99.2รักษามะเร็งหายได้ด้วยตัวเอง น_พ_อารีย์ วชิรมโน

                   นายแพทย์อารีย์ วชิรมโน  “ ประสบการณ์รักษามะเร็งหายได้ด้วยตัวเอง ” 

นายแพทย์อารีย์  วชิร มโน          
กับประสบการณ์รักษามะเร็งหายได้ด้วยตัวเอง
วันชัย ตันติวิทยา พิทักษ์ : สัมภาษณ์


     ปีนี้คุณหมออารีย์มีอายุได้ ๗๗ ปีแล้ว เป็นคนร่างเล็ก  ผิวพรรณดี หน้าตาแจ่มใสดูราวคนอายุ ๕๐ ต้นๆ   หลายปีก่อน

ท่านป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย จึงตัดสินใจเดินทางกลับเมืองไทย   คุณหมอเลือกที่จะ ใช้ชีวิตอยู่ในชนบท และตั้งใจสู้

ชีวิตครั้งใหม่ ต่อสู้กับมะเร็งด้วยการไม่ผ่า ตัด ไม่ฉายรังสี ไม่ยอมให้คีโม แต่ใช้แนวทางแบบธรรมชาติบำบัด โดยการ

เปลี่ยน พฤติกรรมการใช้ชีวิต ให้กลับไปสู่ธรรมชาติให้มากที่ สุด คุณหมอปฏิบัติตัวสม่ำเสมอ ตั้งแต่การเลือกกินอาหาร

เฉพาะผักผลไม้ การกินวิตามินเสริม การออกกำลังกาย การ ล้างพิษ การพักผ่อนทำตัวให้อารมณ์ดีไม่เครียด มองโลกในแง่

บวก ความตั้งใจที่จะ มีชีวิตต่อไป และที่สำคัญคือกำลังใจจากครอบครัว 

     สามเดือนผ่านไปคุณหมออารีย์รอด พ้นความตายจากมะเร็ง   ทุกวันนี้คุณหมอใช้ชีวิตใน

บ้านไร่แห่งหนึ่งของจังหวัดสกลนครคอยให้ความช่วยเหลือชาวบ้านยากจนที่ป่วยเป็น มะเร็ง

ในขณะที่มีผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายจากทั่วประเทศหลายคนเดินทางมาหา ท่าน   คุณหมออารีย์บอกว่า คนเป็น

มะเร็งส่วนใหญ่จิต ใจจะห่อเหี่ยว และสิ้นหวัง แต่ การรักษามะเร็งนั้นจิตใจสำคัญที่สุด

เราต้องทำให้ผู้ป่วยมะเร็งมีความหวังที่จะมีชีวิตต่อไป แต่ยอมรับว่าโอกาสที่ผู้ป่วยมะเร็งจะหายได้นั้น ท่านช่วยได้เพียงครึ่ง

เดียว คือการจัดหาวิตามิน เกลือแร่ชนิดต่างๆที่เป็นประโยชน์ ต่อการสร้างภูมิต้านกิน ส่วนอีกครึ่งหนึ่งขึ้นอยู่กับตัวคนไข้เอง

ที่จะยอม ปฏิบัติตามแนวทางการรักษา ๗ อ. ของท่านหรือไม่  

๗ อ. ที่ว่านี้คือ ?       
๑. ควบคุมอาหาร        
๒. เอาพิษออกจากร่าง กาย        
๓. อารมณ์ดี
๔. ไม่เครียด        
๕. สูดอากาศบริสุทธิ์        
๖. เอนกายหรือการพักผ่อนให้เพียงพอ และ
๗. อิทธิบาทสี่  
    
      ผู้ป่วยมะเร็งหลายคนที่ได้รับคำแนะนำจากคุณหมอ หลายคนเสียชีวิตแต่หลายคนที่ปฏิบัติอย่างจริงจัง

อาการ ดีขึ้น มีคุณภาพชีวิตดีขึ้นเรื่อย ๆ   คุณหมอบอกกับเราว่า มะเร็งไม่เคยให้โอกาสกับใครเป็น ครั้งที่ ๒  

ขณะที่มะเร็งกำลังเป็นโรคฮิตที่ไต่ขึ้น อันดับหนึ่งในยุคปัจจุบัน ลองพิจารณาบทสัมภาษณ์ครั้งนี้แล้วคุณอาจ

จะรู้ว่า จะเริ่มต้นดูแลสุขภาพอย่างจริงจังของคุณและคนใกล้ชิดอย่าง ไร
 

คุณหมอเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านไหนครับ ?

     ผมเป็นหมอผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ ผมจบปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดและที่มหาวิทยาลัยมอสโกด้วย  

ผมสอนนักศึกษาปริญญาเอกที่ฮาร์วาร์ดมาเป็นเวลา ๓๐ ปี

ทำไมคุณหมอจึงตัดสินใจเดินทางกลับเมือง ไทย ?
    
     ผมตั้งใจจะกลับมาตั้งนานแล้ว พอดีเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากระยะสุดท้าย   ทีแรกนึกว่า เป็นนิ่ว ปัสสาวะมันขัด  

พอไปเอกซเรย์ดู ต่อมลูก หมากโตเบ้อเริ่ม เมื่อรู้ว่าเป็นมะเร็งผมก็ตัดสินใจกลับมาตายเมืองไทย อยากกลับมาหาแม่

และอยากกลับมาอยู่ ป่าเพราะอยู่ป่าคอนกรีตมา ๓๐ กว่าปี แล้ว
    

     ตอนเป็นมะเร็ง หนัก   ๆ จะตายแล้ว ลูกสามคนไปให้กำลังใจ ตอนนั้นผม คิดว่าคงอยู่ไม่ถึงอาทิตย์ พอลูกเตือนสติ

ว่า ไหนป๋าบอกว่าจะมีอายุอยู่ถึง ๑๒๑ ปีให้ได้ ป๋าผิดคำพูด สู้ไม่ จริง... นั่นแหละ จึงได้คิดว่าจะลองสู้ดูสักตั้ง ไหม

มะเร็งไม่เคยให้โอกาสคนครั้งที่ ๒   ผมไปซื้อ รองเท้ามาฝึกเดิน แล้วคิดว่าจะแก้เรื่องเครียดยังไง เพราะ ความเครียด

เป็นสาเหตุสำคัญของมะเร็งที เดียว   คิดไม่ออก นอนปลงอยู่บนเก้าอี้ผ้าใบ   คิดว่าถ้ากูตาย ลูกจะรู้หรือเปล่า ใครจะ

ไปบอก  เพราะผมอยู่ในป่าคน เดียว

จนกระทั่ง   คิดหาวิธีแก้เครียดได้ คือการ คิดแบบตรงกันข้าม


    เช่นมีคนมาลักวัวเรา ก็ไม่ต้องเครียด ถือเสียว่าได้ชดใช้กรรมกันในชาตินี้ เพราะชาติที่แล้วกูไปลักของเขา มา   

หรือมีคนด่าเรา ถือเราได้บุญ เพราะช่วยให้คนที่ ด่าเราหายเครียด ได้ระบายอารมณ์    พอคิดได้ อย่างนี้ ตอนหลังคิด

อะไรเป็นตรงกันข้ามหมด   คิดว่า เราต้องมีชีวิตอยู่เพื่อลูกนะ และแม่เรายังอยู่ เราจะตายก่อนแม่ได้อย่าง ไร   และแม่

เราเป็นชาวบ้านธรรมดา ไม่รู้จักรักษา สุขภาพตัวเอง แต่เราเป็นหมอ จะมาตายกับโรคโง่ ๆ อย่างนี้ไม่ได้ เราอายแม่

อายหมาด้วย หมายังไม่เป็นมะเร็งเลย   เมื่อมันเป็นแล้ว ถ้าเรายังแก้ไม่ได้ เราไม่ใช่คน   แต่เราก็รู้ว่าการ ที่จะสู้ ต้องสู้

ด้วยจิต ฝึกจิตให้ได้ เริ่มคิดไปในทางบวก อะไรก็ดีหมดทุกอย่าง  
 

มะเร็งนี่ถือว่าทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปเลย ?

     ใช่ครับ   แต่ก่อนผมเป็นคนดุมากอารมณ์เกรี้ยวกราด ไม่ยอมคน เหี้ยมมากจนลือชื่อ เลย   ผมได้คิดว่าความเหี้ยม

สิ่งแวดล้อม บวกกับการ กินอาหารซึ่งผมกินเนื้อแบบฝรั่งตลอด ทำให้ผมเป็นมะเร็ง  แต่พอป่วย เรารู้ว่าจะหายจาก

มะเร็งได้จิตต้องเปลี่ยน นิสัยการกินต้อง เปลี่ยนอย่างเด็ดขาด   เท่านั้นแหละ ดีวันดีคืน ค่า มะเร็งลดลงอยู่แค่ ๗ จาก

๕๗๑ ซึ่งเป็นค่ามะเร็งระดับสูง   ผมรักษาตัวอยู่ ๓ เดือนกว่า หายเลย โรคอื่นก็พลอยหายไปด้วย เบาหวานก็ ไม่เป็น  

โรคเกาต์ที่ต้องกินยามา ๒๐ กว่าปี ตอนนี้ หายหมด คิดถึงมันมากเลย
    

     คือ เรา ไม่กินเนื้อ ไขมัน กินแต่ผัก ผลไม้ เกลือแร่และวิตามิน   ผมอยู่ในป่าอาหารที่กินประจำคือ ข้าวกล้องและใบ

บัวบก บางทีก็มีคนซื้อกล้วย ซื้อส้มมาฝาก บ้าง


ทำไมจึงกินเฉพาะข้าวกล้องกับใบบัวบก ครับ ?

       เพราะแถว นั้นไม่มีอะไรจะกิน เราอยู่คนเดียวในป่า  ผมอ่าน หนังสือเจอว่าคนอายุยืนที่สุดในโลกเป็นคนจีน ชื่อ

ศาสตราจารย์ลียุนชุง เกิด ปี ค . ศ . ๑๖๗๗ ตายเมื่อ ปี ค . ศ . ๑๙๓๓   เขากินมังสวิรัติ ที่กินอยู่เป็นประจำคือโสมจีน

และใบบัว บก   ตอนอายุ ๒๐๐ ปียังไปบรรยายที่มหาวิทยาลัย ซินเกียง ๒๘ ครั้ง ท่านเสียชีวิตตอนอายุ ๒๕๖ ปี หน้า

ตาท่าทางเหมือนกับคน อายุ ๕๐ ปีแค่นั้น   ท่านบอกว่าเป็นเพราะ อาหาร และความไม่เครียด   ตามจริงถ้าจะรักษา

มะเร็ง กิน แค่นั้นไม่ได้ ต้องกินวิตามินจำนวนมากช่วยด้วย   แต่ ว่าจิตเราได้ เราต้องอยู่เพื่อแม่นะ จิตเราต้องสู้นะ  

วันนี้เดิน ๑๐ ก้าว พรุ่งนี้ต้องเดิน ๑๕ ก้าวให้ได้ มะรืนนี้ต้อง ๒๐ ก้าวให้ได้ เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ   ฝึกหายใจนะ อยากจะมี

ชีวิตอยู่ อยากจะหาย

     แต่ก่อนมีความคิดว่าตายเมื่อไหร่ก็ช่างมัน ทรมานเหลือเกิน ไม่รู้อยู่ทำไม มีแต่ สิ่งไม่ดีในโลกนี้ เบื่อหน่ายเหลือ

เกิน คือมองไปทางไหนก็เป็นลบ หมด   เดี๋ยวนี้มองอะไรเห็นเป็นสีชมพู สีเขียว สด ชื่นไปหมด  คนด่าก็ยิ้ม มีความสุข

ฉะนั้นทุกวันนี้ ผมมองโลกในแง่บวก มะเร็งทำให้เราคิดว่า การสู้กับมะเร็ง ใครชนะมะเร็งได้ เหมือน คนนั้นตรัสรู้แล้ว 

พออาการมะเร็งเริ่มดีขึ้น ๆ รู้ ทันทีว่าทำไมจิตใจเราเห็นอะไรดีไปหมด   ผมไปสะดุดมีด สะดุดพร้า เท้าแหกเลย เรา

ยังขอบคุณมัน ที่ช่วยเตือนสติว่าจะเดินไปไหนต้องระมัด ระวังทุกย่างก้าว ทีหลังอย่าซุ่มซ่ามแบบนั้น คิดเสียว่าเป็น

มะเร็งก็ดีนะ ถ้าไม่ เป็นมะเร็ง เราคงเป็นคนเหี้ยมโหดเหมือนเก่า  


คุณหมอรักษาตัวอยู่ ๓ เดือนหายเลยใช้วิธีคุมการกินอาหารและไม่ เครียด ... ใช่ไหมครับ ?

     อาหารเราต้องงดเนื้อสัตว์เด็ดขาดเลย งดอาหารปรุงแต่ง เนื้อปลาก็ไม่ กิน
 
     ในช่วงนั้น เราต้องถนอมตับที่สุด เพราะตับเป็น อวัยวะที่เป็นฐานทัพใหญ่   ถ้าตับเราไม่ดี เสร็จเลย ร่างกายจะฟื้น

ไม่ได้ ตับสำคัญที่สุด   วิธีถนอมตับคืออย่ากินมาก อย่าสะสมพิษให้ตับทำงานหนัก อย่าท้องผูก กินอาหาร โปรตีน

เข้าไปเยอะ ๆ ตับก็ทำงานหนัก  เมื่อตับเราดี มันสามารถช่วยอย่างอื่นหมด ไตก็ผลพลอยได้ประโยชน์ด้วย   เดี๋ยวนี้

หน้าตาเราสดใส เมื่อก่อนหน้าตาเราโทรมดังนั้นความเครียดจึง เป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องจัดการให้ได้

หากแก้ปัญหาเรื่องเครียดได้แล้วโอกาสหายจากมะเร็งก็สูง ขึ้น ?
 
      ก็เรา เคยเห็นคนบ้าเป็นมะเร็ง เป็นเบาหวาน ความ ดันหรือท้องเสียไหมล่ะ ขนาดเขาหาของกินจากถังขยะ   เคยเห็นคนบ้าเป็นมาลาเรีย หรือไม่  แต่อย่าไปตรวจเลือดนะ เชื้อมาลาเรียเต็ม เลย แต่เชื้อทำอะไรเขาไม่ได้    เชื้อโรคเหล่านี้ความ จริงมันเป็นเพื่อนเรา   ฉะนั้นจิตเป็นเรื่องสำคัญ ทำ อย่างไรไม่ให้เครียด         มีแม่ชีคนหนึ่งมาพบผม เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายแล้ว   ทีแรกบวชเพราะต้องการทำสมาธิ  แต่ทำไม่ได้ คอยแต่คิดถึงกิจการโรงงานที่ กรุงเทพฯ ห่วงลูกที่ยังเรียนหนังสือ   ผมบอกว่าปล่อยวาง

ซะเถอะครับ   ตัดเรื่องเครียดอะไรได้ ตัด เถอะ   จากเดิมที่อาการหนักใกล้จะเสียชีวิตอยู่แล้ว เพราะเป็นมะเร็ง

ที่เต้านม แล้วเข้าปอด เข้าสมองแล้ว พูดก็เบลอ ๆ   ปรากฏว่าตอนหลังปฏิบัติเรื่องจิตได้ ไม่เครียด ตอนนี้หาย ไม่มี

อาการอะไรเลย   เห็นว่าครั้งหลังสุดไปทำสแกนดู ปรากฏ ว่าเซลล์มะเร็งหดลงแทบมองไม่เห็นแล้ว สุขภาพก็ดี

ตอนนี้จิตเขาสบายมาก เลย    

เมื่อคนไข้หายเครียด มองโลกในแง่บวก ทำไมร่างกายจึงดี ขึ้น ?

            หากท่าน สามารถทำให้จิตของท่านมองโลกในทางบวก หรือทำให้จิตของท่านมี สมาธิ   ตัวจิตนี้จะไป

กระตุ้นต่อมพิทูอิตารี ให้ หลั่งโกรทฮอร์โมนมา พวกนี้เป็นฮอร์โมนที่ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย ไป

กระตุ้นต่อมไทรอยด์ ต่อมแอดดินอล ให้ขับแต่ฮอร์โมนชนิดดี ๆ ออกมาเพื่อจะไป กระตุ้นให้อวัยวะต่าง ๆ ทำงาน

จนกระทั่งต่อมต่าง ๆ ที่ผลิตภูมิต้านกินหรือเม็ด เลือดขาว ทำงานได้เต็มที่    คือ มันเริ่มมา จากจิต เมื่อจิตคิดดีทำ


ดี หรือสามารถทำสมาธิได้ สมองส่วนนี้ก็จะขับฮอร์โมน ที่เป็นประโยชน์ออกมาทันที  แต่ถ้าจิตมองโลกในทาง ลบ

สมองส่วนนี้แทนที่จะไปกระตุ้นให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนชนิดดีออกมา มันไปกระตุ้นต่อมหมวกไตให้ผลิตฮอร์โมน

อะดรินาลิ น ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เกิดจากความเครียด ทำให้ผลิตเม็ดเลือดขาวที่อ่อนแอออก มา   แล้วอย่าลืมว่าโกรท

ฮอร์โมนประกอบไปด้วยกรดอะมิ โน ๑๙๑ ชนิด   แต่ท่านไม่ต้องเที่ยวหาซื้อกรดอะมิโน พวกนี้มากิน   มันอยู่ที่ตับเรา

สามารถสังเคราะห์ได้ หมด   การที่จีนฝังเข็มหรือกดจุดก็เพื่อต้องการให้ ตัวนี้หลั่ง คนไข้จะได้ไม่เจ็บปวด  
 
ฝึกอย่างไรให้เป็นคนมองโลกในแง่บวก ?

     คนที่เคยเครียดมาแล้ว จะเปลี่ยน ทันทีไม่ได้ ผมหายจากมะเร็งได้ ผมโชคดีมาก อาทิตย์ เดียวผม

เปลี่ยนจิตได้เลย   มันเหมือนมีอะไรมาดลใจ รู้ทางเลย   แต่ก่อนสอนนักศึกษา สอนได้หมด พอเจอกับ

ตัวเอง ลืมหมด แก้ไม่ถูกเลย   พอแก้ได้ อาทิตย์ เดียว หน้ามือเป็นหลังมือเลยทั้งที่จะตายอยู่แล้ว   ตอน

นั้นแหละที่ว่าผมหนัก มากๆ   ลูกสามคนมาเยี่ยม ช่วงนั้นผมใกล้จะเสียชีวิตแล้ว


  ลูกสามคนมาให้กำลัง ใจ ผมก็คิดว่าถ้าเราจะสู้ซักตั้ง เราจะรอดมั้ย เพราะ มะเร็งไม่เคยให้โอกาส ใคร

ครั้งที่ ๒ อีกเลย   ก็ลองดู วันนั้นนอนหมด กำลังใจอยู่ ก็คิดได้   หลังจากนั้นไม่ถึงอาทิตย์ แก้เรื่องจิตได้

ก็หายวันหายคืน    กระทั่งทุก วันนี้ ความเกลียดชัง ความเครียด หรือมีอะไรมากระทบจิตใจ   อยู่ในตัวผม

ไม่เกิน ๑ นาทีเด็ดขาด ผมต้องแก้ให้ได้ เพื่อเปลี่ยนอารมณ์ เป็นตรงกันข้ามทันที   

     พระพุทธองค์ท่านบอกว่าจิตอยู่ที่ไหน พลังอยู่ที่นั่น   ไอน์สไตน์มีความเชื่อว่า พลังที่รุนแรงที่สุด


มีอำนาจที่สุดในโลก นี้ สู้พลังจิตไม่ได้   แม้แต่ตัวท่านเองที่สามารถ คิดค้นปรมาณูได้ว่ามีพลังมหาศาล แต่

ก็สู้พลังจิตไม่ได้ ท่านจึงหันมานับถือศาสนาพุทธ กินมังสวิรัติ เพื่อที่จะได้ศึกษาเรื่อง จิต ปรากฏว่าไม่มีใคร

ที่จะให้ความรู้ให้ท่านได้เพียงพอเกี่ยวกับแนวทางการทำ สมาธิ ท่านก็เลยไม่สำเร็จ เสียชีวิตก่อน


 ผมติดใจที่ไอน์สไตน์นับถือศาสนาพุทธ ทั้ง ๆ ที่เป็นยิว

ตั้งแต่เป็นมะเร็ง คุณหมอไม่ได้รักษาทางแพทย์แผนปัจจุบันเลยใช่ไหมครับ ?

หรือว่าเคยรักษาแล้วแต่ไม่ได้ผล ?

     ไม่รักษาเลย เพื่อนบอกว่าต้องผ่า ตัดก็ไม่เอา เพราะมันไม่ใช่ทางนี้   คือเรารู้มา อย่างละเอียดแล้วว่าเราชนะจิตใจเรา

ได้มั้ย ถ้าเราควบคุมจิตเราได้ ก็ จบ   แต่ถ้าเราควบคุมไม่ได้ เราก็ตาย   ผมมีเพื่อนเป็นโปรเฟสเซอร์ทั้งผัวเมีย เป็นมะเร็ง

ตายทั้ง คู่   เขารักษาแบบแพทย์แผนปัจจุบัน คือผ่าตัดและคี โม   แต่ผมไม่เอา อันที่จริงผมสนใจเรื่องการรักษาแบบ

ธรรมชาติมานานแล้ว แต่ไม่มีโอกาสได้ใช้ จนกระทั่งเป็นมะเร็ง แล้วสนใจมาทดลองกับ ตัวเองจนหาย   ตอนหลังมีโอกาส

ได้ใช้กับคนไข้เยอะ มาก   ก็เห็นว่ามีผลดีและหายแบบยั่งยืนเสียด้วย ก็ เลยศึกษามาเรื่อย ๆ  
 
หลักการรักษามะเร็งของคุณหมอนอกจากเรื่องความเครียดแล้ว ยังมีอะไรอีก บ้าง ?

     วิทยายุทธ์ที่เราจะสู้กับ มะเร็งอันดับแรก คือ หยุดการขยายตัว ของมะเร็งด้วยการควบคุมอาหาร   อย่างแรกคือ


ลดไขมันให้น้อยที่ สุด เพราะ ไขมันเป็นอาหารอันดับหนึ่งที่ มะเร็งชอบที่สุด

   ตามปรกติในข้าว พืชผัก ทุกชนิด มีไขมันเพียงพออยู่แล้ว   ที่เราเกิดโรคภัย ไข้เจ็บทุกวันนี้เพราะไขมันเกิน   ไขมันที่

เรากินทุก วันมันเกิด ออกซิได ซ์ เป็นอนุมูลอิสระหมดแล้ว เพราะการสกัดไขมันเราใช้ความร้อน พอ ถูกความร้อน ไขมัน

มันเสีย และไขมันที่ใช้แล้วใช้อีกยิ่งหนักเข้าไปอีก อย่างพวก ปาท่องโก๋ กล้วยแขก พวกนี้เป็นสารก่อมะเร็ง   คน อ้วน


เวลาเป็นมะเร็งจะลามเร็วมากเพราะมันได้อาหาร มะเร็งเหมือนต้นไม้เรา อยากให้ ต้นไม้หยุดการเจริญเติบโต เราต้อง


หยุดให้น้ำหยุดให้ปุ๋ย มันจะชะงัก ใบร่วงเลย แต่ต้นไม่ก็ยังไม่ตาย   มนุษย์เราเหมือนกัน อย่าให้ อาหารที่มะเร็งชอบ

     อาหารอย่าง ต่อมาที่ต้องลด คือโปรตีนจากเนื้อสัตว์ เมื่อเรากินเข้าไปมาก และร่างกายนำโปรตีนไปเผาผลาญเป็น

พลังงานแล้ว จะเกิดของเสียคือแอมโมเนีย ตัวนี้เป็นตัวร้าย มันเวียนกลับไปทำให้ ตับต้องทำงานหนักเพื่อเปลี่ยนเป็น


ยูเรีย ออกมาทางไตเป็นส่วนมากและออกมาทางลำ ไส้ใหญ่ ทำให้อุจจาระมีกลิ่นเหม็น   พิษจากลำไส้ใหญ่ จะถูกดูด

ซึมกลับเข้าไปในกระแสเลือด ทำให้ระบบทุกอย่างในร่างกายขัดข้องหมด เลย คนท้องผูกจะหงุดหงิดอารมณ์ไม่ดี   ดัง

นั้น ตับกับไตทำงานหนักเพราะกินโปรตีนเข้าไป โดยเฉพาะคนที่เป็นมะเร็งในตับ ต้องระวังที่สุด

คนปรกติต้องการโปรตีนวันละกี่กรัมครับ ?

     คนปรกติต้องการโปรตีนไม่เกิน ๓๕ กรัมต่อวันฉะนั้นคนที่เป็นมะเร็งลำพังโปรตีนที่ได้จากข้าวกล้อง พืชผักผลไม้ก็


พอเพียงแล้ว   พออาการค่อยยังชั่วหน่อย เราก็กินเห็ด ซึ่งมีโปรตีนสูงและมีเกลือแร่มากที่สุด มีมากกว่าเนื้อแดงด้วย


ซ้ำ  แต่เห็ดที่มีคุณภาพสูงมากที่สุดคือ เห็ดมิตาเกะ ที่ญี่ปุ่นขายแพงมาก มันมีสารที่ป้องกันมะเร็งและสารที่สร้างภูมิ


ต้านทาน สูงมาก   สาร ตัวนี้เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งแต่เป็นโปรตีนที่มี ประโยชน์


     อาหารอย่าง ที่ต้องลดคือแป้งขัดขาว น้ำตาล ของ หวาน   อย่างข้าวขาวนี่เวลาย่อยแล้ว เปลี่ยนเป็นน้ำตาลได้เร็ว


มาก   หากเราใช้ไม่หมดมันจะ ถูกส่งไปเก็บไว้ในตับหรือในกล้ามเนื้อ   เวลาร่างกาย ต้องการจะดึงกลับมาใช้อีก พอ


เหลือมันกลับไปเป็นไขมัน   บางคนบอกว่าฉันไม่ได้กินไขมันเลย ทำไมฉันยังอ้วนก็ไม่ รู้   ก็เล่นกินขนมขบเคี้ยวไม่หยุด


ของพวกนี้มัน เปลี่ยนเป็นไขมัน ได้   ตับเปลี่ยนไขมัน หรือน้ำตาลเป็นโปรตีน และยังเปลี่ยนน้ำตาลกลับมาเป็นโปรตีน


และ ไขมัน



แป้งขัดขาวทำปฎิกิริยากับร่างกายอย่างไร ครับ ?
    
          เวลากิน ของหวาน กินข้าวขาวเข้าไป ร่างกายจะเปลี่ยนเป็น กลูโคส มาเลี้ยงสมองได้เร็วมาก

สดชื่นได้เร็ว มาก   ระดับน้ำตาลขึ้นปรู๊ดเลย   พอน้ำตาลในเลือดมาก สมอง จะกระตุ้นให้ตรงนี้ขับ อินซูลิน ออกมา
เพื่อเผาผลาญน้ำตาลที่กินเข้าไปให้เป็น พลังงาน   วิตามินที่จะมาช่วยเผาผลาญ คือ วิตามินบี คอมเพล็กซ์   แต่ข้าว

ที่เรากินเข้าไป ไม่มีวิตามินบีเพราะขัดออกหมดแล้ว

    ฉะนั้นต้องดึง วิตามินในร่างกายออกมาเผาผลาญ ร่างกายเราก็ขาดวิตามินบี ทำให้ระบบประสาทเกิด เหน็บชา

และตับอ่อนทำงานหนักที่สุด เพราะเมื่อกลูโคสขึ้น   สมองไฮโปเท มัส ส่วนนี้สั่งให้ตับอ่อนผลิตอินซูลินออกมาเพื่อ เผา

ผลาญน้ำตาลให้ลดลง และมันผลิตออกมามากซะด้วย แป๊บเดียวน้ำตาลลดฮวบ เลย   เพราะฉะนั้น พวกกินข้าว

ขาวหรือของหวานจะหิว ไม่หยุด ยิ่งกินน้ำตาลมากเท่าไหร่ ตับอ่อนยิ่งทำงานหนัก ตอนน้ำตาลลดนี่จะอารมณ์ไม่ดี

หงุดหงิดเลย พวกคนอ้วนเป็นเบา หวานต้องระวัง จะดุมาก  ตอนกินจะ อารมณ์ดี พอถูกเผาผลาญหมด แป๊บเดียวจะ

อารมณ์เสียแล้ว    เหมือนที่โบราณเขาพูดว่า อยากให้หมาดุ ให้กินของหวาน ช่วงที่มัน กินของหวานจะอารมณ์ดี แจ่ม

ใส   พอแป๊บเดียวมันหิว แล้ว ระวังให้ดี มันจะกัดได้ คนก็เหมือนกันเลย   ที่ อเมริกาไม่รู้คุกไหน หลายปีมาแล้ว เขา

แบ่งนักโทษฉกรรจ์เป็นสองพวกพวกหนึ่งให้ หยุดกินของหวานหมดเลย กินแต่ขนมปังโฮลวีต อีกพวกหนึ่งให้กินแต่

ของหวาน ปรากฏว่า ภายในอาทิตย์เดียว พวกแรกนิสัยใจคอเย็นลง ส่วนพวกหลังฆ่ากันเองตายหลาย ศพ

คนที่เป็นโรคไหลตายมีรายงานว่าอาจจะเกิดจากการกินแป้งมากเกินไป ด้วย ?
    
       ส่วนมากโรคไหลตายเกิดจากหัวใจหยุด กะทันหัน พวกที่กินไขมันหรือกินของหวานมาก ๆ ก่อนนอนหรือกินอาหาร

มื้อหนักก่อน นอน เมื่อมีไขมันมากอยู่แล้ว พอกินเข้าไปตอนกลางคืน ไขมันจะเพิ่มขึ้นสูงมาก จึงมีโอกาสสูงที่ไขมันจะอุด

ตัน ที่สมองหรือหัวใจ
 
      สังเกตว่าพวกที่ตายกลางคืนทั้งหลาย ก่อนนอนคืนนั้นมักกินอาหารหนัก ส่วนมากเป็น คนที่มีไขมันในเลือดสูง อย่าง

เป็นความดัน ก่อนนอนแทนที่จะกินอาหารเบา ๆ หรือกินพืชผักผลไม้ เล่นกินอาหารหนักเลย   พลังงานเมื่อไม่ได้ใช้ ไขมัน

ก็ขึ้นสูง หัวใจทำงานหนักเนื่อง จากกระเพาะทำงานหนัก   เรานอนปิดแต่ตา แต่ทุกอย่าง ยังทำงานหนัก พลังงานก็ไม่ได้

ใช้ ไขมันไปเพิ่มอีก   คนที่ไขมันมาก ๆ เส้นเลือดตีบอยู่แล้ว มันจะอุดตันตรงไหนก็ได้   ผมสังเกตดู ถ้าคนสุขภาพดี ไม่กรน

ไม่ได้เป็นโรคหัวใจกับเส้น เลือดมาก่อน และไม่ได้กินอาหารหนักก่อนนอน คุณจะไม่เป็นเด็ดขาด แต่ส่วนมาก พวกที่ไหล
ตายเป็นคนอีสาน ชอบของหวานมาก การพักผ่อนก็ไม่พอ ก่อนนอนกินหนัก มาก

นอกจากน้ำตาลแล้ว เกลือก็ต้องลดด้วยใช่ ไหม ?

   โซเดียมคลอไรต์หรือเกลือต้องลดลงให้มาก ในร่างกายเราประกอบด้วย โซเดียมสูงมากอยู่แล้ว แต่ถ้าเรากินเข้าไปมาก

พอมันเข้าไปในกระแสเลือดมาก มันจะ ดูดน้ำในตัวเรา   สังเกตพวกกินเค็มหรือไตไม่ดี เท้าจะบวม เกลือมันจะทำให้เลือด
เราเป็น กรด   คนที่สุขภาพดี เลือดต้องเป็นด่างนิด หน่อย

แต่ถ้ากินเค็มเข้าไป เลือดจะเป็นกรดภูมิต้านทาน จะไม่มีเพราะกินเกลือเข้าไปจะไปขับ โปแตสเซียม

ทำให้เลือดไม่เป็น ด่าง

     นอกจากลดกรดแล้ว ให้เพิ่มโปแตส เซียมเข้าไปในร่างกายเพื่อให้เลือดเป็นด่างเนื่องจากคนที่เป็นมะเร็งจะเครียด ไม่

สบาย พอเครียด ร่างกายจะเกิดกรด จะมีคาร์บอนสูงมาก เราจึง ให้กินน้ำต้ม ผัก

ซึ่งมีโปแตสเซียมสูงที่สุด   ที่เราเจ็บ ร่างกายอ่อนเพลีย เพราะเราขาดโปแตสเซียม   แต่ ถ้าตัวใดตัวหนึ่งมากเกินก็ไม่ดี

เราต้องดูผล เลือด

     การแก้เลือดเป็นกรด แก้ได้สองอย่าง กินพืชผักผลไม้ให้มากๆเพื่อเพิ่มโปแตสเซียม อีกอย่างคือ

หายใจเอาออกซิเจนเข้ามามากๆเพราะยิ่งออกซิเจนเข้าไปในเลือดมากเท่าไหร่ ยิ่งทำ ให้เลือดเราเป็นด่าง แต่ถ้าเราไม่ฝึก

หายใจเอาออกซิเจนเข้าไป เลือดเราเป็นกรดเพราะเลือดเราจะมีคาร์บอนไดออกไซด์สูง มาก พวกนี้จะปวดเมื่อยร่างกาย

มาก เขาจึงให้ฝึกหายใจเพื่อเอา คาร์บอนไดออกไซด์ ออกไป แล้วเอาออกซิเจนเข้ามา มันถึงจะหายปวดเมื่อย  
     มนุษย์อด อาหาร ๔๕ - ๕๐ วันยังอยู่ได้ อดน้ำได้ ๓ - ๕ วัน   แต่อากาศหายใจ ขาด เพียง ๘ - ๑๐ นาทีเท่านั้น  

อาหารที่สำคัญที่สุดของร่างกายไม่ใช่สารอาหาร แต่เป็นออกซิเจนที่สูดเข้าไป ทำ ให้เลือดเราเป็นด่าง การที่เรานิ่ง

อยู่เฉย ๆ ไม่ได้ออกกำลังกาย จะมีคาร์บอน ไดออกไซด์ในเลือดสูงมาก ทำให้เลือดเป็นกรด มันจะเมื่อย ล้า

คุณหมอพอจะแนะนำหลักการหายใจอย่างถูกต้องได้ไหม ครับ ?

     เงยหน้าเพื่อให้อากาศเข้ามากที่ สุด เวลาหายใจเข้าพยายามให้เข้าทางรูจมูกเท่านั้น เพราะมันจะมีเครื่องกรอง

คือขน จมูก และจะมีเยื่อเมือก ๆ กรองด้วย   การหายใจเข้า ให้ปอดพองมากที่สุดสามครั้งติด ๆ กันเลย   ครั้งแรก

กลั้นไว้   ครั้งที่ ๒ กลั้นไว้ ครั้งที่ ๓ กลั้น ไว้ เหมือนใจจะขาด   พอครบสามครั้ง ค่อย ๆ โน้มตัว ลง อ้าปากเอาพิษ

ออกให้หมด   ยิ่งทำบ่อยเท่าไหร่ ปอด ท่านยิ่งมีพลัง มะเร็งปอดจะไม่เป็น เพราะออกซิเจนเข้าไปเต็มที่   ของเสีย

ออกมาเต็มที่

  ปอดมีความจุสองข้างประมาณ ๓ ลิตรครึ่งถึง ๔ ลิตร ครึ่ง   แต่ถ้าเรายังหายใจแบบธรรมดาอยู่

อากาศเข้า ออกเพียงครึ่งลิตรเท่านั้น บางทีของเสียไม่ได้ออกเลย เหมือนหม้อกรองอากาศไม่เคยเป่าหม้อกรอง

ตัวเองเลย   ปอดของเราคือหม้อกรองอากาศ เราต้องช่วยตรงนี้มาก ๆ เราเปลี่ยนปอดไม่ได้ แต่เรา ต้องบริหารการ

หายใจ จะทำให้ปอดมีประสิทธิภาพที่สุด 

 แล้วพวกนักกีฬาที่ออกกำลังกายโดยการเตะฟุตบอล ....  

     นั่นไม่ใช่การออกกำลังกายที่ให้ ประโยชน์แต่เป็นการออกกำลังกายที่เกิดโทษแก่ร่างกายเป็น

unaerobicเราต้องรู้ว่าการ ออกกำลังกายแบบ aerobic กับ unaerobic เป็นยังไง การออกกำลังกายแบบ

aerobic ร่างกายต้องเกิดด่างได้ออกซิเจน   แต่ unaerobic ได้คาร์บอนไดออกไซด์ ทำให้ร่างกายเกิดกรด

ร่างกายเสื่อม   คนที่ไปเต้นแอโรบิกทุกวันนี้ยัง ทำผิด เต้น ๆ แล้วเกร็ง เครียด กลัวจะไม่ถูกจังหวะ ชื่อแอโรบิก

แต่ไม่ใช่ แอโรบิก   แอโรบิกทำแบบไหนก็ได้ ไม่ต้องเครียด ให้ สนุกสนาน   ถ้าเครียดร่างกายจะเกิด กรด  

ฉะนั้นการแข่งกีฬาทุกวันนี้เป็นการทำลาย สุขภาพ ทั้งสุขภาพกายและจิต คนไม่เล่นก็สุขภาพจิตเสีย เพราะ

ต้องลุ้นแข่งขันกัน เครียดมั้ย ฉะนั้นนักกีฬาที่เล่นทุกวันนี้ นักฟุตบอล นักเล่นกล้าม นักวิ่ง มี ใครอายุยืน ...

ไม่มีเลย เพราะร่างกายมัน เสื่อม   มีการพิสูจน์แล้วว่า การออกกำลังกายที่ดีที่สุดคือการเดินเร็ว และให้ถูกแสง

แดด   เพราะมันไม่เครียด ไม่เหนื่อย ไม่เกร็ง และเป็นการออกกำลังกายชนิดเดียวเท่านั้นที่ทำให้ระบบประสาท

ส่วนกลางได้สมดุล

คนที่เป็นมะเร็งควรจะกินอาหารประเภทใด ?

     อาหารธรรมชาติอย่างพืชผักผลไม้ มะเร็งไม่ชอบแต่มีวิตามินสู ง คนเป็นมะเร็งต้อง กินอาหารพวกนี้ คนที่

เป็นมะเร็งส่วนใหญ่จะกินอาหารแบบนี้ได้น้อย จึงขาดพวกเกลือ แร่ เอนไซม์   วิตามิน   ฉะนั้นหมอจึง แนะนำ

ให้กินพวกเกลือแร่ วิตามิน เอนไซม์เข้าไปช่วย สรุปแล้วคน เป็นมะเร็งต้องพยายามกินผักผลไม้เพราะต้องการ

ให้ก้อนมะเร็งอดอาหารแต่ไม่ให้ขาด เกลือแร่ วิตามิน เพราะมันจำเป็น ส่วนจะเป็นวิตามินประเภทใดก็ต้องให้

หมอ ตรวจเลือด เพื่อจะรู้ว่าร่างกายเราขาดอะไรก่อน
 
การหยุดขยายก้อนมะเร็งนอกจากการเลือกกินอาหารแล้ว มีอะไรอีก ครับ ?
    
     ด้วยการ กินวิตามินซี ตามหลักของแพทย์องค์รวมเขาบอกว่า วิตามินซีต้องได้อย่างน้อย ๒๐ กรัมต่อ วัน ในร่างกาย

เรามีเซลอยู่ ประมาณ ๗๕ , ๐๐๐ ล้าน เซล    เซลล์ดีจะมีเยื่อหุ้มเซลที่เรียก ว่า .... เหมือนเป็นเสื้อเกราะไม่ให้มะเร็งเข้า

มาทำลาย ได้ แต่ถ้าเซลไหนเป็นมะเร็งแล้ว เยื่อหุ้มเซลจะไม่มี   แถมเซลมะเร็งจะสร้างเอนไซม์ชนิดหนึ่งเรียกว่า ... ซึ่ง

เป็นตัวร้าย   เอมไซม์ตัวนี้จะไปทำลาย เสื้อเกราะของเซลอื่น ทำให้กลายเป็นมะเร็งต่อไป เรื่อย ๆ  แต่พอวิตามินซีเข้าไป

ในกระแส เลือด มันจะไปทำลายเอนไซม์ตัวนี้ มะเร็งก็ไม่ขยายตัว นอกจากนี้ วิตามินซี เป็น แอนตี้ออกซิ แดนท์

หรือสารต้านอนุมูลอิสระ มันช่วยลดความเครียดลง ได้   ยกตัวอย่างเช่น คนไข้เจ็บปวด เวลาฉีด วิตามินซี ทำไมคนไข้

สงบเร็วเพราะมันไปลด อีเอสอาร์ หรือลดตะกอนเม็ดเลือด แดง   ตะกอนเม็ดเลือดแดงมากเท่าไหร่ หมายความว่าเกิด

การอักเสบหรือเกิดการเสื่อมของร่างกายมากขึ้นเท่านั้น คนปรกติให้กินวิตามิน ซี ๔ - ๕ พันมิลลิกรัมต่อวัน    แต่ ถ้าคน

ที่อยู่ในเมืองมีมลภาวะ อย่างน้อยต้อง ๖ พันมิลลิกรัมขึ้น ไป    ประเทศที่กินวิตามินซีสูงมาก ประเทศนั้นสุขภาพเขาจะ

มาก แล้วหน้าตาเขาจะดี   ประเทศที่กินมากที่สุดคือสวีเดน รองลงไปคือรัสเซีย พวกนี้สุขภาพจะดีมาก ทั้งที่ กินเนื้อ

สัตว์มาก

เรากินวิตามินซีจากส้มเพียงพอหรือไม่ ?

     ท่านทราบหรือไม่ว่าส้มลูกหนึ่งมี วิตามินซีอยู่ ๑๐๐ มิลลิกรัม หมายความว่าต้องกินจากต้น แต่ ถ้าส้มหนึ่งลูก เก็บไว้

เจ็ดวัน จะเหลือ ๑ มิลลิกรัมเท่านั้น วิตามินซีหายหมดเลย ดังนั้นถ้า คุณจะกินส้มให้ได้ ๔ พันมิลลิกรัม ต้องกินส้มสี่พัน

ลูก กินวิตามินซีมาก ๆ ทางการแพทย์บอกว่าอาจจะมีปัญหากับระบบ ปัสสาวะ


 ***********************************
 

ธรรมทายาท.th Valid XHTML and CSS. ข้อมูลการบวชพระที่ดีที่สุด สำหรับคุณ, Powered by Joomla! and designed by SiteGround web hosting

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘