[409]สูตรสำเร็จในการฝึกพูดกับเว็บ:Play-Pause-Repeat

สวัสดีครับอันที่จริงตามชื่อเรื่องข้างบน ผมสามารถพูดจบได้ภายในไม่กี่บรรทัด คือ
"เมื่อ ท่านเข้าไปที่เว็บสอนภาษาอังกฤษซึ่งมีไฟล์ MP3 ท่านสามารถฝึกพูดภาษาอังกฤษได้โดย (1)คลิกปุ่ม Play, (2)ฟังเสียง (3)คลิกปุ่ม Pause เพื่อหยุด (4) Repeat คือพูดตามเสียงที่ได้ยิน ทำซ้ำไปซ้ำมา วนไปวนมาอย่างนี้บ่อย ๆ ไม่นานก็จะเก่งทั้ง listening และ speaking" - - จบแล้วครับที่ผมต้องการจะบอก
แต่ถ้าท่านมีเวลา ผมขอนุญาตเล่าประสบการณ์และความคิดเห็นส่วนตัวในการศึกษาภาษาอังกฤษสักนิดนะครับ
ผม เชื่อว่าคนไทยไม่น้อยเป็นอย่างผม คือไม่มีโอกาสไปใช้ชีวิตและศึกษาเมืองนอกและได้ใช้ภาษาอังกฤษครบวงจรที่นั่น และแม้จะเรียนในเมืองไทย ท่านเชื่อผมไหมครับว่า ตั้งแต่เรียนชั้น ป.เตรียม (ตำบลที่ผมอยู่ตอนเด็ก ใน พ.ศ.นั้นไม่มีโรงเรียนอนุบาลให้ผมเดินไปเรียน) จนจบปริญญาโท ผมไม่เคยเรียนภาษาอังกฤษกับครูฝรั่งแม้แต่คนเดียว และผมก็เชื่ออีกว่าต่อให้ได้เรียนกับครูไทยที่เก่งเต็มพิกัดเพียงใดก็ตาม เพียงใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงต่อ 1 สัปดาห์ในชั้นเรียนภาษาอังกฤษแม้จะอย่างตั้งใจ ก็ไม่มีทางที่จะเก่งภาษาอังกฤษได้ ยิ่งถ้าเรียนอย่างไม่มีใจยิ่งไม่ต้องพูดถึง
เมื่อเรียนจบและได้ เดินทางไปหลายประเทศ ได้พูดคุยกับผู้คนพอสมควรทำให้ผมรู้ว่า ปัญหานี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับเฉพาะคนไทย แต่เกิดขึ้นกับหลายชาติ แม้แต่ชาติที่รวย ๆ เช่น ญี่ปุ่น, ชาติที่คนไทยทึกทักว่าพูดภาษาอังกฤษได้ดีแทบทุกคน เช่น อินเดีย. และอีกหลายชาติที่เป็นฝรั่ง แต่พูดภาษาอังกฤษได้ทุรกันดารเต็มที
คน รุ่นผมซึ่งเหลือเวลาทำงานไม่นานนักอาจจะไม่ถูกกดดันมากนักให้ต้องใช้ภาษา อังกฤษเป็น แต่คนรุ่นน้อง – รุ่นลูก – และรุ่นหลาน ไม่ได้โชคดีอย่างผม ไม่ได้โชคดีแปลว่าจะโชคร้าย ถ้าไม่สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างที่ชีวิตการทำงานของโลกยุคใหม่มันบังคับ ให้ต้องใช้ เว้นแต่ว่าจะยอมรับที่จะเป็นคนตกรุ่นซึ่งคงไม่มีใครยอมรับ
และ เนื่องจากเรามีข้อจำกัดหลายอย่างที่ทำให้ไม่สามารถฟิตภาษาอังกฤษให้เข้มแข็ง ได้เหมือนใจ เราไม่มีคุณพ่อคุณแม่เป็นเศรษฐีส่งให้ไปเข้าคอร์ส summer camp ที่อังกฤษหรือนิวซีแลนด์, เงินเดือนเราไม่มากพอที่จะจ้างฝรั่งมาสอน private conversation course, งานของเราต้องติดต่อกับฝรั่งในฐานะคนที่พูดภาษาอังกฤษเป็น ไม่ใช่คนที่หัดพูดภาษาอังกฤษ, ฯลฯ เมื่อเงินก็น้อย เวลาก็ไม่ค่อยมี แล้วจะทำอย่างไรกันล่ะครับ
ผมอยากจะชวนทุกท่านอ่านคำสอนของหลวงปู่พุทธะอิสระสัก 2 ตอนสั้น ๆ คลิกข้างล่างนี้ครับ (ดาวน์โหลดเสร็จแล้วคลิกที่ภาพเพื่อขยาย)
http://home.dsd.go.th/freeenglish/22.png
http://home.dsd.go.th/freeenglish/24.png
(เพิ่ม ยันต์กันท้อ ของท่านอาจารย์พยอม: http://home.dsd.go.th/freeenglish/yankanto.jpg)
ผม เชื่อว่าสิ่งที่หลวงปู่สอนเป็นความจริง และอยากให้ท่านผู้อ่านทุกคนมีกำลังใจเพราะความจริงนี้ ความจริงที่สามารถทำให้ความฝันของท่านเป็นความจริง
ย้อนกลับมาเรื่องพูดเรื่อง “สูตรสำเร็จในการฝึกพูดกับเว็บ: Play-Pause-Repeat” ตามหัวข้อข้างบน ผมเคยได้ยินบางคนพูดว่า รู้ศัพท์ตั้งเยอะแยะ แต่พอถึงเวลาต้องพูดกลับพูดไม่ออก ไม่รู้จะทำยังไงดี
ผมขออนุญาตทำตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญ ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่ เอาประสบการณ์ของตัวเองมาเล่าสักนิดนะครับ ขออนุญาตพูดเป็นข้อ ๆ อย่างนี้นะครับ

[1]. เด็กฟังเสียงของโลกภายนอกตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ มีงานวิจัยว่าไว้อย่างนั้น คุณแม่บางท่านอยากให้ลูกเกิดมาเป็นคนอารมณ์ดีตอนตั้งท้องก็เปิดเพลง classic เย็น ๆ โดยนักวิจัยบอกว่าเด็กก็ได้ยินด้วย (ผมสงสัยว่า ถ้าฟังเพลงฝรั่งเย็น ๆ อาจจะช่วยให้ลูกฝึก English listening skill ตั้งแต่อยูในท้องก็เป็นไปได้) พอคลอดออกมาแล้ว ทักษะแรกทางภาษาที่เด็กฝึกก็คือ listening skill ผมเข้าใจว่าพร้อม ๆ กันนั้นเจ้าหนูก็พยายามฝึก speaking skill ไปพร้อม ๆ กัน เสียงอ้อ ๆ แอ้ ๆ ที่เราฟังไม่รู้เรื่องนั้นก็คงเป็นความพยายามพูดออกเสียงอย่างใดอย่างหนึ่ง และจนถึงวันหนึ่งเจ้าหนูก็พูดคำแรกได้ อาจจะเป็นคำว่า “แม่” เพราะแม่เรียกตัวเองว่า “แม่” ให้ลูกฟังจนนับครั้งไม่ถ้วน ถึงตรงนี้ผมอยากจะสรุปตามประสาของผมว่า ตามธรรมชาติของการเรียนภาษานั้น ต้องฝึกฟังให้ได้ คือ listening ก่อนที่จะพูดเป็น คือ speaking และมันจะเป็นการ ฟัง – พูด, ฟัง – พูด, ฟัง – พูด, ๆ ๆ ๆ.... ไปเรื่อย ๆ เด็กสามารถพูดทีละคำ ทีละวรรค ทีละประโยคด้วยวิธีนี้
[2]. ข้อสรุปที่ 2 ของผมก็คือ เมื่อเราต้องเรียนพูดภาษาที่ 2 คือภาษาอังกฤษเมื่ออายุเยอะแล้ว และจ้องแต่จะฝึกพูดอย่างเดียวโดยไม่ยอมลงทุนฟังเยอะ ๆ ก็ยากครับที่จะพูดได้ ลองคิดดูง่าย ๆ ก็ได้ครับ กว่าเด็กจะพูดคำว่า “แม่” ออกมาได้ เด็กจะต้องได้ยินเสียงคำนี้จากปากของแม่ ผ่านเข้าไปในหูของตัวเองกี่ร้อยครั้ง แล้วกว่าจะขยับปาก ขยับลิ้น ขยับขากรรไกร ให้เปล่งเสียงพูดออกมาให้กับเหมือนเสียงที่ตัวเองได้ยิน ก็คงต้องขยับกล้ามเนื้อบริเวณปากกันเป็นพัน ๆ ครั้งนะครับ จึงจะทำงานนี้สำเร็จ ใครนะบอกว่าเด็กเอาแต่นอนไม่ต้องทำงาน เขาก็ทำงานเหมือนกับที่เรากำลังทำนี่แหละครับ คือการฝึก listening skill และ speaking ภาษาไทยครับ
[3]. ฉะนั้น ขั้นแรกของการเรียนภาษาคือการฝึกฟังให้ชินหู และพูดให้ชินปาก ต้องทำทั้ง 2 อย่าง ขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ครับ ถ้าเราฟังอย่างเดียวโดยไม่พูด จะรู้ได้อย่างไรว่าเราฟังถูกต้อง การพูดออกมาให้คนอื่นหรือตัวเองได้ยินนั้น คือการพิสูจน์ว่าเราฟังถูก
4. ภาษาไทยที่เราเรียนตอนเด็กเป็นเช่นใด ภาษาอังกฤษที่เราเรียนตอนโตก็เป็นเช่นนั้น เราต้อง ฟัง – พูด, ฟัง – พูด, ฟัง – พูด, ๆ ๆ ๆ . . . ไปเรื่อย ๆ จนชินหูและชินปาก

ท่านอาจะถามว่า จะไปพูดให้ใครฟังล่ะ พูดออกเสียงถูกต้องหรือเปล่าก็ไม่รู้ แขกฝรั่งก็ไม่มี ครูฝรั่งก็ไม่มี เพื่อนฝรั่งก็ไม่มี แฟนฝรั่งยิ่งไม่ต้องพูดถึง จะพูดให้ใครฟังล่ะ? คำตอบของผมคือ ตอนที่ยังหาไม่ได้นี้ ก็ฝึกพูดกับเว็บไปก่อนแล้วกันครับ การฝึกกับเว็บดียังไง ผมขอเจียระไนสรรพคุณดังนี้ครับ
[1]. สะดวก สบาย จะฟังเมื่อไรก็ได้ ฟังนานเท่าไรก็ได้ ฟังที่ไหนก็ได้ (save ใส่เครื่องเล่น MP3 ไปฟังขณะเดินทาง)
[2]. มี choice ให้เลือกฟังเยอะ เรื่องที่ชอบ เรื่องยาว เรื่องสั้น เรื่องยาก เรื่องง่าย พูดเร็ว พูดช้า เรื่องเล่น ๆ เรื่องทางวิชาการ โอ๊ย! เยอะจนพูดไม่หมด
[3]. ไม่เสียตังค์ ตรงนี้แหละครับที่สำคัญ

แต่ประเด็นที่ผมต้องการบอกในวันนี้ก็คือ อย่าให้การฟังหยุดอยู่แต่ฟัง ให้มันต่อไปเป็นการพูดด้วย คือเมื่อชินหูแล้วต้องฝึกขยับปากให้เปล่งเสียงออกมาด้วยจนชินปากที่จะพูด พอถึงย่อหน้านี้ผมขอยกย่อหน้าแรกของข้อเขียนนี้มาพูดอีกครั้ง คือ

เมื่อ ท่านเข้าไปที่เว็บสอนภาษาอังกฤษซึ่งมีไฟล์ MP3 ท่านสามารถฝึกพูดภาษาอังกฤษได้โดย (1)คลิกปุ่ม Play, (2)ฟังเสียง, (3)คลิกปุ่ม Pause เพื่อหยุด, (4) Repeat คือพูดตามเสียงที่ได้ยิน, ทำซ้ำไปซ้ำมา วนไปวนมาอย่างนี้บ่อย ๆ ไม่นานก็จะเก่งทั้ง listening และ speaking

บางท่านอาจจะแคลงใจว่า เอ๊ะ! แล้วเราจะออกเสียงถูกหรือนี่ ผมต้องขอร้องท่าน อย่าดูถูกหูของตัวเองครับ หูของท่านมีประสิทธิภาพครับ ไม่อย่างนั้นท่านไม่สามารถพูดคำว่า “พ่อ”, “แม่”, “หม่ำ”, “นม”, “น้ำ” และอีก 9,999 คำมาได้ตั้งแต่เด็กหรอกครับ คนที่เป็นใบ้พูดไม่ได้ก็เพราะหูหนวกมาตั้งแต่เด็ก ท่านไม่ได้หูหนวก เมื่อท่านฟังภาษาไทยและพูดภาษาไทยได้เมื่อตอนเด็ก ท่านก็ต้องฟังภาษาอังกฤษและพูดภาษาอังกฤษได้แม้ท่านจะโตแล้วก็ตาม
แต่... การพูดต้องทำไปพร้อม ๆ กับการฟังครับ เมื่อท่านฟัง นอกจากท่านจะได้สำเนียงแล้ว ท่านยังได้สำนวน ศัพท์ และความรู้อีกด้วย และเมื่อท่านฝึกกับเว็บ สูตรศักดิ์สิทธิ์แห่งความสำเร็จที่ผมขอแนะนำก็คือ Play – Pause – Repeat เริ่มจากง่ายไปยาก จากน้อยไปมาก จากช้าไปเร็ว จากที่ชอบมากๆไปยังเรื่องที่จำเป็นต้องรู้แม้ไม่ค่อยชอบ แต่ต้องฝึกบ่อย ๆ ฝึกทุกวัน
มีที่ให้ท่านฝึก Play – Pause – Repeat ได้ฟรี ๆ มากมาย เข้าไปที่นี่ครับ:
การฟัง listening
การพูด การสนทนา การออกเสียง
ท่าน เชื่อได้เลยครับ ผมไม่ได้เอาเรื่องเกินจริงมาพูดเพื่อให้กำลังใจ แต่ผมเอาเรื่องจริงมาพูด เรื่องจริงที่ช่วยให้ท่านฟังและพูดภาษาอังกฤษได้จริง ถ้าท่านเอาจริง
ผมเชื่อว่าทุกท่านทำได้จริงครับ

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘