19ศิริวัฒน์ วรเวทวุฒิคุณ

คุณศิริวัฒน์ วรเวทวุฒิคุณ

     ช่วงปลายปี 2540 ภาวะเศรษฐกิจของไทยต้องประสบปัญหาตกต่ำอย่างร้ายแรง ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยทั่วทั้งประเทศให้ดำดิ่งอย่างฉุดไม่ขึ้น ธุรกิจต่างๆประสบปัญหาหนี้สิน เกิดภาวะขาดทุนอย่างหนัก จนทำให้บริษัทเอกชนต่างๆต้องล้มกันระเนระนาด เหตุการณ์ครั้งนี้ได้พลิกผันชีวิตมหาเศรษฐีหลายๆคนจากหน้ามือเป็นหลังมือ จากรายได้นับล้านต้องเปลี่ยนเป็นไม่กี่ร้อยบาท หลายคนทำใจไม่ได้ ไม่สามารถยอมรับสภาพตกต่ำของตัวเองจนถึงกับฆ่าตัวตายไปก็ใช่
น้อย แต่ก็ยังมีบางคนที่ต่อสู้อย่างไม่ลดละแม้ว่าจะประสบปัญหาหนักหนาสาหัสเพียงใด ก็พยายามสู้จนประสบความสำเร็จได้อีกครั้ง ดังเช่นผู้ชายคนนี้….ศิริวัฒน์ วรเวทวุฒิคุณ
คุณศิริวัฒน์ เคยเป็นผู้มีชื่อเสียงโด่งดังมากในวงการตลาดหุ้น ในฐานะของกรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์เอเซีย จำกัด แต่ดัวยความที่เป็นคนตรงและการจัดการของบริษัทไม่เป็นไปดังที่คาดหวัง ทำให้เขาตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งอันมีเกียรติหันมาจับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยการสร้างคอนโดมิเนียมที่หรูหราซึ่งกลุ่มเป้าหมายคือเศรษฐีในเมืองไทย แต่แล้วเมื่อดำเนินการสร้างเสร็จเรียบร้อย เมืองไทยกลับประสบปัญหาภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทำให้เงินลงทุนหลายร้อยล้านบาทจมลงไปอย่างหมดทางแก้ไข เขาต้องประสบปัญหากับภาระหนี้สินและยังต้องรับผิดชอบชีวิตพนักงานอีกหลายสิบ
ชีวิต ทุกคนจึงต้องเริ่มต้นคิดหากิจการใหม่เพื่อความอยู่รอด สุดท้ายก็มาลงตัวที่การทำแซนด์วิชขาย ซึ่งในขณะนั้นยังไม่เป็นที่รู้จักของคนไทยเท่าไรนักแต่ด้วยความมานะ บากบั่น ปัญหาต่างๆค่อยๆคลี่คลายไปจนทุกวันนี้ ศิริวัฒน์แซนด์วิช กลายเป็นที่รู้จักกันถ้วนหน้าทั้งไทยและต่างประเทศ
กว่าจะมาถึงตรงจุดนี้ได้เขาต้องฝ่าฟันอุปสรรคนานัปการ แต่หลายๆอย่างที่มีอยู่ในตัวของเขาก็เป็นปัจจัยสำคัญอันทำให้ชีวิตเขาประสบความสำเร็จและเป็นแบบอย่างให้กับคนหมดหวังทุกคนได้เป็นอย่างดี
คุณสมบัติแรกที่มีอยู่ในตัวคุณศิริวัฒน์ คือ กล้าคิดกล้าทำ เห็นได้จาการที่เขาตัดสินใจลาออกจากบริษัททั้งที่ตัวเองยังไม่มีเป้าหมายอะไรรองรับเลย และการเริ่มต้นกับธุรกิจคอนโดทั้งๆที่ตัวเองยังไม่มีประสบการณ์มาก่อน จนสุดท้ายมาจบลงที่การทำแซนด์วิชขายแม้จะรู้ว่าตลาด
ยังไม่กว้างคนไทยยังไม่รู้จักนักแต่เขาก็คิดจะทำอย่างมุ่งมั่นจนประสบผลสำเร็จในที่สุด
      คุณสมบัติข้อที่สองก็คือ ความจริงจังและทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ถ้าหากเรามีแต่ความคิด กล้าที่จะทำแต่ไม่มีความมุ่งมั่น ก็คงไม่สามารถประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน คุณศิริวัฒน์นั้นยึดความคิดที่ว่าเมื่อคิดจะทำแล้วต้องทำให้ดีที่สุด แม้ว่าเขาจะต้องเผชิญปัญหาต่างๆที่ไม่เคยได้เจอมาก่อน ไม่ว่าจะเป็น การที่ต้องทนยืนตากแดดตากลมตามสี่แยกเพื่อขายแซนด์วิช หรือการที่ต้องถูกเทศกิจตามไล่ทุกวัน จนเป็นเรื่องเป็นราวบาดหมางที่ร้องเรียนถึงผู้ว่าฯกรุงเทพฯ สุดท้ายเขาก็ไดชัยชนะในการที่สามารถต่อรองให้กับชีวิตพ่อค้าหาบเร่ทั้งหลายให้สามารถขายได้ต่อไป แม้ว่าบางครั้งเขาจะท้อแท้แต่ก็ไม่เคยคิดที่จะถอย ตรงกันข้ามเขากลับเดินหน้าชนได้อย่างไม่เกรงกลัวอำนาจใดๆเพราะเขาถือว่าเขายืนอยู่บนความถูกต้อง ถ้าเจอปัญหาแล้วหนีก็ต้องหนีอยู่ตลอดเวลาซึ่งก็คงไม่มีทางเอาชนะปัญหาอะไรได้ นอกจากนี้การทำแซนด์วิชของคุณศิริวัฒน์ยังเน้นความซื่อสัตย์ต่อลูกค้าอย่างมาก แซนด์วิชทุกชิ้นต้องผลิตจากวัตถุดิบที่สด สะอาด ปลอดภัยทุกขั้นตอน ทำขายกันแบบวันต่อวันไม่มีการนำของเก่ามาขายใหม่ ทำให้ลูกค้าไม่เคยผิดหวังกับสินค้าเลยสักครั้งเดียว รวมทั้งการบริการลูกค้าที่ต้องประณีต สุภาพ เพื่อให้ลูกค้าเกิดความประทับใจ ต้องมีการจัดอบรมลูกน้องในทุกเรื่องตั้งแต่การขนส่ง การหยิบของส่งให้ลูกค้า การพูดจา ทุกอย่างต้องดีที่สุดเสมอ
      ประการที่สาม คือ ความมีน้ำใจ เป็นสิ่งที่ติดตัวคุณศิริวัฒน์มาแต่กำเนิด ไม่ว่าจะร่ำรวยมหาศาลหรือจะเป็นพ่อค้าหาบเร่ เขาก็ยังเป็นคนมี่น้ำใจอย่างเสมอต้นเสมอปลาย ความมีน้ำใจของเขาไม่ได้ลดลงตามฐานะทางเศรษฐกิจเลยแม้แต่น้อยแต่กลับทวีคูณขึ้นเรื่อยๆเพราะเขาได้พบคนที่ยากจนมากขึ้นเนื่องจากประสบกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำเช่นเดียวกับเขา ในตอนที่เศรษฐกิจเฟื่องฟูอยู่นั้นเขาและครอบครัวใช้เวลาในวันหยุดออกตระเวนไปตามชนบทที่ห่างไกล ทุรกันดาร เพื่อสำรวจหาโรงเรียนที่ยากจนจริงๆและบริจาคให้ทันที แม้แต่คนยากจนที่เขาผ่านไปพบเห็นก็ได้รับอานิสงส์นี้ด้วยเช่นกัน จนถึงตอนนี้แม้จะไม่ร่ำรวยเหมือนก่อนแต่เมือกิจการของเขาอยู่ตัวและดำเนินไปได้ด้วยดี เขาจึงได้จัดตั้ง “ศิริวัฒน์ แซนด์วิชคลับ” โยมีจุดประสงค์เพื่อจัดประชุมอบรมให้ความรู้เรื่องการลงทุนแก่สมาชิกเพื่อสร้างพลังและอำนาจการต่อรองให้กับนักลงทุนรายย่อยในตลาดหุ้น และถือเป็นการเพิ่มการขายไปในตัวอีกด้วย และที่สำคัญเงินที่เหลือจากการรายจีายการจัดอบรมแต่ละครั้งนั้นนำไปเป็นทุนในการจัดตั้งสหกรณ์ให้กับชาวบ้านเพื่อสร้างอาชีพที่ยั่งยืนให้ชาวบ้าน นับเป็นการช่วยเหลือสังคมในแบบอย่างที่น่ายกย่องและมองการณ์ไกลยิ่งนอกจากคุณสมบัติต่างๆที่มีอยู่ในตัวของคุณศิริวัฒน์เองแล้ว
องค์ประกอบสำคัญยิ่งก็คือ รักครอบครัวและเพื่อนร่วมงาน ทั้งนี้ก็เป็นผลมาจากการที่เขาเป็นคนรักครอบครัว รักเพื่อน ทำให้เขาได้รับกำลังใจตอบแทนมาอย่างมากมายตลอดเวลา แม้ว่าจะล้มลุกคลุกคลานเพียงใดเขาจึงไม่เคยถูกทอดทิ้ง ทุกคนพร้อมจะยืนเคียงข้างเขาเสมอ ปัจจุบันคุณศิริวัฒน์กลายเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ทั้งในฐานะวิทยากรอบรมความรู้เรื่องตลาดหุ้น วิทยากรแนะแนวทางสู้ชีวิต เจ้าของกิจการ ศิริวัฒน์แซนด์วิช ทำให้มีคนสนในและรู้จักกันมากขึ้น ส่งผลดีถึงกิจการที่เกิดตลาดกว้างมากขึ้นแต่เขาก็ยังคงรูปแบบกิจการไว้เช่นเดิมไม่คิดจะเปลี่ยนไปเป็นการทำแบบโรงงาน หรือการขายตามห้างสรรพสินค้า เพราะเขายังอยากให้สินค้าของเขาคือ
สินค้าที่คงเอกลักษณ์ของยุคไอเอ็มเอฟทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนเสี้ยวหนึ่งของชีวิต
      ผู้ชายสู้ชีวิตที่ชื่อ ศิริวัฒน์ วรเวทวุฒิคุณ ผู้ที่ไม่ยอมแพ้ต่อชะตาชีวิตและยังเปิดโอกาสให้ตัวเองได้ค้นพบสิ่งใหม่ๆได้จนประสบความสำเร็จ เมื่อได้อ่านเรื่องราวของเขาแล้วจึงไม่น่าแปลกใจ
เลยว่าเขาจะประสบความสำเร็จได้อย่างนี้ เรื่องราวของผู้ชายคนนี้จึงถูกถ่ายทอดไปทั่วโลกเพื่อเป็นตัวอย่างกับคนที่กำลังหมดหวังทั้งหลายให้กลับมาฮึดสู้ชีวิตกันอีกครั้งหนึ่ง
และนี่คือบุคคลที่ข้าพเจ้าประทับใจทีเป็นทั้งพ่อที่ดีของลูก สามีที่ดีของภรรยา หัวหน้าที่ดีของลูกน้อง และคนที่ดีของสังคมแม้ว่าหวังหนึ่งจะดับลงแล้วแต่เรายังสร้างหวังใหม่ได้ ขอเพียงแต่เรามีความมุ่งมั่น สักวันเราต้องประสบความสำเร็จ ชีวิตของเรายังอีกยาวไกลนักอย่าหยุดความหวังไว้เพียงแค่ความผิดหวัง



บทพูดความยาว 5 นาที
บุคคลที่ข้าพเจ้าประทับใจ
คุณศิริวัฒน์ วรเวทวุฒิคุณ


      ถ้าหากว่าเพื่อนๆมีชีวิตแบบเศรษฐี ใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย วันหนึ่งขณะที่นอนหลับอยู่ในคฤหาสน์ร้อยล้านแต่พอลืมตาขึ้นมาอีกที เพื่อนกลับพบว่าตัวเองนอนขดอยู่ข้างถังขยะที่เน่า
เหม็น นอนอยู่บนพื้นสกปรกๆ เพื่อนจะทำอย่างไรคะ เรื่องราวเช่นนี้ก็คงไม่ต่างกันนักกับชีวิตคนรวยหลายๆคนที่เปลี่ยนวิถีชีวิตตัวเองจากหน้ามือเป็นหลังมือ จากเศรษฐีเป็นยาจกเพียงแค่ข้ามคืน เพราะต้องเจอกับพิษเศรษฐกิจ ที่ดำดิ่งจนฉุดไม่ขึ้นในช่วงปลายปี 2540 หลายคนทำใจไม่ได้หนีปัญหาด้วยการฆ่าตัวตาย แต่บางคนปัญหาเหมือนกับขนมหวานที่น่าลิ้มลอง เช่นผู้ชายคนนี้ ศิริวัฒน์ วรเวทวุฒิคุณ
      คุณศิริวัฒน์ เคยเป็นเคยเป็นผู้มีชื่อเสียงโด่งดังมากในวงการตลาดหุ้นในนามของกรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์เอเซีย จำกัด เขาเป็นผู้มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลมากแต่เมื่อมีปัญหาเรื่องความคิดไม่ตรงกันกับผู้ใหญ่ในบริษัทเขาจึงตัดสินใจลาออกทั้งๆที่ยังไม่มีจุดหมายรองรับเลย ช่วงนั้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กำลังเฟื่องฟู คุณศิริวัฒน์ตัดสินใจลงทุนสร้างคอนโดมิเนียมหรูโดยลงทุนไปหลายร้อยล้านบาท หลังจากดำเนินการสร้างเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อ
เศรษฐกิจของไทยทรุดฮวบลงอย่างร้ายแรงที่สุด ธุรกิจต่างๆพากันล้มไม่เป็นท่า นักลงทุนประสบปัญหากันถ้วนหน้า คุณศิริวัฒน์ต้องรวบรวมกำลังใจกลับมาเริ่มนับหนึ่งใหม่ ด้วยการทำแซนด็วิชเร่ขายไปตามสี่แยก แต่กว่าจะประสบความสำเร็จกับธุรกิจแซนด์วิชได้ก็ต้องล้มลุกคลุกคลานกันไม่น้อยเลย สุดท้ายก็ประสบความสำเร็จ ทำให้เห็นองค์ประกอบหลายอย่างในตัวคุณศิริวัฒน์ที่น่าชื่นชมและยึดถือเป็นแบบอย่าง
องค์ประกอบแรกก็คือ ความกล้าคิดกล้าทำ กล้าที่จะทดลองเช่นการทำแซนด์วิชขาย ทั้งๆที่รู้ว่าคนไทยยังไม่นิยมแต่เขาก็กล้าที่จะเปิดตลาดจนประสบผลสำเร็จประการที่สองคือ ความจริงจังและทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเจอปัญหาอย่างไรเขาไม่เคยคิดจะถอย มีแต่เดินเข้าหาเท่านั้น และการทำธุรกิจของเขาลูกค้าต้องได้รับสิ่งที่ดีที่สุดเสมอ
ประการที่สามคือ ความมีน้ำใจ ไม่ว่าจะอยู่ในภาวะเศรษฐกิจอย่างไร เขาก็ยังมีน้ำใจให้กับทุกคนอย่างสม่ำเสมอ ทั้งกับพนักงาน พ่อค้าหาบเร่ด้วยกัน และทุกคนทีเขามีโอกาสช่วยได้ นอกจากนี้เขายังได้จัดตั้ง ศิริวัฒน์ แซนด์วิชคลับ เพื่อให้ความรู้เรื่องตลาดหุ้นและนำเงินส่วนหนึ่งไปเป็นทุนสร้างสหกรณ์ให้ชาวบ้านเพื่อสร้างอาชีพที่ยั่งยืนองค์ประกอบสุดท้าย
ประการที่สี่คือ การรักครอบครัวและเพื่อนร่วมงาน ทำให้เขาได้รับความรัก ความปรารถนาดีกลับมาอย่างมากมาย ทุกคนพร้อมเป็นกำลังใจให้เขาตลอดเวลา
และนี่คือส่วนหนึ่งของชีวิตคุณ ศิริวัฒน์ วรเวทวุฒิคุณ ผู้ชายที่ไม่ยอมแพ้ชะตาชีวิต ถือเป็นแบบอย่างให้กับหลายคนที่ท้อแท้ หมดหวัง
สุดท้ายก็อยากจะฝากเพื่อนๆไว้สักนิดว่า แม้หวังหนึ่งดับลงแล้วแต่เราก็ยังสร้างหวังใหม่ได้ ขอเพียงแต่เรามีความมุ่งมั่น สักวันเราต้องประสบความสำเร็จ ชีวิตของเรายังอีกยาวไกล อย่าหยุดความหวังไว้ที่ความผิดหวังนะคะ
สวัสดีค่ะ

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘