บทนำ

ผมมีโอกาสได้กับไปอ่านหนังสือ Rich Dad Poor Dad อีกครั้งหลังจากที่ครั้งแรกซื้อเมื่อตอนเรียนปริญญาตรี เมื่อหลายปีที่ผ่านมา เมื่อครั้งที่เริ่มอ่านผมพบว่ามันเป็นหนังสือที่อ่านง่ายแต่ผมเองก็ยังไม่มีความเข้าใจลึกซึ้งนักแต่ที่ซื้อมาอ่านเพราะเป็นหนังสือขายดีและเกี่ยวกับการชี้ช่องทางรวย อ่านจบก็ยังไม่ลึกซึ้งและปล่อยให้มันนอนอาบฝุ่นอยู่บนชั้นหนังสือบนสุด จนวันนี้ผมมีเวลาว่างทั้งวันและด้วยเหตุบังเอิญผมได้มีโอกาสกลับมาอ่านหนังสือเล่มนี้อีกครั้ง ตอนวันหยุดยาวช่วงปีใหม่ แต่ครั้งนี้ผมกับมีแรงบันดาลใจที่อยากจะไปถึงการมีอิสระภาพทางการเงิน แน่นอนว่าผมไม่หวังร่ำรวมเหมือน Buffet แต่ผมอยากมีเงินที่มากพอจะทำให้ผมละทิ้งชีวิตที่ต้องตรากตรำทำงานหนักบนวิถีชีวิตแบบคนเมืองที่เร่งรีบ ผมมีแผนอยากจะกระโดดไปเริ่มต้นทำอะไรตามความฝันแน่นอนว่ามันเสี่ยงและไม่มั่นคงแต่มันก็เป็นสิ่งที่ผมฝันถึงตลอดมา สิ่งเดียวที่จะทำได้คือการละทิ้งความกลัวและปล่อยให้เงินทำงานแทนเรา ฟังเหมือนจะง่ายแต่ความจริงน่าจะเป็นอะไรที่ยากมากกว่า

ถึงกระนั้นด้วยการที่คนเรามีชีวิตเดียว อย่างไรก็คงต้องลอง ผมแบ่งเวลาในการศึกษาเรื่องราวต่างในการลงทุนเพื่อจะสร้างแผนการลงทุน ที่เหมาะกับชีวิตและลักษณะนิสัยของตัวเองจากหนังสือและอินเตอร์เน็ต พร้อมไปกับการเริ่มต้นแบ่งเงินเก็บที่มีน้อยนิดตามแบบฉบับของมนุษย์เงินเดือนที่มีภาระค่าครองชีพสูงริบและมีหน้าที่ในการผ่อนจ่ายหนี้สินอันเกิดจากความสะดวกสบายในชีวิตเช่น คอนโด รถและบัตรเครดิด โดยเงินเก็บนั้นเป็นเงินเย็นที่เดิมไม่มีทางเลือกต้องฝากประจำกินดอกเบี้ยแสนถูกปีละ 2% ผมคิดว่าถ้าไม่เปลี่ยนแปลงและเป็นเช่นนี้ต่อไป สุดท้ายเราก็ยังคงอยู่ในวัฏจักรเดิมๆของการเป็นมนุษย์เงินเดือนที่รอคอยความมั่งคั่งจากการขึ้นเงินเดือนเพียงอย่างเดียวและใช้ชีวิตบ้านปลายอยู่ได้ด้วยเงินบำนาญหรือเงินกองทุนเลี้ยงชีพ รักษาโรคภัยที่ติดตัวมาเป็นโบนัสผลตอบแทนจากการทำงานหนัก สักวันผมจะต้องเป็นอิสระทางการเงิน ด้วยการให้เงินทำงานหนักแทนตัวเอง

(บันทึกแรกที่ผมเริ่มเขียน เมื่อนับหนึ่งในตลาดหุ้นไทย)

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘