HACK#17 การค้นหาจากสมุดโทรศัพท์ (phonebook)

Google สามารถทำหน้าที่เป็นสมุดโทรศัพท์ได้อย่างดี และยังสามารถให้คุณสืบค้นย้อนกลับ (reverse lookup) โดยการค้นหาชื่อจากเบอร์โทรศัพท์ได้ด้วย
Google ได้รวบรวมเอาข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์ของบุคคลธรรมดาและห้างร้านไว้รวมกับระบบ การเชื่อมโยงของตน เพื่อเสนอระบบการสืบค้นจากสมุดโทรศัพท์ โดยจะให้รายชื่อของบุคคลและธุรกิจซึ่งอยู่ในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น การสืบค้นเช่นนี้มีซินแท็กซ์อยู่สามแบบ ซึ่งจะให้ความละเอียดในการค้นหาและผลลัพธ์ในระดับที่แตกต่างกัน ทว่าซินแท็กซ์ เหล่านี้จะต้องเลือกใช้อย่างพิถีพิถันสักหน่อย และ Google ก็ไม่ได้ให้คู่มือการใช้เอาไว้ที่ไหนเลยแม้แต่แห่งเดียว
ซินแท็กซ์ทั้ง 3 แบบ
Google มีซินแท็กซ์สำหรับการค้นหาจากสมุดโทรศัพท์ดังนี้
phonebook
ทำหน้าที่สืบค้นจากข้อมูล Google Phonebook ทั้งหมด
iphonebook
ทำหน้าที่สืบค้นเฉพาะหมายเลขโทรศัพท์ของบุคคลธรรมดา
bphonebook
ทำหน้าที่สืบค้นเฉพาะหมายเลขโทรศัพท์ของธุรกิจห้างร้าน
  • Tip : Web Page ที่แสดงผลการสืบค้นจาก phonebook: จะแสดงผลการสืบค้นเพียงห้ารายการเท่านั้น โดยนับรวมทั้งรายการของบุคคลทั่วไป และห้างร้าน ส่วนผลการสืบค้นจาก iphonebook: และ bphonebook: จะแสดงผลถึง 30 รายการต่อหน้า ดังนั้นควรเลือกใช้งานให้เหมาะสม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่คุณต้องการ
การใช้งานของซินแท็กซ์ทั้งสามรูปแบบ
การ ใช้งานตามรูปแบบมาตราฐานของสมุดโทรศัพท์นั้นต้องอาศัยข้อมูลเบื้องต้น หลายอย่าง ซึ่งได้แก่ข้อมูลของชื่อ นามสกุล เมือง และรัฐ แต่การใช้งานใน Google อาศัยเพียงนามสกุลและชื่อรัฐ หากคุณจะหาชื่อสกุล Smiths ที่อยู่ในมลรัฐแคลิฟอเนียร์ คุณสามารถระบุคำสั่งได้ดังนี้
phonebook:smith ca
ลองทายซิว่าคุณจะได้ผลการสืบค้นสักกี่รายการ ภาพที่ 1-11 แสดงถึงผลการสืบค้นของคำสั่งนี้
ภาพที่ 1-11 ผลการสืบค้นจากซินแท็กซ์‌ phonebook:
สังเกต ว่าขณะที่คุณอาจรู้สึกภายในใจว่า คนที่ใช้นามสกุล Smith น่าจะมีอยู่เป็นหลายพันคนในแคลิฟอร์เนียร์ แต่ Google Phonebook บอกว่ามีเพียง 600 รายเท่านั้น นั่นคือผลการสืบค้นที่มากที่สุดจาก Google Phonebook แล้ว ในขณะที่ผลการสืบค้นที่มากที่สุดของการค้นหาแบบปกติคือ 1,000 รายการ ซึ่งอันที่จริงก็สมเหตุผลดี ดังนั้นคุณควรเพิ่มรายละเอียดของการสืบค้น ด้วยการเพิ่มชื่อคนหรือชื่อเมืองหรือทั้งสองอย่าง เพื่อให้ผลการสืบค้นแคบลงกว่าเดิม เช่น
phonebook: john smith los angeles ca
ขณะ ที่เขียนหนังสือเล่มนี้ Google Phonebook ค้นพบเลขหมายของธุรกิจ 3 รายการ และเลขหมายของบุคคล 22 รายการ จากคำสั่งที่ให้ค้นหาชื่อ John Smith ในนครลอสแองเจลีส มลรัฐแคลิฟอร์เนีย
ข้อควรระวัง ซินแท็กซ์พิเศษสำหรับ Google Phonebook เป็น ซินแท็กซ์พิเศษที่มีอานุภาพและเป็นประโยชน์มาก แต่ก็อาจจะใช้งานยากหากคุณจดจำข้อปลีกย่อยในการทำงานของซินแท็กซ์พิเศษไม่ ได้ จึงควรระมัดระวังเกี่ยวกับเงื่อนไขการใช้งานดังนี้
  • ซิ นแท็กซ์เหล่านี้จะแยกความแตกต่างระหว่างตัวอักษรพิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็ก (case-sensitive) เช่น การระบุคำสั่งว่า phonebook:john doe ca นั้น Google จะทำการสืบค้นให้ แต่ จะไม่ทำงานถ้าระบุว่า Phonebook:john doe ca (ใช้ P เป็นตัวพิมพ์ใหญ่)
  • เครื่องหมาย wildcard จะใช้ไม่ได้กับ Google Phonebook เลย เพราะ Google จะสืบค้นแบบ wildcard ให้กับคุณเองโดยอัตโนมัติอยู่แล้ว ยกตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการหาชื่อร้านในนิวยอร์กที่มีคำว่า “coffee” อยู่ในชื่อร้านด้วย คุณก็ไม่ต้องพะวงกับการระบุชื่อที่จะเป็นไปได้ด้วยตนเอง เช่น “Coffee Shop” หรือ “Coffee House” หรืออื่นๆ คุณเพียงแต่พิมพ์คำว่า bphonebook:coffee new york ny เท่านั้น คุณก็จะได้รายชื่อของร้านค้าในนครนิวยอร์กที่มีชื่อร้านมีคำว่า “coffee” อยู่ด้วย
  • คำ สั่งยกเว้นคำ (exclusion) จะใช้ไม่ได้ผลในทุกกรณี เช่น หากคุณต้องการหาร้านกาแฟที่ไม่ใช่ Starbucks คุณอาจจะคิดว่าคำสั่ง phonebook:coffee – starbucks new york ny น่าจะใช้ได้ผล เพราะมีความหมายตรงกับสิ่งที่คุณต้องการ แต่จริงๆแล้วมันกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะ Google จะเข้าใจว่าคุณกำลังค้นหาทั้งคำว่า “coffee” และ “starbucks” ไปพร้อมๆกัน ซึ่งตรงข้ามกับสิ่งที่คุณต้องการโดยสิ้นเชิง เพราะจากคำสั่งนี้ Google จะค้นหาร้านกาแฟทุกแห่งในนิวยอร์กที่มีคำว่า Starbucks อยู่ในชื่อร้านมาให้คุณ
  • โอเปอเรเตอร์ OR จะใช้ไม่ได้เสมอไป คุณอาจจะสงสัยว่า Google Phonebook ยอม รับการค้นหาด้วย OR หรือไม่ คุณจึงต้องทดลองดู ด้วยการค้นหาร้านกาแฟทั้งหมดในมลรัฐโรด ไอส์แลนด์หรือมลรัฐฮาวาย ด้วยคำสั่ง bphonebook:coffee (ri | hi) แต่มันกลับไม่ทำงานตามที่คุณต้องการ เพราะสิ่งที่คุณจะได้รับก็คือเฉพาะร้านกาแฟที่อยู่ในฮาวายเท่านั้น ทั้งนี้เพราะ Google จะไม่เข้าใจว่า ri และ hi นั้นเป็นชื่อรัฐ แต่จะมองว่าเป็นส่วนประกอบของคำที่ต้องการสืบค้น ดังนั้นหากคุณสลับที่ชื่อรัฐในคำสั่งสืบค้นเป็น coffee (hi | ri) คราวนี้ Google ก็จะให้ผลการสืบค้นที่มีคำว่า “coffee” และคำว่า “hi” หรือ “ri” อย่างใดอย่างหนึ่งกลับมา ดังนั้นคุณอาจจะได้ผลลัพธ์เป็นร้านค้าชื่อ Hi-Tide Coffee (ในมลรัฐแมสซาชูเส็ท) และจะพบรายชื่อร้านกาแฟอีกมากในมลรัฐโรดไอส์แลนด์ แต่ผลจะดีกว่านี้หากคุณจะใช้ OR ในช่วงกลางของคำสั่ง จากนั้นจึงระบุชื่อของรัฐไว้ในตอนท้าย เช่น หากคุณต้องการรายชื่อร้านกาแฟที่ขายโดนัทหรือขนมเบเกิ้ลอย่างใดอย่างหนึ่ง คุณจะได้ผลที่ต้องการด้วยการระบุคำสั่งเป็น bphonebook:coffee (donuts | bagels) ma เพราะคำสั่งนี้จะไปค้นหาชื่อร้านค้าที่มีคำว่า coffee และคำว่า donuts หรือ bagels คำใดคำหนึ่ง และอยู่ในมลรัฐแมสซาชูเส็ทเท่านั้น สรุปก็คือคุณสามารถใช้ OR เพื่อหาชื่อร้านค้าหรือชื่อคนได้ แต่ไม่สามารถใช้กับชื่อสถานที่ได้
การสืบค้นจากหมายเลขโทรศัพท์ (reverse lookup) ซินแท็กซ์พิเศษที่ใช้สำหรับสมุดโทรศัพท์เหล่านี้สามารถรองรับการค้นหาแบบ ย้อนกลับ (reverse lookup) ได้ แม้ว่าการใช้ซินแท็กซ์ phonebook: เพื่อหาชื่อบุคคลหรือร้านค้าที่ต้องการจะเป็นซินแท็กซ์ที่ทำงานได้ดีที่สุด แล้วก็ตาม แต่การสืบค้นในทางกลับกัน คือสืบค้นจากหมายเลขโทรศัพท์จะทำงานก็ต่อเมื่อคุณระบุรหัสท้องที่ (area code) ลงไปด้วย หากคุณไม่ระบุรหัสท้องที่ลงไป คำสั่งนี้ก็จะไม่ทำงานเช่น
phonebook: (707) 829-0515
สังเกต ว่าการสืบค้นจากหมายเลขโทรศัพท์เป็นการสืบค้นแบบสุ่ม ซึ่งอาจจะไม่พบผลการสืบค้นเสมอไป หากคุณไม่เจอผลลัพธ์ที่ต้องการ คุณอาจจะต้องเข้าไปที่เว็บไซต์ที่ให้บริการการสืบค้นแบบสมุดโทรศัพท์จริงๆดู เช่น ที่ WhitePages.com (http://www.whitepages.com/) เป็นต้น
ค้นหาสมุดโทรศัพท์ด้วย Google แม้ว่าบริการของ Google Phonebook เอง จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่มันก็มีการใช้งานค่อนข้างจำกัด ดังนั้นหากคุณต้องการสืบค้นหมายเลขโทรศัพท์ภายในมหาวิทยาลัย หรือองค์กรที่ใหญ่ๆ และไม่สามารถค้นหาได้จาก Google คุณก็สามารถที่จะไปสืบค้นจากเว็บไซต์ที่ให้บริการสืบค้นสมุดโทรศัพท์ออนไลน์ได้
หาก คุณกำลังมองหาสมุดโทรศัพท์ที่มีหมายเลขของมหาวิทยาลัยต่างๆ คุณอาจจะลองสืบค้นด้วยสั่งนี้ก่อน คือ inurl:phone site:university.edu หรือจะแทนที่ university.edu ด้วย Domain Name ของมหาวิทยาลัยที่คุณต้องการก็ได้ เช่น หากคุณต้องการหาสมุดโทรศัพท์ออนไลน์ของ University of North Carolina ที่วิทยาเขต Chapel Hill คุณสามารถระบุคำสั่งได้ดังนี้
inrul:phone site:unc.edu
หากคำสั่งนี้ใช้ไม่ได้ผล คุณสามารถทดลองด้วยซินแท็กซ์‌อื่นๆตามตัวอย่างข้างล่างนี้ดู
tittle:”phone book” site: unc.edu
(phonebook | “phone book”) lookup faculty staff site : unc.edu
inrul:help (phonebook | “phone book”) site: unc.edu
หาก คุณต้องการสมุดโทรศัพท์ของมหาวิทยาลัยหลายๆแห่ง ลองใช้ซินแท็กซ์เดียวกันนี้โดยเปลี่ยน Domain Name ให้กว้างขึ้น เช่น site:edu แทนที่จะเจาะจง Domain Name ของมหาวิทยาลัยแห่งใดแห่งหนึ่งเพียงแห่งเดียวเท่านั้น และต่อไปนี้คือรายชื่อของเว็บไซต์ที่ให้บริการสมุดโทรศัพท์ของมหาวิทยาลัย ต่างๆ

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘