สัมภาษณ์ โน้ต อุดม แต้พานิช 02

ซึ่งทั้งหมดค่อนข้างจะร้อยเรื่องง่ายในการเล่า อีกอย่างหนึ่งคือผมมีอาชีพอยู่ในนั้นมาก่อนจึงคุ้นมาก
แต่เดี่ยวไมค์ครั้งที่สองซึ่งผมใช้ชื่อว่า “โชว์ห่วย” เพราะต้องการให้ออกมาเป็นลักษณะจับฉ่ายของร้านจีฉ่อย มีของขายเยอะมาก อยากได้รองเท้าแตะ ธูป เทียน ขี้ไต้ กระดาษวาดเขียน จีฉ่อย มีหมด แล้วร้านนี่โคตรรกรุงรังเลยนะ แต่หาเจอ เขารู้ได้ยังไงว่าอะไรอยู่ตรงไหน
ผมก็ใช้วิธีการนั้น คือตุนเรื่องเล่าไว้เยอะมาก แล้วไม่ว่าระหว่างเล่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ผมไปกับมันได้เลย สมมติว่าถ้าคนดูมีปฏิกิริยาอะไรขึ้นมา ผมตอบโต้ได้เลย ไปผจญภัยด้วยกัน
เช่นในโชว์ห่วยรอบหนึ่ง กำลังเล่าเรื่องอยู่ เด็กที่นั่งแถวหน้างอแงได้ที่เชียว พ่อแม่เอาปลาหมึกให้กินก็ยังไม่ยอมร้องงึมงำ ๆ จะกลับบ้านตลอดการแสดง ผมพยายามไม่ใส่ใจ เล่าเรื่องต่อไป อยู่ดี ๆ เด็กนั่นตะโกนขึ้นมาว่า…ไม่เห็นตลกเลย (ดัดเสียงเด็กร้องงอแง)
โอ้โห…คนดูฮาครืน ปรบมือดังสนั่นอยู่นานมาก มุขเด็ดเหลือเกิน
ผมเลยเดินลงจากเวทีไปหาเด็กคนนั้น แล้วยกมือขึ้นไหว้ บอกเด็กไปว่า…พี่จะพยายามพัฒนาครับน้อง คนดูปรบมือเกรียว (หัวเราะ)
นอกจากกรณีนี้แล้ว เจอผู้ฟังตีรวนเอาบ้างไหมคะ
ในหอประชุมนั้นเป็นที่ทที่ปลอดภัยมาก ถึงจะมีแซวก็เป็นการแซวด้วยวาขาสุภาพ เพราะคนที่ไปดูล้วนเป็นคนที่มีสติสัมปชัญญะทั้งนั้น แต่ถ้าไปเล่นในเธ็คในผับเมื่อไร มีเลยครับ
เล่นในเธ็คด้วยหรือคะ
เป็นกรณีจำเป็น เช่นบางจังหวัดไม่มีหอประชุมเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมไม่เคยรู้มาก่อน ทั้งหวังหวัดมีที่ที่กว้างหน่อยก็คือในโรงแรมหรือในเธ็ค ต้องไปขอยืมสถานที่เขา โดยจัดแสดงรอบห้าโมงเย็น พอถึงทุ่มหนึ่งก็ต้องออก เพราะเขาต้องใช้เปิดเป็นเธ็คต่อไป อย่างนั้นไม่มีปัญหา
แต่บางที่ที่มีปัญหา เช่นที่ไปเป็นแขกรับเชิญของคุณแท่ง (ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง) เขาออกเทปแล้วเขาเหงา เพลงของเขาคนร้องตามได้ไม่ถนัดนัก เพราะอยู่หลังห้อง เขาเลยมาชวน
ไปกันหลายจังหวัด แต่ที่จำได้แม่นคือที่จันทบุรี กำลังเล่าเรื่องตุ๊กแก (เคยเล่าในโชว์ห่วย) ที่ผ่านมาใครฟังเขาก็บอกว่าสนุก ผมเองก็ว่าสนุก แต่โต๊ะหน้าเวทีซึ่งเป็นกลุ่มชายฉกรรจ์เมาเหล้าแอ๋ คนหนึ่งในกลุ่มอยู่ ๆ ก็ตะโกนว่า…ตาหลก (เสียงอ้อแอ้แบบคนเมา)
ผมเล่าถึงตอน…เจอตุ๊กแกอยู่ข้างฝาประตูนะครับ (เล่าเสียงตื่นเต้น) คนดูท่านอื่น ๆ เงียบ ไอ้นั่นเอาอีกแล้ว…ตาหลก
ทำยังไงดีล่ะ เดินเลี่ยงไปเล่าข้างเวที เจอเด็กสาว…พี่ ขอลายเซ็นหน่อย พี่อย่าเพิ่งเล่า ผมบอกเขาว่า…น้อง กำลังถึงตอนสำคัญ เดี๋ยวเล่าจบแล้วเซ็นให้ เด็กสาวคนนั้นยังยืนตื๊อ…พี่เซ็นตอนนี้แหละ แต่ผมก็ยังเล่าต่อ
ไอ้หนุ่มคนหนึ่งซึ่งสันนิษฐานว่า เป็นแฟนเด็กสาว กรากเข้ามากระชากเสียงถาม เฮ้ย มึงน่ะ หยิ่งนัก เซ็นให้น้องเขาหน่อย เมื่อผมทำเฉย เขาก็ตะโกนดังขึ้น เฮ้ย…มึงน่ะ มึงน่ะ
ผมเดินหนีมากลางเวที เจ้าขี้เมาก็ยังเป็นแผ่นเสียงตกร่อง…ตาหลก ตาหลก
โอ๊ย…จะบ้าตาย ผมตัดสินใจพูดคำสุดท้าย…ขอจบเรื่องตุ๊กแกเท่านี้ละครับ แล้ววางไมค์เลย ทั้ง ๆ ที่ตุ๊กแกยังไม่ได้ทำอะไร เพิ่งเปิดประตูไปเจอเท่านั้น
ตั้งแต่นั้นผมลาเลย ที่ไหนเป็นที่ที่มีคนเมาชุกชุม ผมขอลาป่วย
การเดี่ยวไมค์ในกรุงเทพฯกับต่างจังหวัด ปฏิกิริยาตอบสนองจากผู้ชมต่อเรื่องที่เล่าเหมือนหรือแตกต่างกันคะ
เหมือนกัน เพราะคนที่จะมาดูอุดม เขามีภาพในหัวอยู่แล้วว่าจะมาดูมันพูดคนเดียว ไอ้นี่มันเป็นแบบนี้นะ มันทำได้แค่นี้แหละ ฉันจะมาดูมันแค่นี้ เขาไม่ได้คาดหวังว่าอุดมจะต้องมาร้องเพลงลิปซิงค์เสียงตัวเอง มีไฟแสงสีตระการตา หรือมาชวนคนดูให้ทำท่าไซเรน (ลุกขึ้นเต้นพร้อมร้องเพลงไซเรนเลิฟ เรียกเสียงหัวเราะดังสนั่นไปทั่ว)
จากการเดี่ยวไมค์ทั้งสองครั้งนั้น ผลเป็นที่น่าพอใจไหมคะ
ผมเป็นคนที่คาดหวังอะไรน้อย สิ่งที่ผมได้รับจึงมักจะเลยไปจากที่คาดหวังไว้ เช่น ถ้าถามว่าชีวิตขณะนี้ดีที่สุดหรือยัง ผมบอกได้เลยว่ามันดีที่สุดมานานแล้ว ขณะนี้คือเลยจากดีที่สุดมาแล้ว ถือเป็นกำไรของกำไร
คาดหวังน้อยนี้ ถือเป็นหลักในการดำเนินชีวิตของอุดมได้หรือเปล่าคะ
ใช่ ซึ่งถ้าเป็นสมัยที่ผมยังเป็นวัยรุ่นอยู่ เวลาเรารักใครชอบใครจะทุ่มสุดชีวิต เสมือนกับว่าโลกนี้สร้างเรากับเขามาคู่กันเท่านั้น สุดขั้วจริง ๆ แล้วไงพอผิดหวังก็แทบเป็นแทบตาย (อ่านตัวอย่างได้ใน อ. อุดมการช่างตอนอกหัก)
ในชีวิต อุดมมีความรักมากี่ครั้งแล้ว
(หัวเราะเขิน ๆ) ผมเคยมีแฟนมา 3 คน หนึ่งในสามเขาทิ้งผม และสองในสามเรามีความเห็นว่าเลิกกันดีกว่า
เพราะอะไรคะ
ไม่อยากเล่า ดูไม่เป็นสุภาพบุรุษเลยถ้าให้พูดว่าเลิกกับผู้หญิงแล้วเพราะอย่างโน้นอย่างนี้
ถ้าอย่างนั้น เวลาอยู่กับแฟน อุดมน่ารักไหม
น่าถีบครับ เอาเป็นว่าผมมีแฟนเป็นตัวเป็นตนเมื่อไหร่ มาสัมภาษณ์คู่กันแล้วให้แฟนเขาพูดยืนยันอีกที (นิ่งไปพักหนึ่งก่อนส่ายหน้าอย่างแรง) แต่คิดอีกที อย่าดีกว่า มันเป็นดาบสองคม คือดีที่ได้บอกความในใจผ่านกันไปผ่านกันมา ชื่นมื่น น่ารัก แต่ถ้าเลิกกันบรรลัยแล้ว เวลาไปไหนคนเดียว คนจะถามเสมอ…พี่คนนั้นไม่มาหรือ ต้องร้องเพลงของอัสนี “ไม่อยากจะเจอหน้าใคร ไม่มีแก่ใจพบคน” (โยกตัวเป็นพวกขาร๊อค)
หมายความว่าตอนนี้อุดมโสด
(พยักหน้า) ช่วงนี้นาทีทองนะครับ นางแบบทั้งหลายที่หมายปองอุดมไว้ควรจะรีบฉวยโอกาสนี้ ถึงก่อนมีสิทธิ์ก่อน ลดกระหน่ำซัมเมอร์เซล แต่เป็นแฟนเราต้องอดทน (ทำเสียงแดง ไบเล่)
อย่างนั้นถามถึงแฟนเดี่ยวไมค์แล้วกัน เวลาที่มีสาว ๆ มารุมล้อมรู้สึกอย่างไร
ไม่รู้ แล้วแต่ปุ๊ (ทำเสียงเป็นดำ เอสโซ่) จริง ๆ แล้วผมชอบมากเวลาที่มีคนมาชื่นชม มาทักทาย เฮฮา เจี๊ยวจ๊าว ยิ่งเวลาเขาขอลายเซ็นนี่ผมยิ่งชอบ (ยิ้มปลาบปลื้ม)
แต่ถ้าเขามาแนวหนังบู๊ เช่น กระชากแขน ถอดกำไล ดึงแว่น ดึงหมวก ซึ่งผมประสบอยู่บ่อยมาก ผมเข้าใจความปรารถนาว่าเขาอยากได้เป็นที่ระลึก แต่วิธีการที่เขาทำนั้นไม่นุ่มนวลจริง ๆ ขอดี ๆ สิครับ ผมก็ให้ แต่นี่เขาพูดแบบออกคำสั่ง เช่นเขาอยากได้กำไล เขาพูดว่า อันเดียวซื้อที่ไหนก็ได้ รวยแล้วนี่ แล้วก็กระชากแขนผมไปดึงเอากำไลออก
ผมบอก เดี๋ยวนะครับ ๆ ตอนนั้นเขาถอดกำไลไปแล้ว จึงออกวิ่งไป แต่ก่อนจะไปเขาพูดว่า โธ่เอ๊ย…กำไลอันเดียว อยากได้ตามมาเอาสิ แล้วก็วิ่งเข้าไปในกลุ่มเพื่อน ผมจะวิ่งตามไปได้ยังไงล่ะครับ น้อง ๆ ทั้งกลุ่ม ผมไม่ใช่ลิงนี่ จะได้เข้าไปชิงบอล
แนวสาวคลั่งไคล้ล่ะคะ เช่น มากอดมาหอมแก้ม มีบ้างไหม
นั่นเรียบไป ผมเคยถูกระดมจูบมาแล้วที่ดิสคัฟเวอรี่ เชียงใหม่ สาวคนหนึ่งพอเห็นผมเท่านั้น โถมเข้ามาหาทั้งตัวเป็นแนวมันเขี้ยวน่ะ เหมือนผมเป็นเด็กอ้วนสมบูรณ์ วิ่งโถมเข้ามาพร้อมกับเอาหน้าซุกเข้ามาที่หน้าผม และระดมจูบไปทั่ว น้ำลายเต็มหน้าไปหมด หมบอกเดี๋ยว ๆ เขาก็ไม่ฟัง จนผมรูดลงไปกองกับพื้น
โชคร้ายว่าพื้นบริเวณที่ผมกองลงไปนั้นมีคนทำเหล้าหกเอาไว้ นอกจากน้ำลายบนหน้าแล้ว เหล้าก็เต็มหลังด้วย แต่เขายังไม่สาแก่ใจ กระโดดขึ้นคร่อมต่อ นาทีนั้นผู้คนที่อยู่รอบข้างแตกฮือ หนีไปยืนเป็นไทยมุงอยู่รอบ ๆ คอยดูการบุกโรมรันพันตู
ผมบอกให้เขาใจเย็น ๆ ค่อย ๆ คุยกันดีมั้ย หยุดระดมก่อน เขาก็หยุดนะ แต่หันไปแตะมือเปลี่ยนน้องสาวมาลุยต่อ เอ้า…เชิญ เชิญจูบให้หนำใจ (ทำเสียงประชดประชัน) ทำเป็นบ่นไปอย่างนั้นแหละ จริง ๆ ชอบครับ ! โอกาสหน้ามาระดมกันอีกนะคะ
แล้วคนที่ขอมาอยู่บ้านด้วยล่ะคะ
คนไหน (หน้าตื่น เราจึงบอกว่า คุณแม่เป็นคนให้ข้อมูล) นั่นเขาเขียนมาหาแม่ ส่งรูปในหลาย ๆ อิริยาบถ พร้อมกับใบสมัครขอเป็นลูกสะใภ้ แต่ยังไม่เห็นแม่ตอบรับใครสักราย มีแต่เขียนตอบคุณชาติ ภิรมย์กุล ที่เขียนจดหมายมายกย่องให้แม่เป็นแม่ดีเด่นประจำปี แล้วเขาไม่รู้จะขอบคุณยังไง เลยเขียนตอบ…ฉันก็ไม่ได้เลี้ยงอะไรพิสดาร ให้กินข้าวตามปกติ ขอบคุณนะที่ยกย่องฉัน ฉันไม่มีอะไรจะให้ตอบแทน เอาเลขเด็ดไปแทนก็แล้วกัน   ไม่กี่วันต่อมาคุณชาติก็เขียนตอบกลับมา ใจความว่ายังไงจำไม่ได้แล้ว แต่ลงท้ายว่า ผมคงเขียนคุยกับแม่มากไม่ได้เพราะต้องไปหาซื้อเลขเด็ดที่แม่ให้มา (หัวเราะ)
คุณแม่กำหนดมาตรฐานของลูกสะใภ้ไว้ให้หรือเปล่า
ไม่มีขนหน้าอกเขาก็รับได้ทั้งนั้นแหละครับ  แม่ผมเป็นแบบ ลูกชอบใคร แม่ชอบด้วย แต่เขาจะมีความประทับใจแรกพบและแสดงออกทันที เขาไม่มีฟอร์ม บางคนไม่รู้ ทำไมมือไม้หนัก ไม่ไหว้เขา ขากลับเขาพูดเลย เออ หนู…คราวหน้าไม่ต้องมาแล้วนะ
ย้อนกลับมาถามเรื่องงาน ทอล์คโชว์กับเดี่ยวไมค์ต่างกันอย่างไร
ทอล์คโชว์คือการมาพูดโชว์ มีสูตรว่า หลักการนำอารมณ์ขัน ประเด็นที่ผู้พูดพูดส่วนใหญ่จะให้แง่คิดกับชีวิตสอนชีวิตได้ มีเนื้อหา ปรัชญาแทรก โดยใส่อารมณ์ขณะพูดเข้าไปนิดหนึ่งซึ่งไม่ต้องตลกก็ได้  แต่เดี่ยวไมโครโฟนที่ผมทำนั้นเป็น One Stand up Comedy มีข้อจำกัดว่า One Stand up Comedy คือคนเดียว คอมเมดี้ต้องตลก ฉันมาทำตลก ฉันล้อเลียน ฉันแต่งตัว ทำเสียง หรือเล่นละครใบ้ สูตรคือตลกนำ โดยอาจเอาตลกไปจับกับการเมือง กับหนัง กับละคร ซึ่งไม่จำเป็นต้องสอนใคร ไม่มีคติธรรมอะไรก็ได้
หมายความว่าอย่าหาสาระจากการเดี่ยวไมโครโฟน
ใช่ ๆ เพราะฉะนั้นความกดดันจะต่างกัน ผมจะกดดันตรงที่ว่า ถ้าไม่ตลกคือเสียหมา ซึ่งเปรียบประหนึ่งการเสียลูกฉีเคอะไปหนึ่งตัว (สุนัขคู่ใจ)
เดี่ยวไมโครโฟนครั้งที่ 3 นี้ ใช้ชื่อ “อ. อุดมการช่าง” มีคอนเซ็ปต์อย่างไรคะ
การแสดงครั้งนี้ผมจะทำให้เหมือนอู่อู่หนึ่งที่มีอุดมเป็นช่าง คอยซ่อมอารมณ์คนดู โดยที่อุดมจะพกพาความช่างคุย ช่างเล่า ช่างเกา ช่างแคะ ช่างกระแนะกระแหนเหล่านี้มาแสดง
จะแสดงเมื่อไหร่ ที่ไหน และเปิดจองบัตรวันไหน
ตอนนี้กำหนดวันแสดงแล้ว คือทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ของเดือนกรกฎาคม (เฉพาะวันเสาร์และอาทิตย์เพิ่มรอบบ่ายสองด้วย) โปสเตอร์พิมพ์แล้ว บัตรพิมพ์แล้ว จะขายวันที่ 14-15 มิถุนายน ที่ห้องคอนเวนชั่นฮอลล์ ชั้น 6 อิมพีเรียล ลาดพร้าว  ใครพลาดครั้งที่แล้ว ครั้งนี้มาดูกัน ครั้งที่แล้วผมโดนด่าอื้อเลย เพราะเขาไปยืนรอซื้อบัตรแถวยาวเฟื้อย แต่พอถึงเขา เขาเป็นคนที่ได้ยินว่า…บัตรหมดแล้วค่ะ คิดดู อารมณ์นั้นเขาจะรู้สึกยังไง  ทีมงานถูกต่อว่าเยอะมาก เราเลยให้คนที่พลาดครั้งที่แล้วลงชื่อพร้อมเบอร์โทรศัพท์ และปีนี้เราจะโทร.เรียกเขาให้มาเลือกบัตรก่อนใคร
เปิดหลายรอบ แน่ใจหรือว่าบัตรจะหมด

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘