หุ้นปั่น-ปั่นหุ้น 2

ขั้นตอนในการปั่นหุ้น


1) การเลือกตัวหุ้น นอกจากจะต้องเลือก

ตัวหุ้นที่มีลักษณะตามที่กล่าวไว้

เบื้องต้นแล้วยังต้องมีการนับหุ้นด้วย

ว่าหุ้นตัวนี้ตอนนี้มีใครถืออยู่

ในสัดส่วนเท่าไร หากจะเข้ามาปั่นหุ้น

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่หรือนักลงทุนสถาบัน

จะเข้ามาแทรกแซงหรือไม่

ถ้าผู้ถือหุ้นรายใหญ่ให้ความร่วมมือ

ด้วยก็จะง่ายขึ้น


2)การกระจายเปิดพอร์ตการลงทุน

จะเปิดพอร์ตกระจายไว้สัก 4 - 5 โบรกเกอร์

ในชื่อที่แตกต่างกัน มักจะใช้ชื่อคนอื่น

ที่ไว้ใจได้เช่น คนขับรถ , เสมียน , คนสวน

เพื่อป้องกันไม่ให้โยงใยมาถึงตนได้


3)การเก็บสะสมหุ้น มีหลายวิธีทั้งวิธีสุจริต

และผิดกฎหมาย ในลักษณะการลวง

ให้คนทั่วไปเข้าใจ ว่าราคาหุ้นตัวนั้น

ไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดยทั่วไปการ

เก็บสะสมหุ้น มีวิธีดังต่อไปนี้

การทยอยรับหุ้น เมื่อเห็นว่าราคาหุ้น

ลงมามากแล้ว ก็ใช้วิธีทยอยซื้อหุ้น

แบบไม่รีบร้อนวันละหมื่นวันละแสนหุ้น

ขึ้นกับว่าหุ้นตัวนั้นมีสภาพคล่อง

มากน้อยขนาดไหน วิธีนี้เป็นวิธีสุจริต

ไม่ผิดกฎหมาย จะใช้เวลาในการเก็บหุ้น

ตั้งแต่ 2 สัปดาห์ถึง 2 เดือน



การกดราคาหุ้น ถ้าระหว่างที่กำลัง

เก็บสะสมหุ้นยังไม่ได้ปริมาณที่ต้องการ

เกิดมีข่าวดีเข้ามาหรือตลาดหุ้น

เปลี่ยนเป็นขาขึ้นเริ่มมีรายย่อยเข้ามา

ซื้อหุ้นตัวนี้ ก็จะใช้วิธีขายหุ้น

ล็อตใหญ่ๆ ออกมาเป็นการข่มขวัญ

นักลงทุนรายย่อย ถือเป็นการวัดใจ

นักลงทุนรายย่อย มักมีอารมณ์อ่อนไหว

เห็นว่าถือหุ้นตัวนี้อยู่ 2 - 3 วันแล้ว

หุ้นยังไม่ไปไหน แถมยังมีการขายหุ้น

ล็อตใหญ่ๆ ออกมาก็จะขายหุ้นทิ้ง

แล้วเปลี่ยนไปเล่นตัวอื่นแทน

สุดท้ายหุ้นก็ตกอยู่ในมือรายใหญ่หมด

วิธีนี้จะใช้เวลา 5 -10 วัน


การเก็บแล้วกด วิธีนี้มักใช้เมื่อ

มีข่าววงใน ( INSIDE NEWS )

ว่าหุ้นตัวนี้กำลังจะมีข่าวดีเข้ามาหนุน

ถ้าหุ้นตัวนั้นไม่มีสภาพคล่อง

จะใช้วิธีโยนหุ้นไปมาระหว่างพอร์ต

ของตนที่เปิดทิ้งไว้ รายย่อยเมื่อเห็นว่า

เริ่มมีการซื้อขายคึกคัก ก็จะเข้า

ผสมโรงด้วย คนที่ถือหุ้นอยู่แล้ว

ก่อนนี้ไม่มีสภาพคล่อง จะขายหุ้น

ก็ขายไม่ได้ไม่มีคนซื้อ พอมีปริมาณ

ซื้อขายมากขึ้นก็รีบขายหุ้นออก

บางคนถือหุ้นมาตั้งแต่บาท

หุ้นตกลงมาถึง 5 บาท พอเห็นหุ้นตีกลับ

ขึ้นไป 5.5 บาท ก็รีบขายออก

คิดว่าอย่างน้อยตนก็ไม่ได้ขาย

ที่ราคาต่ำสุด

ช่วงนี้รายใหญ่จะเก็บสะสมหุ้น

ให้ได้มากที่สุดโดยใช้เวลา

ประมาณ 5 วันทำการ

ขณะเดียวกันต้องคอยดูแล

ไม่ให้หุ้นมีราคาขึ้นไปเกิน 10 %

เพื่อไม่ให้ต้นทุนของตนสูงเกินไป

ถ้าเกิดราคาสูงขึ้นมาก

จะใช้วิธีโยนขายหุ้นล็อตใหญ่ๆ ออกมา

โดยให้พวกเดียวกันที่ตั้งซื้อ ( BID ) อยู่

แล้วเป็นคนรับเมื่อได้จำนวนหุ้น

ตามที่ต้องการแล้ว สุดท้ายจะกดราคาหุ้นใ

ห้ต่ำลงมายังจุดเดิม โดยใช้วิธีโยนขายหุ้น

โดยให้พวกเดียวกันตั้งซื้อเหมือนเดิม

แต่จะทำอย่างหนักหน่วง และรวดเร็วกว่า

ทำให้ราคาหุ้นลดอย่างรวดเร็ว

ช่วงนี้จะใช้เวลา 3 - 5 วัน รายย่อยบางคน

คิดว่าหมดรอบแล้ว จะรีบขายหุ้นออกมาด้วย

รายใหญ่ก็จะมาตั้งรับที่ราคาต่ำอีกครั้ง

ช่วงนี้จะตั้งรับอย่างเดียว ไม่มีการไล่ซื้อ

หรือไม่ก็หยุดการซื้อขายไปเลยให้เรื่องเงียบ

สัก 4 - 5 วันเป็นการสร้างภาพว่าก่อนข่าวดี

จะออกมาไม่มีใครได้ข่าววงในมาก่อนเลย


รอจนวันข่าวดีประกาศเป็นทางการ

จึงค่อยเข้ามาไล่ราคาหุ้น



วิธีสังเกตว่าในขณะนั้นเริ่มมี

การสะสมหุ้นแล้วคือ ปริมาณซื้อขาย

จะเริ่มมากขึ้นผิดปกติจากวันละไม่กี่หมื่นหุ้น

เป็นวันละหลายแสนหุ้น ราคาเริ่มจะขยับ

แต่ไปไม่ไกลประมาณ 5-10%

มองดูเหมือนการโยนหุ้นกันมากกว่า

กดราคาหุ้นจนกว่าจะเก็บได้มากพอ

แล้วค่อยไล่ราคาหุ้น


ข้อระวังอย่างหนึ่ง คือ มีหุ้นบางตัว

โดยเฉพาะหุ้นตัวเล็กๆ นักลงทุนรายใหญ่

มีข่าวอินไซด์ว่าผลประกอบการงวดใหม่

ที่จะประกาศออกมาแย่มาก

หากภาวะการซื้อขายหุ้นตอนนั้นซึมเซา

เขาจะเข้ามาไล่ซื้อโยนหุ้นกัน

ระหว่าง 2-3 พอร์ตที่เขาเปิดไว้

ให้ดูเหมือนรายใหญ่เริ่มเข้ามาเก็บสะสมหุ้น

รายย่อยจะแห่ตาม รุ่งขึ้นรายใหญ่จะเทขาย

หุ้นขนานใหญ่ รายย่อยเริ่มลังเลใจ

ขอดูเหตุการณ์อีกวัน พอผลประกอบการ

ประกาศออกมา ราคาก็หุ้นดิ่งเหวแล้ว

รายย่อยจึงถูกดึงเข้าติดหุ้นราคาสูงในที่สุด

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘