ไตรภพ ลิมประพัทธ์

ไตรภพ ลิมประพัทธ์

เมื่อกล่าวถึงรถไฟ หลาย ๆคนก็คงจะนึกไปถึงรถไฟ แบบตู้นอน หรือไม่ก็รถไฟที่นั่งกันแบบหลังขดหลังแข็ง อยากจะนอนเมื่อใดก็ต้องพาคนซบไหล่มาด้วย.. แต่ถ้าหากเป็น “รถไฟดนตรี ” ค่ายเทปที่อายุมากแห่งหนึ่งของเมืองไทย  ก็คงจะช่วยให้เราผ่อนคลายได้โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งคนซบไหล่เลย  และตลอดระยะเวลาร่วม 20 ปี ของการฟันฝ่ามรสุมแห่งอุปสรรค รถไฟดนตรีขบวนนี้ก็ยังสามารถพาตนเองโลดเล่นอยู่บนถนนสายบันเทิงเส้นนี้ได้อย่างสวยงาม 
                    โดยมีหัวจักรสำคัญ ที่มีชื่อว่า “ ระย้า ” หรือ  ประเสริฐ  พงษ์ธนากร ผู้นำพารถไฟขบวนนี้ฝ่าข้ามพายุร้ายมาหลายต่อหลายฤดูกาล จากลูกอาแปะขายกาแฟ แถวหมู่บ้าน ใน จ.พัทลุง และ จากเจ้าหนูที่ต้องคอยประคับประคองถาดซาลาเปา ออกเร่ขายในตอนเช้า พร้อมกับวิ่งหนีเจ้าสุนัขจรจัดไปด้วย จนกระทั่งซาลาเปาในถาดตกกระจาย  ..กับชีวิตที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาสารพัดรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นนักมวย  เด็กเร่ขายของ นักร้องลูกทุ่งที่คว้ารางวัลที่ 3 จากงานวัดบ้านนอก นักดนตรีที่รับจ้างเล่นทั่วราชอาณาจักร  หมอความหนุ่มจากรั้วธรรมศาสตร์  นักจัดรายการหนุ่มไฟแรง  และแม้แต่เจ้าของค่ายเทปชื่อดัง เขาดำเนินชีวิตอย่างไรให้เป็นผู้มีพลังอย่างล้นเหลือในการทำงาน จนกระทั่งสามารถกุมความสำเร็จเอาไว้ในมือได้อย่างเหนียวแน่น ..และวันนี้แหละดิฉันจะมาเผยเคล็ดที่ไม่ลับของเขา ให้พวกเราได้เรียนรู้ร่วมกัน ทั้งหมด 10 วิธี
เริ่มจากวิธีที่ 1 “ ภาพความหลังในการทำงานหนักของพ่อแม่ ช่วยสร้างให้เป็นคนขยัน ”
ภาพที่ยังคงติดตรึงอยู่ในมโนสำนึกของเขา เมื่อระลึกถึงวัยที่ยังเป็นเด็กน้อย คือภาพของพ่อแม่ที่ต้องเลิกตีนมุ้งเพื่ออกมาทำงานแต่เช้ามืด  แม่ที่อยู่หน้าเขียงคอยจัดแจงสับหมูเพื่อทำไส้ซาลาเปา พ่อที่กุลีกุจอ ตักน้ำใส่หม้อต้ม และต้องหันมาทอดปาท่องโก๋ต่อ เด็กชายระย้าได้พาตนเองเข้าไปมีบทบาทโดยที่พ่อและแม่ไม่ต้องบอก เพราะภาพคุ้นตาเหล่านั้น ทำให้เขารู้สึกว่าควรช่วยแบ่งเบา.. และเมื่อสมัยที่ยังอ่อนวัยเขาก็คอยให้กำลังใจพ่ออยู่บนกองฟืน ซึ่งพ่อต้องโหมแรงสับท่อนฟืนที่อยู่ข้างหน้า จนกระทั่งเม็ดเหงื่อซึมหายเข้าไป ในผ้าขนหนูที่ผูกคาดไว้กับหน้าผาก..ภาพเหล่านี้ช่วยสร้างให้เขาเป็นคนรักการทำงานอย่างไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัว
วิธีที่ 2  “  ความเป็นนักอ่าน..มรดกที่ได้รับจากพ่อ ”
              คงจะเป็นเรื่องแปลกสำหรับคนทั่วไปหากทราบว่าอาแปะขายกาแฟในหมู่บ้านเล็ก ๆ   อ่านหนังสือของหลวงวิจิตรวาทการ ของยาขอบ บุเรงนอง หรือแม้แต่สามก๊ก ก่อนนอนทุกคืน ..แต่สำหรับ “ระย้า”  เรื่องเช่นนี้ไม่แปลกเลย เพราะนั่นคือสิ่งที่เขาได้เห็นมาตลอดชีวิตการเป็นบุตรชายคนที่ 2  ของอาแปะผู้นี้   และด้วยเลือดความเป็นนักอ่านที่ไหลเวียนอยู่ในกาย ทำให้ “ ระย้า ” รักที่จะอ่านหนังสือทุกประเภทจนกระทั่งเป็นผู้ที่รู้มากและรู้จริง และมีข้อมูลดิบที่สามารถงัดออกมาใช้ได้ตลอดเวลา.. ถึงแม้ว่าพ่อจะไม่เคยเคี่ยวเข็ญให้ระย้าอ่านหนังสือ แต่เพราะความเป็นนักอ่านของพ่อนี่แหละที่ทำให้เขากลายเป็นหนอนหนังสือได้อย่างไม่รู้ตัว
 วิธีที่ 3  “  มีความอดทนต่ออุปสรรค และการรอคอย ”
 “ระย้า” คงจะเดินทางมาถึงจุดแห่งความสำเร็จเช่นในวันนี้ไม่ได้  หากว่าเขาหมดความอดทน ในวันที่ต้องเผชิญกับห่าฝนแห่งอุปสรรคที่สาดกระหน่ำชีวิตของเขาตลอดระยะทางที่ก้าวเดิน โดยเฉพาะในช่วงของการต่อสู้  เพื่อที่จะได้เป็นเจ้าของรายการวิทยุ  และด้วยความไม่มีชื่อเสียงทำให้เมื่อไปเอ่ยปากขอสปอนเซอร์ที่ไหน ก็มักจะได้รับการโบกมือบ้ายบายตรอกกลับทั้งสิ้น.. เมื่อไปอาศัยโบรกเกอร์ให้ช่วยหาสปอนเวอร์ให้ก็ถูกเอารัดเอาเปรียบจนแทบอยู่ไม่ได้ และกว่าจะสร้างตนเองให้มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับได้ ก็ทำเอาสบักสบอมปางตาย  แต่ด้วยความที่ยึดมั่นคำว่า “ อดทน ” ไว้ในหัวใจ ทำให้สามารถประคับประคองตนเองได้จนกระทั่งถึงวันที่ความสำเร็จนั้นอยู่ในกำมือ
  วิธีที่ 4  “ มีความรักในการทำงาน ”
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา  “ระย้า ” ทุ่มเทกับการทำงานอย่างหนัก เขาถือเอางานที่ทำ..มาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต และเขาจะทำงานโดยไม่ได้คำนึงว่า เงินเดือนที่ได้ จะคุ้มกับสิ่งที่ตนเองทุ่มเทไปหรือไม่ ทำให้ “ ระย้า ”  ลืมความเหน็ดเหนื่อยที่เกิดจากอุปสรรคในการทำงานได้โดยไม่รู้ตัว
               วิธีที่ 5 “ ทำงานหนักมากกว่าคนอื่นเป็นสิบเท่า ”
             “ระย้า ” เป็นเด็กที่บากบั่นทำงานหนักมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย และประโยคที่ “ระย้า”มัก จะได้ยินจนคุ้นหูก็คือ “ ลูกบ้านนี้ขยัน รู้จักช่วยพ่อ- แม่ ทำงานทำการ ” ในตอนนั้นระย้าไม่เข้าใจหรอกว่าอะไรทำให้ชาวบ้านพูดเช่นนั้น  เขารู้เพียงแต่ว่า..คำพูดเหล่านั้น ทำให้เขายิ่งมีแรง มีกำลังใจทำงานมากยิ่งขึ้น จนกระทั่งกลายเป็นคนบ้างานมาจนถึงทุกวันนี้
            “ระย้า ” มักจะพูดถึงตัวเองกับคนอื่นว่า “ ผมไม่ใช่คนเก่ง.. แต่ที่ทำอะไรได้ดีกว่าคนอื่น ก็เพราะความที่ผมทำงานหนักมากกว่าคนอื่น  อย่างเช่นการเรียน ..ที่เรียนได้คะแนนดี ๆก็ ไม่ใช่เพราะว่าเก่ง หรือ หัวดี  เพราะคนเก่งเขาอ่านหนังสือกันรอบเดียวก็สบายแล้ว แต่ผมต้องอ่านถึงสิบเที่ยวจึงจะได้คะแนนเท่าเขา ”
                  วิธีที่ 6 “ มีก้าวต่อไป..ไม่เคยอยู่กับที่ ”
                 “ ระย้า ” ทำงานหลากหลายประเภทไม่ว่าจะเป็นงานเขียนวิจารณ์  งานเล่นดนตรี หรือแม้แต่จัดรายการวิทยุ ดังนั้นเมื่อจบการศึกษาจึงไม่ใช่เรื่องแปลก หากว่าเขาจะได้นั่งในตำแหน่งผู้จัดการประชาสัมพันธ์ของบริษัทแห่งหนึ่ง และด้วยความไม่เคยหยุดนิ่งของเขานี่เองที่ทำให้ตนเองได้รับตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายผลิตมารับผิดชอบอีก …ต่อมาเขาก็ก้าวเข้ามาเป็นเจ้าของรายการวิทยุ และค่ายเทปชื่อดัง
                  วิธีที่ 7 “ ทำตัวให้ทันสมัยอยู่เสมอ ”
                “ระย้า” รู้และเข้าใจดีว่าโลกในยุคปัจจุบัน เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว การทำตัวเป็นคนยึดติดอยู่กับสิ่งเก่า ๆ โดยไม่ยอมเปิดใจและยอมรับกับสิ่งใหม่ ๆ ย่อมเป็นการย่ำอยู่กับที่ และจะไม่ช่วยให้เกิดผลดีกับการดำเนินชีวิต ตลอดจนการทำงานได้เลย โดยเฉพาะกับค่ายเทป..ที่ต้องมีความทันสมัยอยู่ตลอดเวลา
                   วิธีที่ 8 “ ระบบการทำงานที่เป็นครอบครัว ”
                   การทำงานแบบค่อย ๆเติบโตขึ้นอย่างช้า ๆ ช่วยทำให้ระหว่างผู้ร่วมงานมีความผูกพันธ์กันมากขึ้น  ประกอบกับคุณระย้าเองไม่เคยคิดว่าผู้ร่วมงานเป็นพนักงานเป็นพนักงานกินเงินเดือนธรรมดา ๆ  แต่กลับคิดว่าทุกคนเป็นเหมือนพี่น้อง และหากใครมีปัญหาคุณระย้าก็จะเปิดโอกาสให้พูดคุยได้อย่างเต็มที่  ภาพของลูกน้องที่ออกจากบริษัทไปแล้ว ..กลับมาเยี่ยม นั่งทานข้าว พูดคุยกัน เป็นภาพที่ทำให้คุณระย้ามีความสุขทุกครั้งที่ได้เห็น
                  วิธีที่ 9 “  ครอบครัวที่เข้าใจและให้กำลังใจเสมอ ”
                  การเป็นผู้ชายที่ทุ่มเทให้กับชีวิตการทำงาน หากปราศจากครอบครัวที่เข้าใจ คงจะทำให้ก้าวย่างแต่ละก้าวเป็นไปอย่างลำบากเพราะความที่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง .. และชีวิตที่ประสบความสำเร็จในทุกวันนี้ ของคุณระย้าก็คงไม่เกิดขึ้น  หากปราศจากครอบครัวที่เข้าใจและเป็นกำลังใจที่ดีเสมอ
                 และวิธีสุดท้าย..คือ “ รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วชีวิต..ต้องการอะไร ”
                  การได้ทำงานที่ตนเองรักและงานนั้นประสบความสำเร็จ การมีครอบครัวที่ดีและเข้าใจ การได้เป็นเจ้าของสุขภาพที่ดี  ทั้งหมดนี้เพียงพอแล้วสำหรับผู้ชายที่ผ่านหนทางแห่งการต่อสู้ มาอย่างโชกโชนอย่าง.. “ ระย้า ” และหากจะได้รับชื่อเสียง เกียรติยศมากกว่านี้ แต่ต้องสูญเสียสิ่งเหล่านั้นไป คุณระย้าบอกว่าไม่ขอรับ หากแต่ทุกสิ่งควรจะ มีความเป็นไปตามครรลองของมันเอง
                  ระยะทางที่ระย้า ก้าวเดินมาจนถึงวันนี้ดูช่างยาวไกลและเนิ่นนาน แม้กระทั่งเขาเองยังเอ่ยปาก ออกมาว่า  “ เมื่อผมยืนอยู่ตรงจุดนี้แล้วมองย้อนกลับไป ..แทบไม่น่าเชื่อเลยว่า จะเดินมาได้ไกลถึงเพียงนี้ บางครั้งอดที่จะตั้งคำถามกับตัวเองไม่ได้ว่าเรามาได้อย่างไร.. เพราะโดยความจริงแล้วผมไม่น่าจะมีชีวิตรอดมาถึงตรงนี้ได้ด้วยซ้ำไป ” ..ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม หลักสิบประการที่ยึดมั่นไว้ในหัวใจของ  “ ระย้า ” เด็กชายมอมแมม ที่นุ่งกางเกงตูดขาดในวันวาน ก็พาให้ตัวเองในวันนี้ได้ก้าวขึ้นมานั่งเก้าอี้ ผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จทั้งในชีวิตส่วนตัวและหน้าที่การงานได้อย่างเต็มภาคภูมิ

“ การทำงานสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ต้องทำอย่างทุ่มเท ช่วงชีวิตของหนุ่มสาว… สิ่งที่ทุมเทไปนั้นคือ “ กำไร ”  ในชีวิตของคุณ ”
                    ไม่ใช่แค่หลักสิบประการของคุณระย้าเพียงเท่านั้น ที่ดิฉันนำมาบอกเล่าให้พวกเรา ณ ที่นี้ได้เรียนรู้ร่วมกัน  แต่ดิฉันยังมีวลีชีวิตของคุณระย้ามาฝากด้วย ..ดิฉันคิดว่าน่าจะช่วยปลุกให้ใครหลายคนในที่นี้ตื่นตัวจากความเฉื่อยชาได้ .. ซึ่งดิฉันเองก็ได้ยึดถือและพยายามปฏิบัติมาโดยตลอด ..และดิฉันก็เชื่อแน่ ๆว่า ในอนาคตข้างหน้าที่จะถึงนี้  พวกเราทุกคนจะได้รับคำว่า  “ ความสำเร็จ ” เป็นของขวัญให้กับตัวเอง หากได้ปฏิบัติตามวลีชีวิตนี้..

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘