วินัยนักธรรมตรี46
»ÑËÒáÅÐà©ÅÂÇÔªÒÇԹѺÑÑµÔ ¹Ñ¡¸ÃÃÁªÑé¹µÃÕ
Êͺã¹Ê¹ÒÁËÅǧ
ÇѹÍÒ·ÔµÂì ·Õè óð ¾ÄȨԡÒ¹ ¾.È. òõôö
*********
๑. | ๑.๑ | ข้อความว่า “ พระศาสดาทรงตั้งอยู่ในที่เป็นพระธรรมราชาผู้ปกครอง ” หมายความว่าอย่างไร ? |
| ๑.๒ | พระบัญญัติที่ทรงตั้งไว้เดิมเรียกว่าอะไร ? |
๑. | ๑.๑ | หมายความว่า ทรงตั้งพระพุทธบัญญัติเพื่อป้องกันความประพฤติเสียหาย และวางโทษแก่ผู้ล่วงละเมิด ด้วยปรับอาบัติหนักบ้าง เบาบ้าง อย่างเดียวกับพระเจ้าแผ่นดินทรงตราพระราชบัญญัติ ฯ |
| ๑.๒ | เรียกว่า มูลบัญญัติ ฯ |
๒. | ๒.๑ | การปลงชีวิตอย่างไร ต้องอาบัติถุลลัจจัย ? |
| ๒.๒ | “ภิกษุว่ายากสอนยาก ภิกษุอื่นห้ามไม่ฟัง สงฆ์สวดกรรมเพื่อจะให้ละข้อ ที่ประพฤตินั้น ถ้าไม่ละต้องสังฆาทิเสส” คือสิกขาบทที่เท่าไร ทรงบัญญัติเพื่อประสงค์ใด ? |
๒. | ๒.๑ | การปลงชีวิตมนุษย์แต่ไม่สำเร็จ คือไม่ตาย เป็นแค่บาดเจ็บ ๑ ปลงชีวิตอมนุษย์ มียักษ์ เปรต เป็นต้น ๑ ฯ |
| ๒.๒ | สิกขาบทที่ ๑๒ แห่งสังฆาทิเสส เพื่อป้องกันไม่ไห้ภิกษุดื้อด้าน ฯ |
๓. | ๓.๑ | คำว่า “ภิกษุประทุษร้ายตระกูล” ในสิกขาบทที่ ๑๓ แห่งสังฆาทิเสส หมายถึงการทำอย่างไร ? |
| ๓.๒ | สังฆาทิเสส ๑๓ สิกขาบท ที่ชื่อว่า ยาวตติยกะ หมายความว่าอย่างไร ? |
๓. | ๓.๑ | หมายถึงการที่ภิกษุประจบคฤหัสถ์ ยอมตนให้เขาใช้สอย เช่นเดินส่งข่าว ให้เขาเป็นต้น หรือ ด้วยการเอาเปรียบโดยเชิงให้สิ่งเล็กน้อยด้วยหวัง ได้มาก ฯ |
| ๓.๒ | ที่ชื่อว่า ยาวตติยกะ เพราะให้ต้องอาบัติต่อเมื่อสงฆ์ประกาศห้ามครบ |
๔. | ๔.๑ | คำว่า “ นิสสัคคิยปาจิตตีย์ ” หมายความว่าอย่างไร ? |
| ๔.๒ | ภิกษุต้องอาบัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์แล้ว ทำอย่างไรจึงจะพ้น ? |
๔. | ๔.๑ | หมายความว่า อาบัติปาจิตตีย์ ที่จำต้องสละสิ่งของ ฯ |
| ๔.๒ | ภิกษุต้องสละสิ่งของอันเป็นเหตุให้ต้องอาบัตินั้นก่อน แล้วแสดงอาบัติ จึงพ้นจากอาบัตินั้นได้ ฯ |
๕. | ๕.๑ | อติเรกจีวร ได้แก่จีวรเช่นไร ? |
| ๕.๒ | การที่ทรงห้ามไม่ให้ภิกษุเก็บอติเรกจีวร ด้วยมีพระพุทธประสงค์อย่างไร ? |
๕. | ๕.๑ | ได้แก่ จีวรนอกจากจีวรอธิษฐาน ฯ |
| ๕.๒ | ด้วยมีพระพุทธประสงค์เพื่อป้องกันความสุรุ่ยสุร่าย และความมักมาก ของภิกษุ ฯ |
๖. | ๖.๑ | ภิกษุรู้อยู่ น้อมลาภที่เขาจะถวายสงฆ์มาเพื่อตน ต้องอาบัติอะไร ? |
| ๖.๒ | คำว่า “ ลาภ ” ในข้อ ๖.๑ นั้น ได้แก่อะไรบ้าง ? |
๖. | ๖.๑ | ต้องอาบัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ ฯ |
| ๖.๒ | ได้แก่ จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และเภสัช ซึ่งเรียกว่า ปัจจัย ๔ และของที่เป็นกัปปิยะอย่างอื่น ๆ อีก ฯ |
๗. | จงให้ความหมายของคำต่อไปนี้ | |
| ๗.๑ | โอมสวาท ? |
| ๗.๒ | อักโกสวัตถุ ? |
๗. | ๗.๑ | คือ คำพูดเสียดแทงให้เจ็บใจ ฯ |
| ๗.๒ | คือ เรื่องสำหรับด่า ๑๐ อย่าง ฯ |
๘. | ๘.๑ | ภิกษุต้องอาบัติเพราะความซุกซน มีอย่างไรบ้าง ? |
| ๘.๒ | ภิกษุซ่อนบาตร ซ่อนปากกาของภิกษุอื่นเพื่อล้อเล่น ต้องอาบัติอะไร ? |
๘. | ๘.๑ | มีอย่างนี้ คือ เล่นจี้ เล่นน้ำ หลอนภิกษุ ซ่อนของเพื่อล้อเล่น พูดเย้าให้เกิดรำคาญ ฯ |
| ๘.๒ | ซ่อนบาตร ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ซ่อนปากกา ต้องอาบัติทุกกฏ ฯ |
๙. | ๙.๑ | เสขิยวัตร คืออะไร ? หมวดที่ ๒ ว่าด้วยเรื่องอะไร ? |
| ๙.๒ | ภิกษุไม่เอื้อเฟื้อในเสขิยวัตร ปฏิบัติผิดธรรมเนียม ต้องอาบัติอะไร ? |
๙. | ๙.๑ | คือ วัตรหรือธรรมเนียมที่ควรศึกษา ฯ หมวดที่ ๒ ว่าด้วยธรรมเนียมรับบิณฑบาตและฉันอาหาร ฯ |
| ๙.๒ | ต้องอาบัติทุกกฏ ฯ |
๑๐. | ๑๐.๑ | อธิกรณ์ คืออะไร ? อธิกรณ์ย่อมระงับได้ด้วยอะไร ? |
| ๑๐.๒ | การแสดงอาบัติจัดเข้าในอธิกรณสมถะข้อไหน ? สำหรับระงับอธิกรณ์อะไร ? |
๑๐. | ๑๐.๑ | คือ เรื่องที่เกิดขึ้นแล้วจะต้องจัดต้องทำ ฯ ระงับได้ด้วยอธิกรณสมถะ คือธรรมสำหรับระงับอธิกรณ์ ฯ |
| ๑๐.๒ | จัดเข้าในปฏิญญาตกรณะ ฯ สำหรับระงับอาปัตตาธิกรณ์ ฯ |
ผู้ออกข้อสอบ | : | ๑. พระเทพปริยัติสุธี | วัดบพิตรพิมุข |
| | ๒. พระศรีธวัชเมธี | วัดราชบุรณะ |
| | ๓. พระศรีปทุมเมธี | วัดเขียนเขต |
ตรวจ/ปรับปรุง | : | สนามหลวงแผนกธรรม | |