วันที่พบ อ่อง ซาน ซู จี

วันที่พบ อ่อง ซาน ซู จี
                เพื่อนๆ ครับการที่เราจะเคารพยกย่อง และนับถือใครมากๆ นอกจากบุพการีของเรานั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับใครบางคนเลยใช่ไหมครับ   กระผมก็เช่นกันครับ แต่ในวันนี้กระผมมีบุคคลที่ผมเคารพยกย่อง และนับถือมากเพิ่มอีกคนหนึ่ง หลังจากที่กระผมได้ยินการกล่าวขวัญถึงบุคคลผู้นี้บ่อยๆ จนกระทั่งได้มีโอกาสอ่านหนังสืออัตชีวประวัติของเขา  เมื่อกระผมอ่านหนังสือเล่มนั้นจนถึงหน้าสุดท้าย และวางหนังสือเล่มนั้นลง กระผมรู้สึกเหมือนมีพลังใดพลังหนึ่งกำลังเกิดขึ้นในตัวของกระผม พลังที่สามารถรับรู้ได้   พลังซึ่งถูกถ่ายทอดจากบุคคลในหนังสือเล่มนั้นสู่ตัวของกระผม  พลังแห่งการต่อสู้เรียกร้อง พลังของบุคคลที่รักประเทศชาติอย่างเต็มหัวใจ พลังที่คนหลายๆคนไม่อาจมีเทียบเท่า  เป็นที่น่าอัศจรรย์ใจอยู่ไม่น้อยเลยว่า พลังต่างๆเหล่านี้เกิดขึ้นในตัวของผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งเท่านั้น  ผู้หญิงตัวเล็กๆที่มีชื่อว่า อ่อง ซาน ซู จี
                 เมื่อกล่าวถึงคำว่า วีรสตรี แล้ว ในประเทศไทยของเรา เราก็จะคิดถึง เท้าสุรนารี บ้างหรือบางคนอาจจะคิดถึงเจ้าแม่จามเทวี ต่างๆเหล่านี้ เป็นต้น แต่หากกล่าวถึง วีรสตรี ในต่างประเทศแล้ว คงจะมีน้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก วีรสตรีที่มี นามว่า  อ่อง ซาน ซู จี วีรสตรีแห่งประเทศพม่า
                 สิ่งที่นาง ซู จี  กำลังพยายามทำในปัจจุบันคือ การกระตุ้นลูกพรรคให้แสดงความเห็นอย่างกว้างขวางในเรื่องการศึกษาของประเทศพม่า ซึ่งเต็มไปด้วยปัญหาและอุปสรรคมากมาย อันเป็นผลมาจากการที่พม่าไม่มีประชาธิปไตย ซึ่งการศึกษานั้นเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมากในการพัฒนาประเทศ สำหรับประเทศที่กำลังพัฒนาอย่างประเทศพม่า
                  นาง ซู จี กลายเป็นตัวแทนของสตรีทั่วโลกที่มีความมุ่งมั่นในการต่อสู้เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย  และการรุกล้ำสิทธิมนุษย์ชน และไดรับพลังจากประชาชนอย่างท่วมท้น ทำให้สตรีผู้นี้กลายเป็นผู้นำโดยธรรมชาติ ที่ได้รับการยอมรับจากประชาชน ความมีคุณค่าจากความแน่วแน่และความมุ่งมั่นเหล่านี้ ทำให้ นาง ซู จี กลายเป็นแรงบันดาลใจสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่งใหญ่ในประเทศ พม่า
                  อะไรคือแรงผลักดันให้สตรีผู้นี้มีพลังได้อย่างมากมายล้นเหลือ ส่วนหนึ่งคงจะเป็นเพราะสายเลือดประชาธิปไตยที่เข้มข้นที่ได้รับมาจากบิดาของเธอ  พลเอก อ่อง ซาน ผู้ซึ่งวางรากฐานประชาธิปไตยในประเทศพม่า แต่พลังอีกส่วนหนึ่งนั้นคงจะเป็นเพราะ ความรัก ความรักที่ยิ่งใหญ่ของคนคนหนึ่งที่มีต่อประเทศชาติ ความรักที่มีต่อประชาชนตาดำๆ ความรักที่ต้องแลกมาด้วยความเสียสละอย่างใหญ่หลวง และความรักที่ต้องเสียสละแม้กระทั่ง ความรัก แต่สิ่งสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด นั่นก็คือ เธอมีพลังเยาวชนคนรุ่นใหม่อยู่เคียงข้างเธอตลอดเวลา
                     หลังจากที่ถูกรัฐบาลทหารตัดสินให้กักบริเวณเธอในบ้านพักเป็นเวลานานถึง 6 ปี  ถูกสกัดกั้นการเดินทางอยู่บนถนนนาน 13 วัน และการที่ต้องจากสามีโดยที่ไม่ได้พบหน้าก่อนตาย หรือแม้กระทั่งการที่ต้องพลัดพรากจากลูกชายอันเป็นที่รัก 2 คน ให้ต้องอยู่ห่างไกลกันคนละซีกโลก  คงจะไม่ต้องพูดถึงหัวอกของความเป็นแม่ว่าจะมีความรู้สึกเช่นไร สิ่งเหล่านั้น นางซู จี ต้องอดทนและเสียสละมากเพียงไร  กระผมคิดว่าเราควรจะยึดถือเอาความอดทนและความเสียสละเหล่านี้มาเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตประจำวันได้มากไม่ว่าจะเรื่องการเรียน หรือเรื่องของการทำงาน
                      ถึงแม้ว่าจะเป็นผู้นำของพรรคสันนิบาตประชาธิปไตย หรือ เอ็น แอล ดี แต่สิ่งๆหนึ่งที่นางที่ ซู จี ทำก็คือ เธอจะวางตัวเรียบง่ายมากเหมือนเป็นเพื่อนของคนในพรรค  ไม่มีมาดข่มใครหรืออ่อนให้ใคร บางครั้งก็ยังมีอารมณ์ขันด้วย  สิ่งเหล่านี้นี่เองที่ทำให้นางเป็นที่รักของทุกคนเสมอมา เพราะถึงแม้จะต้องเผชิญสถานการณ์ตึงเครียดมากมายสักเพียงใด แต่นางก็เข้มแข็งต่อสู้กับสถานการณ์เหล่านั้นด้วยรอยยิ้ม และหากว่าเราได้ดูรูปภาพของนางแล้ว สังเกตที่แววตาของนางนั้นจะเห็นประกายแห่งความ แน่วแน่ มุ่งมั่นและมีพลังอย่างเหลือเชื่อ
                      ในขณะที่โลกในยุคปัจจุบันนี้ เราถือว่าการจำกัด สิทธิ เสรีภาพ ของมนุษย์ชนนั้น เป็นเรื่องที่ล้าหลังและไม่ถูกยอมรับ  การที่มีความเป็นเผด็จการไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการปกครองประเทศหรือในเรื่องใดก็ตาม  มักจะไม่ถูกยอมรับกันแล้วในปัจจุบัน พวกเราเทิดทูนความเป็นประชาธิปไตย และความเป็นอิสระ เพราะนั่นคือเราจะสามารถแสดงความคิดเห็นและถูกจำกัดสิทธิน้อยลง มีความเป็นอิสระมากขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้วความเป็นประชาธิปไตยไม่ได้มีในทุกประเทศ บางประเทศก็ยังมีการใช้การปกครองแบบเผด็จการอยู่ อย่างในประเทศพม่า เป็นต้น  สิ่งนี้ นาง ซู จี เห็นว่าจะเป็นอุปสรรคในการพัฒนาประเทศ  และนางก็ได้ใช้ความพยายามมากมายที่จะเรียกร้องให้เกิดความเป็นประชาธิปไตยในแผ่นดินเกิดของนางเอง  เราในฐานะที่เป็นเพื่อนบ้านและเป็นเพื่อนร่วมโลก  สิ่งใดถูกเราก็สนับสนุน ยกย่อง สรรเสริญ  ตรงกันข้ามสิ่งใดผิดเราก็ต่อต้านและไม่อยากให้มี การกระทำของนางซู จี นั้นเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ และต้องการเห็นสิ่งที่ดีๆเกิดขึ้น  นอกจากนี้แล้วเรายังได้เห็นความพยายามมากมาย ความอดทน ความเสียสละ และความรักที่ยิ่งใหญ่ที่นางมอบให้กับประเทศของนาง สิ่งเหล่านี้น่าจะเป็นตัวตัดสินได้เป็นอย่างดีว่าเราควรจะสนับสนุนฝ่ายใด
                      ย้อนกลับมามองที่บ้านเรา ในขณะที่ประเทศบางประเทศกำลังเรียกร้องประชาธิปไตยกัน แต่พวกเรามีความเป็นประชาธิปไตยแล้ว เรากลับมองข้ามและไม่ให้ความสนใจในสิทธิหรือ หน้าที่ ของพลเมืองในการปกครองระบอบประชาธิปไตย  การนอนหลับทับสิทธิ์ เป็นกรณีหนึ่งที่เห็นได้ชัดว่า เรามองข้ามและละเลยสิ่งๆนี้ไป  หรือแม้กระทั่งการซื้อสิทธิ์ และการขายเสียง  ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายต่อการปกครองในระบอบนี้เป็นอย่างยิ่ง หากได้มีโอกาสที่เราจะได้แสดงความเป็นประชาธิปไตย จงแสดงมันออกมาเถอะครับ และช่วยกันรักษาประชาธิปไตยของประเทศเราให้อยู่กับเราไปนานๆ
                       หลายต่อหลายเหตุการณ์ที่นาง ซู จี พิสูจน์ว่า นางไม่เคยท้อถอยกับการต่อสู้ หลายครั้งที่นางไม่ย่อท้อ ตราบจนปัจจุบัน เวลาได้ล่วงเลยมาเป็นเวลา 55 ปีแล้ว แต่นางยังคงแน่วแน่ในการเรียกร้องประชาธิปไตยในประเทศ พม่า  โดยเรียกร้องอย่างสันติวิธี ตามแนวทางของ มาร์ติน ลูเธอร์ คิง 
ผู้นำด้านสิทธิมนุษย์ชนของประเทศอเมริกา  และมหาตมะคานธี วีรบุรุษของชาวอินเดีย เราก็ได้แต่หวังว่านางจะได้รับชัยชนะจากการต่อสู้เรียกร้องในครั้งนี้  แต่สิ่งๆหนึ่งก็คือ ไม่ว่านางจะต่อสู้เพื่อให้ได้รับชัยชนะอะไรก็ตาม แต่ในตอนนี้นางก็ได้รัยชัยชนะอย่างยิ่งใหญ่แล้ว คือ ชนะใจของคนทั้งโลกนั้นเอง

                                                             อหังการแห่งดอกไม้
                                 สตรีมีสองมือ                                           มั่นยึดถือในแก่นสาร               
                          เกลียวเอ็นจักเป็นงาน                             มิใช่ร่านหลงแพรพรรณ   
                  สตรีมีสองตีน                ไว้ป่ายปีนความใฝ่ฝัน
                          ยืนหยัดอยู่ร่วมกัน            มิหมายหมั้นกินแรงใคร
            สตรีมีดวงตา                เพื่อเสาะหาชีวิตใหม่
                          มองโลกอย่างกว้างไกล            มิใช่คอยชม้อยมวน
                           สตรีมีดวงใจ                เป็นดวงไฟไม่ผันผวน
                           สร้างสมพลังมวล            เธอล้วนก็คือคน
                           สตรีมีชีวิต                ล้างรอยผิดด้วยเหตุผล
                           คุณค่าเสรีชน                มิใช่ปรนกามารมณ์
                           ดอกไม้มีหนามแหลม            มิใช่แย้มคอยคนชม
                           บานไว้เพื่อสะสม            ความอุดมแห่งผืนดิน                              

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘