หลักการเล่นหุ้นให้รวยของครูเฒ่าเกาะช้าง จากใจหนูจ๋อยๆๆๆ 02

 น้องๆทุกคนทำการบ้าน  ลองแปลงแท่งเทียนเป็นลายเส้นค่าเฉลี่ย  1  วัน  นะครับ  หนูต๋อยด้วย

      แล้วลองอ่านเองจะเกิดความคิดรวบยอดในวันที่ 17/1/2550  และ  17/3/2550  อย่างไร



ทำ มาการบ้านส่งค่ะครูเฒ่าเกาะช้าง  หนูต๋อยใช้วิธีลัดเอานะคะครูเฒ่าเกาะช้าง  โดยใช้กราฟเส้นค่ะ  แล้วก็คัดลอกส่วนที่เป็นเขา 3 ของปี 47 มา  แล้วปรับปรุงเส้นสี

กราฟ ที่ออกมา  หนูต๋อยคาดการณ์ว่าถ้าเซตมีเพียงเขา 3 แล้วปรับตัวลงเป็นเหว 1 เหว 2 เหว 3  กราฟก็จะออกมาในลักษณะคล้ายอย่างนี้ค่ะ  ซึ่งค่าดัชนีที่ครูเฒ่าเกาะช้างประมาณไว้  ก็จะใกล้เคียงมากเลยค่ะ

แต่เนื่องจาก วันที่ 17/1/50 ถึง 17/3/50  เป็นช่วงประกาศผลประกอบการ  และใกล้จะจ่ายปันผล  อาจมีการพยุงเซต  หรือไล่ราคาทำให้เซตบวกต่ออีก  ทำให้เกิดเป็นเขา 4 ได้  หรือมีเพียงเขา 3 แต่ยืดระยะเวลาห่างออกไปบ้าง  

ขอยืมคำของครูเฒ่าเกาะช้างที่บอกว่าพอถึงตรงนั้น  17/1/2550  ค่อยว่ากันใหม่ว่า  ดัชนีจะจบมหภาคเขาที่  3  ไม๊  หรือจะมี  4  ค่อยมาดูกันอีกทีนะคะ

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------

คุณครูเฒ่าเกาะช้างคะ  หนูต๋อยนึกเรื่องยอดเขา 3 ขึ้นมาได้ค่ะ  ถ้ากรณีที่หุ้นที่เราถืออยู่ราคาอยู่ที่เขา 3 เส้นสีเรียงตัวเป็นขาขึ้นสมบูรณ์  ตอนแรกหนูต๋อยก็คิดถึงการดูในระยะจุลของจุลภาค  ระยะจุลภาค  ดูเส้นสีขาวหักหัวลงมาหาเส้นฟ้าในระยะมหภาค  เพื่อหาจุดที่จะทยอยขายหุ้น

ซึ่งหากหุ้นตัวนั้น  ประกาศจ่ายปันผล  เราก็ขายให้หมดก่อนวัน XD 1 วัน  ถูกไหมคะครูเฒ่าเกาะช้าง 

แต่ว่าถ้าหุ้นไม่มีการประกาศจ่ายปันผล  ก็ค่อยพิจารณาเขาเหวตามระยะเวลาเหมือนเดิมนะคะ

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------

สวัสดีค่ะครูเฒ่าเกาะช้าง  หนูต๋อยขอสรุปเรื่องการแบ่งเงินลงทุนและการแบ่งพอร์ทหุ้นจากที่ได้อ่านมาค่ะ

ครูเฒ่าเกาะช้างสอนให้แบ่งเงินเป็น 3 กอง
กองแรกมาทยอยรับเมื่อหุ้นเป็นมหภาคเหว 3  แบ่งเป็นกอง 1/9  2/9  3/9  ทยอยรับจากจำนวนน้อยไปมาก  ให้ฐานโต
หากรับ แล้วหุ้นยังลงต่อ  ให้ทำช๊อตอะเกนพอร์ทไปก่อน  แล้วค่อยรับกลับเมื่อราคาเริ่มตั้งฐานใหม่ได้  เส้นขาวเริ่มงอขึ้นอีกครั้ง  ก็ค่อยทยอยเอากอง 2 เข้ารับเพิ่มอีกคือ 4/9  5/9  6/9  ที่ขาดทุนก็จะลดลงครึ่งหนึ่ง  เพราะกอง 2 เข้าไปช่วยหารยอดขาดทุน  ทยอยเข้าจนเส้นขาวตัดฟ้า  เข้าหมดเลย

หากรับ แล้วหุ้นขึ้น  หรือดูเส้นขาวงอขึ้น แล้วจะหาจังหวะทำช๊อตอะเกนพอร์ทบ้างก็ได้    หากหุ้นขึ้นต่อเรื่อยๆ ให้เอากอง 2 มาทยอยเข้าคือ 4/9  5/9  6/9  จนเส้นขาวตัดเส้นฟ้า  เข้าหมดเลย

ส่วนกอง 3  เก็บสำรองไว้เผื่อโดนทุบหุ้นหรือเกิดวิกฤต  ก็ยังมีเงินมารับ  แล้วขายตอนรีบาร์ว  ทำกำไรส่วนต่างลดต้นทุนได้อีก

ส่วนของการแบ่งพอร์ทหุ้นเรามีหุ้น 2 กอง

เรา ก็เอากองแรกเป็นกองระยะกลาง  เล่นระหว่างกาลซื้อเหว 3 ไต้ขาวฟ้าม่วงแสด  ขายเหนือขาวฟ้า  รับคืนไต้ขาวฟ้า  เพราะตอนแรกถ้าเราเข้าเหว 3 แล้วมีเหว 4 อีก  เราก็ยังเล่นระหว่างกาลได้ครึ่งพอร์ท

ส่วนกอง 2  ถือระยะยาว  อันนี้จะเอาเข้าที่ตอนเส้นขาวใกล้ตัดฟ้าที่เหว 3 หรือรอไปเข้าที่ตีนเขา 1 พร้อมรับกอง 1 คืนก็ได้ตามแต่การพิจารณาค่ะ  เมื่อหุ้นเป็นขาขึ้นแน่แล้วทำเหวใหม่ไม่ต่ำกว่าเหวก่อน  ก็ถือไว้ไปขายเขา 3 เลยค่ะ

ครูเฒ่าเกาะช้างเคยบอกไว้ในหนังสือ  ว่าครูเฒ่าเกาะช้างมีพอร์ทระยะกลาง-ยาว  และพอร์ทระยะสั้นเล่นเก็งกำไร  คนละพอร์ทกัน  ในพอร์ทเล่นสั้นจะเป็นตัวแดง  เขียวไม่นานก็กลับมาแดงอีก  หนูต๋อยขอแสดงความเห็นว่าพอหุ้นแดงครูเฒ่าเกาะช้างก็ทำช๊อตอะเกนพอร์ทจนหุ้นกลับเป็นขา ขึ้น  พอหุ้นเขียวๆ แล้วครูเฒ่าเกาะช้างก็ขายออกไป  ในพอร์ทจึงมักจะมีหุ้นแดงๆ เป็นส่วนใหญ่ค่ะ  แล้วครูเฒ่าเกาะช้างก็ให้หักบัญชีคนละบัญชี  พอร์ทระยะสั้นยอดรวมจะเพิ่มขึ้น  ให้ระบบบัญชีทำงานให้เรา

จากการ อ่านหนังสือ หนูก็ได้ความคิดว่าพยายามเล่นให้น้อยๆ ตัว  เลือกแต่ตัวที่เรามั่นใจ  เงินจะได้ไม่แตกเป็นกองเล็กกองน้อย  เอามาบริหารได้ง่าย  จะช๊อตอะเกนพอร์ท  จะทยอยรับก็ได้จำนวนค่ะ

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------

1  ทำไมถึงเราซื้อหุ้นไม่ได้ซื้อ SETครูเฒ่าเกาะช้าง บอกให้เราเอากราฟหุ้นกับกราฟเซตดูประกอบกัน  ควรมีกราฟย้อนหลังอย่างน้อย 2 ปี  หยิบมาดูบ่อยๆ ให้จำฝังใจ  อ่านกราฟให้ขาด(ให้กราฟขาดรุ่งริ่ง  อิอิ )

ให้ เราดูกราฟหุ้นเป็นหลัก  กราฟเซตดูประกอบ  เพื่อดูแนวโน้มของตลาด  รวมทั้งดูข้อมูลอื่นประกอบด้วย  เช่น เศรษฐกิจ  การเมือง  สังคม  และใช้ประสบการณ์  รวมทั้งใจเป็นสมาธิ  กรองข้อมูลให้เป็นหนึ่งเดียวแล้วตัดสินใจซื้อขายด้วยใจสงบ  ใจสว่างเป็นสมาธิ  ไม่วอกแวก  

หุ้น ของเราอาจเป็นหุ้นตามเซตหรือสวนเซต  ซึ่งหากเซตลงมากๆ เช่นในขณะนี้  หุ้นของเราก็อาจลงตามเซต  แต่ก็มีเปอร์เซ็นต์การลงไม่เหมือนเซตทั้งหมด  อาจลงน้อยกว่าเซต  ในหุ้นบางตัวที่เดิมอยู่เหว 3 แล้ว  กราฟแห้งเต็มที  เมื่อลงแล้วก็กลับขึ้นไปเร็ว  แต่หุ้นที่อยู่สูงมากๆ เช่น เขา 3 ก็จะลงมาก  และอาจกลับตัวขึ้นไปได้น้อยกว่าเซต

สำหรับคนที่มีติด หุ้นอยู่ก็ขอให้ทำช๊อตอะเกนพอร์ทไปเรื่อยๆ ก่อน  และทยอยปรับพอร์ท  จากหุ้นพื้นฐานไม่ดีมาเข้าหุ้นพื้นฐานดี  โดยเลือกหุ้นที่ลงมามากๆ  จนกว่าเซตจะกลับเป็นขาขึ้น  ก็ต้องอาศัยการอ่านกราฟ  ดูทั้งกราฟแท่งเทียน  กราฟเส้น  ดูเปอร์เซ็นต์ที่หุ้นลงมา  การทำเขาเหว  และระยะเวลาของหุ้น

ส่วน คนที่จะเริ่มลงทุนในช่วงนี้  เราก็เล่นระหว่างกาลกับหุ้นเราก่อนด้วยเงินกองแรก  ไว้เซตกลับเป็นขาขึ้นแน่เราก็ค่อยเพิ่มเงินกอง 2 เข้ามาเล่นอีก

2  ควรเปลี่ยนแปลงเมื่อหุ้นตกมาก แล้วปิดตลาดจาก SET ลง 10 % เป็น 30 จุด แทน เพราะมาตรการเหมาะสมที่ออกกฏช่วง SET ตอนนั้น  
ความ จริงหนูคิดว่าเซอร์กิตเบรกน่าจะเป็นการปิดตลาดไปเลยมากกว่าค่ะ  หากเซตมีการตกลงไป 30 จุด  แทนที่จะปิดตลาดเพียง 30 นาที  เพื่อทำการหาสาเหตุของวิกฤติ  และให้โอกาสผู้รับผิดชอบออกมาแก้ไข  ผ่อนหนักให้เป็นเบา  ให้นักลงทุนได้ปรับสภาพจิตใจ  รับรู้ข่าวสารให้ชัดเจนก่อน  เพราะตลาดหุ้นของเราเปราะบางมาก  เกิดความเสียหายได้ง่าย  และทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศเสียไปด้วย  หากควบคุมความเสียหายไม่ได้

ส่วนที่ควรเปลี่ยนแปลงจาก 10 % เป็น 30 จุด  หนูเห็นว่าการตั้งที่ 10 %  เท่ากับเซตลดลงได้ 70 จุด  อาจเป็นการสกัดความเสียหายช้าเกินไป  หุ้นขึ้นลงเขาเหวหนึ่งดัชนีเปลี่ยนแปลง 30 จุด  หุ้นเปลี่ยนแปลง 10 %  หากให้เซตลง 10 % 70 จุด  หุ้นก็อาจลงได้เกิน 20 %
       เพราะหุ้นบางตัวเกิดแพนิคแรงๆ  ลงมาติดฟลอร์  30 %  จากราคา 10 บาท  เหลือ 7 บาท
       วันต่อมาจะดีดกลับ  เวลาขึ้นไปชิลลิ่ง 30 % จากราคาปิดวันก่อน 7 บาท  เป็น 9.10 บาท  ก็ไม่สามารถกลับไปราคาเดิมได้ในวันนั้น
หาก เป็นหุ้นทั่วไป  เวลาขึ้นก็ต้องขึ้นเป็นเปอร์เซ็นต์ให้มากกว่าตอนลง  เช่น  ลง 10 % ต้องขึ้นมากกว่า 10 % จึงจะกลับไปราคาเก่าได้  ความเสียหายจึงแก้ไขยากกว่าการป้องกัน  การดับไฟเมื่อไฟไหม้ลามไปทั่วยากกว่าการตัดไฟแต่ต้นลม

และยังมีนัก ลงทุนที่เล่นหุ้นด้วยมาร์จิ้น  ที่ต้องถูกฟอสเซลหุ้นลงมาอีก  ก็ยิ่งทำให้เซตลงต่อมากๆ  เสียหายต่อเนื่องเป็นลูกโซ่  ทั้งต่อสภาพจิตใจ  ความเชื่อมั่น  การเรียกเก็บเงินจากนักลงทุนที่ขาดทุน  เหมือนการไปซ้ำเติมคนที่เจ็บหนักอยู่แล้ว

เช่นเดียวกับการเล่นฟิว เจอร์  ซึ่งปกติเมื่อสิ้นวันหากขาดทุน 15000 บาทจากมูลค่าสัญญา  แล้วไม่สามารถหาเงินมาเติมให้ครบเงินประกัน 50000 บาทได้  จะจำกัดความเสี่ยงโดยการบังคับปิดสัญญา  แต่ในวันที่เกิดวิกฤติหนูเข้าใจว่าระบบไม่สามารถปิดสัญญาที่ลบ 15 จุดให้ในระหว่างวันได้ค่ะ  สัญญาฟิวเจอร์ลงไปเกิน 15 จุด  เมื่อลงไป 30 จุดจึงจะโดนบังคับปิดสัญญา  และในวันนั้นลงไปมากสุดถึง  69.1 จุด  จึงทำให้เกิดความสูญเสียมากมาย  เนื่องจากระบบการซื้อขายเป็นของใหม่ไม่ครอบคลุมความเสียหายตรงนี้

3  เราควรจะทำอย่างไร  ในช่วง  10  ถึง  25  วันนี้

ขณะ นี้หุ้นบางตัวอาจลงจากเขา 3 มาอยู่เหว 1  หรือเหว 2  หุ้นบางตัวเดิมอยู่เหว 3 ก็ลงมาอีกนิด  ก็ทำการทยอยปรับพอร์ทจากหุ้นพื้นฐานไม่ดีมาเข้าหุ้นพื้นฐานดีที่ลงมามากๆ มีโอกาสทำกำไรคืนได้

หนูขอนับว่าตอนนี้เซลลงมาเป็นเหว 3 ก่อนนะคะ  ให้เล่นระหว่างกาลไปก่อนจนกว่าเซตจะกลับเป็นขาขึ้นค่ะ  เราก็ดูกราฟหุ้นเป็นหลักนะคะ  ใช้เวลา 10 - 25 วัน  ดูการเรียงตัวของเส้นสีขาวฟ้า

เราก็ดูว่าจากการย้ายจักรวาลชั่วข้าม คืนของวันที่ 19 นั้น  หุ้นของเรามาตั้งฐานอยู่ที่ตรงไหน  เป็นเหวหรือยังเป็นเขาอยู่  แล้วก็มีแนวโน้มใน 10 วันเป็นขาขึ้น   หรือขาลง  และคาดการณ์ไปถึง 25 วันอีก  โดยคาดการณ์จากการเรียงตัวของเส้นขาวฟ้า

หากหุ้นกลับเป็นขาขึ้นต่อ  เราก็ดูเส้นขาวฟ้าเป็นหลัก  เล่นระหว่างกาลไปก่อน  เพราะเส้นม่วงแสด  ยังตามลงมาไม่ทัน  รอจนเซตกลับเป็นขาขึ้น  จึงค่อยถือหุ้นระยะยาวขึ้น  และอาจเพิ่มเงินกอง 2 เข้ามา  อาจเป็นเงินที่ได้จากการปรับพอร์ทจากการขายหุ้นตัวอื่นไป  โดยให้เก็บเงินไว้เป็นกอง 3 อย่างเหนียวแน่นในคราวนี้  เพราะบทเรียนที่ผ่านมา  

หากหุ้นกลายเป็นขาลงต่อ  เราก็ทำการช๊อตหุ้นไปก่อน  แล้วก็ทยอยรับกลับโดยสังเกตเส้นขาวฟ้า  เล่นหุ้นในแบบขาลง  ถือเงินมากกว่าหุ้น  จนกว่าหุ้นจะกลับตัวเป็นขาขึ้น  จึงค่อยเพิ่มเงินกอง 2  และเก็บเงินกอง 3 ไว้ตามหลักการแบ่งเงินของครูเฒ่าเกาะช้าง

หนูต๋อยตอบยาวหน่อยค่ะครูเฒ่าเกาะช้าง   ผิดพลาดตรงไหนขอคำชี้แนะด้วยค่ะ

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------

การอ่านกราฟ มีวิธีการอ่านยังไง
อ่านอะไรก่อนอันดับแรก
แล้วอ่านอะไรต่อเป็นลำดับๆไป  

เริ่ม มานะคะ  เปิดกราฟย้อนหลัง 2 ปี  ดูภาพรวมก่อนค่ะ  ว่าหุ้นของเรามีที่มาและที่ไปอย่างไร  ดูกราฟเซตย้อนหลัง 2 ปีด้วย  เพื่อดูว่าภาพรวมแล้วหุ้นของเรามักจะตามเซตหรือสวนเซต

การดูภาพรวม  ก็ขอให้สังเกตเส้นแสดก่อนค่ะ  เพราะเป็นตัวแบ่งขาขึ้นและขาลงของหุ้น

ถ้า ภาพรวมหุ้นอยู่เหนือเส้นแสดสูงๆ เรียงเส้นสี ขาว  ฟ้า  ม่วง  แสดจากบนลงล่าง  แล้วเส้นขาวตัดฟ้ากำลังลงไปหาเส้นม่วงแสดก็นับว่าเป็นขาลง

ถ้า กลับกัน  หุ้นเรียงตัวอยู่ไต้เส้นแสดต่ำๆ เรียงเส้นสี  ขาว  ฟ้า  ม่วง  แสด  จากล่างขึ้นบน  แล้วเส้นขาวตัดฟ้าหักหัวขึ้นไปหาเส้นม่วงแสดก็นับว่าเป็นขาขึ้น

ซึ่ง หากหุ้นอยู่ในช่วงกลางๆ แถวๆ เส้นแสด  ก็ให้ดูย้อนหลังว่าหุ้นนั้นมาจากราคาต่ำๆ ไต้แสด  หรือมาจากราคาสูงๆ เหนือแสด  เพื่อกำหนดวิธีการซื้อขาย

หากหุ้นเป็นขาลงก็จะมีวิธีการ ซื้อขายต่างไป  เช่นให้ทำช๊อตอะเกนพอร์ท  แล้วใจเย็นค่อยรับกลับอีกหลายวันก็ได้  แต่หากหุ้นเป็นขาขึ้น  ก็ต้องรีบรับกลับ  ไม่งั้นหุ้นจะหลุดมือ

เมื่อดูเส้นแสดเพื่อดูลักษณะหุ้นขาขึ้นหรือขาลงแล้ว

ก็ มานับเขาและเหวต่อ  เมื่อหุ้นเป็นขาลงสมบูรณ์  เรียงเส้นสี  ขาว  ฟ้า  ม่วง  แสด  จากล่างขึ้นบน  ก็นับเป็น เหว 3  แล้วก็นับเวลาต่อในระยะมหภาค 1-2 เดือนก็จะทำเขา 1  ขาวจะตัดฟ้าขึ้นไปที่ยอดเขา  แล้วก็จะตัดกลับลงมา  เส้นม่วงจะงอขึ้นไปหาเส้นแสด

เมื่อเป็นเขา 2  เส้นม่วงจะขึ้นไปใกล้แสดมาก

เขา 3 เส้นม่วงจะตัดเส้นแสดขึ้นไป  และเรียงตัวเป็นขาขึ้นสมบูรณ์  เรียงเส้นสี ขาว  ฟ้า  ม่วง  แสดจากบนลงล่าง

ในขาลง  เหว 1 2 และ 3 เส้นสีก็จะเรียงตัวคล้ายในขาขึ้น  แต่กลับกัน

เมื่อเรานับเขาและเหวของหุ้นได้แล้ว  ก็หาจังหวะซื้อขายหุ้นตัวนั้นๆ

โดยพยายามซื้อที่เหว 3  เพื่อไปขายที่เขา 3  เป็นการเล่นระยะยาว  มีระยะเวลา 3-6 เดือน

หรือ ต้องการเล่นระยะกลาง  ก็ซื้อด้วยเงินกองแรกที่เหว 3 ไปขายยอดเขา 1  แล้วรับกลับเมื่อหุ้นปรับตัวลงมาเป็นตีนเขา 1  แล้วก็เพิ่มเงินกอง 2  ซื้อแล้วไปขายที่เขา 2 แล้วรับกลับที่ตีนเขา 2 อีก  ซึ่งจะขายหมดหรือขายด้วยครึ่งเดียวก็แล้วแต่การแบ่งเงิน  เมื่อจะรับกลับที่ตีนเขา 2 จะรับคืนครบจำนวนเงิน 2 กอง  แล้วจะเพิ่มเงินกอง 3 อีกก็ตามต้องการ  จนเมื่อเป็นยอดเขา 3 ก็ขายหมดพอร์ท

การ เล่นระยะสั้น  จุลภาค ก็ทำได้โดยดูในระยะ 10-20 วัน(มหภาค 1-2 เดือน หาร 3)  ใช้หลักการเดียวกันซื้อเมื่อกราฟเป็นเหว  ไปขายเมื่อเป็นเขา

ระยะสั้นมาก  จุลของจุลภาค  ระยะ 3-7 วัน(จุลภาค 10-20 วัน หาร 3)  ซื้อเมื่อกราฟเป็นเหว  ไปขายเมื่อเป็นเขา

รายวันก็ดูเขาเหวในวัน  ซื้อที่เหวขายที่เขา

นอก จากการใช้ระยะเวลาเข้าจับแล้ว  ก็ควรดูราคาหุ้นด้วย  ว่าได้ขึ้นมาจากจุดต่ำสุดเท่าไรแล้ว  ส่วนใหญ่แต่ละเขาจะขึ้นมาประมาณ 10-15 % แล้วปรับตัวลงตีนเขา

นอกจากนั้นก็ดู MACD ว่าขณะนั้นเส้นอยู่ไต้ 0 ขยับขึ้นไปหา 0 ก็เป็นขาขึ้น  ในกรณีที่เราดูเขาเหวแล้วต้องการความมั่นใจขึ้น

สุด ท้ายก็ดูโวลุ่ม  เลือกหุ้นที่มีโวลุ่มการซื้อขายมาก  จะได้ซื้อขายได้สะดวกกว่าหุ้นที่ไม่มีโวลุ่ม  และให้สังเกตุช่วงที่หุ้นลงมา  ช่วงใหนมีโวลุ่มมาก  ก็แสดงว่ามีคนติดหุ้นตรงนั้นมาก  เมื่อหุ้นกลับเป็นขาขึ้น  ก็อาจมีแรงขายทำกำไรจากคนที่ติดหุ้นไว้ที่ราคานั้นๆ  ทำให้เกิดเป็นแนวต้าน  หุ้นอาจย่อตัวลงบ้าง  หุ้นจะขึ้นต่อได้ต้องสามารถผ่านแนวต้านนี้ไปต่อ

เรียบร้อยแล้วค่ะ    นึกได้เท่านี้  บกพร่องตรงไหนรบกวนพี่ๆ ช่วยเสริมด้วยนะคะ 

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------

มาให้การบ้านต่อนะคะ (แล้วน้องต๋อยมาเฉลยนะ อิอิ)

ถ้ามีหุ้นติดอยู่ จะปรับพอร์ทยังไงดี  

ขอตอบการบ้านต่อจากคราวก่อนนะคะ  ไม่นับเจ้าเรียลลิตี้โชว์ค่ะ  

* เรื่องสำคัญก็ติดตามสภาพเศรษฐกิจ  การเมือง  สังคม  โดยเฉพาะนโยบายค่าเงินบาทค่ะ  

     -ในเบื้องต้นให้เราดูกราฟเซตเป็นส่วนประกอบค่ะ  เซตจะมีอิทธิพลต่อจิตวิทยาการลงทุนมาก  หากเซตขึ้นโอกาสที่หุ้นเราจะขึ้นต่อก็มาก  หากเซตลง  ถึงหุ้นเราจะเป็นหุ้นสวนเซต  ก็อาจขึ้นได้บ้าง  แต่ก็ไม่มากเท่าเวลาที่เซตขึ้นค่ะ

     - แล้วก็ดูกราฟหุ้นเราเป็นหลัก  ในระยะเวลา 10-25 วันต่อจากนี้  หุ้นของเราทำเหวเขาเหวที่เท่าใด  เหวใหม่ต่ำกว่าเหวก่อนหรือไม่  เขาใหม่ต่ำกว่าเขาก่อนหรือไม่  หุ้นมีแนวโน้มขึ้นหรือลงต่อ

การปรับพอร์ท

ก็แบ่งเป็นพอร์ทหุ้นพื้นฐานไม่ดี  ก็ทยอยปรับพอร์ทมาเข้าหุ้นพื้นฐานดีที่กราฟลงมาต่ำๆ ค่ะ

ส่วน หุ้นพื้นฐานดีในพอร์ทก็ปรับพอร์ทโดยดูว่าหุ้นในพอร์ทเรา  แต่ละตัวกราฟลงมาเท่าไร  ต้นทุนหุ้นเราเท่าไร  ขาดทุนหรือกำไร  ถ้ามีกำไรบางตัว  ขาดทุนบางตัว  ก็ทยอยปรับพอร์ทจากตัวที่กำไร  หรือขาดทุนน้อย  มาเข้าตัวที่ขาดทุนมาก  ในกรณีที่หุ้นทำกราฟเป็นเหวหรือเขาใกล้เคียงกัน

ส่วนกรณีทีหุ้นของ เราบางตัวกราฟเป็นเหว 3 บางตัวเป็นตีนเขา 1 หรือ 2  หรือยอดเขา 3  หรือเป็นเหว 1 เหว 2  ก็ให้ทยอยปรับพอร์ทมาเข้าหุ้นที่กราฟลงมาต่ำๆ เป็นเหว 3 ค่ะ

แล้ววิธีการปรับพอร์ทล่ะ

แบ่งเป็น 2 วิธีนะคะ
1. หุ้นลงมีเงินช้อนซื้อไว้  หุ้นขึ้นกำไรขายไวไวเอย  ก็คือ  เราสายป่านยาวหน่อย  ก็ทยอยซื้อหุ้นเพิ่มเมื่อเป็นเหว  แล้วก็ไปขายเมื่อหุ้นเป็นเขา  ทั้งในรายวัน  จุลของจุลภาค  จุลภาค  มหภาค  คือซื้อไต้เส้นขาวฟ้า  แล้วไปขายเหนือขาวฟ้า  เป็นการเล่นระหว่างกาล

โดย เมื่อเราขายหุ้นที่เขา  ก็ทยอยช๊อตหุ้นเก่าในพอร์ทของเราไปด้วย  แล้วก็ลงมารับไต้เส้นขาวฟ้า  โดยใช้เงินกองที่ขายหุ้นเก่าและหุ้นใหม่มารับคืนค่ะ  ได้หุ้นจำนวนมากขึ้นเพราะหุ้นราคาถูกลง

2. หุ้นลงไม่มีเงินช้อนซื้อไว้   หุ้นขึ้นก็ให้รีบขายช๊อตไปเอย  อีกวิธีนะคะ  สำหรับคนที่สายป่านสั้น  แล้วก็กระสุนหมดแล้ว  เพราะไม่ได้รักษาหลักการแบ่งเงินที่ครูเฒ่าเกาะช้างสอนไว้ให้เหนียวแน่น  ก็เลยไม่มีเงินกอง 3 ยามฉุกเฉินให้ซื้อหุ้น  สมน้ำหน้า(ตัวเอง )  ก็เลยต้องหาวิธีแก้ไขปรับพอร์ทกันไปค่ะ

คือ พอหุ้นเราเด้งขึ้นมาเป็นเขา  3  หรือว่ากำลังจะลงไปเหว 3  เราก็ขายออกไปก่อน  แบ่งจากจำนวนน้อยๆ 1/9  2/9  3/9 ขายแบบระฆังหงายค่ะ  หรือจะขายจำนวนเท่าๆ กันในแต่ละสเต๊ป  แล้วก็ตั้งรับซื้อคืนเอาส่วนต่าง 1-2 ช่อง  หรือรับคืนที่เหว 1  2  3  ตามลำดับ  รับแบบระฆังคว่ำยิ่งถูกยิ่งรับมาก  หรือรับแบบเหวละเท่าๆ กันก็ตามแต่ความถนัดค่ะ  

แต่หลักของ 2 วิธีนี้ที่เหมือนกันก็คือ
เมื่อหุ้นเด้งให้ขาย   ขายหุ้นเก่าออกไป  แล้วลงไปรับคืน  และเพิ่มจำนวนหุ้น  เพิ่มเงิน  แล้วก็มาขายที่เขาอีก  แล้วก็รับคืนเพิ่มจำนวนอีก

แล้วถ้าหุ้นไม่เด้งจะทำไงคะ   ก็ให้เราช๊อตหุ้นไปก่อนค่ะ  ถ้าเห็นว่าหุ้นจะมีแนวโน้มลงต่อ  แล้วก็ค่อยไปรับกลับค่ะ  เราก็จะรับจำนวนหุ้นเพิ่มขึ้นได้ด้วย  เพราะเรามีกำไรจากส่วนต่าง  เอามาซื้อหุ้นเพิ่มได้อีกค่ะ

แล้วถ้า รับคืนไม่ได้  ก็ให้หมุนเงินไปเข้าหุ้นสำรองที่คัดเลือกไว้แล้ว  อาจเป็นหุ้นในพอร์ทที่ลงมาต่ำกว่า  หรือเป็นหุ้นตัวใหม่ที่ทำกราฟสวยกว่าต่ำกว่าตัวเก่า  เข้าซื้อตามหลักการของครูเฒ่าเกาะช้างค่ะ  ซื้อเมื่อหุ้นลงมาราคาต่ำๆ เป็นเหว  ยิ่งเป็นเหว 3 สมบูรณ์ยิ่งดีค่ะ

สรุปนะคะ  ในระยะ 10-25 วัน

ถ้าหุ้นเป็นขาขึ้น  คือ  ทำเหวใหม่สูงกว่าเหวก่อนเขาใหม่สูงกว่าเขาก่อน  เมื่อช็อตหุ้นแล้วให้รับกลับโดยเพิ่มจำนวนหุ้นขึ้นด้วยเงินที่เรามีและได้ กำไรจากส่วนต่าง  แล้วขายทีเขาทำกำไรส่วนต่างเมื่อหุ้นขึ้นไปเรื่อยๆ เพื่อลดต้นทุนหุ้นในพอร์ท  เล่นระหว่างกาล   เพื่อมีโอกาสไปทำกำไรลดการขาดทุนได้อีก

หากหุ้นเป็นขาลง  คือ  ทำเหวใหม่ต่ำกว่าเหวก่อนเขาใหม่ไม่สูงว่าเขาก่อน  ก็ช๊อตหุ้นออกไปก่อนโดยจำนวนหุ้นนั้นจะขายจำนวนเท่าๆ กัน  หรือจะขายยิ่งลงยิ่งเพิ่มจำนวนก็ตามถนัดค่ะ  พร้อมกับทยอยตั้งรับไว้ด้วย  แล้วก็รับกลับให้จำนวนหุ้นน้อยลงถือเงินสดมากขึ้น  เล่นระหว่างกาล  หรือยังไม่ต้องรับกลับก็ได้ค่ะ   ไปรอรับเมื่อหุ้นจะลงเป็นมหภาคเหว 3 เป็นขาลงสมบูรณ์    จึงแบ่งเงินตามหลักของครูเฒ่าเกาะช้างเป็น 3 กองใหญ่ทยอยซื้อค่ะ

หวังว่าคราวนี้หนูต๋อยคงไม่ทำให้พี่ๆ เวียนหัวอีกนะคะ  ช่วยแนะนำด้วยค่ะ 

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------

สวัสดีค่ะ  ขี่ช้างกลับมาถึงตี 5 ครึ่งค่ะ  ก็มานั่งติดตามอ่านอัพเดทข้อมูลเรียบร้อย  ฟ้าสว่างพอดีค่ะ

ขอตอบคำถามว่า 1/1/50  set 718 ได้มายังไง
จาก ประวัติช่วงต้นปี 2547 เซตลงมากที่สุดก็ 150 จุดค่ะ  จะแบ่งออกมาเป็นเหวละ 30 จุดได้ 5 เหวค่ะ  ซึ่งสถานการณ์ตอนนั้นเกิดจากเซตขึ้นมาแรงมาก  และฝรั่งได้ขายออกมากด้วยค่ะ  จึงทำให้เซตลงเยอะ

ดังนั้นในรอบนี้ เซตได้ลงมาจาก 748 จุดลงมาที่ 588  ลงมา 160 จุด  แบ่งเป็น 5 เหวเช่นกันค่ะ  พ่อครูเฒ่าเกาะช้างจึงได้ตัดเหวแรกออก  เนื่องจากเป็นช่วงวิกฤตินำมานับระยะเวลาไม่ได้ค่ะ  และได้เริ่มทฤษฏีเขาเหวที่วันที่ 1/1/2550  ที่เซต 718 จุดเป็นปากเหวเป็นจุดตั้งต้นค่ะ  และลงมาวันที่ 1/3/2550 ที่ปากเหว 1 ที่ 688 จุด  และวันที่ 1/5/2550 ปากเหว 2 ที่ 658 จุด ไปจบปากเหว 3  ที่วันที่ 1/7/50  ที่เซต 628 จุดค่ะ

พ่อครูเฒ่าเกาะช้างให้หลักไว้ว่ามี 3 เหวบวกลบ 1 ค่ะ  ในกราฟจึงใช้ 3 เหวเป็นหลักในการวาดเทรนไลน์  ซึ่งหากปัจจัยแวดล้อม  คือเรื่องการเมือง  เศรษฐกิจ  สังคม  คลี่คลายได้เร็วก็อาจมีเพียง 2 เหว  แต่หากยืดเยื้อ  ก็อาจมีได้ถึงเหว 4 ค่ะ

แนวเทรนไลน์ด้านล่างจากจุดต่ำสุดของวันที่ 19/12/49  ไปหา 1/7/2550  ครูเฒ่าเกาะช้างเรียกว่าแนวรับที่แข็งแกร่งค่ะ

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------

การบ้าน  ตีเส้นแนวนอน   แนวตั้ง   ดังได้เคยเรียนมาทำมาได้แตกฉานแล้ว   เพื่อหาจุดตัด  ทำให้ค่าต่างๆบีบอยู่ในกรอบอ่านง่ายขึ้น   อ่านให้ขาดว่ากราฟเป็นมหภาคขาขึ้นหรือลง



เป็นมหภาคขาลงค่ะ  พ่อครูเฒ่าเกาะช้างขา

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------

ตอนนี้ช่วงนี้กราฟ  SET  เริ่มเห็นชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ  เราต้องก้าวก่อนเขา  1  ก้าว  เพื่อไม่ให้สับสนจึงคงทฤษฎีเของครูเฒ่าเกาะช้างไว้ไม่เปลี่ยนแปลง   แต่ทุกคนต้องปรับความคิดรวบยอดเป็นของตนเอง  

            หนูต๋อย  และน้องๆทุกคน  ทำการบ้านให้ครูเฒ่าเกาะช้างหน่อยนะครับ  ด้วยเหตุวิกฤติหม่อมอุ๋ย  ทำให้เทคนิคกราฟเสีย   ต้องใช้ระยะเวลาช่วงหนึ่ง   บัดนี้กราฟ  SET  เริ่มเห็นชัดเจนขึ้น

             จากจุดสมมุติฐานเดิม   แนวนอนกำหนดขาลงไว้  1/1/2550    1-  2  เดือน  ฯลฯ    แนวตั้งกำหนด SET ไว้   718  จุด  ห่าง  30  จุด ฯลฯ  เอาถึง  1 /7/2550   ลองตีเส้น   ปักเสาไฟฟ้า  ขึง  สายไฟ  สี่สีสี่เส้น   ดังที่พี่แมงน้อยให้อึ้งย้งทำ  และหนูต๋อยเคยทำการบ้านส่ง  

           เร่งเรียนเร่งทำการบ้านส่งจะได้เล่นหุ้นมีแต่กำไร  จะได้ไม่ติดดอย  หรือขายหมู

             ผ่านประสบการณ์ตรงนี้แล้วสักระยะหนึ่ง    จนแม่นทฤษฎีแล้ว   เอาไว้ลุยรายวันคงถูกใจน้องๆกันละมัง  ตลาดหุ้นไม่หนีไปไหน   จะขึ้นจะลงเราก็เล่นได้จริง  ไม่โกหกตัวเอง
   



ส่วน ที่พี่เด็จทักเรื่อง 688 ทำไมกราฟของหนูจึงสูงมาก  หนูขอตอบว่าเกิดจากการเก็งกำไรผลประกอบการณ์ค่ะ  เพราะเวลายังเพิ่งกลางเดือนก.พ.  ผลประกอบการ  และปันผลยังออกมาไม่หมดเลยค่ะ

หนูคิดว่าอาจมีการไล่ราคาและไซด์เวย์ เหนือ 688 นิดหน่อยค่ะ  แต่จุดตัดที่ 688 ก็ยังเป็นปากเหว  เป็นเสาไฟอยู่นะคะพ่อครูเฒ่าเกาะช้าง  ไม่ได้ตั้งใจให้ผิดจากทฤษฏีของพ่อครูเฒ่าเกาะช้างเลยค่ะ

เรียบร้อยแล้วค่ะพ่อครูเฒ่าเกาะช้าง   ถ้าหนูคาดผิดถูกอย่างไรก็ช่วยแนะนำด้วยค่ะ