ถอดเทปสัมภาษณ์ชีวิตคุณครูไม่ใหญ่ (ตอนที่ 1) หน้า 08

ที่นี้ก็ไม่เอาแล้ว เรียนแล้วไม่ได้อะไร โอ้โห ตำรับตำราเป็นตั้งๆทีเดียว อยู่ใต้เตียง เห็นอะไรไม่รู้จะได้เอามาอ่านได้ ห้องสมุดอยู่ใต้เตียง (หัวเราะ) เป็นตั้งๆๆเลยตำรับตำราอะไรพวกเนี้ย รู้แล้วก็ไม่ได้ติดใจอะไรเพราะมันให้คำตอบไอ้สองข้อไม่ได้ ตอนนี้ก็เริ่มไปปฏิบัติธรรมแล้ว แบบยุบหนอพองหนอที่วัดมหาธาตุฯ โอ้โห วัดมหาธาตุฯในยุคนั้นน่าศรัทธาน่าเลื่อมใส พอหลวงพ่อเข้าไปก็ เออ..มันต้องอย่างงี้สิ ก็เห็นทุกคนเค้าตั้งใจปฏิบัติกัน มีสามเณรอยู่องค์นึงนั่งนี้ตัวลอยจากพื้นวื้ดขึ้นไปเลย ก็ชอบหลวงพ่อก็ชอบ แต่ยังไม่ทันลอย มันสั่นๆซะก่อน คล้ายๆเครื่องบินเวลาจะออกมันติดเครื่องวื้อ เราเลิกซะก่อนไม่งั้นวื้ดลอยขึ้นไปแล้วเนี่ย (หัวเราะ) ตอนเห็นรู้สึกงง รุ่นก็ไล่ๆหลวงพ่อทัตตะที่เข้าไปเรียน มันสงบจริงๆสมัยนั้นวัดมหาธาตุฯนะ ที่ลานอโศกไม่ใช่เป็นร้านค้า มันสงบจริง..[เปลี่ยนเทป]...แต่เรียนไปแล้วก็ เอ้..อันนี้มันไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ เพราะมันตอบคำถามหลวงพ่อไม่ได้ หรือตอบได้แต่มันก็ไม่ถูกใจ เสาะแสวงหาใหม่ แสวงไปเรื่อยๆจนกระทั่งมาถึงยายอย่างที่ว่า พอมาถึงยายเข้าก็ความสงสัยทุกอย่างมันก็หมดไป

[อุบาสิกาถาม] ไม่ให้ไปแนะใคร จะสนุกก็สนุกให้เต็มที่ พอจบก็ต้องบวช ...[เสียงรบกวน]..เพราะฉะนั้นก็เลยหนุกซะเต็มที่เลย [อุบาสิกาถามต่อ] .. ๑๙.... หลวงพ่อไปอยู่ที่นั่นไม่นานเท่าไหร่ก็เริ่มแล้ว เริ่มฝึกวิชาจากยาย ความรู้ทำไมมันข้ามขั้นตอนไปก็ไม่ทราบ และความรู้เนี่ยทันทีที่ได้ไปเรียนอยู่กับท่านทำไมรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ง่ายๆสำหรับเรา เราเคยทำมาแล้วอะไรอย่างงั้น มันมีความรู้สึกอยู่ในใจลึกๆแต่ก็ไม่ได้บอกให้ใครฟัง เอ๊ะไอ้นี่เราเคยทำมันมาแล้ว รู้สึกมันไม่ยาก ทำไมเราเข้าใจโปร่งไปหมดเลยมันแตกฉานทั้งที่ไปทำไม่นานเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นคำถามทุกคำถามที่หลวงพ่อถามเนี่ยมันจะตรงประเด็น เพราะฉะนั้นคุณยายท่านชอบและท่านก็ตอบมาตรงประเด็น พอตอบมาทีธรรมะเราก็ก้าวไปที ตอบทีเราก็ก้าวไปทีนึง มันก็ไปเรื่อยๆๆๆเลย ใหม่ๆท่านจะพูดเรื่องเกี่ยวกับวิชชามรรคผล วิชชามรรคผลก่อน พอต่อมาท่านก็จะเข้าสู่ในแนววิชชารบในภายหลัง ท่านก็หัดให้ถวายข้าวพระถวายดอกไม้และก็ให้คำนวณบุญ บุญที่เราทำนี้ไปเป็นวิมานเท่าไหร่ ไปเห็นบริวารเท่าไหร่ และก็เอาบุญนั้นไปแบ่งให้คนนู้นคนนี้ท่านก็ทำ แบ่งให้เทวดาก่อน เทวดา พรหม อรูปพรหมอะไรต่างๆพวกนั้น แบ่งไป และก็แบ่งให้คนนู้นคนนี้อะไรงี้ ก็ฝึกกันมาเรื่อยๆอย่างงี้แหละ รู้สึกเป็นสุขใจ เอ้อ วิชาอย่างนี้ดี เรียนแล้วช่วยตัวเราเองได้และช่วยชาวโลกได้ แก้โรค แก้ทุกข์มนุษย์ เวลาน้ำท่วมท่านก็ให้สั่งงานให้แก้ได้ เวลาหน้าแล้งฝนไม่ตกท่านก็สอนวิธีทำฝนขึ้น วิธีผลิตเมฆขึ้นมาเป็นช่อๆ เวลาฝนตกหนักท่านก็สอนวิธีเก็บ แล้วก็ไปทดลอง หลวงพ่อเอาไปทดลองทำ

ทดลองเรื่องฝนนี่ครั้งแรกตอนกลับไปเพชรบุรี ทดลองครั้งแรก ตอนนั้นก็นั่งเข้าสมาธิไปเรื่อยตั้งแต่กรุงเทพฯ รถวิ่งจากกรุงเทพฯไปเพชรบุรีก็ประมาณซัก ๒ - ๓ ชั่วโมงในสมัยนั้น มัน ๑๖๖ กิโล พอจิตละเอียดดีแล้วเหลืออีกประมาณซัก ๒๐ กิโลจะถึงเพชรบุรี เห็นท้องฟ้ามันโล่งๆ เอ๊ะเราลองดูซิมันจริงรึเปล่า ว่าถ้าเราไม่ได้อยู่กับยายเราทำได้มั้ย หลวงพ่อก็ทดลอง จากเขาย้อยไปถึงเพชรบุรีก็ทำ ก็จิตมันละเอียดมาแล้วตั้งแต่กรุงเทพฯมาถึงเขาย้อย พอละเอียดแล้วมันจะโน้มน้าวไปทางไหนก็ได้ ทีนี้ก็เริ่มเลย ตั้งวิชชาไปเลย ตั้งพรึบไป แล้วก็อธิษฐานว่าพอหลวงพ่อย่างเท้าเข้าบ้านแล้วก็ตก ไม่งั้นตกก่อนแล้วเดี๋ยวเปียก (หัวเราะ) ไอ้ตอนนั้นน่ะก็ทดลองดู ผลิตเมฆเป็นช่อๆมันขึ้นตามขอบฟ้าเลยนะ ช่อๆสวย ดูแล้วสวย [อุบาสิกาถาม].. ดูในที่แล้วก็ลืมตามาดู เหตุกับผลมันตรงกันมั้ย พอมันตรงกันก็อื้อใช้ได้ ถ้าเห็นในที่อย่างข้างนอกอีกอย่าง อย่างนั้นเหตุกับผลมันไม่ตรงกัน อย่างงั้นไม่ได้ผล พอดูข้างในก็อื้อมันตรงกัน ก็ทำไปเรื่อยๆๆ เดี๋ยวมาเดี๋ยวมันก็กระจายหายไป เดี๋ยวมาเดี๋ยวมันกระจายหายไป ก็ทำไปเรื่อยๆๆ พอลงจากรถมันก็ยังห่างๆ มันขึ้นมาแต่มันห่างๆ มันยังไม่รวมกัน พอเดินๆๆเรื่อย เดินมาก็ทำไปเดินมาก็ทำไปด้วยความคล่อง ไอ้ตอนนั้นอะนะ เดินไปทำไปๆจนกระทั่งขึ้นสะพานจอมเกล้า หันหลังไปดู โอ้โห เมฆสีดำมืดเลยนะ มันโผล่พ้นเขาวัง มืดเลยเมฆฝนเนี่ย มืดจริงๆเลยมาหมด เย็น อากาศวูบเย็บเฉียบ ดีใจ โอ้โห ดีใจ ก็เดินๆๆมาเรื่อยๆๆพอขาย่างเข้าบ้านเข้า นั่นคือความสำเร็จครั้งแรก

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘