หุ้นปั่น-ปั่นหุ้น 3

4) การไล่ราคาหุ้น เมื่อได้ปริมาณหุ้นมากพอ

ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการไล่ราคา

แต่การไล่ราคาต้องหาจังหวะที่เหมาะสม

เหมือนกัน หากจังหวะนั้น ไม่มีเหตุผล

เพียงพอ รายย่อยก็จะขายหุ้นทิ้ง

เมื่อราคาหุ้นขึ้นไปสูงพอประมาณ

แต่หากหาเหตุผล มารองรับได้

รายย่อยจะยังถือหุ้นไว้อยู่ เพราะเชื่อว่า

ราคาหุ้น น่าจะสูงกว่านี้อีก

กว่าจะรู้สึกตัว ปรากฏว่า

รายใหญ่ ขายหุ้น ทิ้งหมดแล้ว

เหตุผลหรือจังหวะที่ใช้ในการไล่ราคา

มักจะใช้ 3 เรื่องนี้

ภาวะตลาดรวมเริ่มเป็นขาขึ้น

กราฟทางเทคนิคของราคาหุ้นเริ่มดูดี

มีข่าวลือซึ่งปล่อยโดยนักปั่นหุ้นว่า

หุ้นตัวนี้กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลง

ทางพื้นฐานไปในทางที่ดีขึ้น



การไล่ราคา คือ การทำให้ราคาปรับ

สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว


วิธีการคือ จะมีการเคาะซื้อครั้งละมากๆ

แบบยกแถว แล้วตามด้วยการเสนอซื้อ ( BID )

ยันครั้งละหลายๆ แสนหุ้นจนถึงล้านหุ้น

เพื่อข่มขวัญไม่ให้รายย่อยขายสวนลงมา

รายย่อยเห็นว่าแรงซื้อแน่น จะถือหุ้น

รอขายที่ราคาสูงกว่านี้ รายใหญ่บางคน

อาจจะแหย่รายย่อย ด้วยการเทขายหุ้น

ครั้งละ หลายแสนหุ้น เหมือนแลกหมัด

กับหุ้นที่ตนเองตั้งซื้อไว้เอง

รายย่อย อาจเริ่มสับสน ว่ามีคนเข้ามาซื้อ

แต่เจอรายใหญ่ขายสวน ราคาจึงไม่ไปไหน

สู้ขายทิ้งไปเสียดีกว่า รายใหญ่จะโยนหุ้น

แหย่รายย่อยอยู่สัก 1-2 ชั่วโมง

จากนั้น จะตามมาด้วยการ ไล่ราคา

อย่างจริงจังทีละขั้นราคา ( STEP )


ถ้าหุ้นที่ปั่น เป็นหุ้นตลาด

คนชอบซื้อขายกัน การไล่ราคา

จะไล่แบบช้าๆ แต่ปริมาณ ( VALUME )

จะสูง ราคาเป้าหมายมักจะสูงขึ้น

ประมาณ 20-25%


หากภาวะตลาดกระทิง ราคาเป้าหมาย

อาจจะสูงถึง 50%แต่ถ้าหุ้นที่ปั่น

เป็นหุ้นตัวเล็กพื้นฐานไม่ค่อยดี

ปริมาณการซื้อในช่วงเวลาปกติ

มีไม่มากการไล่ราคาจะทำอย่างรวดเร็ว

ราคาเป้าหมายมักจะสูงถึง 40-50%

ถ้าเป็นภาวะกระทิงราคาเป้าหมาย

อาจขยับสูงถึง 100%


ช่วงไล่ราคานี้ อาจจะกินเวลา

3 วันถึง 1 เดือน ขึ้นกับว่าเป็นหุ้นอะไร

ภาวะตลาดอย่างไร เช่นถ้าเป็นหุ้นเก็งกำไร

ที่ไม่มีพื้นฐาน จะกินเวลาสั้น แต่ถ้าเป็น

หุ้นพื้นฐานดีจะใช้เวลานานกว่า

และถ้าเป็นภาวะกระทิง นักปั่นหุ้นจะยิ่ง

ทอดเวลาออกไปเพื่อให้ราคาหุ้น

ขึ้นไปสูงที่สุดเท่าที่ตั้งเป้าเอาไว้


ในช่วงต้นของการไล่ราคา นักลงทุนรายใหญ่

อาจยังคงมีการสะสมหุ้นเพิ่มอยู่บ้าง

แต่รวมกันต้องไม่เกิน 5% ของทุนจดทะเบียน

ในแต่ละพอร์ตที่ใช้ปั่นหุ้นอยู่ พอปลายๆ มือ

จะใช้วิธีไล่ราคาแบบไม่เก็บของ

คือตั้งขายเอง เคาะซื้อเอง เมื่อซื้อได้

ก็จะนำหุ้นจำนวนนี้ย้อนไปตั้งขายอีก

ในราคาที่สูงขึ้นและเคาะซื้อตามอีก

ทำเช่นนี้หลายๆ รอบ สลับกันไปมา

ระหว่างพอร์ตต่างๆของตนเอง

ค่อยๆ ดันราคาสูงขึ้นไปเรื่อยๆ

หากมีหุ้นของรายย่อยถูกซื้อติดเข้ามา

จนรู้สึกว่าเป็นภาระมากเกินไป

ก็อาจมี การเทขายระบายของ

ออกไปบ้างแต่เป็นการขายไม้เล็กๆ

ในลักษณะค่อยๆ รินออกไป

เพื่อไม่ให้นักลงทุนรายย่อยตกใจ

เทขายตามมากเกินไป

ตัวหุ้นเองจะได้มีการปรับฐาน

ตามหลักเทคนิค เพื่อจูงใจนักลงทุนรายใหม่

ที่ยังไม่ได้ซื้อจะได้กล้าเข้ามาซื้อ

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘