การอ่านงบการเงินเบื้องต้น 3
การอ่านงบการเงินเบื้องต้น 3
งบกระแสเงินสดงบกระแสเงินสด คืองบการเงินแสดงการเคลื่อนไหวของเงินสด ในแต่ละงวด บ่งบอกการนำเงินสดไปใช้ และแสดงสภาพคล่องทางการเงิน งบ กระแสเงินสดนั้นเป็นส่วนของรายรับจริงที่ไม่รวมส่วนของลูกหนี้การค้า ดังนั้นการพิจารณาถึงกำไรจากผลประกอบการที่ได้ หรือดูจากยอดขายต้องทำการพิจรณา กระแสเงินสดควบคู่ไปด้วย
1. กระแสเงินสดกับกำไร
กรณี บริษัทมีกำไรทางบัญชี มียอดขายที่เติบโต แต่กระแสเงินสดติดลบหลายงวดติดต่อเนื่อง(กรณีระยะสั้นอาจจะเกิดจากการลงทุน) ก็มีโอกาสล้มละลายจากการเก็บหนี้ลูกค้าไม่ได้ มีผลโดยตรงกับสภาพคล่อง ของบริษัท
1.1 อัตราส่วนกระแสเงินสดต่อกำไร
อัตราส่วนกระแสเงินสดต่อกำไร(Cash Earning Ratio) = กระแสเงินสด/กำไรสุทธิ
อัตรา ส่วนนี้เปรียบเทียบ ส่วนของกระแสเงินสดกับกำไร โดยถ้ามี ปริมาณอัตราส่วนที่ไม่ต่ำจนเกินไป หรือลดลงต่อเนื่อง สอดคล้องกับกำไรก็จะเป็นสัญญาณที่ดี
2. แหล่งที่มาและที่ไป
กระแส เงินสด ต้องพิจารณาแหล่งที่มาและการนำไปใช้ เช่นการที่กระแสเงินสดเป็นบวกแต่เกิดจากที่มาคือการกู้หนี้ ย่อมไม่ใช่สิ่งที่ดี ในขณะเดียวกัน การที่กระแสเงินสดติดลบ จากการลงทุนในระยะเวลาที่ไม่ยาวนานหลายไตรมาส ย่อมไม่ใช่เรื่องที่เสียหาย บริษัทที่มีกระแทเงินสดบวก มากย่อมมีสภาพคล่องมาก สามารถบริหารเงินสดได้ดี สามารถนำไปจ่ายดอกเบี้ยและจ่ายปันผลได้มากขึ้นด้วย
ข้อสังเกตงบการเงิน
บาง ครั้งการอ่านงบการเงิน ของบริษัทที่เราสนใจหรือถือครองหุ้น ทำให้เราทราบ ถึงสัญญาณที่ซ่อนอยู่ทั้งด้านบวกและด้านลบ ดังนั้นผมของสรุป สิ่งสำคัญที่ท่านต้องพยายามสกัดและพิจารณาเป็นพิเศษจากงบการเงิน
1. การเติบโตของยอดขาย
2. ความสามารถในการทำกำไร ต่อเนื่อง
3. หนี้สิน
4. การเรียกเก็บหนี้จากลูกหนี้
5. ต้นทุนการผลิตและการบริหารจัดการ
6. สินค้าคงเหลือ
7. ทรัพย์สิน การซื้อ-ขายสินทรัพย์
8. กระแสเงินสด
9. สภาพคล่อง
เครื่องมือช่วยวิเคราะห์งบการเงิน
จะ เห็นได้ว่าการอ่านงบการเงิน ก้ไม่ใช้งานน้อยๆเลยทีเดียว เพราะต้องแกะและคำนวณตัวเลขที่มาก และที่สำคัญต้องทำมากกว่า 1 งวดเพื่อจะเห็นการเปลี่ยนแปลง แต่การวิเคราะห์งบการเงินนั้นก็มีข้อดีตรงทีเราไม่จำเป็นต้องทำประจำทุกวัน ปัจจุบันเรามีโปรแกรมช่วยให้อ่านงบการเงินง่ายขึ้นหลายตัวครับ ผมขอยกตัวอย่างที่ผมใช้งาน
EPS16Year
ตัว นี้พัฒนาโดยพี่ครรชิต ไพศาล เป็นการรวบรวมข้อมูลงบการเงินย้อนหลังและราคาหุ้นไว้ ทำให้ง่ายต่อการวิเคราะห์ข้อมูลเปรียบเทียบย้อนหลัง โดยมีข้อมูลย้อนหลังถึง 16 ปี ให้ได้ศึกษา สนใจก็สามารถเข้าไปขอรับได้จาก thaivi.org
หน้าแรกของโปรแกรม
ข้อมูล งบการเงินย้อนหลังแบบรายปี
การกรองหุ้นด้วยเงื่อนไขจาก ข้อมูลงบการเงิน
การประเมินมูลค่าหุ้นที่แท้จริง จากข้อมูลงบการเงิน
สรุป
การ อ่านงบการเงินต้องดูแบบเปรียบเทียบย้อนหลังรายไตรมาส หรือเปรียบเทียบงบการเงินรวมระหว่างปี เพื่อสังเคราะห์ถึงการเปลี่ยนแปลงของบริษัท การหาสัญญาณพิเศษเจอจะทำให้เราทราบถึงโอกาสการเติบโต หรือการทรุดตัวของธุรกิจนั้นและ สะท้อนไปถึงกลยุทธในการลงทุนในหุ้นของเราด้วย เพราะในระยะยาว กรณีที่เศรษกิจและการเมืองอยู่ในช่วงปกติ ราคาหุ้นย่อมขึ้นกับปัจจัยผลประกอบการของบริษัท บริษัทเติบโตสูง ราคาหุ้นย่อมสะท้อนถึงมูลค่าของกิจการ (แต่ในระยะสั้น ราคาหุ้นจะขึ้นกับ demand supply ในตลาด แต่แน่นอนว่าถ้ากิจการไม่ดี ความต้องการซื้อก็ย่อมไม่เกิดด้วย)
จาก ภาพดูหุ้น AJ ที่ผลประกอบการปี 2010(3Q) ดีขึ้นต่อเนื่อง โตมากว่าสามปีก่อนคือ 2007,2008,2009 เกือบ 2 เท่า ทำให้ราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้นจาก 1 มค. ปี 53 ถึง 597% นั้นหมายความว่า ถ้าท่านติดตามงบการเงินของหุ้น AJ ก็จะสามารถทำให้ท่าน ค้นพบมูลค่าที่ซ่อนอยู่ของหุ้นตัวนี้ ถ้าเข้าซื้อตอนไตรมาส 2 ปี 2553 โดยสังเกตการเติบโตของงบไตรมาส 1 ปี 2553 ท่านก็จะมีโอกาสเก็บหุ้นที่ดี เข้าสู่พอร์ตการลงทุน
การ อ่านงบการเงินเป็นการวิเคราะห์ระดับบริษัท ยังประกอบด้วยส่วนการวิเคราะห์เชิงคุณภาพ ที่ต้องอาศัยความชำนาญและประสบการณ์ในการดูธุรกิจที่สนใจ
อ้างอิง
-การวิเคราะห์บริษัทจาก
http://www.taladhoon.com/taladhoon/lib/setfa01/setfa01-4.htm
- หนังสืออ่านงบการเงินให้เป็น ดร.ภาพร เอกอรรถพร
