อสังหาคืนชีพ

ช่วงนี้เป็นช่วงที่ตลาดหุ้นค่อนข้างผันผวนแบบซิกแซกในกรอบ 980 - 1020 ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นช่วงที่เล่นหุ้นแบบรอบหรือเก็งกำไรระยะสั้นได้ยากพอสมควร หลายคนที่ผมรู้จักมักใช้ช่วงเวลานี้พักผ่อน หรือเทรดหุ้นแบบสบายๆ ในขณะที่หลายคนก็พักยกสั้น ไปมองยกไกลหน่อย เก็บหุ้นกลุ่มที่จะมาในช่วง Q4 ไว้ขายทำกำไรไปเที่ยวปีใหม่


หลายคนเอากำไรทั้งปีมาทิ้งในช่วงนี้โดยเฉพาะแม่งเม่ารายใหม่ที่พยายามจะเก็งกำไร แต่ก็พลาดเจ็บไปหลายราย ซึ่งมีดัชนีชี้วัดได้จากกระทู้ต่างๆตามเว็บบอร์ดที่สะท้อนผ่านเสียโอดครวญของรายย่อย ปัญหาที่พอจะสรุปได้คือ กลางปีเป็นช่วงตลาดกระทิงจ๋าดัชนีวิ่งจาก 730 มา 1050 ทำให้หลายคนได้กำไร หลายสิบเปอร์เซ็นต์ เป็นช่วงหอมหวานของการลงทุนอย่างแท้จริง ทำให้หลายลงทุนแบบต่อเนื่อง แต่พอเข้าช่วงเดือน พย. เป็นช่วงฝรั่งถอยหนี การเมืองไม่แน่นอน บวกกับข่าวร้ายจากปัจจัยภายนอก ทำให้เกิดความผันผวนของดัชนี SET จากที่เคยทะลุ 1000 จุดก็วกกลับมาทักทายที่แนวรับใต้ 1000 จุดแล้วทำตัวงอแง ไม่ขึ้นไปวิ่งหน้าเชิดแบบเดิม กรรมจึงตกกับนักลงทุนรายย่อยที่ชอบเก็งกำไร แต่ก็โดนหุ้นที่เปิดสูงปิดต่ำ หรือไม่ก็ถูกหุ้นแบบลากเรียกแขก เล่นงานกันไป กำไรทั้งปีบางคนหมด หรือพลิกมาขาดทุนในช่วงไม่กี่เดือนนี้เอง เป็นอะไรที่น่าเสียดายมากแต่ผมเชื่อว่าประสบการณ์ที่ได้มามักจะให้อะไรเราเสมอ ถ้าเราไม่ละเลยหรือแก้ลืมความผิดพลาด และเริ่มคิดที่จะปรับปรุงวิธีการเล่นหุ้นเก็งกำไรให้มีประสิทธิภาพ เพื่อ ไม่ให้กลายเป็นนักเก็งขาดทุนกันไป

ถ้ามองซ้ายมองขวาจะเห็นว่าในช่วงตลาดแดงแปร๊ดมีกลุ่มอสังหาบางตัวเขียววิ่งสวนตลาด ทั้งที่ก่อนหน้าลบลงไปเยอะกับข่าวฟองสบู่และการควบคุมสินเชื่อ บวกกับผลประกอบการ Q3 ของหลาย บริษัทที่ออกมาไม่สวยหรู แต่ตอนนี้ดูเหมือนกับกลุ่มนี้กำลังจะกลับมา รับพี่น้องลงจากดอยและพาเพื่อนๆนักลงทุนขึ้นไปทำกำไรกันอีกครั้ง วันนี้มีกราฟสวยๆของ 4 ตัวคือ LH,PS,AP,SPALI ที่ผมชอบมาให้ดูครับ

กราฟแรก LH ครับ

กราฟที่สอง SPALI

กราฟที่ 3 AP

กราฟที่ 4 PS

จากกราฟทั้งสี่ตัว EMA5>EMA10>EMA14 และ MACD,RSI,STO ทั้งหมดก็ดูเป็นขาขึ้น หลายสำนักก็เริ่มออกมาเชียร์ให้เก็บ แต่อย่างว่าครับ ท่ามกลางความผันผวนของ SET ก็ไม่รู้ว่าจะไปได้ไกลสักแค่ไหน ยังไงก็ต้องฟังหูไว้หูไม่รู้ว่าจะมาจริงหรือมาแค่ชั่วคราว

ผมคงไม่ฟังธงว่ามันจะไปถึงตรงไหน เพราะถ้าผมรู้ผมคงรวยไปแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่ผมทำก็คือการดูไปตามทีละแนวรับและแนวต้าน เรียกว่าเล่นแบบ trend following ซื้อที่แนวรับสุดท้าย และไปขายที่แนวต้านสุดท้าย ทำกำไรแบบพอเพียง ไม่คิดไปคาดเดาหรือทำนายกราฟ เพราะบางครั้งกราฟก็เป็นเพียงภาพที่มีคนสร้างให้เราดู สร้างให้เราจินตนาการตาม และเมื่อใดก็ตามที่ความโลภบังตา เมื่อนั้นเราก็จะหลงเข้าสู่กับดักที่มีคนวางไว้

แน่นอนว่าตนเป็นที่พึงแห่งตนเมื่อฟังผู้อื่นๆวิเคราะห์แล้ว ควรจะต้องเปิดดูกราฟเพื่ออ่านเทรนด์ให้มั่นใจด้วยตัวเองอีกครั้งเป็นดีที่สุด นี้จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราต้องศึกษาการวิเคราะห์ด้วยเทคนิค อย่างน้อยกราฟก็ช่วยเราได้ ในการแสดงเทรนด์ในอนาคต ถ้าอยากเรียนรู้ไว้ป้องกันตัวก็เข้ามาอบรมกับ S2M ได้เลย ในมุมมองผมไม่ว่าจะลงทุนแนวไหนกราฟเทคนิคก็มีความสำคัญในการกำหนดจังหวะเวลาการเข้าซื้อ ขาย

เรียนรู้เพื่อพัฒนาให้มีความถูกต้องเพิ่มขึ้นต่อไป ซึ่งตรงนี้ขึ้นกับประสบการณ์ ศึกษามากฝึกมากก็จะชำนาญ ผลการวิเคราะห์ก็จะแม่นยำมากขึ้นครับ

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘