จากผู้เขียน

 “สามก๊ก”



         เชื่อว่าทุกคนต่างต้องเคยได้ยิน ได้ฟัง ได้อ่าน และได้ดูเรื่องราวที่อาจเรียกได้ว่าเป็นมหากาพย์อันยิ่งใหญ่นี้มาบ้างไม่มากก็น้อย



         เดิมทีสามก๊กนั้นเป็นเรื่องราวที่ถูกเขียนขึ้นโดยให้เป็นบันทึกเรื่องราวประวัติศาสตร์ โดยพระเจ้าสุมาเอี๋ยนปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จิ้น เป็นผู้ดำริให้มีการรวบรวมขึ้นจากเหตุการณ์ในสมัยปลายราชวงศ์ฮั่นที่ประเทศจีนได้ถูกแบ่งแยกเป็นก๊กเป็นเหล่าและได้ทำสงครามรบพุ่งกันนานกว่า 100ปี ซึ่งภายหลังได้เหลือกันอยู่เพียงแค่สามก๊กเท่านั้น ก่อนที่จะมาถูกรวบรวมได้ทั้งหมดในสมัยของพระเจ้าสุมาเอี๋ยนผู้ก่อตั้งราชวงศ์จิ้น ซึ่งเหตุการณ์ในช่วงนั้น เป็นที่รู้จักันในว่า ยุคสามก๊ก



         เฉินโซ่ว บรรณาธิการของราชสำนัก ซึ่งอดีตเคยทำงานให้กับราชวงศ์ซู่ฮั่น หรือที่คนไทยรู้จักกันว่า จ๊กก๊ก นั้น หลังจากที่ก๊กล่มสลายลง เขาก็ได้ถูกพาตัวให้มาทำงานอยู่ที่ราชสำนักจิ้น และได้รับคำสั่งจากรพะเจ้าสุมาเอี๋ยนให้รวบรวมประวัติศาสตร์ยุคสามก๊กและเรียบเรียงขึ้นใหม่ เพื่อใช้เป็นบันทึกประวัติศาสตร์ 



         เฉินโซ่วจึงเริ่มลงมือรวบรวมค้นคว้าหาข้อมูลต่างๆ ทั้งจากจดหมายเหตุ บันทึกและคำบอกเล่า โดยเริ่มจับเหตุการณ์ตั้งแต่ช่วงที่เกิดกบฏโจรโพกผ้าเหลืองขึ้นในปี  ค.ศ. 184 ซึ่งถือเป็นกบฏชาวนาครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของจีน 



         ไปจนถึงแผ่นดินถูกรวบรวมอีกครั้ง โดยพระเจ้าสุมาเอี๋ยนแห่งราชวงศ์จิ้น 





         

สามก๊กจี่



         เป็นสามก๊กฉบับแรกที่ได้กำเนิดขึ้นมาบนโลก 



         ตัวเฉินโซ่วนั้น เดิมทีเป็นชาวเสฉวน พ่อของเขานั้นเคยเป็นราชเลขานุการของขงเบ้ง มหาอุปราชแห่งจ๊กก๊กมาก่อน  ดังนั้นหนังสือสามก๊กที่เขาเขียนขึ้นนั้น จึงมีเนื้อหาหนักไปทางฝ่ายเล่าปี่เป็นส่วนใหญ่  และตัวละครที่เด่นที่สุดที่เขาเขียนขึ้นมานั้นคือ ขงเบ้ง 



         สามก๊กจี่ ที่เขาเขียนขึ้นนั้นได้รับการยกย่องในฐานะหนังสือทางประวัติศาสตร์ และเป็นหนังสือสามก๊กฉบับที่มีเนื้อหาใกล้ความจริงที่สุดแล้ว แม้จะเขียนให้ฝ่ายเล่าปี่เป็นตัวเด่นแต่นั่นก็เพราะเขารู้ข้อมูลทางฝั่งเล่าปี่มาก และเพราะพ่อเขาก็เคยเป็นขุนนางของเสฉวนซึ่งเป็นของเล่าปี่ การที่จะเขียนยกย่องเจ้านายจึงไม่ใช่เรื่องแปลก



         สามก๊กฉบับนี้ไม่นับว่าเป็นวรรณกรรม แม้จะเขียนได้ดี แต่ลักษณะการบรรยายเรื่องนั้นเป็นแบบการบันทึกประวัติศาสตร์มากกว่า  ดังนั้นหากต้องการที่จะอ่านและวิเคราะห์สามก๊กในแง่ของการใช้ยุทธศาสตร์ทางการเมืองการทหารและเชิงประวัติศาสตร์นั้น สามก๊กจี่ เล่มนี้นับว่าเหมาะสมที่สุด



         ในตอนท้ายเรื่องของสามก๊กฉบับนี้นั้นมีข้อความของเฉินโซ่วที่ได้วิจารณ์ขงเบ้งไว้อย่างน่าสนใจ ซึ่งนักวิจารณ์ในภายหลังหลายคนต่างก็กล่าวว่า เฉินโซ่วนั้นมีอคติกับขงเบ้งเกินไป เพราะเดิมทีนั้นพ่อของเขาเคยถูกขงเบ้งลงโทษมาก่อน 



         

     

ซานกั๋วจื้อทงสูเหยี่ยนอี้ (สามก๊กฉบับเจี๋ยชิ่ง)



         ผู้แต่งคือหลอก้วนจง ซึ่งเกิดในช่วงปลายยุคราชวงศ์หยวนต่อต้นยุคราชวงศ์หมิง หลังจากยุคสามก๊กไปแล้วราวๆ พันกว่าปี ว่ากันว่าแต่งขึ้นเพื่อใช้เล่นงิ้ว 



         สามก๊กฉบับนี้ถือเป็นสามก๊กฉบับแรกที่กลายเป็นงานวรรณกรรมอย่างสมบูรณ์  ก่อนหน้านี้ก็เริ่มมีการเขียนสามก๊กในแบบวรรณกรรมขึ้น แต่จะหนักไปในทางการเล่าแบบนิทานมากกว่า  แต่หลอก้วนจงเป็นผู้ที่นำเอาเรื่องสามก๊กมาเรียบเรียงจัดลำดับฉาก ตัวละครให้เหมาะสม ก้าวพ้นรูปแบบการเล่านิทานแบบดั้งเดิมสร้างภาพตัวละครแบบวรรณกรรมได้เป็นที่ประทับใจผู้อ่าน จนกลายเป็นวรรณกรรรมที่สมบูรณ์แบบ  แต่นิยายอิงประวัติศาสตร์สามก๊กที่แพร่หลายอยู่ในปัจจุบันก็ได้ผ่านการชำระแก้ไขปรุงแต่งของปราชญ์อีกหลายคน 



         เมื่อเป็นวรรณกรรม ก็ย่อมต้องมีการขีดเส้นลักษณะของตัวละครขึ้น ว่าเป็นพระเอก ผู้ร้าย คนดีหรือคนเลว  ซึ่งเล่าปี่นั้นได้กลายเป็นพระเอกขึ้นมาเป็นครั้งแรกจากปลายปากของหลอก้วนจงนี่เอง  ดังนั้น กวนอู เตียวหุย ขงเบ้ง ซึ่งอยู่ฝั่งเล่าปี่จึงถูกเขียนขึ้นให้มีลักษณะของความเป็นผู้มีคุณธรรม สมเป็นพวกพระเอก และโจโฉก็ได้กลายเป็นผู้ร้ายไปเป็นครั้งแรกในสามก๊กฉบับนี้เอง แต่ถึงอย่างนั้นหลอก้วนจงก็ไม่ได้เข้าข้างฝ่ายเล่าปี่จนน่าเกลียดเกินไปนัก โจโฉก็ไม่ได้เลวจนไม่มีดีเลย 



         แต่ถึงยังงั้นก็ตาม จุดเริ่มของสามก๊กที่เริ่มแบ่งเส้นระหว่างคนดีกับคนเลวนั้นก็ได้เกิดขึ้นในสามก๊กฉบับนี้ รวมไปถึงลักษณะของผู้ปกครองกับผู้ถูกปกครองด้วย 



         ว่ากันว่าที่หลอก้วนจงทำเช่นนี้ เป็นเพราะว่าเขาได้จับเอาเรื่องราวและเหตุการณ์บางอย่างในยุคสมัยของเขา รวมไปถึงอคติส่วนตัวของเขาต่อผู้ปกครองในยุคนั้นซึ่งก็คือจูหยวนจาง ผู้ก่อตั้งราชวงศ์หมิงใส่เข้าไปในเรื่องสามก๊กด้วย



         เดิมหลอก้วนจงนั้นเคยทำงานอยู่ในกองทัพจางจื้อเฉิง ซึ่งเป็นกองกำลังฝ่ายตรงกันข้ามกันกับจูหยวนจางก่อนที่เขาจะรวบรวมประเทศได้ และกองกำลังของจางจื้อเฉิงก็มักจะรบแพ้ฝ่ายจูหยวนจานอยู่บ่อยๆ รวมกับในภายหลังจากที่จูหยวนจางขึ้นครองราชย์นั้น เขาได้ทำการเข่นฆ่าเหล่าบัณฑิตไปมาก หลอก้วนจงจึงมีความเกลียดชังในจูหยวนจางและเหล่าผู้ปกครอง ดังนั้นจึงได้นำภาพของผู้ปกครองที่มีความโหดร้ายใส่ไว้ในตัวโจโฉ



         ด้วยเหตุนี้โจโฉจึงได้กลายเป็นผู้ที่โหดอำมหิตผิดไปจากตัวจริงพอสมควร และกลายเป็นผู้ร้ายในสามก๊กไป         





ซานกั๋วเหยี้ยนอี้ (สามก๊กเหยี้ยนอี้)



    เหมาหลุน เหมาจงกังสองพ่อลูก สมัยราชวงศ์ชิง เป็นผู้ชำระดัดแปลงขึ้น จากซานกั๋วจื้อทงสูเหยี้ยนอี้ ของหลอก้วนจง โดยปรับปรุงการวางฉาก การดำเนินเรื่อง มีการแบ่งเนื้อหาออกเป็น 120 บท มีการเพิ่มคำวิจารณ์ด้านวรรณศิลป์ ที่สำคัญคือเปลี่ยนแปลงสำนวนภาษาและบทบาทของตัวละคร  จนถึงขนาดเปลี่ยนแปลงบทบาทเลยก็มี



    ผลของการปรับปรุงมีทั้งดีและเสีย ข้อดีคือการที่ได้จัดวางโครงสร้างวางลำดับฉากตักฉากจังหวะของเรื่อง ทำให้ “ซานกั๋วเหยี้ยนอี้” กลายเป็นนิยายอมตะ ที่อ่านได้สนุกไม่เยิ่นเย้อแบบโบราณ



    แต่จุดเสียที่เด่นชัดมากคือการที่เหมาจงกังไปเปลี่ยนแก้บทบาทและคำพูดบางตอนของตัวละคร เนื่องจากเหมาจงกังยึดมั่นในแนวคิด “เจิ้งถ่ง” คือการสืบสายสันตติวงศ์ที่ถูกต้อง จึงต้องเข้าข้างเล่าปี่ ที่อ้างตัวว่าเป็นเชื้อพระวงศ์อย่างเต็มที่ ที่ว่ากันว่าเรื่องสามก๊กบิดเบือนประวัติศาสตร์เข้าข้างเล่าปี่ ให้เล่าปี่เป็นฝ่ายธรรมะ โจโฉเป็นฝ่ายอธรรมก็มาจากตรงนี้เอง



    สามก๊กฉบับเดิมของหลอก้วนจง แม้จะดูเหมือนเขียนให้ฝ่ายเล่าปี่เป็นพระเอกแต่ก็ด้วยเพราะสามก๊กของเขาเป็นสามก๊กฉบับนิยาย ที่ต้องการตัวเอก และผู้ร้าย ซึ่งถึงเล่าปี่จะกลายเป็นพระเอกเขาก็ไม่ได้เขียนเข้าข้างเล่าปี่ขนาดนี้ เหมาจงกังนี่แหละคือผู้มาแก้ไขเขียนช่วยเล่าปี่จนน่าเกลียด และโจโฉกลายเป็นคนเลวโดยสมบูรณ์แบบ ทั้งที่ความดีที่เขาทำไว้ให้กับแผ่นดินก็มีไม่น้อย





ตัวละครในสามก๊ก



         ในเรื่องสามก๊กมีตัวละครนับร้อยตัว ซึ่งมีบทบาทมากน้อยต่างกันไป



         บางคนมีพฤติการณ์ประดุจเปลวเพลิงที่ลุกโชติช่วง แต่ก็ลุกเพียงชั่วครู่



         แต่บางคนก็มีพฤติการณ์ที่เหมือนดวงตะวันที่ส่องแสงเจิดจ้าอยู่ตลอดเวลา  ซึ่งหากจะพูดถึงพวกเขาเหล่านี้ทุกตัวคงจะไม่มีทางหมด นอกจากนี้ตัวละครบางตัวที่เราต่างคิดว่ารู้จักดีแล้วนั้น หากมองในอีกแง่มุมหนึ่ง เราอาจจะคิดกับตัวละครตัวนั้นในอีกแบบที่แตกต่างไปเลยก็ได้



         บทความนี้จึงได้เกิดขึ้น โดยรวบรวมข้อมูลของบรรดาตัวละครสำคัญๆที่มีอิทธิพลในเรื่องสามก๊ก โดยบอกเล่าถึงประวัติความเป็นมา และเจาะลึกเข้าไปถึงตัวละครตัวนั้นสำหรับการกระทำและคำพูดของเขาที่ได้ถูกบันทึกไว้ ในหลายแง่มุม 



         ข้อมูลแง่มุมที่จะนำเสนอนี้อาจจะมีความคลาดเคลื่อนและไม่ถูกต้องเสมอไป รวมทั้งอาจจะก่อให้เกิดความพอใจกับผู้อ่านบางคนที่มีความชอบในตัวละครบางตัวเป็นพิเศษ ก็ต้องขออภัยไว้ล่วงหน้าด้วย 





         ป.ล. ข้อมูลทั้งหมดนี้อ้างอิงมาจากหนังสือสามก๊กฉบับเจ้าพระยาพระคลังหนและฉบับวิจารณ์ที่แปลโดย คุณ วิวัฒน์ ประชาเรืองวิทย์ รวมถึงสามก๊กฉบับวณิพกของยาขอบ ฉบับคนเดินดินของเล่าชวนหัว ฉบับของคุณ ทองแถม นองจำนง และยังมีอีกมากมายหลายแหล่ง ซึ่งทั้งนี้ต้องขอบพระคุณท่านเหล่านี้และขออภัยที่ได้ใช้ข้อมูลของพวกท่านโดยไม่ได้บอกกล่าว

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ตัวอย่างกระทู้ธรรม ธรรมศึกษาชั้นตรี 5

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันเสาร์ ที่ ๑๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร