดยขาดปัญญามีมูล    คือ  อโลภมูล  อโทสมูล
              อนภิชฌาที่ประพฤติด้วยปัญญา  มีมูล    คือ  อโทสมูล  อโทหมูล  ที่ประพฤติโดยขาดปัญญามีมูลเดียว  คือ  อโมหมูล
              อพยาบาทที่ประพฤติด้วยปัญญา  มีมูล    คือ  อโลภมูล  อโมหมูล  ที่ประพฤติโดยขาดปัญญามีมูลเดียว  คือ  อโลภมูล
              สัมมาทิฏฐิ  มีมูล    คือ  อโลภมูล  อโทสมูล

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘