ปัญหาธรรมชั้นธศเอก46
»ÑËÒáÅÐà©ÅÂÇÔªÒ¸ÃÃÁ ¸ÃÃÁÈÖ¡ÉÒªÑé¹àÍ¡
Êͺã¹Ê¹ÒÁËÅǧ
ÇѹÍÒ·ÔµÂì ·Õè óð ¾ÄȨԡÒ¹ ¾.È. òõôö
*********
คำสั่ง : จงเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว แล้วกากบาท (x) ลงในช่อง
ของข้อที่ต้องการในกระดาษคำตอบ ให้เวลา ๕๐ นาที (๑๐๐ คะแนน)
ของข้อที่ต้องการในกระดาษคำตอบ ให้เวลา ๕๐ นาที (๑๐๐ คะแนน)
จงอ่านข้อความต่อไปนี้ แล้วตอบปัญหาตั้งแต่ข้อ ๑ ถึงข้อ ๓
“ สูทั้งหลายจงมาดูโลกนี้ อันตระการดุจราชรถ
ที่พวกคนเขลาหมกอยู่ แต่ผู้รู้หาข้องอยู่ไม่ ”
๑. ข้อความนี้ ใครกล่าว ?
ก. พระเจ้าพิมพิสาร ข. พระเจ้าอุเทน
ค. พระเจ้าอโศก ง. พระพุทธเจ้า
คำตอบ : ง
๒. คำว่า “ โลก ” หมายถึงข้อใด ?
ก. แผ่นดินที่หมู่สัตว์อาศัย ข. หมู่สัตว์ผู้อาศัยแผ่นดิน
ค. โลกที่พระเจ้าสร้างขึ้น ง. ข้อ ก. ข้อ ข. ถูก
คำตอบ : ข
๓. คำว่า “ หมกอยู่ ” หมายถึงหมกอยู่ในอะไร ?
ก. โลก ข. แผ่นดิน
ค. กิเลสกาม ง. วัตถุกาม
คำตอบ : ก
๔. ที่ได้ชื่อว่า บ่วงแห่งมาร เพราะเหตุใด ?
ก. เพราะเป็นประโยชน์ ข. เพราะเป็นสิ่งหาได้ยาก
ค. เพราะทำให้มนุษย์พอใจ ง. เพราะทุกคนต้องมี
คำตอบ : ค
๕. กิเลสกาม คือเจตสิกอันเศร้าหมอง จัดเป็นอะไร ?
ก. บ่วงแห่งมาร ข. มาร
ค. เสนามาร ง. มัจจุมาร
คำตอบ : ข
๖. คำว่า “ นิพพิทา ” หมายถึงข้อใด ?
ก. เบื่อหน่ายสังขาร ข. เบื่อหน่ายการงาน
ค. เบื่อหน่ายการเรียน ง. เบื่อหน่ายสังคม
คำตอบ : ก
๗. ญาณหยั่งเห็นว่าสังขารทั้งปวงไม่เที่ยง จัดเป็น…… ?
ก. สมถะ ข. วิปัสสนา
ค. วิมุตติ ง. สันติ
คำตอบ : ข
๘. อนิจจตานั้น คือข้อใด ?
ก. สภาพที่ไม่มีเจ้าของ
ข. สภาพที่ไม่อยู่ในอำนาจ
ข. สภาพที่ไม่อยู่ในอำนาจ
ค. สภาพที่ทนอยู่ไม่ได้
ง. สภาพที่เกิดขึ้นแล้วดับไป
ง. สภาพที่เกิดขึ้นแล้วดับไป
คำตอบ : ง
๙. เพราะโกงเขา จึงต้องมานั่งเศร้าในตะราง เป็นลักษณะของ…… ?
ก. สหคตทุกข์ ข. วิวาทมูลกทุกข์
ค. สันตาปทุกข์ ง. วิปากทุกข์
คำตอบ : ง
๑๐. ข้อใด ไม่ใช่สภาวทุกข์ ?
ก. ชาติคือความเกิด ข. ชราคือความแก่
ค. พยาธิคือความเจ็บป่วย ง. มรณะคือความตาย
คำตอบ : ค
๑๑. ความหิว ร้อน หนาว เป็นต้น จัดเป็นทุกข์อะไร ?
ก. สภาวทุกข์ ข. ปกิณกทุกข์
ค. นิพัทธทุกข์ ง. พยาธิทุกข์
คำตอบ : ค
๑๒. ข้อใด เป็นสันตาปทุกข์ ?
ก. ทุกข์เพราะแดดเผา ข. ทุกข์เพราะไฟเผา
ค. ทุกข์เพราะกิเลสเผา ง. ทุกข์เพราะความหิวเผา
คำตอบ : ค
๑๓. ทุกสิ่งมีสภาพ “ สูญ ” หมายถึงข้อใด ?
ก. ไม่มีอัตตา
ข. มีความล้มเหลว
ข. มีความล้มเหลว
ค. ค้นหาไม่พบ
ง. ไม่มีนิพพาน
ง. ไม่มีนิพพาน
คำตอบ : ก
๑๔. ความหน่ายที่เกิดด้วยปัญญา คือข้อใด ?
ก. ภังคานุปัสสนาญาณ ข. สัจจานุโลมิกญาณ
ค. สังขารุเปกขาญาณ ง. นิพพิทาญาณ
คำตอบ : ง
๑๕. ข้อใด จัดเป็นยอดแห่งธรรมทั้งปวง ?
ก. วิราคะ ข. นิพพิทา
ค. นิพพิทาญาณ ง. ปฏิปทาแห่งนิพพิทา
คำตอบ : ก
๑๖. คำใด ไม่ใช่ไวพจน์ของวิราคะ ?
ก. ตัณหักขยะ ข. นิพพิทา
ค. นิโรธะ ง. นิพพาน
คำตอบ : ข
๑๗. ตัณหา คืออะไร ?
ก. ความปรารถนา ข. ความมุ่งมั่น
ค. ความทะยานอยาก ง. ความต้องการ
คำตอบ : ค
๑๘. ตัณหามีอาการแส่ไปในอารมณ์ที่น่าใคร่ เรียกว่าอะไร ?
ก. กามตัณหา
ข. ภวตัณหา
ข. ภวตัณหา
ค. วิภวตัณหา
ง. กิเลสตัณหา
ง. กิเลสตัณหา
คำตอบ : ก
๑๙. ปฏิปทาแห่งพระอรหันต์ผู้เจริญวิปัสสนาฝ่ายเดียว เรียกว่าอะไร ?
ก. เจโตวิมุตติ ข. ปัญญาวิมุตติ
ค. ตทังควิมุตติ ง. สมุจเฉทวิมุตติ
คำตอบ : ข
๒๐. วิมุตติข้อใด จัดเป็นโลกิยะ ?
ก. นิสสรณวิมุตติ ข. สมุจเฉทวิมุตติ
ค. วิกขัมภนวิมุตติ ง. ปฏิปัสสัทธิวิมุตติ
คำตอบ : ค
๒๑. วิสุทธิ คือความหมดจด ใครบันดาลให้ได้ ?
ก. พระพุทธเจ้า ข. พระอรหันต์
ค. เทพเจ้า ง. ตนเอง
คำตอบ : ง
๒๒. ความเห็นว่า ความผิดที่บุคคลทำแล้ว เป็นของคนทำแต่ผู้เดียว ตรงกับหลัก
ของศาสนาใด ?
ของศาสนาใด ?
ก. ศาสนาพราหมณ์ ข. ศาสนาคริสต์
ค. ศาสนาพุทธ ง. ศาสนาอิสลาม
คำตอบ : ค
๒๓. ข้อใดเป็นทางสันติภาพแท้ ตามวิถีพุทธ ?
ก. เคารพกฎหมายบ้านเมือง
ข. ปฏิบัติตามสหประชาชาติ
ค. ทำกาย วาจา ใจให้สงบ
ง. เคารพสิทธิมนุษยชน
ข. ปฏิบัติตามสหประชาชาติ
ค. ทำกาย วาจา ใจให้สงบ
ง. เคารพสิทธิมนุษยชน
คำตอบ : ค
๒๔. ผู้ใด ชื่อว่าอยู่ใกล้พระนิพพาน ?
ก. ผู้เห็นภัยในความประมาท ข. ผู้เคารพพระรัตนตรัย
ค. ผู้เคารพในไตรสิกขา ง. ถูกทุกข้อ
คำตอบ : ง
๒๕. ผู้บรรลุอรหัตผลแล้ว แต่ยังมีชีวิตอยู่ ชื่อว่าได้….. ?
ก. สอุปาทิเสสนิพพาน ข. อนุปาทิเสสนิพพาน
ค. อยู่ใกล้นิพพาน ง. ถึงกระแสนิพพาน
คำตอบ : ก
๒๖. เพราะละตัณหาเสียได้ ท่านเรียกว่าอะไร ?
ก. นิพพิทา ข. นิพพาน
ค. จิตตวิสุทธิ ง. ทิฏฐิวิสุทธิ
คำตอบ : ข
๒๗. จุดมุ่งหมายสูงสุดของพระพุทธศาสนานั้น คืออะไร ?
ก. การเกิดในสวรรค์ ข. การได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า
ค. การได้เข้าสู่นิพพาน ง. การเข้าถึงพรหมโลก
คำตอบ : ค
๒๘. ความสุขที่เป็นสุดยอดของความสุขนั้น เกิดจากสิ่งใด ?
ก. ความเอิบอิ่มใจ
ข. ความมีทรัพย์
ข. ความมีทรัพย์
ค. ความสงบ
ง. ความไม่มีหนี้
ง. ความไม่มีหนี้
คำตอบ : ค
๒๙. ความดับกิเลสได้สิ้นเชิง จัดเป็นอะไร ?
ก. สอุปาทิเสสนิพพาน ข. อนุปาทิเสสนิพพาน
ค. นิพพาน ง. ถูกทุกข้อ
คำตอบ : ง
๓๐. ข้อใด ไม่จัดเป็นสมถกัมมัฏฐาน ?
ก. กำหนดรู้อิริยาบถ ข. บริกรรมกสิณ
ค. ภาวนาพุทธานุสสติ ง. บริกรรมว่า เราต้องตาย
คำตอบ : ก
๓๑. ข้อใด จัดเป็นวิปัสสนากัมมัฏฐาน ?
ก. กำหนดนับลมหายใจ ข. เจริญเมตตา
ค. กำหนดรู้กายโดยความเป็นธาตุ ง. บริกรรมกสิณ
คำตอบ : ค
๓๒. ข้อใด เป็นลักษณะของคนราคจริต ?
ก. ชอบความสวยงาม ข. ชอบของดีราคาแพง
ค. แต่งตัวเรียบร้อย ง. ถูกทุกข้อ
คำตอบ : ง
๓๓. ผู้รักสวยรักงาม ควรเจริญกัมมัฏฐานข้อใด ?
ก. อสุภะ
ข. เมตตา
ข. เมตตา
ค. อนุสสติ
ง. กสิณ
ง. กสิณ
คำตอบ : ก
๓๔. คนมักโกรธ ต้องแก้ด้วยกัมมัฏฐานข้อใด ?
ก. พรหมวิหาร ข. กายคตาสติ
ค. วินีลกอสุภะ ง. สีลานุสสติ
คำตอบ : ก
๓๕. ข้อใด กล่าวถูกต้อง ?
ก. คนโมหจริตต้องพิจารณาศพ ข. คนมักโกรธต้องพิจารณากาย
ค. คนโมหจริตต้องเจริญอานาปานสติ ง. คนราคจริตต้องแผ่เมตตา
คำตอบ : ค
๓๖. ผู้ใด เจริญกัมมัฏฐานไม่ได้ผล ?
ก. คนหนุ่มสาว ข. คนป่วย
ค. เด็กนักเรียน ง. คนหลงลืมสติ
คำตอบ : ง
๓๗. ข้อใด เป็นความหมายแท้ของเทวตานุสสติ ?
ก. การบูชาเทวดา ข. ระลึกถึงเทวดา
ค. ทำตนเองให้เป็นเทวดา ง. ระลึกถึงคุณที่ทำให้เป็นเทวดา
คำตอบ : ง
๓๘. คนที่เจริญเมตตา ย่อมได้รับอานิสงส์อย่างไร ?
ก. หลับอยู่ก็เป็นสุข
ข. ตื่นอยู่ก็เป็นสุข
ข. ตื่นอยู่ก็เป็นสุข
ค. เทวดารักษา
ง. ถูกทุกข้อ
ง. ถูกทุกข้อ
คำตอบ : ง
๓๙. สมาธิที่เกิดได้เสมอ ๆ ในชีวิตประจำวัน คือข้อใด ?
ก. ขณิกสมาธิ ข. สัมมาสมาธิ
ค. อุปจารสมาธิ ง. อัปปนาสมาธิ
คำตอบ : ก
๔๐. เครื่องปิดกั้นจิตไม่ให้เป็นสมาธิ เรียกว่าอะไร ?
ก. อกุศลมูล ข. อาสวะ
ค. กิเลสกาม ง. นิวรณ์
คำตอบ : ง
๔๑. จิตที่เป็นสมาธิ เป็นจิตที่มีคุณสมบัติตามข้อใด ?
ก. จิตไม่มีทุกข์ ข. จิตไร้กังวล
ค. จิตสงบเยือกเย็น ง. จิตแข็งกล้า
คำตอบ : ค
๔๒. ธรรมชาติของจิตเป็นเช่นไร ?
ก. เหมือนน้ำไหล ข. เหมือนสายลม
ค. กำหนดรู้ได้ยาก ง. ห้ามยากรักษายาก
คำตอบ : ง
๔๓. ข้อใด เป็นความง่วงจากถีนมิทธนิวรณ์ ?
ก. อ่านหนังสือธรรมะก็ง่วง
ข. อ่อนเพลียก็ง่วง
ข. อ่อนเพลียก็ง่วง
ค. กินอิ่มมากก็ง่วง
ง. อดนอนก็ง่วง
ง. อดนอนก็ง่วง
คำตอบ : ก
๔๔. เป้าหมายสูงสุดของการเจริญสมถกัมมัฏฐาน คือข้อใด ?
ก. ข่มตัณหาได้ ข. ข่มนิวรณ์ได้
ค. ละกิเลสอย่างหยาบได้ ง. ละกิเลสอย่างละเอียดได้
คำตอบ : ข
๔๕. เป้าหมายสูงสุดของการเจริญวิปัสสนากัมมัฏฐาน คือข้อใด ?
ก. มนุษยสมบัติ ข. สวรรคสมบัติ
ค. พรหมสมบัติ ง. นิพพานสมบัติ
คำตอบ : ง
๔๖. คำว่า “ สมถะ ” มีความหมายว่าอย่างไร ?
ก. อยู่ตามลำพัง ข. ยินดีตามมีตามได้
ค. สงบจากกิเลส ง. สงบจากนิวรณ์
คำตอบ : ง
๔๗. คำว่า “ วิปัสสนา ” มีความหมายว่าอย่างไร ?
ก. เห็นแจ้งรูปนาม ข. เห็นแจ้งอวิชชา
ค. เห็นแจ้งสังขาร ง. เห็นแจ้งพระนิพพาน
คำตอบ : ก
๔๘. อะไรเป็นกิจของวิปัสสนา ?
ก. ความเห็นแจ้งรูปนาม
ข. ความขจัดนิวรณ์
ข. ความขจัดนิวรณ์
ค. ความขจัดโมหะ
ง. ความมีสมาธิ
ง. ความมีสมาธิ
คำตอบ : ค
๔๙. อะไรเป็นผลของวิปัสสนา ?
ก. จิตถึงอัปปนา ข. จิตรู้เห็นตามความเป็นจริง
ค. จิตผ่องใส ง. จิตรู้เห็นพระนิพพาน
คำตอบ : ข
๕๐. ข้อใด ไม่ใช่อารมณ์ของวิปัสสนา ?
ก. กสิณ ๑๐ ข. ขันธ์ ๕
ค. อายตนะ ๑๒ ง. ธาตุ ๑๘
คำตอบ : ก
ผู้ออกข้อสอบ | : | ๑. พระราชกวี | วัดราชาธิวาสวิหาร |
| | ๒. พระราชสุตกวี | วัดสุทัศนเทพวราราม |
| | ๓. พระศรีวิสุทธิโสภณ | วัดไชยชุมพลชนะสงคราม |
ตรวจ/ปรับปรุง | : | สนามหลวงแผนกธรรม | |