33ลินคอน

ประธานาธิบดี ลินดอน บี จอห์นสัน

  เมื่อกล่าวถึงประธานาธิบดีดีคนที่ 35 หรือลำดับที่ 36 ของสหรัฐรับรองส่วนใหญ่ต้องร้อง อ้อ…ไม่รู้ใช่ไหมครับ งั้นวันนี้เราก็มารูจักกับบุคคลผู้นี้เลยว่าประวัติเขาจะน่าสนใจขนาดไหนที่ทำให้ผมสนใจขนาดนี้ เขาผู้นั่นก็คือ..ประธานาธิบดีคนที่ต่อจากเคนเนดี้หลังจากถูกยิงตายที่รัฐเท็กซัสไม่กี่ชั่วโมงเอง..ครับ
เขาชื่อ ลินดอน บี จอห์นสัน ครับ ซึ่งชีวิตในวัยเด็กของเขาจะคล้ายกับวัยเด็กของผมมาครับ ครับ ผมจะเล่าตามลำดับขั้นประวัติของเขาดีกว่าเพื่อจะได้ง่ายลำดับเหตุการณ์จนกระทั่งได้เป็น ประธานาธิบดี
1. วัยเด็ก - มัธยม จอห์นสันนั้นเป็นชาวเท็กซัสหรือที่เรียกกันว่าเมืองโคบาลโดยกำเนิด บิดามีอาชีพทำนาและเลี้ยงวัวอยู่ที่นั่น (ส่วนผมก็เลี้ยงควายอยู่ที่สุราษฏร์ธานีเหมือนกันครับ ผมเลี้ยงประมาณ 40 ตัวแต่ตอนนี้พ่อขายไปหมดแล้วครับเพราะต้องส่งลูกควายย่างผมไปเรียนในเมืองครับ) ในวัยเด็กลินดอนต้องช่วยทางบ้านเลี้ยงวัวก่อนไปและกลับจากโรงเรียนทุกวัน ที่สำคัญครับจากการเป็นเด็กเลี้ยงวัวนี่เองครับทำให้เขามีความเร็วในการวิ่งมากครับเพราะต้องไล่ต้อนฝูงวัว( ผมก็วิ่งเร็วไม่แพ้จอห์นสันนะครับเพราะควายที่บ้านวิ่งเร็วเหมือนกัน) จากนั้นพอจบมัธยมอายุได้ 15 ปีเขาก็คิดทำงานเลี้ยงตัวเองและความตั้งใจที่จะเรียนมหาวิทยาลัยต่อจึงได้เดินทางไปแคลิฟอเนียเพื่อสมัครเป็นกรรมกรสร้างทางหลวง และได้เลื่อนขึ้นเป็นคนขับรถบรรทุกดินและทราย ทำงานอยู่ 7 เดือนเต็มๆจึงกลับมาอ้อนวอนพ่อขอเรียนต่อได้สำเร็จ
2. มหาวิทยาลัย หลังจากที่ขอพ่อได้สำเร็จจอห์นสันก็เข้าศึกษาต่อที่วิทยาลัยครูที่เมืองซันมาโค (ส่วนผมก็ศึกษาครูอยู่ที่ มช.เช่นกัน) ด้วยความที่เขาเป็นคนเก่งและฉลาด เขา กล่าว่า “ผมสอบไล่ได้ 40 วิชาแต่ได้คะแนนเยี่ยมเป็นพิเศษเพียง 35 วิชา” เอง …(ส่วนผมก็เกือบทุกวิชาครับที่มองขึ้นไปแล้วอยู่ไกลลิบและด้านล่างก็หาใครไม่ค่อยเจอเลย) ครับในขณะเรียนอยู่เขายังรับจ้างเป็นยามเฝ้าไร่อยู่ด้วยนะครับ เมื่อถึงเวลาเรียนวิชาการพูดในที่ชุมชน (เหมือนพวกเราเลย) เขาก็หัดไปปราศัยแบบว่าพูดให้น้ำไหลก็ได้ไฟดับก็ได้ น่าทึ่งไหมครับ (ไอ้เด็กเลี้ยงวัว) (ส่วนผมก็พยายามฝึกพูดให้มันเข้าประเด็นอยู่เหมือนกันครับ..ชอบนอกเรื่องทุกที..แต่ไม่เป็นไรคนฟังชอบผมโม้)หลังจบครูได้สอนอยู่ 2 ปี
3 . เริ่มชีวิตทางการเมือง หลังจากที่จอห์สันเลิกสอน 1 ปี (ตอนนี้ผมยังเรียนครูปี2อยู่ครับ) ได้มีโอกาสเดินทางไปกรุงวอชิงตันทำอีท่าไหนผมก็ไม่ทราบได้เป็นเลขาส่วนตัวของท่านสมาชิกสภาสูง และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขารักการเมืองจึงได้เรียนวิชากฎหมาย ที่ ม. ยอร์ช เทาวน์ ในวอชิงตัน จากนั้นก็ได้แต่งงานเลดี้ เบิด (เมียของจอห์นสันครับเขาเรียกกันอย่างนี้ครับเพราะเธอน่ารักเหมือนนก) หรือสัตรีหมายเลข 1 ในเวลาต่อมา เธอได้เจียดเงินมาช่วยลินดอนในการเล่นการเมือง(น่าสรรเสริญนี่ซิรักกันจริง)และแล้วความสำเร็จก็ตามมาเขาได้รับเป็นสมาชิกสภาต่ำในการเลือกตั้งซ่อมด้วยการสนับสนุนนโยบายช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจคนว่างงานทั้งที่คู่แข่งจะเน้นปัญหาเรื่องสีผิว หลังจากนั้นเขาก็พยายามที่แข่งขันเป็นสมาชิกสภาสูงแต่พ่ายให้กับคู่แข่ง คือ เจ้าถิ่นเก่า ด้วยคะแนน 1,311 คะแนน จึงกลับไปสมัคร สส. สภาล่างและได้รับเลือกอีก
4. ชายชาติทหาร ครั้นเมือสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นโจมตี เพิล ฮาเบอร์ จอห์นสันได้สมัครเป็นทหารในกองทัพเรือได้ยศเรือโท ออกปฏิบัติงานในสงครามด้วย บางครั้งก็ออกปฏิบัติการกับเครื่องบินทิ้งระเบิด เป็นทหารอยู 7 เดือน ประธานาธิบดี โรสเวลท์ สั่งให้บรรดา สส. ที่ปฏิบัติหน้าที่กลับมาประจำรัฐสภา หลังกลับมาเขาได้รับมอบเหรียญ กล้าหาร ซิลเวอร์ สตาร์ (ตอนนี้ผมเรียน รด. จบปี3 ครับได้ยศ 10 โทครับ เท่ห์ไม่เบาเหมือนกัน พรุ่งนี้มะรืนนี้นี้ผมก็จะไปรบกับพม่าที่ชายแดน จ.เชียงรายเหมือนกันมันยิงพี่น้องเราตาย)
5. สู่การเมืองที่แท้งจริง หลังกลับจากสงครามแล้ว จอห์นสัน ได้เข้าสมัครสมาชิกสภาสูงอีกครั้งและก็ได้ชัยชนะจากผู้สมัคร 29 คน และแล้วหนทางการเมืองเขาก็สดใส ด้วยความเป็นผู้ที่เฉลียวฉลาดเป็นที่ยอมรับของเพื่อนร่วมงานก็ได้รับต่ำแหน่งห้วหน้าผู้นำพรรคดีโมแครท (เอาอีกแล้วเด็กเลี้ยงวัว) จากการที่เขาเป็นคนดีรู้จักหน้าที่เขาทำงานหนักมากถึงวันละ 16 ชม. ต้องรับโทรศัพท์วันละ 500 ครั้ง ตอบจดหมายวันละ 650 ฉบับ และต้อนรับผู้มาหาถึงวันละ 70 คน เขากล่าวว่า “มันเป็นหน้าที่ที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้”
6. รองประธานาธิบดีผู้ใจดี จากการคัดเลือกผู้สมัครประธานาธิบดีของพรรคดีโมแครท จอห์นสันต้องพ่ายให้กับ จอห์น เอฟ แคเนดี้ แต่แคเนดี้ไม่ปล่อยให้คนดีมีความสามารถและฐานเสียงอันยิ่งใหญ่ของรัฐเทกซัสลอยนวลไป จึงขอร้องให้ ลินดอน บี จอห์นสัน มาสมัครเป็นรองประธานาธิบดี โดยที่แคเนดี้สมัครเป็นประธานาธิบดี ทุกอย่างก็เรียบร้อยลงตังและทั้งสองก็ได้รับเลือกในที่สุด จากการเป็นรองฯนี้เองจอห์นสันได้มาเที่ยวเมื่องไทยด้วยรัฐบาลของไทยก็ต้อนรับอย่างดีจอห์น รองฯเลยครับ และเหตุการณ์ที่ประทับใจผมอีกอย่างหนึ่งก็คือภายหลังกลับจากประเทศไทยแล้วเขาก็มีเพื่อนเป็นแขกเลี้ยงวัวเเละอูฐที่ ในปากีสถาน แขกคนนี้นั้นชีวิตเกิดมาไม่เคยเหยีบรองเท้าเลยและไดเจอกับ รองฯจอห์นสันได้พูดคุยถูกอกถูกใจจนแขกพลั่งปากเอ่ยอยากไป USA รองฯ ลินดอน บี จอห์น สัน ก็พาเขาไปในทันที (เดชะบุญแขกเลี้ยงอูฐ ฝันที่เป็นจริง) ไม่ย่อยนะครับอเมริกาต้อนรับเเขกผู้นี้ในฐานะแขกของกระทรวงการต่างประเทศของอเมริกานะครับยิ่งกว่านักการฑูตเสียอีก และเป็นครั้งแรกที่ได้ขึ้นเครื่องบินและได้สวมรองเท้า (โอ้โฮ แขกผู้นี้ดูดีขึ้นมากเลยครับ) เขาได้รับเลี้ยงในฐานะแขกผู้มีเกียรติของจอห์นสัน และจอห์นสันได้พาแขกผู้นี้นั่งรถยนต์โดยที่ท่านจอห์นสันเป็นพลขับพาเที่ยวชมเมืองแทกซัส นับเป็นการอันน่าทึ่งและตรึงใจของเด็กเลี้ยงอูฐไปจนตาย (เมื่อไหร่จะเป็นวันของเด็กเลี้ยงควายบ้างหนอ)
7. 35 ลำดับที่ 36   จากการที่แคเนดี้ถูกยิงยิงเสียชีวิตที่รัฐแทกซัส 2 ชม.ต่อมาบนเครื่องบินที่บรรทุกศพของแคเนดี้ จากแทกซัสไปวอชิงตัน ทำให้ลินดอน บี จอห์นสัน เป็นประธานาธิบดี คนที่ 35 ลำดับ ที่ 36 ของอเมริกาเป็นไปตามกฎหมายรัฐธรรมนูญของอเมริกาที่ว่าเมื่อประธานาธิบดีตายลงจะต้องให้รองประธานาธบดีดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีหรือตำแหน่งต่อมาที่ลำดับในรัฐธรรมนูญจนครบวาระหรือ 4 ปีนั่นเองจะว่างเว้นประธานาธิบดีไม่ได้ ครับใครเลยจะคาดฝันว่าเด็กผู้เคยเลี้ยงวัว กรรมกรสร้างทางหลวงมาตั้งแต่อายุ 15 ปีและอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่เขาต้องผ่านมา จะก้าวมาถึงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาผู้นำโลกเสรีในปัจจุบัน ทั้งนี้เพราะเป็นผู้มีใจรักความก้าวหน้า มีความมานะพยายามอย่างไม่ท้อถอย เป็นผู้ปฏิบัติงานอย่างเข้มแข็ง แต่สุภาพอ่อนโยนเป็นที่รักของคนทุกคนที่ได้พบเห็นเขาไม่ว่าจะเป็นเด็กเลี้ยงอูฐในปากีสถาน แล้วเราทุกคนล่ะจะเป็นเช่นเขาผู้นี้สักครึ่งหนึ่งไม่ได้หรือ ………..

    สวัสดีครับ.

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘