14อาจารย์จตุพล ชมพูนิช นักพูดที่ข้าพเจ้าประทับใจ

อาจารย์จตุพล ชมพูนิช  นักพูดที่ข้าพเจ้าประทับใจ

     เมื่อพูดถึงนักพูดชั้นแนวหน้าที่มีอยู่ในเมืองไทยนั้น ก็คงไม่มีใครสามารถปฏิเสธได้เลยว่าไม่รู้จักนักพูดท่านนี้ ท่านมาพร้อมกับอารมณ์ขันเสมอ ถึงแม้ว่าหน้าตาของท่านจะไม่ค่อยน่าขันสักเท่าไหร่ และมีวิธีการพูดที่น่าสนใจมากท่านหนึ่ง เมื่อนึกถึงนักพูดที่ประทันใจ ดิฉันเองก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงนักพูดท่านนี้ นักพูดท่านนี้คือ อาจารย์จตุพล ชมพูนิช ท่านมีความสามารถในเรื่องของการพูดมาก และสามารถนำเรื่องในชีวิตประจำวันมาเล่าได้อย่างเป็นธรรมชาติ สามารถทำเรื่องที่เครียดมาพูดเป็นเรื่องที่ทำให้คนขำได้ ซึ่งในเรื่องนี้ถือว่าเป็นความสามารถพิเศษที่ไม่สามารถลอกเลียนแบบได้ และทุกครั้งที่ท่านพูดมักจะมีข้อคิดที่ให้เรานำกลับมาคิดได้เสมอ และยังมีคนอีกมากมายที่ชื่นชมท่านเหมือนกับดิฉัน
     อาจารย์จตุพลจะมีหลักในการพูดที่น่าสนใจอยู่หลายข้อคือ
     1. ในการพูดแต่ละครั้งจะมีการเตรียมตัวและการวางแผนเป็นอย่างดี คือ จะกำหนดเรื่องที่จะพูดมาล่วงหน้า โดยจะกำหนดให้เป็นเรื่องที่เหมาะสมกับผู้ชม เช่น ถ้าผู้ฟังเป็นนักศึกษาก็จะพูดถึงเรื่องการเรียนสอนให้นักศึกษาตั้งใจเรียนและมีการยกตัวอย่างที่มาจากประสบการณืที่มาจากตัวท่านเองหรือเรื่องที่ท่านได้เคยอ่านหรือฟังมา หรือเรื่องใดที่ท่านไม่มีประสบการณ์หรือไม่ทราบข้อมูล ท่านก็จะพยายามหาหนังสือมาอ่านเพิ่มเติม และจะฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอ เพราะเมื่อถึงเวลาพูดจริงๆ ท่านก็จะสามารถจำได้อย่างแม้นยำ เมื่อมีการฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอจึงทำให้เมื่อใดก็ตามที่ อาจารย์จตุพลขึ้นเวทีเพื่อที่จะพูดจะไม่มีความหวั่นกลัวหรือแสดงท่าทางไม่มั่นใจให้เราเห็นเลย และทุกครั้งที่ท่านพูดก็จะไม่เคยเห็นท่าถือบทเลย บทพูดที่ท่านเตรียมก็จะมีการขึ้นต้นและลงท้ายด้วยคำพูดที่ลงตัวและไพเราะ และเนื้อหาที่พูดก็ไม่เยิ่นเย้อมากเกินไป รู้ว่าจะพูดอะไร พูดไปทิศทางใด ทำให้ไม่หลงทางและเกาะประเด็นตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากในการพูดและควรนำไปเป็นแบบอย่าง
         2. มีลักษณะบุคลิกท่าทางที่ดี คือ ทุกครั้งที่อาจารย์จตุพลขึ้นพูดท่านจะแต่งตัวสุภาพ โดยการใส่สูท ทำให้ดูเป็นผู้ที่น่าไว้วางใจ มีบุคลิกเฉพาะตัวที่เป็นนิ่ง ๆ ขรึม ๆ ไม่วอกแวก ซึ่งปรกติท่านจะเป็นคนที่เงียบๆแต่เมื่อถึงเวลาที่ท่านขึ้นไปพูดบนเวที ท่านก็จะพูดอย่างเต็มที่ มีลักษณะการพูดที่เป็นธรรมชาติ เป็นตัวของตัวเอง ไม่ลอกเลียนแบบลักษณะของผู้อื่น และเชื่อมั่นในคำพูดของตัวเอง มีการเปลี่ยนระดับเสียงในการพูดให้มีเสียงสูงบ้างต่ำบ้าง ไม่พูดในโทนเยงตลอด เพราะการพูดเช่นนี้จะทำให้ผู้ชมรู้สึกง่วง และท่านจะมีการหยุดเล็กน้อยหลังคำพูดที่ท่านคิดว่าจะพูดเพื่อให้คนคิดตาม และท่านยังมีความเป็นกันเองสูงมาก และทำให้ผู้ฟังมีส่วนร่วมในหารการพูดของท่านด้วย เช่น เมื่อท่านเห็นผู้ชมเดินออกไปเข้าห้องนำหรือหาว ท่านก็จะแซวเพื่อให้เกิดความสนุกสนานเพิ่มมากขึ้น และขณะพูดท่านก็จะเดินไปเดินมา ไม่หยุดอยู่กับที่ เพื่อเป็นจุดสนใจ และทำให้ผู้ชมจับตามองท่านอยู่ตลอดเวลาไม่วอกแวกไปที่อื่น
     3. อาจารย์จตุพลจะมีความตรงต่อเวลามาก คือ เมื่อมีการพูดอาจารย์จตุพลก็จะสอบถามถึงเรื่องเวลาว่าจะให้พูดนานเท่าไหร่ และท่านก็จะจัดสรรเนื้อหาให้เข้ากับเวลามากที่สุด และพยายามพูดให้ตรงประเด็นเพื่อไม่ให้เสียเวลามาในการพูด และสุดท่ายท่านก็จะมีการพูดสรุปทิ้งท้ายได้อย่างเหมาะสมและน่าประทับใจทุกครั้ง ทำให้ทุกครั้งที่ท่านพูดจบจะตรงกับเวลาที่เตรียมไว้อย่างพอดี
     4. มีไหวพริบในการพูด คือ บางครั้งที่ท่านเดินทางไปร่วมงานต่าง ๆ ท่านอาจจะถูกเชิญให้ขึ้นพูดโดยที่ท่านไม่เตรียมตัวมาก่อน และถึงแม้ว่าท่านจะไม่ได้เตรียมตัว แต่ท่านก็สามารถพูดได้อย่างเป็นธรรมชาติเพราะท่านเป็นคนที่อ่านและฟังมามากจึงทำให้ท่านสามารถนำเรื่องราวต่าง ๆ ที่ท่านได้รับรู้มาพูดหรือนำมาเป็นข้อคิดในการพูดแต่ละครั้ง และในแต่ละครั้งที่ท่านพูดจะสามารถเชื่อมโยงความคิดของเราให้มากที่สุด โดยที่ท่านจะเล่าเรื่องที่เข้าใจง่าย แต่มีข้อคิด และจะมีลูกเล่นในการพูดพอสมควรไม่มากเกินไป เพราะจะทำให้เสียเวลา
5. อาจารย์จตุพลจะมีวิธีการพูดที่ทำให้ประทับและสามารถจูงใจผู้ชมให้เชื่อได้ คือ ท่านจะพูดในสิ่งที่เป็นความคิดของตัวท่านเอง และท่านจะเชื่อมั่นในคำพูดของตัวเอง และจะพยายามพูดโน้มน้าวให้ผู้ชมคิดตามจะใช้คำพูดที่ง่ายและมีการเปรียบเทียบให้เราได้เห็นภาพที่ท่านพูดถึงได้อย่างแจ่มแจ้งซึ่งถือว่าเป็นข้อสำคัญอีกข้อหนึ่งของนักพูดที่ดี
     ดังนั้นอาจารย์จตุพลจึงเป็นนักพูดที่ประทับใจดิฉันมาก และสาเหตุสำคัญที่ดิฉันชองท่านมากก็เพราะว่า ดิฉันเคยได้ชมการพูดของท่านมาแล้ว ประทับใจในความเป็นกับเองและการรักษาเวลาเป็นอย่างมากของท่านและคงมีคนอีกนับร้อยที่รู้สึกชื่นชอบท่านเหมือนกับดิฉัน.

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘