ปัญหาและเฉลยวิชาพุทธานุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นเอก สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๔

๑.
๑.๑
อาสภิวาจาคือวาจาเช่นไร ?  มีใจความว่าอย่างไร ?

๑.๒
พระพุทธองค์ทรงยืนยันพระองค์เองว่า เป็นสัมมาสัมพุทธะ เพราะทรงอาศัยเหตุอะไร ?
๑.
๑.๑
 คือวาจาที่เปล่งอย่างองอาจ เป็นภาษิตของบุรุษพิเศษอาชาไนย
มีใจความว่า  เราเป็นผู้เลิศ  เป็นผู้ใหญ่  เป็นผู้ประเสริฐแห่งโลก

๑.๒
เพราะทรงอาศัยเหตุที่ตรัสรู้อริยสัจ ๔  อย่างแจ่มแจ้งครบถ้วนทุกประการ อันมีรอบ ๓ มีอาการ ๑๒ จึงทรงปฏิญาณพระองค์ว่า เป็นสัมมาสัมพุทธะ
๒.
๒.๑
พระปัญจวัคคีย์ ได้ออกบวชตามพระมหาบุรุษเพราะมีความเชื่ออย่างไร ?

๒.๒
การได้บรรลุอริยผลของพระปัญจวัคคีย์  วันเดียวกันหรือต่างวันกัน ?
๒.
๒.๑
มีความเชื่อว่า พระมหาบุรุษจะได้ตรัสรู้อย่างแน่นอน จึงพร้อมใจกันออกบวชติดตามเฝ้าอย่างใกล้ชิด ด้วยหวังว่า พระองค์ได้ตรัสรู้แล้ว
จักได้เทศนาโปรดตน

๒.๒
การบรรลุอริยผลชั้นต้นต่างวันกัน ส่วนการบรรลุอริยผลชั้นสูงสุด
วันเดียวกัน
๓.
๓.๑
บุคคลผู้ได้ชื่อว่า  อัปปรชักขชาติ  มีลักษณะอย่างไร ?

๓.๒
พระโกณฑัญญะ ได้นามเพิ่มข้างหน้าว่า พระอัญญาโกณฑัญญะ 
เพราะเหตุใด ?

๓.
๓.๑
มีกิเลสธุลีในปัญญาจักษุน้อยเป็นปกติ สามารถจะรู้ทั่วถึงธรรมได้โดยพลัน

๓.๒
เพราะพระพุทธองค์ทรงทราบว่า ดวงตาเห็นธรรมได้เกิดขึ้นแล้วแก่ท่าน
จึงทรงเปล่งอุทานว่า อญฺญาสิ วต โภ โกณฺฑญฺโญ อญฺญาสิ วต โภ 
โกณฺฑญฺโญ  โกณฑัญญะได้รู้แล้วหนอ ๆ อาศัยคำอุทานว่า อญฺญาสิ  อญฺญาสิ  ท่านจึงได้นามเพิ่มข้างหน้าว่า  อัญญาโกณฑัญญะ
๔.
๔.๑
พระศาสดาทรงแสดงอนุปุพพีกถา และอริยสัจ ๔ ตามลำดับ แก่บุคคลผู้มีคุณสมบัติเช่นไร ?

๔.๒
พระศาสดาประทานเอหิภิกขุอุปสัมปทาแก่พระยสกุลบุตรว่าอย่างไร ?
๔.
๔.๑
แก่ผู้มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้คือ
         ๑) เป็นมนุษย์
         ๒) เป็นคฤหัสถ์
         ๓) มีอุปนิสัยแก่กล้า  ควรบรรลุโลกุตรคุณ

๔.๒
ท่านจงเป็นภิกษุมาเถิด ธรรมเรากล่าวดีแล้ว ท่านจงประพฤติพรหมจรรย์เถิด
๕.
๕.๑
คำว่า  " บัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม้ให้ขุ่น "   เปรียบด้วยปฏิปทาจริยาวัตร
ข้อใดของพระโมคคัลลานะ ?

๕.๒
เจ้าศากยะได้ทูลขอพระศาสดาให้บวชอุบาลีภูษามาลาก่อน เพราะเห็นประโยชน์อันใด ?
๕.
๕.๑
ข้อที่ท่านเป็นผู้ฉลาดในการแนะนำตระกูลที่ยังไม่เลื่อมใสให้เลื่อมใส  ไม่ทำศรัทธาและโภคทรัพย์ของเขาให้เสีย เปรียบเหมือนแมลงผึ้งบินเที่ยวไปในสวนดอกไม้ ไม่ทำสีและกลิ่นของดอกไม้ให้ช้ำ ถือเอาแต่รสบินไปฉะนั้น

๕.๒
เพราะเห็นประโยชน์ว่า จักได้ทำการกราบไหว้ ลุกรับ ประณมมือ  และทำกิจที่สมควรอื่น ๆ แก่พระอุบาลีซึ่งเดิมเป็นคนรับใช้ เมื่อเป็นเช่นนี้จักละมานะความถือตัวได้
๖.
๖.๑
ข้อความว่า " ขออย่าให้พระภิกษุทั้งหลายบวชบุตรที่บิดามารดายังไม่อนุญาตต่อไป " เป็นคำพูดของใคร ?  มีความเป็นมาอย่างไร ?

๖.๒
พระราหุลได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์  เพราะได้สดับธรรมอะไร ?
๖.
๖.๑
เป็นพระดำรัสของพระเจ้าสุทโธทนะ, มีความเป็นมาอย่างนี้ คือเมื่อ
พระนันทะพระโอรสทรงผนวช พระเจ้าสุทโธทนะทรงโทมนัสเป็น
อันมาก ครั้นราหุลกุมารบวชแล้ว สิ้นผู้ที่จะสืบพระวงศ์ ยิ่งทรงโทมนัสมากขึ้น ทรงปรารภถึงทุกข์อันนี้ที่จะพึงมีแก่มารดาบิดาในตระกูลอื่นในเวลาเมื่อบุตรออกบวช  จึงทูลขอพรนี้                          

๖.๒
เพราะได้สดับพระโอวาทซึ่งสั่งสอนในทางวิปัสสนา คล้ายกับโอวาทที่
ตรัสสอนพระปัญจวัคคีย์ ต่างกันแต่ทรงยกอายตนะภายในภายนอก
เป็นต้นขึ้นแสดงแทนขันธ์    เท่านั้น
๗.
๗.๑
พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนคฤหัสถ์ด้วยวิธี ๔ สถานนั้น ได้แก่อะไรบ้าง ?

๗.๒
ในการสอนธรรมของพระพุทธองค์นั้น ทรงมีจุดมุ่งหมายอย่างไรบ้าง ?
๗.
๗.๑
ได้แก่    ๑) สันทัสสนา  ชี้ให้ชัด  ให้เห็นแจ่มแจ้งในสัมมาปฏิบัติ
         ๒) สมาทปนา  ชวนให้ปฏิบัติ  แสดงเหตุผลให้เห็นสมจริง
         ๓) สมุตเตชนา  ให้อาจหาญ  มีกำลังใจในสัมมาปฏิบัติ
         ๔) สัมปหังสนา  ให้ร่าเริง  แช่มชื่น  ในการปฏิบัติตามธรรม
              ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

๗.๒
อย่างนี้คือ ๑) เพื่อให้ผู้ฟังได้รู้เห็นในสิ่งที่ควรรู้ควรเห็น
          ๒) เพื่อให้ผู้ฟังใช้เหตุผลตรองตามจนเห็นจริง
          ๓) เพื่อให้ผู้ฟังนำไปปฏิบัติและได้รับผลของการปฏิบัติ
               ตามสมควรแก่การปฏิบัติของตน ๆ
๘.
๘.๑
จงแสดงใจความแห่งพระพุทธพจน์ที่ชี้ให้เห็นว่า พระอรหันต์ยังมีได้ตลอดเวลาที่บุคคลยังปฏิบัติชอบอยู่ ?

๘.๒
ในสมัยพุทธกาล พระสาวกองค์ใดได้รับการอุปสมบทด้วยญัตติจตุตถ-กรรมวาจาเป็นองค์แรก  และองค์ใดเป็นองค์สุดท้าย ?
๘.
๘.๑
ใจความแห่งพระพุทธพจน์ที่ตรัสก่อนปรินิพพานกับสุภัททปริพาชกว่า  " ดูก่อนสุภัททะ  ถ้าภิกษุทั้งหลาย  ยังเป็นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอยู่ โลกก็จะไม่ว่างจากพระอรหันต์ "

๘.๒
พระราธะเป็นองค์แรก  พระสุภัททะเป็นองค์สุดท้าย
๙.
๙.๑
ภิกษุณีผู้มีชื่อต่อไปนี้ได้รับเอตทัคคะในทางไหน ?
         ก. พระนางมหาปชาบดีโคตมี    
         ข. นางเขมาเถรี        
         ค. นางอุบลวัณณาเถรี          
         ง. นางปฏาจาราเถรี            
         จ. นางธัมมทินนาเถรี

๙.๒
พระสงฆ์เถรวาทในเมืองไทยไม่สามารถบวชภิกษุณีได้เพราะเหตุไร ?
๙.
๙.๑
         ก. ได้รับเอตทัคคะในทางรัตตัญญู
         ข. ได้รับเอตทัคคะในทางมีปัญญา
         ค. ได้รับเอตทัคคะในทางมีฤทธิ์          
         ง. ได้รับเอตทัคคะในทางทรงวินัย
         จ. ได้รับเอตทัคคะในทางธรรมกถึก

๙.๒
เพราะมีพระพุทธานุญาตว่า " ภิกษุณีต้องบวชจากภิกษุณีสงฆ์ก่อน  แล้วจึงบวชจากภิกษุสงฆ์อีกครั้งหนึ่ง " เวลานี้ภิกษุณีสงฆ์ไม่มีแล้ว  การที่จะบวชภิกษุณีจึงไม่สามารถทำได้

๑๐.
๑๐.๑
พระยาวัสวดีมาร ได้ทูลขอพระพุทธเจ้าให้เสด็จปรินิพพานกี่ครั้ง ?
ที่ไหนบ้าง ?

๑๐.๒
เมื่อคราวที่มารทูลขอให้ปรินิพพานครั้งแรก พระองค์ทรงตอบมารว่าอย่างไร ?
๑๐.
๑๐.๑
ได้ทูลขอพระพุทธเจ้าให้เสด็จปรินิพพาน ๒ ครั้งคือ
         ครั้งแรกที่ใต้ต้นอชปาลนิโครธ
         ครั้งที่สองที่ปาวาลเจดีย์

๑๐.๒
ทรงตอบมารว่า " ดูก่อนมารผู้ใจบาป เมื่อใดพุทธบริษัท ๔ เป็นผู้ฉลาด เป็นพหูสูตร สามารถดำรงพระธรรมวินัยสืบต่อศาสนาได้ สามารถแสดงธรรมโปรดเวไนยสัตว์ ให้สำเร็จมรรค ผล นิพพาน และเผยแผ่ศาสนาไปได้อย่างกว้างขวางมั่นคง เมื่อนั้น ตถาคต
จึงจะปรินิพพาน "




ผู้ออกข้อสอบ
:
๑.
พระธรรมปริยัติโสภณ
วัดไตรมิตรวิทยาราม


๒.
พระเทพมงคลสุธี
วัดราชประดิษฐ์ฯ


๓.
พระศรีวชิรโมลี
วัดเทวราชกุญชร
ตรวจ/ปรับปรุง
:
   โดยสนามหลวงแผนกธรรม

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘