สืบ นาคะเสถียร
สืบ นาคะเสถียร
เช้าของวันที่ 29 สิงหาคม ในขณะที่ดิฉันและเพื่อนๆกำลังจะไปรับประทานอาหารเช้าที่อมช. ดิฉันเห็นบอร์ดวางระเกะระกะ บอร์ดใหญ่ที่ติดอยู่ข้างฝานั้นเขียนตัวหนังสือตัวใหญ่มาก คำๆเดียวสั้น๐ที่อ่านแล้วกลับเข้าใจเรื่องราวอะไรต่อมิอะไรได้อีกมากมาย คำนั้นคือ “สืบ”
จากความรู้เดิมที่ติดตัวมานั้นทำให้เมื่อสายตาที่ส่งไป สมองก็เริ่มสั่งการและแปลข้อมูลออกมาว่า “สืบ” คือชื่อของนักอนุรักษ์ป่าคนหนึ่งที่ยอมสละชีพของตนเองเพื่อปลุกจิตสำนึกให้คนไทยทั้งประเทศเริ่มตื่นตัว และเริ่มอนุรักษ์ผืนป่า และสัตว์ป่ากันอย่างจริงจังเสียที ดิฉันสนใจข้อมูลในบอร์ดทุกบอร์ดมากจึงเดินเข้าไปอ่านและได้ทราบว่า เขาจัดบอร์ดนี้ขึ้นมาเพื่อระลึกถึง
คุณสืบ นาคะเสถียร ที่ได้จากโลกนี้ไปแล้วถึง 10 ปี ซึ่งวันครบรอบวันตายนั้นคือวันที่ 1กันยายน 2543
คุณสืบ นาคะเสถียร มีนามเดิมว่า สืบยศ เป็นชาวอำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 31 ธันวาคม 2492 บิดาของคุณสืบชื่อ นายสลับ นาคะเสถียร มารดาชื่อ นางบุญเยี่ยม นาคะ-เสถียร มีพี่น้องทั้งหมด 3 คน โดยเป็นบุตรชายคนโต
คุณสืบเกิดในครอบครัวชาวนา ชีวิตในวัยเด็กนั้นจึงต้องช่วยทำงานในนาของแม่ ทุกวันเมื่อว่างจากภาระหน้าที่ก็จะออกไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนตามประสาเด็ก มีอาวุธติดตัวหนึ่งอย่างคือไม้ง่ามหนังสะติ๊กคู่ใจ ชีวิตวัยเรียนเริ่มต้นเข้าเรียนชั้นประถมตอนต้นที่โรงเรียนประจำจังหวัดปราจีนบุรี เมื่อถึงช่วงปิดเทมอว่างจากการเรียนก็จะออกไปช่วยทางบ้านยกเสริมแนวกันนเอง เพื่อไม่ให้มีข้อพิพาทกับเพื่อนบ้าน คุณสืบต้องทำงานอยู่กลางแดดทุกวันแต่ก็ไม่เคยปริปากบ่น
หลังจากที่เรียนจบชั้นประถม4แล้วนั้นก็ต้องออกไปเรียนอยู่ที่โรงเรียนเซนต์หลุยส์ จังหวัดฉะเชิงเทรา จนกระทั่งเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ในสมัยเด็กนั้นบุคลิกท่าทางประจำตัวนั่นก็คือ เมื่อสนใจหรือตั้งใจจะทำอะไรแล้ว ก็จะมุ่งมั่นตั้งใจทำอย่างจริงจัง จนประสบความสำเร็จและเป็นผู้ที่มีผลการเรียนดีมาโดยตลอด
คุณสืบได้เข้าศึกษาในคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ด้วยความตั้งใจในการศึกษาอย่างเต็มประสิทธิภาพ และเข้าร่วมกิจกรรมนิสิต โดยเป็นที่ทราบกันดีระหว่างหมู่ผู้ใกล้ชิดว่าคุณสืบเป็นผู้มีใจรักในศิลปะและสูงส่งในเชิงมนุษยสัมพันธ์ มีระเบียบในการดำเนินชีวิตในสมัยเรียนอย่างเป็นแบบแผนเมื่อจบการศึกษาระดับปริญญาตรีแล้วก็ได้เข้าทำงานที่ส่วนสาธารณะของการเคหะแห่งชาติและได้ศึกษาต่อปริญญาโทที่คณะวนศาสตร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จนสำเร็จ หลังจากนั้น ก็ได้ทำงานเกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ผืนป่า และสัตว์ป่าอีกหลายแห่ง
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งตั้งอยู่ในเขตอำเภอบ้านไร่และอำเภอลานสัก จ.อุทัยธานีและอำเภออุ้มผาง จ. ตาก ครอบคลุมพื้นที่ต้นน้ำของลำห้วยสายหลัก คือ ลำห้วยขาแข้ง ที่ซึ่งเป็นแหล่งทำงานที่สุดท้าย ที่คุณสืบ นาคะเสถียร ได้ฝากเป็นพินัยกรรมชิ้นสุดท้ายไว้
8 เดือน เป็นช่วงเวลาสั้นๆคงทำอะไรได้ไม่มากมาย แต่สำหรับ สืบ นาคะเสถียร
กลับเป็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่และมีความหมาย พลิกป่าห้วยขาแข้งให้คนทั่วประเทศและทั่งโลกได้รู้จักและยอมรับถึงคุณค่า ความสำคัญของผืนป่าแห่งนี้ ทำให้ผู้ใหญ่และคนในสังคมต่างหันมามองว่าเกิดอะไรขึ้นในห้วยขาแข้ง อะไรเป็นเงื่อนไขให้คนที่ทำงานอย่างหนักเพื่อปกป้องผืนป่าและสัตว์ป่ามาตลอดชีวิตการทำงาน ยอมปลิดชีวิตตัวเองเพื่อตะโกนให้สังคมหันมาเหลียวแลปัญหาที่เกินกำลังกว่าจะทำได้ หากเจตนารมณ์ในการพิทักษ์ป่าและสัตว์ป่าไม่อาจเป็นไปอย่างที่มันควรจะเป็นได้ ความรับผิดชอบที่อยู่ในจิตใจเรียกร้องให้ปลดปล่อยตัวเองจากทางที่ยืนอยู่…แต่ไม่ว่าด้วยเงื่อนไขใดก็ตาม วันนี้สืบทำให้คนทั่วไปรู้จัก “เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง” ในฐานะของป่าอนุรักษ์ที่สำคัญ และเป็นสะพานที่ทอดยาวไปสู่การอนุรักษ์สัตว์ป่าและผืนป่าแห่งอื่นๆ
ระหว่าง 8 เดือนในห้วยขาแข้ง สืบใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับงานบริหารในฐานะหัวหน้าเขต แม้ว่าสืบจะรักงานศึกษาวิจัยมากกว่า ถึงกระนั้นคนร่วมงานกับสืบในห้วยขาแข้งต่างยอมรับว่าเขาทำงานอย่างเอาจริงเอาจังกับทุกเรื่อง และพยายามทำให้ดีที่สุด เพราะห้วยขาแข้ง เป็นที่แห่งแรกที่เขานึกถึงเสมอ ยามไม่สบายใจ ที่นี่คือบ้านของเขา และเขาก็ได้กลับบ้านแล้ว
และการได้มีโอกาศในการคลุกคลีกับงานวิจัยสัตว์ป่าทำให้สืบเก็บรับความรู้สึกที่ได้สัมผัสกับชีวิต พฤติกรรมของสัตว์ป่า และนำมาถ่ายทอดแทนสัตว์ป่าเหล่านี้ เมื่อใดที่สืบมีโอกาสเขาจะพูด…พูดเพื่อปกป้องสัตว์ป่าและป่าไม้ และเขามักพูดว่า “ผมขอพูดในนามของสัตว์ป่า เพราะเขาพูดเองไม่ได้…”
คุณสืบ ตั้งใจทำงานทุกอย่างอย่างใส่ใจจนกระทั่งได้จากพวกเราไปเมื่อเช้ามืดวันที่ 1 กันยายน 2533 โดยชำระสะสางภาระรับผิดชอบและทรัพย์สินส่วนตัวที่คั่งค้าง มอบหมายเครื่องใช้และอุปกรณ์ในการศึกษาวิจัยด้านสัตว์ป่าให้สถานีวิจัยสัตว์ป่าเขตนางรำ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ดังกล่าว และได้ตั้งศาลเพื่อแสดงความคารวะที่มีต่อดวงวิญญาณของเจ้าหน้าที่ซึ่งพลีชีพรักษาป่าห้วยขาแข้ง เริ่มต้นตำนานแห่งนักอนุรักษ์ที่แท้จริง ‘สืบ นาคะเสถียร : นักอนุรักษ์ไทย’ ผู้ที่รักป่าและธรรมชาติด้วยกาย วาจา และใจ
นี่คือเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่ทุ่มเทชีวิตเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ป่าไม้ และสัตว์ป่า
มีความสุขเมื่อสามารถช่วยให้หลายๆชีวิตได้อยู่รอด และเศร้าสลดใจกับหลายๆชีวิตที่ต้องจากไป
บางครั้งการจากไปก็เป็นการเริ่มต้นที่ดีให้กับหลายๆสิ่ง หลายๆอย่าง อย่างเช่นคุณสืบ เป็นที่น่าเสียใจที่คนดีๆต้องจบชีวิตลง การจบชีวิตของคุณสืบเป็นการกระตุ้นและได้ปลุกจิตสำนึกให้หลายๆองค์กรมีการตื่นตัวในการอนุรักษ์ธรรมชาติมากขึ้นซึ่งเป็นสิ่งที่น่าดีใจ
แต่ก็น่าเสียใจที่เจ้าหน้าที่หรือข้าราชการบางคนไม่เห็นความสำคัญในการอนุรักษ์แล้วยังพยายามจะแสวงหาประโยชน์ให้กับตัวเองและพวกพ้องให้มากที่สุด ไม่ใช่เฉพาะคุณสืบเท่านั้นที่ต้องสละชีวิตตัวเอง ยังมีเจ้าหน้าที่และบุคคลอีกหลายคนที่ต้องจบชีวิตเช่นเดียวกันเพื่อรักษาป่าไม้และสัตว์ป่า และในอนาคตก็ไม่รู้ว่าจะสูญเสียบุคคลที่ทุ่มเท และอุทิศชีวิตให้กับการอนุรักษ์ป่าไม้และสัตว์ป่าอีกกี่คน จึงจะช่วยให้ป่าไม้กับสัตว์ป่าดำรงต่อไปตราบจนลูกหลานได้
นาย หนึ่งนักต่อสู้ กล้าหาญ
สืบ รักษาอุดมการณ์ ป่ากว้าง
นาคะ ปรกภิบาล สรรพสัตว์ ทั้งมวล
เสถียร สถิตมิแรมร้าง หลบเล้น ลืมเลือน
ผู้ จากไปยังชื่อไว้ ตรึงตรา
พิทักษ์ รักษ์สัตว์ป่า มอบให้
มรดก แต่ประชา- กรทั่ว กันเฮย
โลก ห่มร่ำไห้ อกโอ้ อาวรณ์
เช้าของวันที่ 29 สิงหาคม ในขณะที่ดิฉันและเพื่อนๆกำลังจะไปรับประทานอาหารเช้าที่อมช. ดิฉันเห็นบอร์ดวางระเกะระกะ บอร์ดใหญ่ที่ติดอยู่ข้างฝานั้นเขียนตัวหนังสือตัวใหญ่มาก คำๆเดียวสั้น๐ที่อ่านแล้วกลับเข้าใจเรื่องราวอะไรต่อมิอะไรได้อีกมากมาย คำนั้นคือ “สืบ”
จากความรู้เดิมที่ติดตัวมานั้นทำให้เมื่อสายตาที่ส่งไป สมองก็เริ่มสั่งการและแปลข้อมูลออกมาว่า “สืบ” คือชื่อของนักอนุรักษ์ป่าคนหนึ่งที่ยอมสละชีพของตนเองเพื่อปลุกจิตสำนึกให้คนไทยทั้งประเทศเริ่มตื่นตัว และเริ่มอนุรักษ์ผืนป่า และสัตว์ป่ากันอย่างจริงจังเสียที ดิฉันสนใจข้อมูลในบอร์ดทุกบอร์ดมากจึงเดินเข้าไปอ่านและได้ทราบว่า เขาจัดบอร์ดนี้ขึ้นมาเพื่อระลึกถึง
คุณสืบ นาคะเสถียร ที่ได้จากโลกนี้ไปแล้วถึง 10 ปี ซึ่งวันครบรอบวันตายนั้นคือวันที่ 1กันยายน 2543
คุณสืบ นาคะเสถียร มีนามเดิมว่า สืบยศ เป็นชาวอำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 31 ธันวาคม 2492 บิดาของคุณสืบชื่อ นายสลับ นาคะเสถียร มารดาชื่อ นางบุญเยี่ยม นาคะ-เสถียร มีพี่น้องทั้งหมด 3 คน โดยเป็นบุตรชายคนโต
คุณสืบเกิดในครอบครัวชาวนา ชีวิตในวัยเด็กนั้นจึงต้องช่วยทำงานในนาของแม่ ทุกวันเมื่อว่างจากภาระหน้าที่ก็จะออกไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนตามประสาเด็ก มีอาวุธติดตัวหนึ่งอย่างคือไม้ง่ามหนังสะติ๊กคู่ใจ ชีวิตวัยเรียนเริ่มต้นเข้าเรียนชั้นประถมตอนต้นที่โรงเรียนประจำจังหวัดปราจีนบุรี เมื่อถึงช่วงปิดเทมอว่างจากการเรียนก็จะออกไปช่วยทางบ้านยกเสริมแนวกันนเอง เพื่อไม่ให้มีข้อพิพาทกับเพื่อนบ้าน คุณสืบต้องทำงานอยู่กลางแดดทุกวันแต่ก็ไม่เคยปริปากบ่น
หลังจากที่เรียนจบชั้นประถม4แล้วนั้นก็ต้องออกไปเรียนอยู่ที่โรงเรียนเซนต์หลุยส์ จังหวัดฉะเชิงเทรา จนกระทั่งเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ในสมัยเด็กนั้นบุคลิกท่าทางประจำตัวนั่นก็คือ เมื่อสนใจหรือตั้งใจจะทำอะไรแล้ว ก็จะมุ่งมั่นตั้งใจทำอย่างจริงจัง จนประสบความสำเร็จและเป็นผู้ที่มีผลการเรียนดีมาโดยตลอด
คุณสืบได้เข้าศึกษาในคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ด้วยความตั้งใจในการศึกษาอย่างเต็มประสิทธิภาพ และเข้าร่วมกิจกรรมนิสิต โดยเป็นที่ทราบกันดีระหว่างหมู่ผู้ใกล้ชิดว่าคุณสืบเป็นผู้มีใจรักในศิลปะและสูงส่งในเชิงมนุษยสัมพันธ์ มีระเบียบในการดำเนินชีวิตในสมัยเรียนอย่างเป็นแบบแผนเมื่อจบการศึกษาระดับปริญญาตรีแล้วก็ได้เข้าทำงานที่ส่วนสาธารณะของการเคหะแห่งชาติและได้ศึกษาต่อปริญญาโทที่คณะวนศาสตร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จนสำเร็จ หลังจากนั้น ก็ได้ทำงานเกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ผืนป่า และสัตว์ป่าอีกหลายแห่ง
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งตั้งอยู่ในเขตอำเภอบ้านไร่และอำเภอลานสัก จ.อุทัยธานีและอำเภออุ้มผาง จ. ตาก ครอบคลุมพื้นที่ต้นน้ำของลำห้วยสายหลัก คือ ลำห้วยขาแข้ง ที่ซึ่งเป็นแหล่งทำงานที่สุดท้าย ที่คุณสืบ นาคะเสถียร ได้ฝากเป็นพินัยกรรมชิ้นสุดท้ายไว้
8 เดือน เป็นช่วงเวลาสั้นๆคงทำอะไรได้ไม่มากมาย แต่สำหรับ สืบ นาคะเสถียร
กลับเป็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่และมีความหมาย พลิกป่าห้วยขาแข้งให้คนทั่วประเทศและทั่งโลกได้รู้จักและยอมรับถึงคุณค่า ความสำคัญของผืนป่าแห่งนี้ ทำให้ผู้ใหญ่และคนในสังคมต่างหันมามองว่าเกิดอะไรขึ้นในห้วยขาแข้ง อะไรเป็นเงื่อนไขให้คนที่ทำงานอย่างหนักเพื่อปกป้องผืนป่าและสัตว์ป่ามาตลอดชีวิตการทำงาน ยอมปลิดชีวิตตัวเองเพื่อตะโกนให้สังคมหันมาเหลียวแลปัญหาที่เกินกำลังกว่าจะทำได้ หากเจตนารมณ์ในการพิทักษ์ป่าและสัตว์ป่าไม่อาจเป็นไปอย่างที่มันควรจะเป็นได้ ความรับผิดชอบที่อยู่ในจิตใจเรียกร้องให้ปลดปล่อยตัวเองจากทางที่ยืนอยู่…แต่ไม่ว่าด้วยเงื่อนไขใดก็ตาม วันนี้สืบทำให้คนทั่วไปรู้จัก “เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง” ในฐานะของป่าอนุรักษ์ที่สำคัญ และเป็นสะพานที่ทอดยาวไปสู่การอนุรักษ์สัตว์ป่าและผืนป่าแห่งอื่นๆ
ระหว่าง 8 เดือนในห้วยขาแข้ง สืบใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับงานบริหารในฐานะหัวหน้าเขต แม้ว่าสืบจะรักงานศึกษาวิจัยมากกว่า ถึงกระนั้นคนร่วมงานกับสืบในห้วยขาแข้งต่างยอมรับว่าเขาทำงานอย่างเอาจริงเอาจังกับทุกเรื่อง และพยายามทำให้ดีที่สุด เพราะห้วยขาแข้ง เป็นที่แห่งแรกที่เขานึกถึงเสมอ ยามไม่สบายใจ ที่นี่คือบ้านของเขา และเขาก็ได้กลับบ้านแล้ว
และการได้มีโอกาศในการคลุกคลีกับงานวิจัยสัตว์ป่าทำให้สืบเก็บรับความรู้สึกที่ได้สัมผัสกับชีวิต พฤติกรรมของสัตว์ป่า และนำมาถ่ายทอดแทนสัตว์ป่าเหล่านี้ เมื่อใดที่สืบมีโอกาสเขาจะพูด…พูดเพื่อปกป้องสัตว์ป่าและป่าไม้ และเขามักพูดว่า “ผมขอพูดในนามของสัตว์ป่า เพราะเขาพูดเองไม่ได้…”
คุณสืบ ตั้งใจทำงานทุกอย่างอย่างใส่ใจจนกระทั่งได้จากพวกเราไปเมื่อเช้ามืดวันที่ 1 กันยายน 2533 โดยชำระสะสางภาระรับผิดชอบและทรัพย์สินส่วนตัวที่คั่งค้าง มอบหมายเครื่องใช้และอุปกรณ์ในการศึกษาวิจัยด้านสัตว์ป่าให้สถานีวิจัยสัตว์ป่าเขตนางรำ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ดังกล่าว และได้ตั้งศาลเพื่อแสดงความคารวะที่มีต่อดวงวิญญาณของเจ้าหน้าที่ซึ่งพลีชีพรักษาป่าห้วยขาแข้ง เริ่มต้นตำนานแห่งนักอนุรักษ์ที่แท้จริง ‘สืบ นาคะเสถียร : นักอนุรักษ์ไทย’ ผู้ที่รักป่าและธรรมชาติด้วยกาย วาจา และใจ
นี่คือเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่ทุ่มเทชีวิตเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ป่าไม้ และสัตว์ป่า
มีความสุขเมื่อสามารถช่วยให้หลายๆชีวิตได้อยู่รอด และเศร้าสลดใจกับหลายๆชีวิตที่ต้องจากไป
บางครั้งการจากไปก็เป็นการเริ่มต้นที่ดีให้กับหลายๆสิ่ง หลายๆอย่าง อย่างเช่นคุณสืบ เป็นที่น่าเสียใจที่คนดีๆต้องจบชีวิตลง การจบชีวิตของคุณสืบเป็นการกระตุ้นและได้ปลุกจิตสำนึกให้หลายๆองค์กรมีการตื่นตัวในการอนุรักษ์ธรรมชาติมากขึ้นซึ่งเป็นสิ่งที่น่าดีใจ
แต่ก็น่าเสียใจที่เจ้าหน้าที่หรือข้าราชการบางคนไม่เห็นความสำคัญในการอนุรักษ์แล้วยังพยายามจะแสวงหาประโยชน์ให้กับตัวเองและพวกพ้องให้มากที่สุด ไม่ใช่เฉพาะคุณสืบเท่านั้นที่ต้องสละชีวิตตัวเอง ยังมีเจ้าหน้าที่และบุคคลอีกหลายคนที่ต้องจบชีวิตเช่นเดียวกันเพื่อรักษาป่าไม้และสัตว์ป่า และในอนาคตก็ไม่รู้ว่าจะสูญเสียบุคคลที่ทุ่มเท และอุทิศชีวิตให้กับการอนุรักษ์ป่าไม้และสัตว์ป่าอีกกี่คน จึงจะช่วยให้ป่าไม้กับสัตว์ป่าดำรงต่อไปตราบจนลูกหลานได้
นาย หนึ่งนักต่อสู้ กล้าหาญ
สืบ รักษาอุดมการณ์ ป่ากว้าง
นาคะ ปรกภิบาล สรรพสัตว์ ทั้งมวล
เสถียร สถิตมิแรมร้าง หลบเล้น ลืมเลือน
ผู้ จากไปยังชื่อไว้ ตรึงตรา
พิทักษ์ รักษ์สัตว์ป่า มอบให้
มรดก แต่ประชา- กรทั่ว กันเฮย
โลก ห่มร่ำไห้ อกโอ้ อาวรณ์