พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๑ มหาวิภังค์ ภาค ๑ หน้า 486-490

                                                            หน้าที่ ๔๘๖

                ภิกษุจงใจว่า จักปล่อยสุกกะสีเหมือนเนยใส พยายาม สุกกะสีเหมือนน้ำท่า เคลื่อน
ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
                ภิกษุจงใจว่า จักปล่อยสุกกะสีเขียว พยายาม สุกกะสีเหมือนน้ำท่า เคลื่อน ต้องอาบัติ
สังฆาทิเสส
                ภิกษุจงใจว่า จักปล่อยสุกกะสีเหลือง พยายาม สุกกะสีเหมือนน้ำท่า เคลื่อน ต้องอาบัติ
สังฆาทิเสส
                ภิกษุจงใจว่า จักปล่อยสุกกะสีแดง พยายาม สุกกะสีเหมือนน้ำท่า เคลื่อน ต้องอาบัติ
สังฆาทิเสส
                ภิกษุจงใจว่า จักปล่อยสุกกะสีขาว พยายาม สุกกะสีเหมือนน้ำท่า เคลื่อน ต้องอาบัติ
สังฆาทิเสส
                ภิกษุจงใจว่า จักปล่อยสุกกะสีเหมือนเปรียง พยายาม สุกกะสีเหมือนน้ำท่า เคลื่อน
ต้องอาบัติสังฆาทิเสส.
                                                                ปิฏฐิจักร รอบที่ ๖ จบ.
                                                                ปิฏฐิจักร รอบที่ ๗
                [๓๓๗] ภิกษุจงใจว่า จักปล่อยสุกกะสีเหมือนนมสด พยายาม สุกกะสีเหมือนน้ำมัน
เคลื่อน ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
                ภิกษุจงใจว่า จักปล่อยสุกกะสีนมส้ม พยายาม สุกกะสีเหมือนน้ำมัน เคลื่อน
ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
                ภิกษุจงใจว่า จักปล่อยสุกกะสีเนยใส พยายาม สุกกะสีเหมือนน้ำมัน เคลื่อน
ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
                ภิกษุจงใจว่า จักปล่อยสุกกะสีเขียว พยายาม สุกกะสีเหมือนน้ำมัน เคลื่อน ต้องอาบัติ
สังฆาทิเสส
                ภิกษุจงใจว่า จักปล่อยสุกกะสีเหลือง พยายาม สุกกะสีเหมือนน้ำมัน เคลื่อน ต้องอาบัติ
สังฆาทิเสส
                ภิกษุจงใจว่า จักปล่อยสุกกะสีแดง พยายาม สุกกะสีเหมือนน้ำมัน เคลื่อน ต้องอาบัติ
สังฆาทิเสส


                                                            หน้าที่ ๔๘๗

                ภิกษุจงใจว่า จักปล่อยสุกกะสีขาว พยายาม สุกกะสีเหมือนน้ำมัน เคลื่อน ต้องอาบัติ
สังฆาทิเสส
                ภิกษุจงใจว่า จักปล่อยสุกกะสีเหมือนเปรียง พยายาม สุกกะสีเหมือนน้ำมัน เคลื่อน
ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
                ภิกษุจงใจว่า จักปล่อยสุกกะสีเหมือนน้ำท่า พยายาม สุกกะสีเหมือนน้ำมัน เคลื่อน
ต้องอาบัติสังฆาทิเสส.
                                                                ปิฏฐิจักร รอบที่ ๗ จบ.
                                                                ปิฏฐิจักร รอบที่ ๘
                [๓๓๘] ภิกษุจงใจว่า จักปล่อยสุกกะสีเหมือนนมส้ม พยายาม สุกกะสีเหมือนนมสด
เคลื่อน ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
                ภิกษุจงใจว่า จักปล่อยสุกกะสีเหมือนเนยใส พยายาม สุกกะสีเหมือนนมสด เคลื่อน
ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
                ภิกษุจงใจว่า จักปล่อยสุกกะสีเขียว พยายาม สุกกะสีเหมือนนมสด เคลื่อน ต้องอาบัติ
สังฆาทิเสส
                ภิกษุจงใจว่า จักปล่อยสุกกะสีเหลือง พยายาม สุกกะสีเหมือนนมสด เคลื่อน ต้องอาบัติ
สังฆาทิเสส
                ภิกษุจงใจว่า จักปล่อยสุกกะสีแดง พยายาม สุกกะสีเหมือนนมสด เคลื่อน ต้องอาบัติ
สังฆาทิเสส
                ภิกษุจงใจว่า จักปล่อยสุกกะสีขาว พยายาม สุกกะสีเหมือนนมสด เคลื่อน ต้องอาบัติ
สังฆาทิเสส
                ภิกษุจงใจว่า จักปล่อยสุกกะสีเหมือนเปรียง พยายาม สุกกะสีเหมือนนมสด เคลื่อน
ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
                ภิกษุจงใจว่า จักปล่อยสุกกะสีเหมือนน้ำท่า พยายาม สุกกะสีเหมือนนมสด เคลื่อน
ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
                ภิกษุจงใจว่า จักปล่อยสุกกะสีเหมือนน้ำมัน พยายาม สุกกะสีเหมือนนมสด เคลื่อน
ต้องอาบัติสังฆาทิเสส.
                                                                ปิฏฐิจักร รอบที่ ๘ จบ.


                                                            หน้าที่ ๔๘๘

                                                                ปิฏฐิจักร รอบที่ ๙
                [๓๓๙] ภิกษุจงใจว่า จักปล่อยสุกกะสีเหมือนเนยใส พยายาม สุกกะสีเหมือนนมส้ม
เคลื่อน ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
                ภิกษุจงใจว่า จักปล่อยสุกกะสีเขียว พยายาม สุกกะสีเหมือนนมส้ม เคลื่อน ต้องอาบัติ
สังฆาทิเสส
                ภิกษุจงใจว่า จักปล่อยสุกกะสีเหลือง พยายาม สุกกะสีเหมือนนมส้ม เคลื่อน ต้อง
อาบัติสังฆาทิเสส
                ภิกษุจงใจว่า จักปล่อยสุกกะสีแดง พยายาม สุกกะสีเหมือนนมส้ม เคลื่อน ต้องอาบัติ
สังฆาทิเสส
                ภิกษุจงใจว่า จักปล่อยสุกกะสีขาว พยายาม สุกกะสีเหมือนนมส้ม เคลื่อน ต้องอาบัติ
สังฆาทิเสส
                ภิกษุจงใจว่า จักปล่อยสุกกะสีเหมือนเปรียง พยายาม สุกกะสีเหมือนนมส้ม เคลื่อน
ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
                ภิกษุจงใจว่า จักปล่อยสุกกะสีเหมือนน้ำท่า พยายาม สุกกะสีเหมือนนมส้ม เคลื่อน
ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
                ภิกษุจงใจว่า จักปล่อยสุกกะสีเหมือนน้ำมัน พยายาม สุกกะสีเหมือนนมส้ม เคลื่อน
ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
                ภิกษุจงใจว่า จักปล่อยสุกกะสีเหมือนนมสด พยายาม สุกกะสีเหมือนนมส้ม เคลื่อน
ต้องอาบัติสังฆาทิเสส.
                                                                ปิฏฐิจักร รอบที่ ๙ จบ.
                                                                ปิฏฐิจักร รอบที่ ๑๐
                [๓๔๐] ภิกษุจงใจว่า จักปล่อยสุกกะสีเขียว พยายาม สุกกะสีเหมือนเนยใส เคลื่อน
ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
                ภิกษุจงใจว่า จักปล่อยสุกกะสีเหลือง พยายาม สุกกะสีเหมือนเนยใส เคลื่อน ต้อง
อาบัติสังฆาทิเสส
                ภิกษุจงใจว่า จักปล่อยสุกกะสีแดง พยายาม สุกกะสีเหมือนเนยใส เคลื่อน ต้องอาบัติ
สังฆาทิเสส


                                                            หน้าที่ ๔๘๙

                ภิกษุจงใจว่า จักปล่อยสุกกะสีขาว พยายาม สุกกะสีเหมือนเนยใส เคลื่อน ต้องอาบัติ
สังฆาทิเสส
                ภิกษุจงใจว่า จักปล่อยสุกกะสีเหมือนเปรียง พยายาม สุกกะสีเหมือนเนยใส เคลื่อน
ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
                ภิกษุจงใจว่า จักปล่อยสุกกะสีเหมือนน้ำท่า พยายาม สุกกะสีเหมือนเนยใส เคลื่อน
ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
                ภิกษุจงใจว่า จักปล่อยสุกกะสีเหมือนน้ำมัน พยายาม สุกกะสีเหมือนเนยใส เคลื่อน
ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
                ภิกษุจงใจว่า จักปล่อยสุกกะสีเหมือนนมสด พยายาม สุกกะสีเหมือนเนยใส เคลื่อน
ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
                ภิกษุจงใจว่า จักปล่อยสุกกะสีเหมือนนมส้ม พยายาม สุกกะสีเหมือนเนยใส เคลื่อน
ต้องอาบัติสังฆาทิเสส.
                                                                ปิฏฐิจักร รอบที่ ๑๐ จบ.
                                                                                ปิฏฐิจักร จบ.
                [๓๔๑] ภิกษุจงใจ พยายาม สุกกะเคลื่อน ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
                ภิกษุจงใจ พยายาม สุกกะไม่เคลื่อน ต้องอาบัติถุลลัจจัย
                ภิกษุจงใจ ไม่พยายาม สุกกะเคลื่อน ไม่ต้องอาบัติ
                ภิกษุจงใจ ไม่พยายาม สุกกะไม่เคลื่อน ไม่ต้องอาบัติ
                ภิกษุไม่จงใจ พยายาม สุกกะเคลื่อน ไม่ต้องอาบัติ
                ภิกษุไม่จงใจ พยายาม สุกกะไม่เคลื่อน ไม่ต้องอาบัติ
                ภิกษุไม่จงใจ ไม่พยายาม สุกกะเคลื่อน ไม่ต้องอาบัติ
                ภิกษุไม่จงใจ ไม่พยายาม สุกกะไม่เคลื่อน ไม่ต้องอาบัติ
                                                                                อนาปัตติวาร
                [๓๔๒] ภิกษุมีอสุจิเคลื่อนเพราะฝัน ๑ ภิกษุไม่ประสงค์จะให้อสุจิเคลื่อน ๑ ภิกษุวิกล-
จริต ๑ ภิกษุมีจิตฟุ้งซ่าน ๑ ภิกษุผู้กระสับกระส่ายเพราะเวทนา ๑ ภิกษุอาทิกัมมิกะ ๑ ไม่ต้อง-
อาบัติ.


                                                            หน้าที่ ๔๙๐

                                                                                วินีตวัตถุ
                                                                คาถาแสดงชื่อเรื่อง
                [๓๔๓] เรื่องฝัน เรื่องถ่ายอุจจาระ    เรื่องถ่ายปัสสาวะ
เรื่องตรึกถึงกามวิตก   เรื่องอาบน้ำร้อน     เรื่องทายา
เรื่องเกาอัณฑะ       เรื่องเดินทาง       เรื่องหนังหุ้มองค์กำเนิด
เรื่องเรือนไฟ        เรื่องขา           เรื่องสามเณร
เรื่องสามเณรหลับ     เรื่องหนีบด้วยขา     เรื่องบีบด้วยกำมือ
เรื่องแอ่นในอากาศ    เรื่องดัดกาย        เรื่องเพ่งองค์กำเนิด
เรื่องสอดเข้าช่องดาล  เรื่องสีกับไม้        เรื่องอาบน้ำทวนกระแส
เรื่องเล่นโคลน       เรื่องลุยน้ำ         เรื่องเล่นไถลก้น
เรื่องลุยสระบัว       เรื่องสอดเข้าในทราย เรื่องสอดเข้าในตม
เรื่องตักน้ำรด        เรื่องสีบนที่นอน      เรื่องสีกับนิ้วแม่มือ.
                                                                                เรื่องฝัน
                [๓๔๔] ก็โดยสมัยนั้นแล อสุจิของภิกษุรูปหนึ่งเคลื่อนเพราะฝัน เธอได้มีความรังเกียจว่า
เราต้องอาบัติสังฆาทิเสสแล้วกระมังหนอ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาค
ตรัสว่า ดูกรภิกษุ ภิกษุมีอสุจิเคลื่อนเพราะฝัน ไม่ต้องอาบัติ.
                                                                เรื่องถ่ายอุจจาระ
                [๓๔๕] ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งกำลังถ่ายอุจจาระอยู่ อสุจิเคลื่อนแล้ว เธอได้มี
ความรังเกียจว่า เราต้องอาบัติสังฆาทิเสสแล้วกระมังหนอ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค
พระผู้มีพระภาค ตรัสถามว่า ดูกรภิกษุ เธอคิดอย่างไร?
                ภิ. ข้าพระพุทธเจ้าไม่มีความประสงค์จะให้เคลื่อนเลย พระพุทธเจ้าข้า
                ภ. ภิกษุไม่มีความประสงค์จะให้เคลื่อน ไม่ต้องอาบัติ.
                                                                เรื่องถ่ายปัสสาวะ
                [๓๔๖] ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งกำลังถ่ายปัสสาวะอยู่ อสุจิเคลื่อนแล้ว เธอได้
มีความรังเกียจว่า เราต้องอาบัติสังฆาทิเสสแล้วกระมังหนอ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มี
พระภาค พระผู้มีพระภาค ตรัสถามว่า ดูกรภิกษุ เธอคิดอย่างไร?
                ภิ. ข้าพระพุทธเจ้าไม่มีความประสงค์จะให้เคลื่อนเลย พระพุทธเจ้าข้า
                ภ. ภิกษุไม่มีความประสงค์จะให้เคลื่อน ไม่ต้องอาบัติ.

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘