ปัญหาและเฉลยข้อสอบ นธ.47 03

   พระพุทธเจ้าสืบเชื้อสายมาจากชนชาติใด ชนชาตินั้นมาตั้งถิ่นฐานในชมพูทวีปได้
       
อย่างไร ?
   .  สืบเชื้อสายมาจากชนชาติอริยกะ ชาวอริยกะนั้นเป็นผู้เจริญด้วยความรู้และขนบ
        ธรรมเนียม มีฤทธิ์มีอำนาจมากกว่าพวกมิลักขะเจ้าของถิ่นเดิม เมื่อข้ามภูเขาหิมาลัยมา
        ก็รุกไล่พวกมิลักขะ เจ้าของถิ่นเดิมให้ถอยเลื่อนลงมาทางใต้ แล้วเข้าตั้งถิ่นฐาน
        ในชมพูทวีปแทน ฯ
   .  พระนามและนามดังต่อไปนี้ เกี่ยวข้องกับเจ้าชายสิทธัตถะอย่างไร ?
               . พระเจ้าสุทโธทนะ
               . พระนางเจ้าสิริมหามายา
               . พระนันทะ
               . วิศวามิตร
               . นายฉันนะ
   .          . พระเจ้าสุทโธทนะ เป็นพระราชบิดา
               . พระนางเจ้าสิริมหามายา เป็นพระราชมารดา
               . พระนันทะ เป็นพระกนิษฐภาดาต่างพระมารดา
               . วิศวามิตร เป็นครูผู้สอนศิลปวิทยาเมื่อยังทรงพระเยาว์
               . นายฉันนะ เป็นผู้ตามเสด็จในคราวออกผนวช ฯ
   .  การที่พระราชบิดาและพระญาติวงศ์ คิดผูกพันเจ้าชายสิทธัตถะไว้ให้เพลิดเพลินอยู่
        ในกามสุขเพราะเหตุไร ?  และด้วยวิธีใด ?
   .  เพราะพระราชบิดาและพระญาติวงศ์ได้ทรงฟังคำทำนายของอสิตดาบสว่า พระราชกุมาร
       
นี้จักมีคติเป็นสอง คือ ถ้าอยู่ครองราชสมบัติจักได้เป็นจักรพรรดิราช  หรือถ้าออก
        บรรพชาจักได้เป็นศาสดาเอกในโลก  จึงปรารถนาให้อยู่ครองราชสมบัติมากกว่าที่จะ
        ยอมให้เสด็จออกบรรพชา ฯ
        ด้วยการตรัสให้ขุดสระโบกขรณีในพระราชนิเวศน์ ๓ สระ เพื่อให้เป็นที่เล่นสำราญ
        พระราชหฤทัย ให้จัดเครื่องทรง คือจันทน์สำหรับทา ผ้าโพกพระเศียร ฉลองพระองค์
        ผ้าทรงสะพัก พระภูษา ล้วนเป็นของประณีต  ให้สร้างปราสาท ๓ หลังสำหรับเป็นที่
        ประทับทั้ง ๓ ฤดู  ตรัสขอพระนางยโสธรามาอภิเษกเป็นพระชายา ฯ
   .  หลังจากตรัสรู้แล้ว ในระหว่างทางที่เสด็จไปป่าอิสิปตนมฤคทายวัน พระพุทธองค์ทรง
        สนทนากับใคร ?  และผู้นั้นได้บรรลุธรรมชั้นไหน ?
   .  ทรงพบอุปกาชีวก ฯ  อุปกาชีวกไม่ได้บรรลุธรรมชั้นไหนเลย ฯ
   .  ในพิธีศิวาราตรี ถือว่าการอาบน้ำชำระร่างกายในแม่น้ำเป็นการลอยบาป  ส่วนในทาง
        พระพุทธศาสนาพระพุทธเจ้าทรงแสดงวิธีลอยบาปไว้อย่างไร ?
   .  ทรงแสดงไว้ว่า การยังบาปให้สงบระงับจากสันดาน ละกิเลสที่ทำให้เป็นผู้ดุร้าย
        เย่อหยิ่งและกิเลสที่ย้อมจิตให้ติดแน่นในกามารมณ์ เป็นการลอยบาป ฯ
   .  การปลงอายุสังขารของพระพุทธองค์ ถือโดยใจความว่าอย่างไร ? และทรงปลงอายุ
        สังขารเมื่อใด ?
   .  ถือโดยใจความว่า พระองค์ทรงปลงพระทัยว่าจะทรงบำเพ็ญพุทธกิจต่อไปอีกไม่ได้
        แล้ว เพราะปรารภถึงสังขารของพระองค์ว่า ทรงพระชราแก่เฒ่าเป็นผู้ใหญ่ ล่วงกาล
        ผ่านวัยเสียแล้ว ที่ทรงเปรียบว่ากายของพระองค์เป็นประหนึ่งเกวียนชำรุดที่ซ่อมแซม
        ด้วยไม้ไผ่ มิใช่สัมภาระเกวียนฉะนั้น ฯ
        เมื่อวันเพ็ญ เดือน ๓  ก่อนวันปรินิพพาน ๓ เดือน ฯ
   .  พระพุทธศาสนาสืบเนื่องมาถึงปัจจุบันนี้ได้อย่างไร ?
   .  ได้ด้วยการที่บริษัททั้ง ๔ ปฏิบัติตามพระธรรมวินัย และด้วยวิธีที่พระสงฆ์สาวกผู้ใหญ่
        มีพระมหากัสสปะเป็นต้น เป็นประธานจัดทำสังคายนาพระธรรมวินัย วางแบบแผน
        ที่ถูกต้องลงไว้ในพระพุทธศาสนาเป็นครั้งแรก เพื่อให้บริษัท ๔ ได้เล่าเรียนปฏิบัติตาม
       
เมื่อมีสิ่งไรไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นในพระพุทธศาสนา พระอริยสงฆ์ในยุคนั้นๆ ได้ช่วยกัน
        ทำสังคายนาเป็นครั้งที่ ๒ และครั้งที่ ๓ เป็นลำดับมา เพื่อชำระสัทธรรมปฏิรูปนั้นเสีย
        จนได้จารึกไว้ในพระคัมภีร์ให้แพร่หลาย รวมทั้งจัดการส่งพระสงฆ์ไปประกาศพระ
        พุทธศาสนาในดินแดนต่างๆ  ให้ชุมชนในดินแดนนั้นๆ เลื่อมใสปฏิบัติตาม จึงทำให้
        พระพุทธศาสนาสืบเนื่องมาจนปัจจุบันนี้ ฯ
ศาสนพิธี
   .  ในพิธีทำบุญต่างๆ  มีผู้เกี่ยวข้องในการปฏิบัติกี่ฝ่าย ?  คือใครบ้าง ?
   .  มีผู้เกี่ยวข้องในการปฏิบัติ ๒ ฝ่าย  คือ
                . ฝ่ายเจ้าภาพ         คือทายกทายิกา  ผู้ประกอบการทำบุญ
               . ฝ่ายปฏิคาหก       คือผู้รับทานและประกอบพิธีกรรมตามประสงค์
                                          ของเจ้าภาพ ซึ่งเป็นบรรพชิต เรียกอีกอย่างว่า 
                                          ฝ่ายพระสงฆ์ ฯ
   .  เพื่อปฏิบัติให้ถูกต้องตามหลักศาสนพิธี  เจ้าภาพพึงกรวดน้ำและประนมมือรับพร
        ตอนไหน ?
   .  เมื่อพระสงฆ์เริ่มอนุโมทนาด้วยบทว่า ยถา วาริวหา ฯเปฯ  เจ้าภาพพึงกรวดน้ำ ไม่ใช้
        นิ้วมือรอง เวลารินไม่ให้น้ำขาดสาย  พอว่าบท สพฺพีติโย ฯเปฯ  รินน้ำให้หมดแล้ว
        ประนมมือรับพรต่อไปจนจบ ฯ

๑๐.  การเผดียงสงฆ์ และ การอาราธนา หมายถึงอะไร ?
๑๐.  การเผดียงสงฆ์ หมายถึง การแจ้งความประสงค์ให้สงฆ์ทราบ
        การอาราธนา หมายถึง การนิมนต์พระสงฆ์ในพิธีให้ศีล สวดพระปริตร หรือ
        แสดงธรรม ฯ
















ผู้ออกข้อสอบ
:
๑.                  
พระเทพปัญญามุนี
วัดปทุมวนาราม


๒.                  
พระราชธรรมมุนี
วัดจักรวรรดิราชาวาส


๓.                  
พระศรีธรรมเมธี
วัดมหรรณพาราม





ตรวจ/ปรับปรุง
:

สนามหลวงแผนกธรรม

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘