HACK#5 การค้นหาใน Google จะจำกัดคำที่ใช้ได้เพียงไม่เกิน 10 คำเท่านั้น

ทางออกที่ชาญฉลาดในการจัดการกับข้อจำกัดในเรื่อง keyword ที่มีได้ไม่เกิน 10 คำในการค้นหาแต่ละครั้ง

หาก คุณไม่ได้ชอบการใช้คำสั่งยาวๆ ที่ประกอบไปด้วย keyword จำนวนมากมายจนยาวเป็นหางว่างอยู่แล้วละก็ คุณอาจจะไม่ทันได้สังเกตหรือพบว่า Google มีข้อจำกัดให้คุณใช้ keyword รวมกันได้ไม่เกิน 10 คำเท่านั้น ซึ่งในที่นี้รวมถึง keyword ที่ใช้ในการค้นหาและซินแท็กซ์ทุกตัวรวมกันด้วย โดย Google จะไม่สนใจคำส่วนเกินหากคุณใช้คำมากกว่าไปกว่านี้ แม้ว่าข้อจำกัดนี้จะไม่มีผลกับผู้ที่ใช้งาน Google ส่วนใหญ่ก็ตาม แต่ผู้ที่หลงใหลการสืบค้นเป็นชีวิตจิตใจ อาจจะรู้สึกว่าถูกจำกัดการใช้งานไปสักหน่อยก็เป็นได้

แล้วเราจะทำอย่างไรดี?

การตัดคำที่คลุมเครือออกไป
การ จำกัดคำสั่งของคุณด้วยการใช้ keyword หรือวลีเพียงไม่กี่คำ อาจส่งผลให้คำปริศนาของคุณคลุมเครือมากขึ้น เพราะคุณอาจจะยังไม่ได้เลือก keyword ที่ดีพอสำหรับการค้นหาครั้งนี้ ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจจะสนใจวลีท่อนหนึ่งในบทละครเรื่องแฮมเล็ท (Hamlet) ที่ว่า “The lady doth protest too much, methinks” ในการค้นหาครั้งแรกคุณอาจจะใส่ข้อความทั้งหมดลงไปเป็น keyword ค้นหาเลย แต่เพียงเท่านั้นก็นับได้เป็น 7 คำแล้ว คุณเกือบจะมีที่เหลือไม่พอที่จะใส่คำเพิ่มเติม รวมถึงซินแท็กซ์พิเศษอื่นๆลงไปอีกแล้ว

แต่ทว่าการเลือกใช้คำพื้นๆ อย่างเช่น “The lady” นั้นก็เรียบง่ายเกินไปหรือเปล่า ถ้าตัดมันออกไปได้ คุณก็จะมี keyword อีก 5 คำในประโยคนี้ คือ “doth protest too much, methinks” ซึ่งทั้งคำว่า “methinks” และ “doth” ต่างก็เป็นคำที่ไม่คุ้นหูเอาเสียเลย แม้ว่าจะเป็น keyword ที่ดีสำหรับบทกวีของเช็คสเปียร์ก็ตามที แต่ผลลัพธ์อาจจะแคบจนเกินไปก็เป็นได้ ดังนั้นเราน่าจะเลือกใช้เพียงคำใดคำหนึ่งในสองคำดังกล่าวก่อนก็พอ วิธีนี้จะทำให้เราตัดคำลงไปได้อีก กระทั่งเหลือคำเพียง 4 คำเท่านั้น คือ

“protest too much, methinks” หรือ
“doth protest too much” อย่างใดอย่างหนึ่ง

การ เลือกใช้วลีใดวลีหนึ่งข้างต้น จะช่วยให้คุณสามารถสืบค้นถึงที่มาของวลีนั้นๆได้ และได้รับข้อมูลเพิ่มเติมมากขึ้น จากการตรวจสอบที่ผลลัพธ์ที่อยู่ในอันดับต้นๆของรายการผลลัพธ์

แม้ กระนั้นก็ดี ก็เป็นที่น่าเสียดายที่เทคนิคนี้ไม่สามารถช่วยอะไรได้มากนัก ในกรณีของประโยคที่ว่า “Do as I say not as I do” ซึ่งการใช้วิธีการตัดคำข้างต้นจะไม่ช่วยอะไรได้สักเท่าไหร่นัก ดังนั้นจึงควรเพิ่มความชัดเจนเข้าไปอีกหน่อย โดยการใส่คำนิยามบางอย่างเพื่ออธิบายถึงสิ่งที่เราต้องการ เช่นเพิ่มวลีว่า “quote origin english usage” เข้าไปเพื่อกำหนดนิยามของสิ่งที่เราค้นหาอยู่ และด้วยวิธีนี้คุณก็จะปลอดจากข้อจำกัดในการใช้คำเพียงสิบคำได้ในระดับหนึ่ง

การใช้ลูกเล่นของ Wildcard
การใช้เครื่องหมาย wildcard ใน Google สามารถช่วยคุณได้ไม่น้อยเลย (ดู Hack #13) เพราะ Google ไม่ได้นับเครื่องหมายนี้เป็นหนึ่งในสิบของคำที่ถูกจำกัดเอาไว้ ดังนั้นหากคุณมี keyword มากกว่า 10 คำขึ้นไป คุณสามารถใช้เครื่องหมายนี้แทนคำพื้นๆทั่วไปได้ เช่น

“do as * say not as * do” quote origin English usage

จากนั้น Google ก็จะทำการสืบค้นให้คุณแต่โดยดี และคราวนี้คุณอาจจะได้ผลลัพธ์ดีๆที่ต้องการก็ได้
  • Tip คำสามัญทั่วไป เช่น “I” หรือ “a” หรือ “the” รวมถึง “of” มักจะใช้ไม่ได้ผลอยู่แล้ว โดยมักจะถูก Ignore จากระบบ หากคุณต้องการให้ Google นำคำนี้ไปใช้สืบค้นด้วย คุณจะต้องใส่เครื่องหมาย + เอาไว้หน้าคำเหล่านี้ เช่น +the เป็นต้น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘